ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 820 การเยาะเย้ยของเยี่ยนจ้าวเกอ
รูปไท่จี๋สองรูปปะทะกันกลางอากาศ
ก่อนที่พลังฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายจะสัมผัสกัน ฟ้าดินตรงกลางก็พังทลายพร้อมกัน สสารทั้งที่มีรูปร่างและไร้รูปร่างทั้งหลายแหลกสลายกลายเป็นปราณหยินหยางแรกเริ่ม
กระแสปราณหนึ่งสว่างหนึ่งมืดที่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นดำหรือขาว ถูกฝ่ามือสองข้างกดไว้ตรงกลาง ปรวนแปรกลับไปกลับมา
รูปไท่จี๋สองรูปหมุนวน เกิดเป็นแรงดึงดูดมหาศาล หมายจะเก็บปราณหยินหยางสองสายไว้ในมือของตัวเอง
ทว่าทั้งสองฝ่ายส่งผลกระทบต่อกันและกัน ทำให้ปราณหยินหยางชะงักอยู่ที่เดิม
เวลาและมิติตรงกลางราวกับถูกหยุด คงสภาพเลอะเลือนไม่ชัดเจน สรรพสิ่งไม่คงอยู่
เมื่อเห็นรูปไท่จี๋กลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ ทีแรกฟู่ถิงยังไม่ได้ตกใจมากนัก ‘ที่แท้เป็นคนที่ฝึกคัมภีร์นภาหยินหยาง’
กระนั้นรอจนเห็นรูปไท่จี๋สองรูปปะทะกัน พลังฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายสัมผัสกันจริงๆ ฟู่ถิงก็พลันงงงัน
‘เหมือนคัมภีร์นภาหยินหยาง และยังเหมือนฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดซึ่งเป็นวิชาสายเอกพิสุทธิ์ของข้าอีก?!’
‘เขาฝึกฝนวิชาอะไรกันแน่’
ฟู่ถิงดวงตาสั่นสะท้าน สีหน้าจริงจังขึ้นมา
ในม่านตาทั้งสองข้างของนางปรากฏรูปไท่จี๋ขึ้นมาพร้อมกัน พวกมันหมุนวน พลังฝ่ามือรุนแรงขึ้นอีกขั้น
ในตอนนี้ไม่ได้มีแค่ฝ่ามือเท่านั้น อากาศรอบๆ ฟู่ถิงเริ่มบิดเบี้ยวกลายเป็นพร่าเลือนเช่นกัน
ปราณกำเนิดกระเพื่อมเหมือนกับน้ำ สรรพสิ่งคล้ายกับกำลังจะถูกเปลี่ยนกลับคืนสู่ปราณหยินหยางแรกเริ่มพร้อมกัน
กระนั้นการหมุนของรูปไท่จี๋ที่กลางฝ่ามือของนางกลับยิ่งมายิ่งช้า และกำลังจะหยุดลง
เมื่อเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ การคาดเดาแรกในใจของฟู่ถิงก็คือ เยี่ยนจ้าวเกออาศัยท่าฝ่ามือ ลอบโคจรวรยุทธ์ดัชนีหยินหยาง
สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง หลักการจะมากจะน้อยก็มีจุดเชื่อมโยงกัน
วิชาสายเหนือพิสุทธิ์คือการฝึกห้ากำเนิดแรกเริ่ม ในจำนวนนี้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเป็นกระบวนท่าหนึ่ง ซึ่งมีบางส่วนที่ประสานกับมหามรรคาแห่งฟ้าดินที่ได้อธิบายไว้ในคัมภีร์นภาหยินหยาง ซึ่งเป็นการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์อยู่ด้วย
ต้นกำเนิดวรยุทธ์ของฟู่ถิง แม้ว่าจะไม่ได้บรรลุถึงคัมภีร์นภาหยินหยาง แต่ก็เข้าใจความสามามารถของคัมภีร์นภาหยินหยางมากกว่าคนทั่วไป
คัมภีร์นภาหยินหยางหากฝึกฝนถึงระดับหนึ่ง จะสามารถเคลื่อนหยินหยาง พลิกเปลี่ยนทิศทางและสะท้อนการโจมตีที่ตัวเองเผชิญกลับไปที่ตัวศัตรูได้
ไม่ใช่แค่การยืมพลังต่อสู้เท่านั้น หากอีกฝ่ายมีพลังแข็งแกร่ง วรยุทธ์ลึกล้ำ เช่นนั้นพลังก็ไม่ใช่สิ่งที่จะ ‘ยืม’ ได้แล้ว
แต่เป็นการอาศัยฟ้าดิน บิดเปลี่ยนปราณหยินหยางที่เป็นพื้นฐานของโลก บิดเบี้ยวพลังของอีกฝ่าย
ดังนั้นเมื่อฟู่ถิงเห็น ‘ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด’ ของเยี่ยนจ้าวเกอ ความคิดแรกของนางก็คือ ระดับดัชนีหยินหยางของเยี่ยนจ้าวเกอสูงส่งจนบิดเปลี่ยนฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดของนางได้ ทำให้เกิดสถานการณ์ที่นางสู้กับตัวเอง
ฟู่ถิงปลุกปลอบจิตใจ กระตุ้นพลังฝ่ามือถึงขีดสุด แต่ก็ซ่อนไว้ไม่ปล่อย สั่งสมไว้อย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือปรากฏเป็นสภาพอนัตตา
ด้วยเหตุนี้ แม้จะเป็นดัชนีหยินหยาง ก็ไม่อาจ ‘ยืม’ พลังของนางได้
ทว่าเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของนางมากกว่าเดิมก็ปรากฏขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอใช้พลังฝ่ามือหนุนเนื่องไม่ขาดสาย ยังคงโจมตีใส่นางเหมือนกับผลักภูเขาถมทะเล!
การกักเก็บพลังฝ่ามือไว้ด้านในเมื่อก่อนหน้านี้ของฟู่ถิง กลับทำให้นางเสียโอกาสลงมือก่อน
ที่ที่ทั้งสองฝ่ายประมือกัน ปราณหยินหยางที่เกิดจากการดับสูญของสรรพสิ่ง ถูกรูปไท่จี๋กลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอดูดซับอย่างต่อเนื่อง
ชายหนุ่มผลักฝ่ามือไปด้านหน้า พลังฝ่ามือยิ่งใหญ่กว่าเดิม กระแทกฟู่ถิงจนเริ่มถอยหลัง
ฟู่ถิงตกใจ ‘ไม่ใช่ดัชนีหยินหยางหรือ?’
นางศึกษาพลังฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกออย่างละเอียด พบว่าแตกต่างกับตนจริงๆ
แม้ว่าจะเป็นฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเหมือนกัน มาจากวิถีการถ่ายทอดที่แตกต่าง ต้นกำเนิดแม้จะพอนับได้ว่าเป็นวิชาสายเหนือพิสุทธิ์ แต่กลับไม่ใช่ระบบเดียวกัน
เพียงแต่ว่ามันยังคงมีเงาของคัมภีร์นภาหยินหยางสายหยกพิสุทธิ์อยู่ด้านใน ทำให้ฟู่ถิงไม่อาจแยกแยะเบื้องหลังของเยี่ยนจ้าวเกอได้
นางคำนวณผิดไปกระบวนท่าหนึ่ง เสียโอกาสลงมือก่อน ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกจนต้องถอยหลัง
ฟู่ถิงตาเป็นประกาย บนร่างปรากฏหมอกสีม่วงหลายสาย
ทันทีที่หมอกปรากฏขึ้น ร่างของฟู่ถิงก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ไม่ถอยหลังต่ออีก
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ร่างสสารกำเนิดไร้ประมาณหรือ?”
“ใต้เท้าสายตาดียิ่ง” ฟู่ถิงกล่าว
ชายหนุ่มพลันหัวเราะ “มันโด่งดังเกินไป ไม่อยากรู้จักก็ทำไม่ได้”
ห้ากำเนิดแรกเริ่ม สสารกำเนิดหลอมร่าง ร่างจริงไร้ประมาณ
ในประวัติศาสตร์ของสำนักเต๋าทั้งหมด ท่ามกลางวรยุทธ์นับพันนับหมื่น พลังป้องกันต่างเป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดที่สุด
เมื่อประสานกับร่างกาลอวกาศกำเนิดซึ่งเป็นวรยุทธ์ห้ากำเนิดแรกเริ่ม สองกำเนิดจะรวมเป็นหนึ่ง มีพลังป้องกันไม่ด้อยกว่าห้าจริยะเลย
เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดได้เผยแพร่คัมภีร์นภาแรกเริ่มให้กับโลก เต้าเต๋อเทียนจวินในฐานะเป็นผู้ที่วางรากฐานวรยุทธ์ให้กับมนุษย์ กลับมีการสืบทอดน้อยยิ่ง ทว่าคัมภีร์ที่สืบทอดกันกลับไม่ใช่ไม่มี นั่นคือคัมภีร์เต้าเต๋อ
คัมภีร์เต้าเต๋อในโลกใบนี้ไม่ใช่คัมภีร์ลัทธิเต๋าธรรมดา ขณะเดียวกันก็เป็นการรวบรวมแก่นแท้ของการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ อีกทั้งยังมีชื่อว่าคัมภีร์นภาแห่งเต๋า หรือคัมภีร์นภาเต๋าสูงส่ง
ห้ากำเนิดแรกเริ่มเป็นวรยุทธ์สะท้านโลกที่บันทึกอยู่ด้านใน จุดที่ละเอียดละอ่อนที่สุดสามารถเทียบกับได้สามคัมภีร์ที่เกิดก่อนของคัมภีร์นภาแรกเริ่มได้
โดยเฉพาะแปลงกำเนิดซึ่งเป็นอันดับแรกสุดในห้ากำเนิด ในบางมุม มันมีความอัศจรรย์ที่คล้ายคลึงกับคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตอยู่ด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอมองฟู่ถิงอย่างสนใจ สถานะผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ของอีกฝ่ายได้รับการยืนยันแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
กลับไม่ทราบว่าการสืบทอดของจักรพรรดิแพรมีห้ากำเนิดครบหมดหรือไม่
ฟู่ถิงในตอนนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอ กลับรู้สึกลำบากขึ้น
สู้กันมาถึงตอนนี้ นางยิ่งมองเบื้องหลังของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ออกมากกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอคงจะไม่ใช่ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ที่ฝึกฝนฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดจริงๆ กระมัง
วิถีวรยุทธ์ของเขามีร่องรอยของคัมภีร์นภาหยินหยางสายหยกพิสุทธิ์อยู่จริงๆ ทว่าท่าฝ่ามือเมื่อครู่ของเขากลับทำให้ฟู่ถิงโอดครวญในใจ
วิถีวรยุทธ์ของตนชัดเจน แต่นางกลับมองอีกฝ่ายไม่ทะลุ นี่เป็นความเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากหนึ่งฝ่ามือ เยี่ยนจ้าวเกอก็ชักฝ่ามือกลับ ยิ้มเงียบๆ
ความจริงแล้วเขาใช้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดไม่เป็น
จะว่าไป วรยุทธ์วิชาสายหยกพิสุทธิ์กับวรยุทธ์วิชาสายเหนือพิสุทธิ์ ด้านในหอเก็บหนังสือวังเทพเมื่อครั้งอดีตก็มีเก็บไว้บ้าง แต่ไม่มีวิชาสายเอกพิสุทธิ์
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง จิตจริงแท้ของเอกพิสุทธิ์จำเป็นต้องใช้สภาพแห่งเต๋าของเต้าเต๋อเทียนจวินที่ได้สั่งสอนสรรพสัตว์ และแตกกิ่งก้านสาขาให้กับวรยุทธ์มาผลักดันกลับ
หลังจากข้ามขั้นนี้สำเร็จ เขาแม้ว่าจะยังคงใช้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเป็นพื้นฐาน แต่ก็ไม่ใช่วิชาสายหยกพิสุทธิ์เพียงอย่างอีกต่อไปแล้ว
สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง ลี้ลับเป็นอย่างยิ่ง
คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเดิมทีสามารถใช้วิชาได้มากมาย ทั้งนี้ยังเชื่อมต่อกับแปลงกำเนิดในห้ากำเนิดแรกเริ่มได้
ส่วนคัมภีร์นภาหยินหยางเชื่อมต่อกับขั้วกำเนิด
ดังนั้นเมื่อมีตัวอย่างเช่นฟู่ถิงอยู่เบื้องหน้า เยี่ยนจ้าวเกอจึงสามารถเปรียบเทียบ และใช้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดได้ชั่วคราว
ฟู่ถิงคิดว่าเขาไม่ได้กระตุ้นดัชนีหยินหยาง ทว่าความจริงเยี่ยนจ้าวเกอได้ใช้ไปแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นจอมยุทธ์สายหยกพิสุทธิ์ที่ฝึกฝนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตกับคัมภีร์นภาหยินหยางคนอื่น นับเป็นเรื่องยากจะทำเช่นนี้ได้ ดังนั้นฟู่ถิงจึงสับสน
ทว่าเรื่องนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับสามารถทำได้
แม้ว่าถ้าหากประมือกันต่อ ในท้ายที่สุดฟู่ถิงอาจพบความลับ แต่ว่าในการประมือกันกระบวนท่าเดียว ต่อให้นางจะมองอย่างไร สิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ก็จะเป็นฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดไปทุกรอบ
หมายลองสืบหาว่าอีกฝ่ายใช่เป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์หรือไม่ สุดท้ายกลับสืบได้ว่าเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์เหมือนกับตน
ถ้าหากไม่ใช่บังเอิญ นี่ก็เป็นการเยาะเย้ยที่ไร้เสียง
ฟู่ถิงหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
จอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์ทั้งหมด อดมองหน้ากันเองไม่ได้ ต่างรู้สึกขับขันและคับข้องใจทั้งสิ้น