ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 992 แข็งแกร่งและเหี้ยมหาญกว่าท่าน!
ชิงซู่จื่อมีชื่อเสียงมานาน ผู้คนต่างยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนในกลุ่มยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าบนโลกซ้อนโลก ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนเป็นระดับประมุขมากที่สุด
พลังของเขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมานมนาน เป็นอัจฉริยะบุรุษ เหนือล้ำกว่าคนทั่วไป
ถึงแม้จะบอกว่าที่แล้วมาผู้ฝึกยุทธ์ไม่ยอมคน แต่ไม่ว่าจะเป็นเผิงเฮ่อหรือจางซู่เหริน ต่างก็ยอมรับว่าหากเป็นศัตรูกับชิงซู่จื่อ เช่นนั้นชิงซู่จื่อก็มีอัตราได้รับชนะมากกว่า
แต่ว่าเมื่อต้องลงมือจริงๆ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ก็ล้วนต้องผ่านการต่อสู้ใหญ่สักครั้ง จึงค่อยตัดสินสูงต่ำได้
จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อซึ่งเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ และอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายมีความเชื่อมั่นนี้
กระนั้นพวกเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า ชิงซู่จื่อถึงกับยังไม่เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข ก็ได้ฝึกฝนเอกภพในแขนเสื้อ ซึ่งเป็นวรยุทธ์ไร้เทียบทานของอารามอู่จวงแห่งมหาเซียนเจิ้นหยวนเป็นผลสำเร็จแล้ว!
นี่หมายความว่า ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน หากพวกเขาต้องสู้กับชิงซู่จื่อ ก็อาจถูกเอกภพในแขนเสื้อเก็บในกระบวนท่าเดียว!
จริงอยู่ว่าต่อให้ถูกเอกภพในแขนเสื้อเก็บไป ก็ไม่ได้หมายความว่าชิงซู่จื่อจะสามารถบีบบังคับหรือเข่นฆ่าพวกเขาได้ตามใจชอบ
และไม่ใช่การจับพวกเขา แต่ว่าเป็นการกักขังไว้ชั่วคราว
คนที่ถูกเอกภพในแขนเสื้อเก็บไป แม้จะมีโอกาสค่อนข้างน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสทะลวงออกมา
เพียงแต่ต่อให้หลุดออกมาได้ ก็ต้องเสียหน้าจนหมดสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น หากจักรวาลในแขนเสื้อของชิงซู่จื่อเก็บคนเป็นผลสำเร็จ ย่อมชิงโอกาสได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องสงสัย มีวิธีการมากมายใช้ขยายผลการรบ เพื่อเอาชนะอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์
สิ่งที่ทำให้จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อรู้สึกตื่นตระหนกก็คือ ชิงซู่จื่อที่มีชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วแปดทิศบนโลกซ้อนโลกจนทุกคนต้องเงยหน้ามอง ถึงกับยังคงเก็บงำไว้ ไม่เคยแสดงบารมีทั้งหมดของตัวเอง
อัจฉริยะในอัจฉริยะที่บดขยี้ผู้มีพรสวรรค์คนอื่นมาจำนวนนับไม่ถ้วน ผู้ใดหาคาดไม่ว่าถึงกับยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ถูกค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งของเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงาน น่ากลัวจะยังคงไม่มีใครทราบ ว่าศิษย์เอกของจักรพรรดิเอกภพผู้นี้มีความสามารถขนาดไหนกันแน่
แม้แต่เยี่ยนจ้าวเกอจะเห็นการเคลื่อนไหวของชิงซู่จื่อแล้ว ก็ยังรู้สึกเหนือความคาดหมาย ตาเป็นประกายวูบหนึ่ง
นี่เป็นความมสามารถของเซียนตัวจริง อีกทั้งยังนับเป็นวรยุทธ์ระดับสุดยอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติสำนักเต๋าด้วย
ชิงซู่จื่อฝึกฝนสำเร็จ นับว่าพอจะคลำทางได้และมีความรู้ผิวเผินแล้ว
สามารถนำมาใช้ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างมากพอ ยากจะหาคู่ต่อสู้ระหว่างจอมยุทธ์ระดับเดียวกัน
“ดี!” เยี่ยนจ้าวเกอร้องขึ้น
ฝ่ามือที่จับแขนเสื้อของชิงซู่จื่อไว้ก่อนหน้านี้ของเขา ตอนนี้กำลังจะถูกกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาดูดเข้าไป
เพราะป้องกันไม่ทัน เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่อาจชิงโอกาสได้ก่อน
เขาสูดหายใจลึก ในดวงตาสองข้างปรากฏความโกลาหลอย่างเลือนราง
จุดลมปราณทั่วร่างเปิดออก แต่ะละจุดมีกลุ่มปราณโกลาหลโผล่มารางๆ
ในตอนนี้จุดลมปราณในร่างของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เหมือนกับดวงดาวมากมายอีกต่อไป แต่เหมือนกับความโกลาหลหลายกลุ่มแทน
ก่อนที่จักวาลและห้วงอวกาศจะปรากฏออกมา ก่อนที่ฟ้าดินและความขมุกขมัวจะถูกเปิด ไม่มีซ้ายไม่มีขวา ไม่มีหน้าไม่มีหลัง ไม่มีล่างไม่มีบน
รอบๆ ฝ่ามือที่เยี่ยนจ้าวเกอเหยียดยื่นออกมามีล้อแสงสิบสองวงปรากฏขึ้น กระเพื่อมขึ้นลง หมุนวนไม่หยุดยั้ง
พร้อมกับที่ล้อแสงลอยขึ้น แสงสว่างและความมือก็เริ่มหลอมรวมกัน
ไม่สว่าง แต่ก็ไม่มืดมัว
ระหว่างฟ้าดินพร่าเลือนไม่ชัดเจน
ในแฝงคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต นอกแสดงวิชาสิบสองประกายกาฬแล้ว พลังฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอสะท้อนสภาวะโกลาหลออกมาระหว่างที่แสงและความมืดตัดสลับกันด้วย
เวลาถูกเยี่ยนจ้าวเกอหยุดไว้ ร่างของเขาที่เดิมทีถูกกระแทกและกำลังจะถูกดูดเข้าไปในแขนเสื้อของชิงซู่จื่อ ขณะนี้ตั้งหลักได้อีกครั้ง
โอกาสที่ชิงซู่จื่อใช้เอกภพในแขนเสื้อจู่โจมอย่างฉับพลันจนได้มาหายไปเช่นนี้
เยี่ยนจ้าวเกอใช้เสร็จก็เก็บทันที กลุ่มปราณที่เหมือนความโกลาหลในร่างสลายไป
แสงสว่างที่ไหลเวียนราวกับสายน้ำบนฝ่ามือของเขากระจายออกไปทุกที่ ทัศนียภาพรอบๆ กลายเป็นซีดขาว
วินาทีถัดมา คลื่นน้ำไหลย้อน เยี่ยนจ้าวเกอฉวยโอกาสนี้ชักมือที่ถูกแขนเสื้อของชิงซู่จื่อม้วนไว้ออกมาจากด้านใน!
เบื้องหน้าจางซู่เหริน เผิงเฮ่อ และชิงซู่จื่อเหมือนกับปรากฏความรู้สึกหลอนว่าเวลาทวนกลับ
‘สิบสองวิชาประกายกาฬ คัมภีร์นภากาลเวลา!’ คนทั้งสามจิตใจสั่นสะท้านพร้อมกัน ‘หลุดจากเอกภพในแขนเสื้อเช่นนี้เลยหรือ’
จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อถลันเข้าไป ไม่ให้ชิงซู่จื่อเผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอเพียงลำพัง
พร้อมกับที่เวลาผ่านไป พวกเขาสามคนถูกค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งกัดกร่อนยิ่งมายิ่งสาหัสแล้ว
ถ้าหากไม่อาจเผด็จศึกได้โดยไว ไม่ต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอลงมือ พวกเขาก็พ่ายแพ้โดยไม่ต้องสู้
แต่ว่าครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจยาว พลันพลิกฝ่ามือที่ชักกลับมา!
ตราพลิกฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง เยี่ยนจ้าวเกอครั้งนี้ลงมือ ใช้ความแยบคายแทนการใช้กำลัง
ฝ่ามือบิดหมุนเอกภพ กระแทกชิงซู่จื่อให้ถอยไปอย่างหักโหม
ในขณะเดียวกัน ตราประทับตะวันโผล่ขึ้นบนศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง แล้วร่วงหล่นใส่จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่ออย่างสะเทือนเลือนลั่น
จางซู่เหรินใช้สองมือดัน ต้านทานสุดกำลัง ถูกตราประทับตะวันกระแทกจากฟากฟ้า กดดันเขาเข้าไปในแม่น้ำสีเหลืองอันยิ่งใหญ่ด้านล่าง!
จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็ฟาดกระบองไม้ไผ่ในมือ ฟาดจนดาบอัคคีในมือเผิงเฮ่อกระเด็นหลุดออกจากมือไป
เขาผลักฝ่ามืออก ฝ่ายเผิงเฮ่อฝืนป้องกัน
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอรีบกระโดดปราดขึ้น จากนั้นก็เตะผู้อาวุโสเนินต้นจักรพรรดิผู้นี้กระเด็นออกไป
ชิงซู่จื่อจู่โจมมาถึงด้านหน้าอีกครั้ง
แต่ว่าครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีการเตรียมตัว เขาหมุนร่างครั้งหนึ่ง ทำให้ความเร็วสูงยิ่ง พริบตาเดียวก็บรรลุถึงด้านหน้าชิงซู่จื่อ
เขางอศอก จากนั้นก็กระทุ้งใส่ตำแหน่งหัวใจของชิงซู่จื่อ
ชิงซู่จื่อได้แต่ถอยหลังอย่างจนปัญญา
แต่ว่าศิษย์เอกของจักรพรรดิเอกภพผู้นี้อย่างไรก็ไม่ใช่คนธรรมดา สองตาพลันสาดประกาย
พริบตาต่อมา ประกายตาของชิงซู่จื่อก็กลายเป็นประกายกระบี่สีเหลืองตุ่นสองสาย ทิ่มแทงใส่สองตาของเยี่ยนจ้าวเกอในระยะห่างกันเพียงแค่ปลายจมูก
การสืบทอดกระแสตรงแห่งยอดเขาอนัตตา กระบี่เนตรทองเอกภพกำเนิด
จักรพรรดิเอกภพกำเนิดเจนจัดในเรื่องมิติเวลา ลูกศิษย์ในสำนักมีท่าร่างโดดเด่น โด่งดังไปทั่วโลกซ้อนโลก
เยี่ยนจ้าวเกอพอใช้กระบวนท่าประชิดตัว ก็ไม่ยอมมอบโอกาสรักษาระยะห่างให้แก่อีกฝ่าย
ขณะเผชิญหน้ากับกระบี่เนตรทองเอกภพกำเนิดของชิงซู่จื่อ เขาไม่กลับหลบหลีก ประกายอัสนีสีม่วงกะพริบขึ้นในดวงตา
เป็นสายฟ้าเทพชั่วพริบตา จู่โจมใส่ชิงซู่จื่อในระยะห่างแค่ปลายจมูกเช่นกัน!
ประกายสายฟ้ากับประกายกระบี่ผสมกันกลางอากาศ ประกายสายฟ้าอันบ้าคลั่งพลันระเบิดประกายกระบี่สีเหลืองตุ่นเป็นผง!
เยี่ยนจ้าวเกอชิงโอกาสได้ก่อนครึ่งก้าว ผลักสองมือออกพร้อมกัน จับแขนและไหล่ของชิงซู่จื่อ
มือหนึ่งจับข้อมือ มือหนึ่งจับไหล่
ชิงซู่จื่อสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คิดดิ้นรนขัดขืน แต่จนปัญญาที่ถูกค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งสะกด จึงไม่อาจสู้แรงและสลัดฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอออกได้
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สองมือจับอีกฝ่ายไว้ โคจรจิตพลังย้อนทวนเอกภพในคัมภีร์พลิกฟ้า
แรงบิดอันมหาศาลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองสาย ถูกใช้บนแขนและไหล่ของชิงซู่จื่อ
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายผู้ยิ่งใหญ่มีกายเนื้อแข็งแกร่งสุดเปรียบปาน สุดท้ายถูกเยี่ยนจ้าวเกอบิดหักไปทั้งแขน!
“อ้าก!” ชิงซู่จื่อคำราม
แขนข้างหนึ่งของเขาถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระชากออกจากช่วงไหล่ ก่อนจะหลุดออกจากร่าง!
พอหลุดจากร่างแล้ว ก็กลายเป็นไร้เจ้าของ แขนข้างนั้นอ่อนแอต่อพลังของเยี่ยนจ้าวเกอถึงขีดสุด
ภายใต้การบดขยี้จากพลังที่เหมือนกับเครื่องบด ชิงซู่จื่อมองแขนที่ขาดไปข้างนั้นกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนตาปริบๆ อยู่กลางอากาศ!
“เยี่ยน! จ้าว! เกอ!”
อีกด้านหนึ่งมีเสียงตวาดนี้ดังมา
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เงาแสงตรงหน้าบดบังเส้นแสง
เรือนภาร่อนวายุขนาดยักษ์มีเปลวไฟลุกท่วม เข้ามาใกล้ด้านหน้า เนื่องจากกระตุ้นของเผิงเฮ่อ
เผิงเฮ่อตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ผลักดันเรือนภาร่อนวายุพุ่งชนใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!
เรือเทพนาวายักษ์ขนาดใหญ่โต เทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอที่สูงเท่าคนปกติ เหมือนกับช้างพุ่งใส่มด!
“ฮ่า!” เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ พลิกตัวกลับมากระแทกฝ่ามือใส่!
พริบตาที่สองฝ่ายกระทบถูกกัน
เรือใหญ่ที่เหมือนภูเขาไท่ซานกดศีรษะ ถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกใส่จนหยุดนิ่งกับที่ ไม่กระดิกกระเดี้ยแม้แต่น้อย!
พริบตาที่สองที่สองฝ่ายกระทบถูกกัน
บริเวณตรงมุมชนด้านล่างตัวเรือนภาร่อนวายุที่กระทบฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ แหลกสลายอย่างสะเทือนเลือนลั่น เปิดเป็นช่องใหญ่ช่องหนึ่ง!