CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 32 คลื่นลมหลังม่าน (1)

  1. Home
  2. ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ
  3. ตอนที่ 32 คลื่นลมหลังม่าน (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ยามนั้น หมอเทวดาซังเฉินเก็บสมุนไพรอยู่บนภูเขา เมื่อลงจากเขาเห็นประกาศพระราชโองการของจักรพรรดิต้ายง จึงทราบว่าสุยอวิ๋นใกล้ม้วยมรณา เขาใช้เวลาสามวันรีบเร่งเดินทางพันลี้มาถึงฉางอันจนกระทั่งมาถึงจวนยงอ๋อง สุยอวิ๋นชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่หมอเทวดาฝีมือล้ำเลิศ เจียงเจ๋อจึงรอดมาได้ ทว่านับแต่นั้น ร่างกายก็อ่อนแอกว่าเดิม

…พงศาวดารฉู่ราชวงศ์หนาน บันทึกธาราเคียงเมฆ

เมื่อซังเฉินมาถึงจวนอ๋องก็วิ่งตรงไปยังสวนเหมันต์ จากนั้นก็พาหมอหลวงหลายคนกับเสี่ยวซุ่นจื่อเข้าไปเป็นลูกมือ แล้วปิดประตูไม่ย่างออกมาอีก เพียงสั่งงานสารพัดเป็นบางครั้งเท่านั้น

หลี่จื้อรออยู่นอกประตู หัวใจร้อนรนอย่างยิ่ง

เผยอวิ๋นผู้หายจากอาการบาดเจ็บแล้วได้ยินว่าซังเฉินเดินทางมาถึงจวนยงอ๋องจึงรีบเร่งมายืนรอหน้าประตูด้วย เขารู้สึกขอบคุณเจียงเจ๋อยิ่งนัก หลังจากตนนำวิธีการของเขาไปปรึกษากับสำนัก แม้อาจารย์อาทั้งสองจะไม่เอ่ยอันใด แต่ก็อนุญาตอยู่กลายๆ

ถึงจะขัดต่อหลักเมตตาธรรมของศาสนาพุทธ แต่คงมิอาจใส่ใจถึงขั้นนั้น เผยอวิ๋นเป็นศิษย์ผู้พิทักษ์ธรรมที่พวกเขาทุ่มเทอบรบมา ย่อมไม่อาจปล่อยให้เขาเกี่ยวดองกับสำนักเฟิงอี้ได้อย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตั้งใจแบ่งโอสถชั้นเลิศซึ่งมีติดตัวอยู่เพียงสองเม็ดให้เจียงเจ๋อกินเม็ดหนึ่ง

ทุกคนเฝ้ารออยู่ด้านนอกหนึ่งวันเต็ม จนกระทั่งค่ำวันต่อมาจึงเห็นพวกซังเฉินเดินออกมา สีหน้าอ่อนล้า หมอเทวดาอายุเจ็ดสิบปีแล้ว แม้ชราจนเส้นผมหนวดเคราขาวโพลน แต่ร่างกายยังคงแข็งแรง สองวันนี้หมอหลวงทั้งหลายแทบจะต้องผลัดเวรกันมาลงสนาม แต่เขากลับไม่ก้าวออกจากประตูห้องแม้แต่ก้าวเดียว

ซังเฉินก้าวออกจากประตูห้องมาก็เห็นหลี่จื้อ เขาเดินเข้าไปคำนับ  ข้าขอบคุณยิ่งนักที่องค์ชายยอมลำบากทุ่มเท หากมิได้องค์ชายใช้ยาล้ำค่าต่อชีวิตเอาไว้ เกรงว่าสุยอวิ๋นคงรอข้ามาช่วยไม่ทัน 

ในที่สุดหลี่จื้อก็โล่งอก เขาทรุดกลับไปนั่งบนเก้าอี้ที่เหล่าองครักษ์ยกมาให้แล้วเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า  ท่านหมอซัง ข้าต่างหากต้องขอบคุณท่านที่ช่วยท่านเจียงกลับมาได้ 

ซังเฉินยิ้มเล็กน้อย  ข้ากับสุยอวิ๋นสนิทสนมกันดุจปู่หลาน ข้าช่วยเขาเป็นเรื่องธรรมดา ทว่าแม้ยามนี้เขาปลอดภัยแล้ว แต่ต่อจากนั้นยังต้องใส่ใจบำรุงอีกมาก ข้าคงต้องรบกวนองค์ชายแล้ว 

หลี่จื้อรีบลุกขึ้นเอ่ยว่า  แน่นอน ท่านหมอซังไม่ต้องบอก ข้าก็ย่อมเชิญท่านหมอให้อยู่ที่จวนอ๋องชั่วคราวอยู่แล้ว ไม่ว่าต้องการสิ่งใด ท่านหมอโปรดบอกข้า ข้าจะไม่ให้ท่านหมอผิดหวัง 

ซังเฉินพยักหน้า ตอบว่า  ข้าเหนื่อยแล้ว โปรดเตรียมที่พักให้ข้าสักหน่อย วันพรุ่งนี้ข้าจะมารักษาสุยอวิ๋นต่อ ข้าอยู่ที่สวนเหมันต์แห่งนี้ก็แล้วกัน จะได้ดูแลร่างกายของสุยอวิ๋นได้ตลอด 

หลี่จื้อรับปาก เขาให้คนเตรียมที่พักสำหรับซังเฉินไว้นานแล้ว

เวลานี้เอง พระชายาก็ส่งคนมากล่อมให้หลี่จื้อกลับเรือนหลังไปพักผ่อน หลายวันมานี้หลี่จื้อแทบจะกินนอนอยู่ที่สวนเหมันต์ ไม่ได้กลับไปแม้แต่น้อย ตอนนี้ในที่สุดเขาก็วางใจได้แล้วจึงกลับที่พำนัก พระชายานำชายารองทั้งสองกับเหล่าหญิงรับใช้มาปรนนิบัติหลี่จื้ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ หลังจากรับประทานอาหารรสโอชาหนึ่งมื้อ หลี่จื้อก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับใหลอย่างหมดห่วง

เมื่อตื่นขึ้นมาก็ตะวันโด่งแล้ว หลี่จื้อลุกขึ้น หญิงรับใช้สองนางเข้ามาช่วยหลี่จื้อแต่งตัว หลี่จื้อยิ้มถามว่า  พระชายาเล่า? 

พระชายาเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้วยิ้มตอบ  องค์ชาย มีเรื่องน่ายินดีเพคะ เมื่อครู่สวนเหมันต์ส่งคนมารายงานว่าเจียงซือหม่าฟื้นแล้ว 

หลี่จื้อยินดียิ่งนัก  หมอเทวดาช่างสมคำร่ำลือจริงๆ ผ่านไปคืนเดียว สุยอวิ๋นก็ฟื้นแล้ว 

พระชายาอดหัวเราะไม่ได้  องค์ชาย ผ่านไปสองวันแล้วเพคะ ท่านหลับครั้งนี้ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น ท่านหมอซังมาตรวจ บอกว่าหลายวันนี้ท่านเหน็ดเหนื่อยกายใจเกินไป ขอเพียงนอนสักตื่นก็จะดีขึ้นเอง 

หลี่จื้อยิ้มเจื่อน  มิน่าข้าจึงหิวโหยยิ่งนัก รีบนำอาหารมาเร็ว ข้าต้องไปสวนเหมันต์เยี่ยมท่านเจียง 

พระชายาจูงมือหลี่จื้อมารับประทานอาหารด้านนอก ระหว่างที่เดินก็เอ่ยไปพลาง  ประเดี๋ยวองค์ชายพาโหรวหลันไปด้วยเถิด ที่ผ่านมาหม่อมฉันไม่กล้าบอกเรื่องเจียงซือหม่ากับนาง นางร้องไห้โยเยมาหลายหนแล้ว 

หลี่จื้อพยักหน้า  ก็ดี เจ้าไปกับข้า หลังจากนั้นเข้าวังไปบอกฉางเล่อสักคำ 

พระชายามองหลี่จื้ออย่างประหลาดใจ  องค์ชายมิใช่บอกว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสมหรือ 

หลี่จื้อยิ้มเจื่อน  พอฉางเล่อรู้ว่าเจียงซือหม่าบาดเจ็บหนักก็ยกโสมดำที่เสด็จพ่อประทานแก่นางให้ข้าครึ่งต้นทันที สองวันก่อนยังส่งคนมาถามว่าต้องการอีกครึ่งต้นหรือไม่ หากหมอเทวดามาไม่ทัน เกรงว่าข้าคงต้องไปขอหยิบยืมโสมดำมาจริง ดูท่าฉางเล่อคงมีใจให้เจียงซือหม่าลึกซึ้ง แม้ข้าช่วยให้นางสมหวังไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องการให้นางกังวลเช้าจรดค่ำ 

พระชายาพยักหน้า  ก็ดี เอาเช่นนี้เถิด หม่อมฉันจะพาโหรวหลันเข้าวัง อ้างว่าพาไปเยี่ยมจ่างซุนกุ้ยเฟย แม้เด็กคนนี้อายุน้อยแต่เฉลียวฉลาดน่ารัก ฉางเล่อชมชอบนางยิ่งนัก 

หลี่จื้อพยักหน้า พระชายาจึงเอ่ยต่อ  องค์ชาย แม้ท่านจะปล่อยพวกแม่ทัพฉินไป แต่หลายวันนี้ก็ส่งคนไปจับตาอยู่ตลอด แล้วยังทำอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง เมื่อวานฉินฮูหยินจึงเดินทางมาเยี่ยมเยือนด้วยตนเอง นางบอกหม่อมฉันว่าไม่มีทางเป็นการกระทำของฉินชิงแน่ กระนั้นแม่ทัพใหญ่ก็กักตัวฉินชิงไว้สอบสวนอย่างละเอียดแล้ว 

หลี่จื้อตอบอย่างเย็นชา  เรื่องเหล่านี้รอข้ากับสุยอวิ๋นหารือกันเสร็จค่อยว่ากันเถิด หากเขาเป็นผู้กระทำ ข้าย่อมไม่ละเว้นเขาแน่ 

พระชายาเอ่ยขึ้นอย่างลังเล  องค์ชาย ยามนี้ท่านกับรัชทายาทเป็นประหนึ่งน้ำกับไฟ หากล่วงเกินแม่ทัพใหญ่ฉินอีก หม่อมฉันคงวางใจไม่ลงจริงๆ อีกทั้งตระกูลเซี่ยโหวก็ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทยิ่งนัก บุตรีจิ้งเจียงอ๋องครั้งนี้ก็มาตามคำสั่งของบิดา ไม่ว่าล่วงเกินผู้ใดล้วนยุ่งยากนัก 

หลี่จื้อชะงักครู่หนึ่งก็เอ่ยอย่างไม่แยแส  ไม่ใช่ปัญหา เรื่องบางเรื่องช้าเร็วย่อมต้องจัดการ หากฉินชิงทำเรื่องเช่นนี้จริงย่อมเสื่อมเสียเกียรติวงศ์ตระกูล 

พระชายาเอ่ยอย่างระมัดระวัง  หม่อมฉันคิดว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางทำเช่นนั้น แม่ทัพใหญ่สั่งสอนบุตรอย่างเคร่งครัด เด็กคนนี้กมลสันดานดีงาม แม้มุทะลุอยู่บ้าง แต่การลอบยิงธนูทำร้ายคนเช่นนี้ เขาไม่มีทางทำ 

หลี่จื้อลังเลแต่มิกล่าวอันใด เขาเคยถามฉินชิงด้วยตนเองแล้ว ฉินชิงไม่ปิดบังเรื่องราวในวันนั้นแม้แต่น้อย เขามั่นใจว่ามีคนยุแยงฉินชิง แต่เขาไม่แน่ใจว่าฉินชิงตกหลุมพรางหรือไม่ ถึงอย่างไรเรื่องวันนั้น นอกจากเจียงเจ๋อ ก็ไม่มีประจักษ์พยานเหลือรอดมาเป็นคนที่สอง แม้ฉินชิงจะกล่าวความจริง แต่ก็มิอาจตัดความเป็นไปได้ที่เขาอาจอาศัยจังหวะที่มีคนลอบสังหารซ้ำเติม แต่เรื่องนี้สำคัญยิ่ง หลี่จื้อไม่ต้องการบอกพระชายา จึงเอ่ยขึ้นเรียบๆ  ข้าจะตัดสินอย่างเป็นธรรม 

ไม่ว่าอย่างไร จวนยงอ๋องก็นับว่าสงบลงชั่วคราว หลายวันที่ผ่านมา ผู้คนในจวนอ๋องทั้งเบื้องบนเบื้องล่างล้วนวุ่นวาย วันนี้ในที่สุดสถานการณ์ก็สงบ แน่นอนว่าคลื่นใต้น้ำที่กำลังถาโถมมาย่อมมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้

ณ จวนรัชทายาท หลู่จิ้งจงอ่านข่าวกรองที่อยู่ในมือแล้วนิ่งอึ้ง ก่อนจะฉีกแผ่นกระดาษเป็นชิ้นๆ ด้วยความโมโห ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง เมื่อเดินไปถึงประตูห้องโถงก็เห็นด้านในกำลังร้องเพลงเต้นรำครื้นเครง หลู่จิ้งจงส่ายหัว จากนั้นเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ เขาเห็นรัชทายาทหลี่อันนั่งสบายใจอยู่บนตำแหน่งประธาน กำลังมองท่วงท่าชดช้อยของนางระบำเหล่านั้นอย่างเกียจคร้าน เมื่อเห็นหลู่จิ้งจงเดินเข้ามา ทั้งยังมีสีหน้าไม่ดี หลี่อันจึงโบกมือ เมื่อเหล่านางระบำและนักดนตรีล้วนถอยออกไปแล้ว เขาจึงเอ่ยถาม  เหตุใดเส้าฟู่จึงกังวลเช่นนี้ มิใช่แค่เจียงเจ๋อรักษาชีวิตเอาไว้ได้เท่านั้นหรือ เป้าหมายของพวกเราเดิมทีก็ไม่ใช่ชีวิตเขาอยู่แล้ว 

หลู่จิ้งจงเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม  องค์ชาย หลายวันนี้กระหม่อมอ่านข่าวกรองอย่างละเอียดแล้วพบว่าพวกเราพลาดครั้งใหญ่ 

หลี่อันชะงักแล้วลุกขึ้นนั่งตัวตรง  เหตุใดเส้าฟู่จึงเอ่ยเช่นนี้ 

หลู่จิ้งจงตอบว่า  องค์ชาย ก่อนหน้านี้กระหม่อมคิดว่าแม้เจียงเจ๋อเป็นยอดคนแห่งแคว้น แต่กล่าวตามจริง พวกเราก็มิได้ขาดอัจฉริยะด้านบุ๋นบู๊ ดังนั้นแม้ความสามารถในการวางกลยุทธ์การศึกและการเมืองของเขาจะไม่ธรรมดา กระหม่อมก็มิได้สนใจนัก หลังจากองค์ชายขึ้นครองราชย์ หากเขายินยอมถวายการรับใช้ ค่อยใช้งานเขาก็ยังไม่สาย ถึงอย่างไรองค์ชายก็ยังมิได้เป็นจักรพรรดิ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนรวบรวมผู้กล้ามากความสามารถจนทำให้จักรพรรดิคลางแคลงพระทัย

กระหม่อมยังลอบเยาะหยันยงอ๋องอยู่เลยที่ไม่รู้จักระวัง ต่อให้เจียงเจ๋อมีความสามารถสูงส่งปานใด เมื่อไม่ได้เข้ามามีตำแหน่งสำคัญจะทำประโยชน์อันใดได้ เดิมทีกระหม่อมแนะนำให้ลอบสังหารเจียงเจ๋อก็เพียงเพื่อยุแยงยงอ๋องให้ขัดแย้งกับแม่ทัพใหญ่ฉิน คิดไม่ถึงว่าวันนั้นสถานการณ์กลับผิดคาด ถึงกับมีมือสังหารอีกกลุ่มหนึ่งชิงลงมือก่อน แม้พวกเขาล้มเหลวจนคนที่พวกเราส่งไปลงมือสำเร็จ แต่ปฏิกิริยาของยงอ๋องหลังจากนั้น องค์ชายก็เห็นแล้ว กระหม่อมจึงเพิ่งคิดได้ว่า พวกเราอาจเหยียบถูกสิ่งสำคัญของยงอ๋องเข้าแล้ว 

หลี่อันพยักหน้า  เจ้ากล่าวมีเหตุผล หลายปีนี้พวกเราสร้างความลำบากให้น้องรองไม่น้อย เคยเห็นเขาแสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้เสียที่ไหน ทั้งไปร่ำไห้หน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ทั้งเคลื่อนกองทัพองครักษ์เข้าเมือง แม้แต่โสมดำที่เสด็จพ่อประทานให้เขาก็ไม่เสียดาย แล้วยังหยิบยืมโสมดำจากองค์หญิงฉางเล่ออีก กระทั่งน้องหกยังส่งของไปประจบ นึกถึงเรื่องนี้ข้าก็โมโห เหตุใดน้องหกจึงเลอะเลือนเช่นนี้ เขายังเห็นข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ 

หลู่จิ้งจงเอ่ยว่า  สิ่งเหล่านี้ทำให้กระหม่อมเกิดความสงสัย เมื่ออ่านข่าวกรองเกี่ยวกับเรื่องในอดีตโดยละเอียดจึงเพิ่งตระหนักว่ากระหม่อมพลาดพลั้งแล้ว ก่อนหน้านี้กระหม่อมคิดว่าเจียงเจ๋อผู้นี้เป็นเพียงผู้เก่งกาจในการบริหารบ้านเมืองเท่านั้น แต่เมื่อกระหม่อมทบทวนอย่างละเอียด กลับพบว่าคนผู้นี้เป็นยอดอัจฉริยะผู้ชำนาญการวางกลอุบาย 

หลี่อันเลิกคิ้วเป็นสัญญาณให้หลู่จิ้งจงกล่าวต่อไป หลู่จิ้งจงจึงเอ่ยต่อว่า  คนผู้นี้สร้างชื่อด้วยความสามารถทางกวี เขาเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในสังกัดเต๋อชินอ๋องแห่งหนานฉู่ ตอนแรกกระหม่อมไม่คิดว่าแปลก คิดว่าเขาเพียงต้องการเกาะบารมีเท่านั้น จากข่าวสารที่พวกเราได้มา แม้เต๋อชินอ๋องจะเชื่อถือเขามากยิ่งนัก แต่ก็ไม่เห็นเขาวางกลยุทธ์ใดให้ ถึงจะทราบว่าเขาจัดการกองทัพได้ไม่เลว แต่ก็มิได้สลักสำคัญ

ทว่าหลายวันมานี้กระหม่อมรวบรวมรายงานการรบทั้งหมดของเต๋อชินอ๋องแล้วพบว่าหากมีเจียงเจ๋ออยู่ในกองทัพของเขา กลศึกของเต๋อชินอ๋องจะเปลี่ยนเป็นมากเล่ห์เพทุบาย เหตุการณ์ที่เจียงเจ๋อใช้หนึ่งบทกวีส่งสู่อ๋องสู่ความตาย แม้เล่าลือเป็นตำนาน แต่ผู้คนล้วนคิดว่าเป็นคำสั่งของเต๋อชินอ๋อง เจียงเจ๋อเป็นเพียงผู้ลงมือแทน

แต่ยามนี้เมื่อคิดดูแล้ว ไม่แน่อาจเป็นความตั้งใจของตัวเจียงเจ๋อเอง ทว่าหลังจากนั้นเจียงเจ๋อล้มป่วยอยู่หลายปี ทุกคนจึงมิได้สนใจ หากกระหม่อมไม่ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับหนานฉู่อย่างถี่ถ้วนก็เกรงว่าคงค้นไม่พบเรื่องนี้ 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 32 คลื่นลมหลังม่าน (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์