ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 36 การหารือลับในศาลา (1)
หลี่จื้อเดินเข้าพร้อมสีหน้าไม่สบายใจ ข้ารู้เขาคิดว่ามารบกวนข้าเร็วเช่นนี้ออกจะทารุณเกินไปอยู่บ้าง ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็เพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัส ยังจัดการงานการไม่สะดวก แต่เมื่อนึกได้ว่าข้าบาดเจ็บหนักไม่ได้สติมาครึ่งเดือนเกือบเดือนหนึ่งแล้ว ทั้งหลายวันนี้ยังถูกอาจารย์ซังห้ามไม่ให้พบแขกอีก ยงอ๋องจะต้องมีเรื่องมากมายต้องการหารือกับข้าแน่
ดังนั้นข้าจึงให้เสี่ยวซุ่นจื่อประคองลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเสียงดัง องค์ชายเชิญเข้ามาในศาลาเถิด ขออภัยที่เจียงเจ๋อไม่สะดวกเดินไปต้อนรับ
หลี่จื้อรีบก้าวเข้ามา เอ่ยว่า สุยอวิ๋นไม่ต้องออกมา ด้านนอกลมแรง กล่าวจบก็เดินสองสามก้าวเข้ามาในศาลาแล้วยิ้มให้ วิธีนี้ไม่เลว ได้จิบชาชมดอกไม้แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องลมหนาว ท่านรีบนั่งลงเถิด
การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ข้ามีเหงื่อเย็นไหลท่วมศีรษะ ข้าจึงนั่งลงอย่างไม่เกรงใจ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ องค์ชาย เชิญดื่มชาสักถ้วยก่อนแล้วค่อยคุยกัน
หลี่จื้อกำลังจะเอ่ยวาจาก็หยุดไว้ จากนั้นรับชาหอมกรุ่นที่เสี่ยวซุ่นจื่อส่งให้ หลังจากดื่มเสร็จจึงเอ่ยว่า สุยอวิ๋น แม้จะลำบากท่านอยู่บ้าง แต่ท่านคิดว่ายามนี้ข้าสมควรทำเช่นไรดี
ข้ายิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า องค์ชายทำดีมากแล้ว ฉวยโอกาสเพิ่มองครักษ์ในจวน ได้รับความเห็นใจจากฝ่าบาท การที่ฉินชิง เซี่ยโหวหยวนเฟิงกับบุตรีจิ้งเจียงอ๋องล้วนต้องสงสัย คงทำให้หลายวันนี้องค์ชายสะดวกขึ้นไม่น้อย แม่ทัพใหญ่ฉินอาจเอนเอียงมาทางองค์ชายเพิ่มหลายส่วนเพราะเรื่องนี้ เพราะถึงอย่างไรฉินชิงก็น่าสงสัยที่สุด องค์ชายยังมีสิ่งใดไม่พอใจอีกหรือ
หลี่จื้อเอ่ยอย่างละอาย ข้าเพียงแต่ถูกสถานการณ์บังคับเท่านั้น แต่วันนี้ไม่รู้ควรจบเรื่องเช่นไรจึงจะดี แล้วอีกอย่างก็ไม่ทราบว่ามือสังหารเป็นผู้ใด สุยอวิ๋นมีความคิดหรือไม่
ข้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม้ข้าเห็นผู้ที่ยิงธนูใส่ข้า แต่ระยะไกลเกินไปจึงไม่รู้ตัวตนของเขา ทว่าองค์ชาย ไม่ว่าเป็นผู้ใด อย่าปล่อยให้ใจไขว้เขวเพราะสุยอวิ๋น องค์ชายยังคงต้องหาโอกาสผูกมิตรกับแม่ทัพใหญ่ฉินจึงจะถูกต้อง
หลี่จื้อขมวดคิ้ว ท่านกล่าวไม่ผิด แต่หากฉินชิงเป็นคนลงมือ ข้าจะยอมให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกได้เช่นไร หากไม่สืบจนความจริงปรากฏ ข้าไม่มีทางยอมเลิกราโดยดีเด็ดขาด สุยอวิ๋น ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าเตรียมการบางสิ่งเอาไว้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เตรียมการเป็นเช่นไรแล้ว
ข้ามองเสี่ยวซุ่นจื่อแวบหนึ่ง หลายวันนี้ช่วงที่ซังเฉินอยู่ข้างกายข้า เสี่ยวซุ่นจื่อเคยลอบออกไปพบเฉินเจิ่นอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อวานเขารายงานข้าแล้วว่าภายในเวลาสองเดือนสั้นๆ รัชทายาททำการค้ากับกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วแล้วสองครั้ง พวกเราได้กำไรมาไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเราไม่ลืมจดบันทึกทางลัดที่รัชทายาทใช้ และคนสนิททั้งหลายที่เขาใช้งานไว้ครบถ้วนทุกประการ เมื่อวานสิ่งเหล่านี้ส่งมาถึงมือข้าแล้ว แต่ตอนนี้ข้ายังไม่คิดใช้หมากตานี้ ต้องรอให้รัชทายาทถลำลึกจนยากถอนตัวก่อนจึงจะลงมือ
ข้าคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ เรื่องเหล่านี้ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของท่านอ๋อง ท่านอ๋องทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า
หลี่จื้อชะงัก จากนั้นเอ่ยอย่างลังเล สุยอวิ๋น มิใช่ข้าจะทำตัวไร้เหตุผล แต่ท่านอย่าได้ทำสิ่งใดเกินขอบเขต หากต้องทำร้ายบ้านเมืองและปวงประชา ข้ายอมไม่ไขว่คว้าบัลลังก์นี้
ข้ายิ้มเล็กน้อยเอ่ยว่า องค์ชายโปรดวางใจ กระหม่อมไม่มีทางทำเรื่องเหล่านั้น
แต่ข้ามิได้เอ่ยประโยคหนึ่งออกมา หากรัชทายาททำ เช่นนั้นเกี่ยวอันใดกับข้าเล่า คงไม่มีผู้ใดบังคับให้ข้าแบกรับความผิดของรัชทายาทแทนตัวเขากระมัง อย่างมากที่สุดข้าก็แค่สอนเท่านั้น ความผิดมหันต์เหล่านั้นรัชทายาทเป็นผู้ก่อขึ้นเอง
หลี่จื้อเอ่ยอย่างโล่งใจ ถ้าเช่นนั้นก็ดี สุยอวิ๋น นี่คือข่าวที่ส่งมาหลายวันนี้ ท่านค่อยๆ อ่านดู
ข้ารับสรุปข่าวสารที่ยงอ๋องส่งมาให้ จากนั้นวิเคราะห์อย่างละเอียด
หลายวันนี้รัชทายาทพักรบทุกทาง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นศัตรูคู่แค้นของยงอ๋อง เวลาเช่นนี้จะซ้ำเติมอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้งย่อมมิได้ ไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดิก็ยังอยู่ ครั้งนี้จักรพรรดิสงสัยรัชทายาทอยู่มากจึงเอ่ยตักเตือนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้รัชทายาทจึงอดกลั้น หลบอยู่ในจวนสังสรรค์รื่นเริงทั้งวันอย่างสุขสำราญใจ ผู้ที่จัดการเรื่องนี้ให้แก่รัชทายาทก็คือเซี่ยจินอี้ องครักษ์ที่ระยะนี้รัชทายาทโปรดปราน
แม้เซี่ยจินอี้จะสำมะเลเทเมา แต่ในด้านนี้เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง เขาสั่งสอนนักขับร้องและนางระบำในจวนจนฝีมือล้ำเลิศ ขับขานประหนึ่งช่วงชิงวิญญาณ ร่ายรำดุจดั่งนางมาร ทำให้รัชทายาทลุ่มหลงจนไร้สติ แต่ละวันมัวเมาอยู่ในกับดักแห่งนวลนาง หากมิใช่ในจวนมีชายารองเซียวหลาน ด้านนอกมีเส้าฟู่หลู่จิ้งจง เกรงว่าจวนรัชทายาทตั้งแต่บนจรดล่างคงสับสนวุ่นวายไปเสียหมดแล้ว
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ข้าก็อดแย้มรอยยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ เห็นเพียงเท่านี้ก็รู้หมดเปลือก รัชทายาทยังไม่ทันขึ้นครองราชย์ก็เริ่มหาความสำราญ ดูท่าเป้าหมายของข้าคงบรรลุแล้ว แต่สภาพเช่นนี้ของรัชทายาทก็คงเป็นเพียงการทำให้สับสนอย่างหนึ่งกระมัง
ข่าวที่เฉินเจิ่นส่งมาบอกว่าหลายวันนี้รัชทายาทยุ่งอยู่กับการลอบขนอาวุธ การลอบขนอาวุธสองครั้งติดต่อกันทำให้รัชทายาทได้ลิ้มลองรสชาติอันหอมหวาน เขาจึงรีบร้อนลักลอบขนรอบที่สาม กลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วพึงพอใจยิ่งนัก แต่เรื่องดีย่อมคงอยู่ไม่นาน แม้ผลประโยชน์ยั่วยวนใจยิ่ง แต่ขอเพียงพวกเราขยับมือสักหน่อยก็ทำให้พวกเขาแตกคอกันภายในได้
รัชทายาทคงยกเรื่องการลักลอบขนของเถื่อนให้พวกหลู่จิ้งจงทำ เมื่อเป็นเช่นนี้คิดดูแล้วรัชทายาทก็มีความคิดลึกซึ้งไม่ธรรมดา หากเกิดเรื่องขึ้น แม้จะสืบสาวมาถึงตัวหลู่จิ้งจง รัชทายาทก็มีความผิดเพียงไม่ดูแลคนในปกครองให้เข้มงวดเท่านั้น ยังขอพระราชทานอภัยโทษบอกว่าตนลุ่มหลงนารี ถูกผู้ใต้บัญชาปิดบังได้ แต่ความคิดเช่นนี้ลึกล้ำอีกเท่าใดก็เป็นแค่คนทะเยอทะยานผู้หนึ่งเท่านั้น อยากเป็นเจ้าชีวิตประชาชนเรือนหมื่น จะเอาแต่ปัดความผิดให้พ้นตัวได้เช่นไร
รายงานข่าวกรองเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยในการลอบสังหารข้าเหล่านั้นมีมาให้อย่างครบถ้วน
ฉินชิงถูกแม่ทัพใหญ่ฉินขังไว้ในจวนห้ามไม่ให้ออกมาข้างนอก ได้ยินว่าแม่ทัพใหญ่ฉินใช้กฎประจำตระกูล ฉินชิงถูกโบยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น ส่วนเซี่ยโหวหยวนเฟิงทุกสิ่งล้วนเป็นปกติ จุดนี้ผิดปกติอยู่เล็กน้อย ที่พำนักของเขาเข้มงวดกวดขันยิ่ง ยงอ๋องเองก็ไม่สะดวกไปแตะองครักษ์คนโปรดผู้นี้ของจักรพรรดิโดยไร้หลักฐาน ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าเขาลอบทำการใดอยู่
บุตรีจิ้งเจียงอ๋องหลี่หันโยวรับคำสั่งบิดาเข้าเมืองหลวงมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิ จิ้งเจียงอ๋องไร้บุตรชาย การส่งบุตรีเข้าเมืองหลวงมาอวยพรจึงได้รับอนุญาต แต่ฐานะศิษย์สำนักเฟิงอี้ของหลี่หันโยวออกจะขัดตาอยู่เล็กน้อย มิหนำซ้ำหลายวันนี้บุตรีจิ้งเจียงอ๋องก็อยู่ข้างกายฮองเฮาตลอด เล่ากันว่าจิ้งเจียงอ๋องต้องการเลือกบุตรเขยที่ดีให้แก่บุตรสาว ดังนั้นจึงฝากฮองเฮาเป็นธุระให้
กล่าวกันว่าฮองเฮาตั้งใจจับคู่หลี่หันโยวกับฉินชิง เมื่ออ่านถึงตรงนี้ ในใจข้าพลันพรั่นพรึง หากปล่อยให้สำนักเฟิงอี้สมคบกับฉินอี๋ นั่นย่อมน่ากลัวเกินไปแล้ว ดูท่าไม่ว่าครั้งนี้ฉินชิงจะลอบสังหารข้าหรือไม่ ก็จัดการเขาไม่ได้
ข้านึกย้อนถึงมือสังหารวันนั้นอย่างละเอียด หวนนึกถึงร่องรอยทุกอย่างของเขา ทันใดนั้นข้าก็ตระหนักว่าไม่ว่าคนผู้นี้จะเป็นใคร แต่คนผู้นี้ไม่ใช่ฉินชิงเด็ดขาด เมื่อย้อนคิดถึงสถานการณ์ในวันนั้น ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่ามีคนคิดยุแยงตะแคงรั่ว หลังจากลอบสังหารข้าจะโยนความผิดให้ฉินชิง แต่บังเอิญถูกเพชฌฆาตใจทมิฬตัดหน้าเสียก่อน
คนที่ยุแยงให้แตกคอไม่ต้องคิดก็รู้ว่าใคร ในที่สุดก็รู้ตัวคู่ต่อกรแล้ว ข้ามองชื่อของหลู่จิ้งจง คนผู้นี้น่ากลัวจริงๆ เป้าหมายครั้งนี้ของพวกเขาคงต้องการทำให้ยงอ๋องกับฉินอี๋ผูกแค้นกันเท่านั้น ที่เลือกข้าก็คงเพราะข้าเป็นคนสนิทที่ยงอ๋องเพิ่งรับเข้ามา ครั้งนี้นับว่าข้าถูกทำร้ายโดยไร้ความผิดได้หรือไม่นะ แต่ตอนนี้ยงอ๋องถูกสถานการณ์บีบบังคับอยู่เช่นนี้ ดูท่าแม้ข้าอยากจะหลบเร้นซ่อนความสามารถต่อคงไม่ได้แล้ว
ความคิดของคนผู้นี้ร้ายกาจยิ่งนักจริงๆ แต่ข้อด้อยของคนผู้นี้ก็เห็นชัดอย่างยิ่ง หากข้าเป็นผู้วางแผนคงไม่ยุแยงทื่อๆ เช่นนี้เด็ดขาด ต้องให้อีกฝ่ายกระโดดลงมาในกับดักเองจึงจะดี ตอนนี้ฉินอี๋กับฉินชิงคงจะชิงชังคนที่ยุแยงผู้นั้นมากยิ่งกว่า แต่จะว่าไปแล้วก็แปลก แม้ทำเพื่อยุแยงฉินชิง แต่ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับองค์หญิงก็ปลอมเกินไปหน่อย
ข่าวกรองเหล่านี้มิได้ละเอียดนัก คิดว่าข้อมูลข่าวกรองดั้งเดิมคงจะอยู่ในห้องหนังสือของยงอ๋อง ถึงอย่างไรยงอ๋องก็ไม่ต้องการให้ข้าสิ้นเปลืองสมองมาก ส่วนใหญ่จึงมีเพียงอักษรไม่กี่บรรทัดเท่านั้น ข้าย่อมไม่ไปขบคิดมาก ข่าวกรองเหล่านั้นคงเกี่ยวกับการสืบเรื่องที่ข้าถูกลอบสังหาร เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว ข้าไม่รีบร้อนต้องการรู้ ยามนี้ข้าเพียงต้องรู้สถานการณ์ปัจจุบันก็พอ