ตำนานเทพกู้จักรวาล Tales of Herding Gods - ตอนที่ 728 สะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน
“เดิมทีข้าได้คิดค้นวิชาฝึกปรือที่จะหลอมรวมขั้นวรยุทธเจ็ดดาวและหกทิศเข้าด้วยกัน มันเรียกว่าวิชาจิตวิญญาณดั้งเดิมเจ็ดดาวหกทิศ ข้าได้ถ่ายทอดมันให้แก่พี่ฉิน ผู้ซึ่งเผยแพร่สู้ผู้คนทั่วไปอีกที แต่ทว่า มีไม่กี่คนที่ทำสำเร็จ”
ซวีเซิงฮวาไม่หยุดยั้งเท้า และพลันปรากฏตัวในสมบัติเทวะทารกวิญญาณข้างในร่างกายของหูปู้กุย ในมือเขามีกิ่งหลิวกิ่งหนึ่ง กิ่งหลิวนั้นคือไม้เทวะที่สามารถแปรเปลี่ยนความยาวได้ตามใจ มีรอยประทับทุกรูปแบบตราเป็นมาตราส่วนอยู่บนนั้น
เขาโยนกิ่งหลิวขึ้นไป และเริ่มวัดสมบัติเทวะทารกวิญญาณของหูปู้กุย ขณะที่จิงเอี้ยนคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ข้างนอก คอยบันทึกข้อมูลทุกประเภท การประสานกันระหว่างสามีภรรยาคู่นี้สอดคล้องอย่างไร้ช่องโหว่
“เพราะว่ามีไม่กี่คนที่ทำสำเร็จ และก็มีแต่ผู้คนเหนือธรรมดาอย่างจ้านคง หวางมู่หรัน หลินเสวียน และฮู่หลิงเอ๋อเท่านั้นที่สามารถสำเร็จได้ ข้าจึงรู้สึกว่าวิชาฝึกปรือนี้ยังไม่สุกงอมดี ดังนั้นด้วยวิชาฝึกปรือดังกล่าวเป็นรากฐาน ข้าจึงสร้างวิธีการใหม่ในการหลอมรวมสมบัติเทวะ ข้าเรียกมันว่าสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน”
ซวีเซิงฮวาสิ้นสุดการวัดขนาดต่างๆ ของสมบัติเทวะทารกวิญญาณ จากนั้นก็ไปยังสมบัติเทวะห้าธาตุพร้อมกับจิงเอี้ยน เพื่อวัดความสูงของฟ้าและดินในสมบัติเทวะห้าธาตุ เขายังคงกล่าวต่อ “แต่ทว่า วิชาฝึกปรือนี้เป็นวิชาฝึกปรือที่ยุ่งยากเป็นอย่างยิ่ง สมบัติเทวะของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ดังนั้นข้อมูลที่ต้องใช้สำหรับแต่ละวิชาฝึกปรือก็ย่อมจะแตกต่าง นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมทุกคนที่ฝึกปรือวิชานี้จะต้องวัดตัวแบบรูปทรงของสมบัติเทวะของพวกเขาอย่างละเอียด และปรับแต่งวิชาฝึกปรือไปตามข้อมูลที่ได้มา มีแต่แบบนั้นจึงจะสามารถกำหนดแน่นอนได้ว่าสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินจะเริ่มขึ้นมาจากสมบัติเทวะทารกวิญญาณได้อย่างไร!”
ฉินมู่จิตคิดสั่นสะท้าน และเขาก็ร่ำร้องออกมา “พี่ซวี หากว่าเจ้าคิดค้นสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินสำเร็จ มันก็จะกลายเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ในด้านวิชาฝึกปรือ! สมบัติเทวะที่สามารถพุ่งตรงไปยังปราสาทสวรรค์ได้ การเปลี่ยนแปลงของมันที่มีต่อมรรคา วิชา และทักษะเทวะทั้งหลายมิอาจประเมินได้! สะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน นั้นมีความสำคัญยิ่งกว่านำทางจิตวิญญาณดั้งเดิมที่อวี้จิวและข้าคิดค้นขึ้นมา!”
ซวีเซิงฮวาเผยยิ้ม “หากว่าข้าต้องการก้าวนำเหนือเจ้า และทำให้เจ้าออกปากยอมรับว่าเป็นกายาจ้าวแดนดินปลอม ข้าจะไม่มีความคิดใหม่ๆ ของตนเองได้อย่างไร แต่ทว่า ข้าไม่สามารถกระทำเรื่องนี้ได้โดยลำพัง พีชคณิตที่ข้าต้องใช้ในวิชาสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินนั้นลึกซึ้งจนเกินไป ปริมาณการคำนวณประมวลผลนั้นเกินกว่าขอบฟ้าวิสัยทัศน์และความรู้ของข้า ดังนั้นข้าจึงต้องการคนช่วย”
“เจ้าไปเชิญเจ้าสำนักเต๋าหลินเสวียนมาช่วยหรือ” ฉินมู่ฉงนสงสัย
ซวีเซิงฮวากำลังวัดภูเขาทั้งหลายแห่งห้าธาตุ และยังไม่มีเวลาตอบ
จิงเอี้ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าสำนักเต๋าหลินเสวียน สามีของข้ายังไปหาองค์หญิงจิว ธิดาเทพเซี่ยง หวางมู่หรัน และคนอื่นๆ ในพันธมิตรสวรรค์ นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญพีชคณิตอย่างราชครูและเทพเสือขนดำอีก ความสัมพันธ์ระหว่างสามีข้ากับผู้สูงศักดิ์ก็ไม่เลวเช่นกัน ดังนั้นจึงได้เชิญเขามาเพื่อคิดคำนวณสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินด้วยเช่นกัน”
ฉินมู่จ้องด้วยดวงตาเบิกกว้าง ผู้คนเหล่านี้ บางคนก็เป็นศัตรู แต่กระนั้นซวีเซิงฮวาก็เชื้อเชิญมาได้ เครือข่ายความสัมพันธ์ของซวีเซิงฮวากว้างขวางถึงขนาดนั้นเชียว?
จิงเอี้ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หวางมู่หรันมีความแค้นกับราชครู ผู้สูงศักดิ์มีความแค้นกับทุกคน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าสามีข้าวางแผนที่จะคิดค้นสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน อันจะสามารถข่มประกายอันเจิดจ้าของจ้าวลัทธิฉินได้ พวกเขาก็สำเริงสำราญเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาอยากให้จ้าวลัทธิออกปากยอมแพ้สักหน จึงรีบมาช่วยด้วยความยินดี”
“รีบมาช่วยด้วยความยินดี?” ฉินมู่แค่นเสียงเฮอะ
จิงเอี้ยนกล่าวต่อ “จักรพรรดิเองก็สุขใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เขามาด้วยตนเองไม่ได้ แต่เขาก็บัญชาสถาบันใหญ่ทั้งหมด และเรียกบัณฑิตทั้งหลายที่มีความสำเร็จเชี่ยวชาญในพีชคณิตสูงที่สุดมาช่วย จักรพรรดิจึงบอกเรื่องนี้แก่นักบุญคนตัดไม้ และนักบุญคนตัดไม้ก็มาช่วยด้วยเหมือนกัน”
“จักรพรรดิสุขใจเป็นอย่างยิ่ง? อาจารย์ของข้าก็มา?”
ฉินมู่แค่นเสียงและรู้สึกขึ้งโกรธในใจ “อาจารย์คนตัดไม้ก็อยากจะข่มประกายของข้า? ข้าน่าจะปล่อยให้เขาเน่าอยู่ในท้องร่องต่อไป! ไม่สิ สาเหตุที่อาจารย์คนตัดไม้กล้าไปพบเจอครูบาสวรรค์วิชาบู๊นั้นก็คงจะเพราะว่าเขาสำเร็จการคิดค้นสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินกับซวีเซิงฮวาและพรรคพวกไปแล้ว แต่ไม่คาดคิดเลยว่าครูบาสวรรค์วิชาบู๊จะไม่ยอมรับฟังเขาและหักกระดูกทั้งร่างเขาก่อนจะโยนลงไปในท้องร่อง สมควรโดนแล้ว!”
เขาปรายตามองกิเลนมังกรและถามอย่างแช่มชื่น “มังกรอ้วน เจ้าก็คงไม่ได้ไปด้วยหรอกใช่ไหม”
กิเลนมังกรรีบส่ายหน้า “พี่เสือเชิญข้าไป แต่ข้าไม่ได้ไปนะ!”
“แต่เจ้าก็ไม่ได้บอกข้าเรื่องนี้” ฉินมู่สีหน้าเริ่มจะหุบ
กิเลนมังกรกล่าวอย่างขลาดกลัว “เมื่อตอนนั้น จ้าวลัทธิกำลังขัดเกลาไจกระบี่อยู่ และหลังจากที่ท่านขัดเกลาไจกระบี่เสร็จ ท่านก็ง่วนอยู่กับการขัดเกลาสมบัติวิเศษด้วยการระเบิด…”
จิงเอี้ยนกล่าว “หลังจากนั้น บรรพชนแรกได้พบกับซิงอ้านและบอกเขาถึงเรื่องนี้ ซิงอ้านนับถือบรรพชนแรกเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อเขาได้ยินว่าเรื่องนี้จะทำให้จ้าวลัทธิออกปากยอมแพ้ได้ เขาก็รีบรุดมาและช่วยเหลือเป็นอย่างมาก พวกเราคิดคำนวณเสร็จสิ้น และสามีของข้าก็วิเคราะห์อนุมานสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินจากตามข้อมูล แต่ทว่า ยังไม่มีใครสามารถบ่มเพาะมันสำเร็จ”
นางถอนหายใจและกล่าว “ในท้ายที่สุด สามีของข้าวิเคราะห์ออกมาได้ว่า เงื่อนไขด้านกายเนื้อที่วิชานี้ต้องการสูงลิ่วจนเกินไป หากว่ากายเนื้อไม่แข็งแกร่งพอ ก็จะยากที่จะต้านทานแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากการหลอมรวมสมบัติเทวะ ไม่มีใครมีกายเนื้ออันทรงพลังขนาดนั้น พวกเราจึงได้แต่ปล่อยวิชานี้เอาไว้เฉยๆ”
“ยังมีซิงอ้านอีก…”
เส้นเลือดผุดขึ้นมาเต้นปุดๆ ที่หน้าผากฉินมู่ “นิสัยใจคอข้าแย่ยิ่งกว่าซิงอ้านและผู้สูงศักดิ์เลยหรือ”
“แต่กายเนื้อของพี่หูปู้กุยแข็งแกร่งถึงระดับนั้น!”
ซวีเซิงฮวาสิ้นสุดการวัดสมบัติเทวะห้าธาตุ และเคลื่อนต่อไปยังสมบัติเทวะหกทิศของหูปู้กุย “พี่หูปู้กุยมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา คนอื่นๆ ถ้าบ่มเพาะสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินก็จะตายไป แต่พี่หูจะไม่ตาย”
เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
สองสามีภรรยาสิ้นสุดการวัดสมบัติเทวะหกทิศ และเคลื่อนต่อไปยังสมบัติเทวะเจ็ดดาว หลังจากนั้นก็ไปวัดสมบัติเทวะชาวสวรรค์ และเป็นตาย ในท้ายที่สุด พวกเขาก็สำเร็จการวัดขนาดของสมบัติเทวะของหูปู้กุยอย่างสมบูรณ์แบบ
สามีภรรยาเหาะออกมาจากสมบัติเทวะของหูปู้กุย และซวีเซิงฮวาก็รีบเริ่มทำการปรับแต่งวิชาสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินให้สอดคล้องกับข้อมูลที่เขาได้มาโดยทันที
เขาได้ก่อสร้างตัวแบบพีชคณิตสำหรับสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินแล้ว ดังนั้นเขาเพียงแต่ต้องปรับแต่งมันเล็กน้อยให้เข้ากับข้อมูลของหูปู้กุยเท่านั้น และก็จะสามารถปรับแต่งวิชาฝึกปรือนี้ให้เหมาะสมกับกายเนื้อของหูปู้กุย
ฉินมู่อุทานในใจด้วยความทึ่ง เพื่อที่จะเอาชนะข้า ซวีเซิงฮวาและยอดฝีมือทั้งหลายได้ทุ่มเทความพยายามไปไม่น้อย แต่ทว่าสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินนี้เพริศแพร้วพิสดารอย่างแท้จริง มันสามารถเรียกได้ว่าคือความงามธรรมชาติแห่งพีชคณิต!
เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญพีชคณิตเช่นกัน ชาวนาเฒ่า วัวแก่ และหูปู้กุย ล้วนแต่งงงันเมื่อเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังเห็นอยู่ แต่ฉินมู่สามารถชื่นชมความงามของสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินได้ สะพานเทวะปลุกไม้ก่อนกำเนิดใช้พีชคณิตเพื่อก่อสร้างสมบัติเทวะอันจะหยั่งรากลงบนแท่นวิญญาณและแผ่นปฐพีหกทิศ รากของสะพานเทวะก็จะแทงลึกลงไปในแดนใต้พิภพ ขณะที่รากแก้วนั้นจะเข้าไปเชื่อมต่อกับภูเขาธาตุทั้งห้า ข้างนอกคาคบไม้ก็จะเป็นดวงตะวันและดวงจันทร์ที่โคจรไปรอบๆ และดาวธาตุทั้งห้าก็จะอยู่ระหว่างกิ่งก้าน ดวงดาวที่เหลือจะไปซุกซ่อนอยู่ตามใบ
และที่ยอดบนสุดของคาคบพฤกษาเทพ ก็จะมีความสูงใกล้เคียงกับสะพานเทวะ
เมื่อเทียบจากสะพานขาดของผู้คนในสันตินิรันดร์แล้ว ยอดคาคบไม้ของพฤกษาก็จะสามารถเติมเต็มช่องว่างระหว่างปราสาทสวรรค์กับสะพานเทวะขาดสะบั้นได้พอดี เชื่อมต่อสะพานเทวะด้วยอีกวิธีการหนึ่ง
นั่นช่วยให้ผู้คนทั้งหลายไม่ต้องยุ่งยากกับการฝึกปรือเคล็ดลับสะพานนกกางเขน เคล็ดลับนำทางปริศนา และเคล็ดลับเทพข้ามพ้น
เมื่อซวีเซิงฮวา คนตัดไม้ ราชครู ซิงอ้าน และคนอื่นๆ คิดคำนวณอยู่นั้น พวกเขาจะต้องได้ผนวกเคล็ดลับทั้งสามนี้เข้าไปในสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน
แต่ทว่า สำหรับผู้ฝึกวิชาบู๊แห่งโลกสู้วัว สะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดินมีส่วนกลางเพียงส่วนเดียว ไม่มีส่วนหน้าและส่วนหลังของต้นไม้
หากว่าวรยุทธของใครยังสั่งสมมาไม่เพียงพอ พวกเขาก็จะยังคงไม่อาจเหาะเหินไปยังปราสาทสวรรค์ได้
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญพีชคณิตคนหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้งตำราคำนวณบรมอนุภาค ดังนั้นความสำเร็จเชี่ยวชาญของเขาจึงสูงล้ำสุดขีดขั้น และเขาสามารถคิดถึงการขยายยอดคาคบของพฤกษาก่อนฟ้าดินได้ทันที เพื่อสร้างสมบัติเทวะมนุษย์ประดิษฐ์
แต่ถึงอย่างไร นี่ก็จะต้องอาศัยการคิดคำนวณพีชคณิตอีกมาก เสริมเข้าไปจากสะพานเทวะพฤกษาก่อนฟ้าดิน
เมื่อซวีเซิงฮวาสิ้นสุดการคำนวณ ปราณชีวิตของเขาก็ก่อขึ้นมาเป็นต้นกล้าอ่อน และเขาก็ดีดมันส่งเข้าไปในสมบัติเทวะของหูปู้กุย
ต้นกล้าเล็กๆ นี้หยั่งรากลงไปบนแผ่นปฐพีแท่นวิญญาณของหูปู้กุย และเริ่มต้นงอกขึ้นมา
ฉินมู่เห็นทันทีว่าซวีเซิงฮวาได้ใช้ทักษะเทวะฝังมารลงในจิตเต๋าที่มาจากคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิตแห่งลัทธินักบุญศักดิ์สิทธิ์ คนตัดไม้คงจะสอนให้แก่เขา
เขาเพียงแต่ต้องใช้ต้นกล้าอ่อนเล็กๆ นี้เป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะวิชานี้ลงไปในวิชาฝึกปรือของหูปู้กุย ด้วยการดูดซับปราณชีวิตของหูปู้กุย ต้นกล้าอ่อนก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นพฤกษาก่อนฟ้าดินอันสูงตระหง่าน!
ซวีเซิงฮวาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และยังมิได้กระตุ้นการทำงานของต้นกล้าโดยพลัน เขาถามหยั่งดูเสียก่อน “พี่หู เจ้ากลัวตายไหม!”
หูปู้กุยส่ายศีรษะ “ข้าไม่กลัว!”
ซวีเซิงฮวาระบายลมหายใจโล่งอก
ชาวนาเฒ่าถามอย่างเยือกเย็น “ซวีเซิงฮวา เจ้ากลัวตายหรือไม่”
ซวีเซิงฮวาอึ้งไปเล็กน้อยและไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
เหงื่อเย็นเยียบกลิ้งลงมาจากหน้าผากของฉินมู่ และเขาก็ถามอย่างแผ่วเบา “พี่ซวี คราวนี้เจ้ามีความมั่นใจสักแค่ไหน”
ซวีเซิงฮวาเปี่ยมด้วยความมั่นใจและยกนิ้วขึ้นสามนิ้ว “สามในสิบส่วน!”
ฉินมู่ฉีกยิ้มด้วยโทสะ “พี่ซวี แต่ก่อนมาเจ้าไม่เคยเป็นแบบนี้! เจ้าไม่มีทางลงมือหากว่ายังไม่มั่นใจแปดเก้าส่วน! สามส่วน! เจ้าไปเรียนมาจากใคร เจ้าตกต่ำแล้วนะ!”
“ข้าเรียนมาจากเจ้า”
ซวีเซิงฮวาขับเคลื่อนปราณชีวิต และต้นกล้าข้างในร่างกายของหูปู้กุยก็เริ่มงอกงามอย่างดุเดือด มันดูดซับปราณชีวิตของหูปู้กุยด้วยความเร็วอันคลุ้มคลั่ง!
ต้นกล้าเล็กๆ เติบโตขึ้นมาเป็นต้นไม้สูงร้อยห้าสิบวา จากนั้นก็เป็นหนึ่งพันห้าร้อยวา และไม่ช้ามันก็สูงกว่าภูเขาทั้งหลายบนแผ่นปฐพีแท่นวิญญาณ มันยืดทะยานไปสู่ชั้นเมฆ และยังคงงอกต่อไปไม่หยุด!
ต้นไม้สูงตระหง่านได้เติบโตจนถึงขั้นเกือบไปแตะกับท้องฟ้า แต่ทันใดนั้น เสียงครึกโครมก็ดังออกมาเมื่อต้นไม้แทงทะลุผ่านม่านคุ้มกันอันบรรจุเอาไว้ด้วยสมบัติเทวะทารกวิญญาณ ห้าธาตุ และหกทิศ!
หูปู้กุยครางเสียงหนัก และกระดูกเขาก็เริ่มลั่นเปรี๊ยะ กายเนื้อของเขาต้องทานทนแรงกดดันอันไร้ปานเปรียบ และแม้ว่าความทนทานของกล้ามเนื้อเขาจะน่าตื่นตระหนก แต่เขาก็ยังกลายเป็นถุงหนังบรรจุกระดูกภายในชั่วพริบตา!
นั่นเพราะว่ากล้ามเนื้อของเขาถูกกดลงไปจนกลายเป็นเยื่อชั้นบางๆ ที่เข้าไปติดกับกระดูก!
แรงกดดันนี้มิได้ส่งจากข้างบนลงล่าง และมิได้มาจากข้างนอกเข้าข้างใน ในทางตรงข้าม แรงกดดันนี้มาจากทุกแง่มุมของกายเนื้อของเขา และนั่นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด!
กระดูกของหูปู้กุยลั่นเปรี๊ยะจากแรงกดดัน และมันก็ดูเหมือนว่าจะระเบิดออกมาได้ทุกขณะ!
ทุกคนกระวนกระวาย และซวีเซิงฮวาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวกับจิงเอี้ยน “ที่รัก พฤกษาก่อนฟ้าดินเติบโตเร็วเกินไป และนั่นจะต้องเป็นเพราะว่าพลังวัตรและวรยุทธของพี่หูนั้นเหนือล้ำกว่าการคาดคะเนของข้าไปนิดหน่อย พลังวัตรของเขาทั้งบริสุทธิ์และเข้มข้น อันไม่ด้อยไปกว่าข้าเลยสักนิด”
ทำไมประโยคนี้ถึงฟังคุ้นหูนัก ฉินมู่คิดในใจ
“พฤกษาก่อนฟ้าดินดูดซับพลังวัตรปราณชีวิต และความเร็วในการเติบโตของมันก็มีแต่จะเร็วขึ้นและเร็วขึ้น มันจะทลายฝ่าม่านคุ้มกันเจ็ดดาวเป็นอันดับถัดไป และแรงกดดันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น”
ซวีเซิงฮวาใจเย็นตึ้บ ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ และเขายังคงกล่าวอย่างเยือกเย็น “สมบัติเทวะเจ็ดดาวมีแต่จะทำให้พฤกษาก่อนฟ้าดินเติบโตไปรวดเร็วกว่านี้ เมื่อพฤกษาก่อนฟ้าดินงอกไปถึงขั้นชาวสวรรค์ แรงกดดันก็จะทวีคูณขึ้นมาอีกครั้ง รากของพฤกษาก่อนฟ้าดินจะแทงทะลุแผ่นปฐพีและหยั่งลงไปในแดนใต้พิภพแห่งสมบัติเทวะเป็นตาย ในตอนนี้ เมื่อแรงกดดันสูงที่สุด…พี่ฉิน เมื่อครู่นี้ข้าอาจจะประเมินสูงเกินไป อัตราสำเร็จมีเพียงสองส่วนเท่านั้น”
“จ้าวลัทธิ พวกเราจะหนีกันเลยไหม” กิเลนมังกรกระซิบ
ฉินมู่ลอบส่ายศีรษะ และประตูน้อมสวรรค์ก็พลันปรากฏขึ้นมาข้างหลังเขา พร้อมที่จะช่วยชีวิตหูปู้กุยได้ทุกเมื่อ หากว่าเขาแหลกเหลวไปจากแรงกดทับ
ซวีเซิงฮวาเห็นสถานการณ์และส่ายหน้า “จ้าวลัทธิ หากว่าพวกเราล้มเหลว เจ้าไม่มีทางช่วยเขาได้หรอก จิตวิญญาณดั้งเดิมของเขาก็จะถูกบดขยี้ และดวงวิญญาณของเขาก็จะแตกสลายไป มันไม่ตกลงไปในแดนใต้พิภพ”
เขายังคงใจเย็นอย่างยิ่ง
หางตาของฉินมู่กระตุก และเขากล่าวแก่ชาวนาเฒ่าอย่างสุภาพนอบน้อม “อาจารย์ลุง ครั้งหนึ่งผู้เยาว์เคยรวบรวมดวงวิญญาณของเทพีหยินสวรรค์กลับมาหลังจากที่ดวงวิญญาณของนางกระจัดกระจายไปแล้ว อาจารย์ลุงไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวลเลยสักนิด เก็บหมัดของท่านกลับไปก่อน…”