ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 45-2 สงครามอาร์คแลนด์ ② การต่อสู้ของพลเมือง
- Home
- ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi
- ตอนที่ 45-2 สงครามอาร์คแลนด์ ② การต่อสู้ของพลเมือง
45 สงครามอาร์คแลนด์ ② การต่อสู้ของพลเมือง
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
「ฆ่าพวกนั้นที่ต่อต้าน! อย่าแตะต้องชาวบ้านและทำกับผู้หญิงดีเป็นพิเศษ!」
กองพันของผมข้ามชายแดนมาที่ฝั่งอาร์คแลนด์และโจมตีทุกหมู่บ้านที่อยู่ในสายตา แม้ว่าผมพูดว่าโจมตี มันไม่เหมือนว่าเราได้เผาหมู่บ้านและฆ่าชาวบ้าน พวกเขาแค่เตะยามเมืองไปข้างๆ เผาคฤหาสน์ลอร์ดศักดินา และปักธงอาณาจักรโกลโดเนีย
ทำอะไรบางอย่างแบบนี้นั้นไร้ความหมาย มันดูเหมือนว่าการเผาคฤหาสน์ของลอร์ดตรงหน้าพลเมือง จะลดศักดิ์ศรีของราชวงศ์อาร์คแลนด์ กำลังหลักจะไปข้างหน้าและเดินหน้าไปบนทางหลวง ระหว่างที่เราได้รับผิดชอบเรื่องการสอดแนม ถ้ามีศัตรูที่เราจัดการไม่ได้ เราจะวิ่งหนีให้เร็วที่สุดบนม้าของเรา
「ไอ้หมูโกลโดเนียพวกนี้! เตรียมตัวมึง~!」
ผมตีมือทั้งสองของทหารที่แสดงความแข็งแรงของเขาระหว่างที่เข้ามาหาเรา และเตะเขา พวกเขาต้องเป็นเพื่อนกัน ขณะที่สามคนได้ออกมาจากป้อมหินเล็กๆ
「เราเจอนายพลที่สำคัญ!」
「เราเป็นยามเมืองสามคนที่ดีที่สุดของหมู่บ้านมูท!」
「กุอ้าาาา!!」
เขาคุยนานเกินไป ดังนั้นก่อนที่เขาจะจบประโยค ผมหั่นเขาหนึ่งคน ซีเลียที่อยู่ด้านข้างผมเหวี่ยงดาบของเธอสองที และเด้งกลับ ไม่นานหลังจากนั้นเลือดได้พุ่งออกมาจากคอชายสองคน
「นายบาดเจ็บมั้ย」
「ชั้นจะไม่ถูกกำจัดด้วยนักแสดงตลกแบบนี้หรอก เกลี้ยงรึยัง?」
「ใช่ ทั้งหมดเพราะกองกำลังไม่ได้มากมาย」
คฤหาสน์ลอร์ดศักดินาของหมูบ้านที่ ได้ส่วนหนึ่งเป็นปราสาท แต่ในท้ายที่สุด มันแค่เตรียมสำหรับบางอย่างเหมือนการกบฏจากชาวบ้าน มันไม่ได้แสดงการต่อต้านกับคนเหล่านั้นที่ยืนรอบๆ แล้วยิงลูกธนูไฟไปที่มัน และปราสาทห่อหุ้มไปด้วยไฟนรกอย่างรวดเร็ว
จากไฟที่ออกมาคืออัศวินบนหลังม้า เขาน่าจะเป็นอัศวินของลอร์ดของหมู่บ้านนี้ แต่อย่างที่คาด เขาถูกเอาชนะไปด้วยจำนวน ทันทีที่เขาฟันทหารราบตายหนึ่งคนทั้งตัวของเขาถูกแทงไปด้วยหอกอย่างสิ้นหวัง คฤหาสน์นั้นอยู่ในไฟไปแล้ว และถ้ามีแม้แต่สมาชิกตระกูล พวกเขาจะไม่มีชีวิตอยู่
「เรียกตัวแทนของพลเมือง เราจะยกธงชาติ」
ชาวบ้านทั้งหมดได้รวมกันที่เดียวในหมู่บ้าน มันไม่เหมือนว่าเราจะทำงานร่วมกันตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้ามีใครยังอยู่ในบ้าน พวกเราจะไม่สามารถแยกระหว่างพลเมืองและกำลังต่อต้านที่เหลือ
「ผมคือหัวหน้าของหมู่บ้านนี้…ผมขอความเมตตาท่าน ไว้ชีวิตผมด้วย」
「ถ้าชั้นจะฆ่านาย ชั้นคงจะทำไปนานแล้ว มายกธงชาติที่ทางเข้าหมู่บ้านและกลางหมู่บ้าน เราก็จะตั้งแคมป์ที่นี่คืนนี้ด้วย มีที่เปิดมั้ย?」
「ท่านจะตั้งแคมป์ ที่หมู่บ้านนี้เหรอ?」
หัวหน้าแสดงสีหน้าที่กลัว มันเป็นหมู่บ้านที่มีไม่ถึงแม้แต่ 100 คน แน่นอนว่ามันจะทำให้คุณไม่สบายใจ เมื่อทหารที่มากกว่า 10 เท่าที่อยู่ใกล้ๆ แต่พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว ถ้าเราใกล้หมู่บ้าน เราใช้บ่อน้ำได้ด้วย ดังนั้นมันสะดวก ผมไม่มีเจตนาจะพิจารณาถึงความไม่สบายใจของเขามาก ผมไม่มีเจตนาจะใช้เวลามากกับหมู่บ้านนี้ด้วย หลังจากที่ได้บอกหัวหน้าว่ามันพอแล้ว ผมให้เขาอยู่นิ่งๆและเรียกซีเลียมาที่ข้างผม
「พวกเขาอาจจะทรยศเราและบอกตำแหน่งของเรากับอาร์คแลนด์」
นั่นจะไม่เกิดขึ้น ทันทีที่หมู่บ้านอนุญาตให้เรายกธงชาติขึ้น และใช้หมู่บ้านของพวกเขาเป็นกองประจำการ ทุกคนในหมู่บ้านจะถูกเห็นว่าเป็นคนทรยศ ถ้าพวกเขาเรียกทหารมาที่นี่ พวกเขาจะขอให้ทุกคนฆ่าพวกเขา
「อย่ากังวล ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น เราจะออกไปทันที เธอควรจะรีบและนอนซะ」
แต่ซีเลียไม่ไป เธอดูผมด้วยตาที่เปียก ดังนั้นผมนั่งลงบนเตียงและเธอมาระหว่างขาผม
「ได้โปรดผ่อนคลาย หนูจะทำทุกอย่างเอง」
ซีเลียดึงเอ็นผมจากกางเกงผม และแค่เมื่อเธอกำลังจะใส่เข้าไปในปาก บางคนเรียกจากข้างนอก
「ผู้บัญชาการคะ ขอโทษมันดึกมากตอนกลางคืน แต่หนูมีบางอย่างที่ต้องบอกท่าน」
ซีเลียจึ้ปาก แต่ผมก็กำลังจะรับการโม๊กเอ็นของเธอด้วย ดังนั้น ผมบอกว่ามันรอได้ไม่ได้จริงๆ คนที่เข้ามาในเต็นท์คือผู้หญิง เธอยังเด็กแต่ดูเป็นคนฉลาดและพึ่งพาได้ ที่โดดเด่นที่สุดของเธอคือหน้าอกขนาดยักษ์ มันไม่ใหม่เท่านนน่า แต่มันไม่ใช่บางอย่างที่เห็นได้ที่ซ่องโสเภณีด้วย
「หนูคือลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้ากย้อกลีย์ หนูมาที่นี่เพราะชั้นมีอะไรจะบอก…ท่าน」
เธอพยายามจะพูดสุภาพ แต่มันดูเหมือนเธอไม่ชินกับมัน ดังนั้นมันฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ
「แต่ชั้นคิดว่าไม่มีอะไรที่หัวหน้าหมู่บ้านจะพูดแล้วนะ?」
「….」
ซีเลียต้องเธอเเหมือนเธออยากให้เธอรีบๆเข้าแล้วไปไกลๆ
「มันเป็นบางอย่างที่เรียบง่าย เราก็อยากจะสู้ด้วยกันกับท่าน」
ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรน่ะ?
「ราชาคนปัจจุบันทำให้เราทุกข์ทรมานอย่างทั่วถึง แต่ถ้ามันแค่เรา เราจะไม่มีทางสู้กองทัพของอาณาจักร ตราบใดที่เราทำลายพวกเค้าได้ เราจะใช้ทุกคน」
ผมก็เห็นกลุ่มของชาวบ้านจากอาร์คแลนด์ที่ถูกที่ก่อนหน้านี้ด้วย ผู้คนในหมู่บ้านนี้ก็เป็นคนแก่กับผู้หญิง ชายหนุ่มคนเดียวป่วยและขยับไม่ได้ เพิ่มเติมจากนั้น ไม่มีอาหารพอสำหรับทุกคน ดังนั้นพวกเขาผอม มันชัดเจนว่ามันเป็นสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
「แต่ไม่ใช่ว่ามันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าที่ต้องเป็นคนกลางให้ทุกคนเมื่อมันมีปัญหาไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงเป็นคนมาอยู่ที่นี่ล่ะ?」
แต่ผมไม่เห็นความกล้าหาญแบบนั้นน่ะ
「นั่นผิดแล้ว พ่อของหนูทางเทคนิคแล้วเป็นหัวหน้า แต่เขาไม่มีจิตวิญญานที่เข้มแข็ง ปรกติแล้ว หนูเป็นคนที่ตัดสินใจในหมู่บ้าน นั่นทำไมครั้งนี้หนูก็จะเป็นคนที่อยู่ในอำนาจที่จะพูดถึงปัญหานี้」
ซีเลียและผมทำหน้าตาเคร่งขึม มันน่าสนใจที่จะให้ชาวนาที่ไม่รู้เรื่องสร้างความวุ่นวายในประเทศ แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะช่วยได้ในแง่ของความสามารถของการต่อสู้ ผมไม่คิดว่ามีความหมายอะไรที่จะมอบน้ำแลอาหารร ถ้าทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือใช้เป็นโล่เนื้อ ขาของคนแก่และผู้หญิงจะตามการเดินทัพของเราไม่ทัน และการเดินของเราจะช้าลงแน่
เมื่อผมกำลังจะเปิดปากเพื่อปฏิเสธ ย้อกลี่ย์ถอดเสื้อผ้าจนเปลือย
「เธอมีแผนอะไร?」
「ทำตัวเป็นตัวประกันเพื่อที่จะได้ความเชื่อใจของท่าน จากนั้นเสนอบรรณาการเพื่อความสนับสนุนของท่าน หรืออะไรบางอย่างแบบนั้น」
ได้โยนเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอไป ผมกำลังจะยืดมือไปหาหน้าอกที่งดงามของย้อกลี่ย์ขณะที่เธอเข้าหา แต่จากข้างๆ ซีเลียส่งเธอบินไป
「หยาบคาย! ถ้าเอเกอร์ซามะนอนกับหญิงแพศยาอย่างเธอเค้าจะแปดเปื้อน」
「นั่นเจ็บ…ชั้นแพศยาเหรอ? ชั้นเป็นสาวบริสุทธิ์นะรู้มั้ย? เฮ้ ผู้บัญชาการ ไม่ใช่ว่าท่านอยากจะรับความบริสุทธิ์ของหนูไปเหรอ?」
ผมอยากจะทำ แต่ถ้าผมเลื่อนการปรนนิบัติของซีเลีย งั้นเธออาจจะลอบสังหารผู้หญิงคนนี้
「ชั้นจะไม่ทำมันตอนนี้ ชั้นจะเอาที่เธอพูดและไปปรึกษากับพวกนั้นในทีม ใส่เสื้อผ้าของเธอแล้วกลับไป」
「สำหรับตอนนี้นะ…เอเกอร์-ซามะ…」
ถ้าผมคิดเกี่ยวกับมันอย่างระวังถ้าผมถูกล่อโดยตัวของผู้หญิง ผมจะต้องประนีประนอม
「นี่จะดีมั้ย?」
「ชั้นไม่รู้เกี่ยวกับการกระตุ้นคนมาทำสงคราม แต่นี่จะเป็นสัญลักษณ์ที่ดี」
ผมปลุกลีโอโพลต์และอากอร์และเราปรึกษาข้อเสนอของย้อกลี่ย์ ทันสองคนเห็นด้วยอย่างน่าตกในดังนั้นผมอยากได้ยินเหตุผลของพวกเขา ก่อนอื่นคืออากอร์
「ถ้าเราพาพวกเขาไปกับเรา มีคนพวกนี้เป็นพวกของเราจะแสดงภาพลักษณ์ของความถูกต้อง แม้ว่าพวกเค้าาจะใช้งานไม่ได้มากบนสนามรบ ดังนั้นพวกเค้าต้องถอยไปอยู่ข้างหลัง…」
ต่อไปคือลีโอโพลต์
「ตัดสินในแง่ของทหารเท่านั้น พวกเขามีประโยชด้วย พลเมืองเป็นบางอย่างเหมือนการกลิ้งหิมะ ถ้าเราทำให้ 100 เคลื่อนไหว เราจะทำให้ 1000 เคลื่อนไหว และถ้าเราทำให้ 1000 เคลื่อนไหว เราทำให้ 10,000 เคลื่อนไหวได้ ถ้าเราพ่วงคนพวกนี้ไป หมู่บ้านจนๆอื่นที่ได้มีความไม่พอใจสร้างไว้ ก็จะเข้าร่วมด้วยและจำนวนจะโตต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าพวกเค้าจะมือสมัครเล่นแค่ไหน ถ้าเรารวมจำนวนมากพอพวกเค้าจะใช้งานได้แน่」
「แต่ถ้าเรารวมพวกเค้าเยอะๆ เราไม่มีอาหารที่จะดูแลพวกเค้าใช่มั้ยล่ะ?」
「แค่เอาอาหารอะไรก็ได้และขนมันมา เราชะลอความเกลียดชังได้โดยการสั่งการพวกเค้า ถ้าพวกเค้ากินด้วยตัวเอง มันจะไม่เป็นอะไรที่ไหญ่ ถ้าเราทำต่อไม่ได้แล้ว เราแค่ให้พวกเค้าไปปะทะกับทีมศัตรูสุ่มๆ และให้พวกเขาเกิดความสูญเสียและมันจะโอเค」
「นายพูดบางอย่างแบบนั้นอีกแล้ว!」
อากอร์โกรธ แต่ลีโอโพลต์เมินเขาและพูดต่อ
「ไม่ว่าในกรณีไหนๆ ความจริงที่เราทำอะไรด้วยกันกับชาวบ้านเป็นบางอย่างที่ศัตรูถือว่าเป็นภัย เพราะไม่ว่ายังไง พวกเขาเป็นรากฐานของการกบฏเนื่องจากแรงกดดันทางการเมืองรอบประเทศ แค่การให้ศัตรูรีบและจัดการกับภัยที่ใกล้ตัว แค่นั้นก็มีความหมายแล้ว」
「ไม่ว่าเราจะไปชนพวกเค้ากับศัตรูหรือไม่ มันตัดสินใจแล้วว่าเราจะพาพวกเค้าไปด้วย มันจะเสียความเร็วของการเดินทัพเราไป แต่เราควรปล่อยให้พวกนั้นที่ไม่มีความอดทนไว้ข้างหลัง」
ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่คัดค้าน ดันนั้นผมพยักหน้าเล็กน้อย ซีเลียดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ไม่มีความสุข แต่เพราะมันได้ถูกตัดสินในแง่ของการทหารเธอพูดอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้
「ชั้นไม่มีเวลาจะไปหาอีริช ชั้นจะรายงานหลังจากตรวจสอบ…」
แม้ถ้าเขาบอกว่ามันเป็นบางอย่างที่เขาทำไม่ได้ ถ้ามันเป็นเขา มันควรจะโอเค
「ถ้าเขาปฏิเสธ เราพูดได้ว่าพวกเขาตัดสินใจจะตามเราด้วยตัวเอง และพวกเขาได้ถูกกำจัดโดยศัตรู」
ระหว่างที่ฟังคำพูดที่เหลือของลีโอโพลต์และอากอร์ทะเลาะกับเขา ผมบอกพวกเขาว่าการประชุมจบแล้ว แล้วเรากลับไปที่เต็นท์ส่วนตัวของพวกเรา
—————————————————————
「งั้นเราจะทำมันมั้ย?」
「ซีเลีย อย่าพูดอะไรที่หยาบคายสิ」
ผมอยากให้เธอบริสุทธิ์ตลอดไป
「มันเป็นซักพักแล้วที่ท่านกินสาวบริสุทธิ์」
ซีเลียมีความเข้าใจดีกับกิจกรรมทางเพศของผม ผมคิดว่านั่นเพราะเธออยู่กับผมเป็นเวลานานแล้ว
「ชั้นจะยังไม่กินเธอ ถ้าสิ่งต่างๆไปได้ไม่ดี เราต้องทิ้งพวกเค้า ถ้าชั้นจะรับมัน มันจะเป็นหลังจากสงครามสงบ แล้วก็ไม่ใช่ว่าชั้นมีนัดอื่นกับเธอเหรอ?」
หน้าที่ไม่มีความสุขของซีเลียสดใสขึ้น
「ได้โปรดปล่อยให้หนูเอง! หนูจะไม่แพ้สาวไร้เดียงสาคนนั้น」
เธอก็ค่อนข้างไร้เดียงสาเองด้วย
คืนนั้นผมทำให้ชาวบ้านคิดว่าผมให้ย้อกลี่อยู่ในเต็นท์เดียวกันกับผม เพราะเธอได้เป็นผู้หญิงของผมแต่ ผมไม่ได้ลงมือกับเธอเลย แค่แสดงทักษะการโม๊กเอ็นที่เน้นและเยอะของซีเลีย เห็นสาวที่เด็กกว่าคุ้นเคยกับกิจกรรมทางเพศแบบนั้น ทำให้หน้าของย้อกลี่ย์เปลี่ยนเป็นสีแดง และจ้องอย่างเข้มข้น เธอตักอสุจิที่น้ำแตกออกมานิดหน่อย และใส่มันเข้าไปในปากของเธอ แต่เธอหน้ายู่ แล้วบ่นว่ามันขม การตอบสนองที่ไร้เดียงสาแบบนี้ก็น่ารักด้วย
หนึ่งคืนได้ผ่านไป และกองพันของผมได้เสร็จการเตรียมพร้อมสำหรับการบุกเข้าไปในเขตศัตรู กลุ่มของชาวบ้านที่ย้อกลี่ย์นำ (เรียกว่าทหารอาสาสำหรับความสะดวก) จำนวน 50 คน อายุของพวกเขาคือพวกเหล่านั้นที่ผ่านช่วงที่ดีที่สุดของชีวิตไปแล้ว และเด็กๆ และนอกจากคนที่ป่วยที่ขยับไม่ได้ เกือบทุกคนได้ถือเครื่องมือทำสวน และธนูสำหรับการล่า ด้วยกันกับค้อนไม้ และพวกเขาไม่ใส่เกราะใดๆ
「ถ้าเธอจะเอาไปมากเท่านี้ หมู่บ้านจะถูกทำลายนะ นี่คือสงคราม ทุกคนจะไม่สามารถมีชีวิตและกลับมานะ รู้มั้ย?」
「เราเตรียมตัวสำหรับเรื่องนั้นแล้ว แม้ว่าหมู่บ้านจะถูกทำลาย ถ้าทุกคนจะตายอย่างช้าๆ งั้นเรายากจะพนันบนโอกาสที่เล็กน้อยว่าเรามีชีวิตอยู่ต่อได้」
ถ้าเธอจะพูดมากขนาดนั้น ผมจะไม่เอะอะ มันโอเคที่จะให้พวกเขาเลือกว่าพวกเขาจะตายอย่างไร
「ทุกหน่วยเดินทาง! แต่ละกองร้อยใช้ทางที่วางแผนไว้!」
จากข้อมูลของย้อกลี่ย์ มีหมู่บ้านเล็กๆกระจายอยู่รอบๆข้างหน้า เดินหน้าไปวันหนึ่ง มันดูเหมือนว่ามันจะเทียบว่าเป็นเมืองใหญ่ ก่อนอื่น เราวางแผนจะให้แต่ละกองร้อยโจมตีหมู่บ้านคนละครั้ง และรวมพวกเขาตรงหน้าเมือง ช่างจะตามกองร้อยทหารม้ากองพลที่ 1 ที่ผมบัญชาการโดยตรง
มันเป็นรูปแบบที่ฆ่าความคล่องตัวของทหารม้า แต่ครั้งนี้ เราไม่ได้จะสู้ในแบบที่เราต้องควบอย่างเร็ว ดังนั้นไม่มีปัญหา ทหารอาสาแยกไปในแต่ละเหล่าทหาร
「ท่าทึ่ง」
ย้อกลี่ย์ส่งเสียงออกมา มีประมาณ 150 คนในหมู่บ้านนี้ เมื่อเราเริ่มโจมตี และจำนวนไม่มากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของย้อกลี่ย์ มากกว่านั้น จำนวนของทหารที่ประจำการอยู่ในคฤหาสน์ของลอร์ดก็ใหญ่กว่าด้วย อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของทหารม้า 200 คนกองกำลังจิ๋วนี้คล้ายกันกับมด มันจะเรียบง่ายที่จะขยี้พวกเขาไว้ใต้เท้าเรา
แค่ 10 นาทีของการต่อสู้ ทหารได้ถูกเปลี่ยนไปศพ ลอร์ดได้ถูกจับตัวและถูกตัดหัวตรงนั้นเลย ผมหันหลังกลับให้กับคฤหาสน์ที่ไฟลุกไหม้ของลอร์ดศักดินา และประกาศการยึดหมู่บ้าน และจากตรงนั้น มันเป็นตาของย้อกลี่ย์
「ชั้นไม่อยากจะใช้เวลามากกับนี่ กล่อมทุกคนในหนึ่งชั่วโมง」
「ทุกคน! ชั้น…」
ไม่ว่ามันเป็นเรื่องดีมั้ย ที่ทหารของลอร์ดศักดินาได้ถูกกำจัดในพริบตา หรื่อไม่ว่ากองทหารม้าหนักดูกล้าหาญมั้ย ชาวบ้านบางคนร่วมกลุ่มเป็นทหารอาสา แต่การตอบสนองของพวกเขา ช้ากว่าหมู่บ้านของย้อกลี่ย์
「ไม่มีทางที่เราจะเอาชนะทหารม้าหอกเหล็กของราชาได้…ถ้าเราแพ้ พวกเค้าจะฆ่าทุกคน…」
「ไม่ว่ายังไง พวกเราเผาคฤหาสน์ของลอร์ดดังนั้นมันจบแล้ว เราควรจะให้ทุกคนพร้อมหนีมั้ย?」
ชาวบ้านพูดกันอย่างเงียบๆ หลายปีของความขัดแย้งทางการเมือง และความกลัวราชาและกองทัพได้ฝังแน่นอยู่ในพวกเขา สำหรับการให้พวกเขาเชื่อใจเรา เราต้องเอาชนะศึกใหญ่
「มันน้อยกว่าที่ผมคิด แต่มันไม่เหมือนว่าพวกเรามีมากถ้าให้เริ่มพูด เราใช้เวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว」
ผมก็เห็นด้วยกับความเห็นของลีโอโพลต์ ถ้าเราไม่สามารถจะไปถึงที่หมายของเราได้ในวันนี้ เราจะมองไม่เห็นกองร้อยอื่น
「เราจะออกไปแล้ว! เมื่อนายเอาอาหารส่วนของนายไป ตามที่เหลือของทีมมา」
—————————————————————
ที่เมืองที่เป็นเป้าหมาย จากย้อกลี่ย์ เรียกกันว่าดาโทรห์น ในเวลาที่เราถึงชานเมือง พระอาทิตย์ได้ตกแล้ว และกลางคืนนั้นใกล้เข้ามา กองร้อยอื่นได้มาถึงไปแล้ว มันดูเหมือนว่าสามกองร้อยสามารถจะควบคุมหมู่บ้านได้ โดยไม่มีปัญหามาก
「ทหารอาสาได้รวมกันตามนั้น」
รวมทหารอาสา เรามีจำนวนทั้งหมดประมาณ 300 คน มันเป็นบางอย่างที่ใหญ่กว่ากองร้อยนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะแค่สามารถใช้เป็นโล่ได้ในการต่อสู้
「เราได้เอาชาวบ้านมาเป็นตัวประกัน และในเวลาเดียวกันถูกเสนอผู้หญิง นายไม่ถือถ้าเราจะเอาพวกเธอไป ใช่มั้ย?」
ข้างคาร์ลเป็นผู้หญิงที่อิงแอบเขา เธอได้มองดูเขาด้วยสายตาที่หลงไหล และหอบเล็กน้อย นายได้โอบกอดเธอไปแล้วโดยไม่ได้แม้แต่จะถามผม ไม่ใช่เหรอ?
「มันมีกฏอยู่ โปรดกลั้นจากการทำมันที่ที่คนเห็นได้ละกัน」
ซีเลียมองผมด้วยสายตา ‘ดูสิว่าใครพูด’ แต่ผมเมินเธอ พวกคนใหญ่คนโตเป็นคนที่หยิ่ง
「ยังไงซะ งานที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการยืดเมื่องที่อยู่ตรงหน้าเรา」
ยังค่อนข้างมีระยะอยู่ แต่เมืองที่ถูกสร้างในที่ราบนั้นต่างในขนาดกับหมู่บ้านที่เราเจอมาจนถึงตอนนี้ จากย้อกลี่ย์ มี่เกือบ 2000 คนและมีตัวตนแกนกลางหนึ่งคน – ซึ่งก็คือขุนนาง – ที่ปกครองหมู่บ้านรอบข้างและขุนนางได้ตั้งคฤหาสน์และปรกติทหารประมาณ 300 คนควรจะอยู่ที่นั่น
ยกเว้นช่างของเรา และทหารอาสา กำลังทหารจริงๆของเรานั้น 800 มันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นความได้เปรียบที่ท่วมท้นแต่
「มันจะลำบากถ้าจะโจมตีด้วยกำลัง」
เมืองมีหินกองรอบๆมัน; แต่ละมุมมีหอสังเกตการณ์ไม้ที่เห็นได้ ไม่เหมือนหมู่บ้านจนถึงตอนนี้ ที่มีแค่รั้วซึ่งปกป้องจากสัตว์ป่า เมืองมีกำแพงเต็มเปี่ยมติดอยู่ อย่างที่ลีโอโพลต์พูด เราต้องเตรียมตัวจะรับความเสียหายของผู้เสียชีวิตจำนวนมากถ้าเราโจมตีด้วยกำลัง
「นายคิดยังไงเกี่ยวกับการล้อมมันและยิงลูกธนูไฟ?」
「ลูกธนูจากข้างบนกำแพงจะมาถึงเราก่อน ด้งนั้นในท้ายที่สุดเราจะมีผู้เสียชีวิตมาก แล้วก็ ถ้าเราอยากจะเผาเมืองแผนของเราที่รวบรวมทหารอาสาจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป」
นั่นจริง ถ้าเราเผาชาวเมือง มันจะแย่
「งั้น เราควรรอกำลังเสริมมั้ย? ถ้าเรารอ 3 วันพวกเค้าจะตามมา และเมื่อพวกเค้ามาถึง คนพวกนั้นควรจะวิ่งหนีไม่ก็ยอมแพ้」
เมื่อที่อากอร์พูด กองกำลังหลักนั่นมีอุปรณ์ล้อมเมือง เมืองแบบนี้และกำแพงนั้นไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าอย่างนั้น ความสำคัญที่เราเป็นแนวหน้าจะเสียความหมายไป การตั้งรูปแบบกับกองกำลังหลักและเตรียมตัวจะโจมตี จะทำให้การเดินทัพเราช้าลงมากขนาดนั้น เราควรจะหาบางวิธีที่จะจัดการด้วยแค่กองพันของเรา
「ไม่ เราควรจะลองบางอย่างไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งด้วยแค่พวกเรา มันเป็นบางอย่างที่เราต้องลองทำ และทำมันไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง」
「ถ้าเราใช้กำลังหรือไฟไม่ได้ งั้นบางอย่างเหมือนส่งสายลับไปเพื่อเปิดประตูเมือง…」
อากอร์ได้คิด แต่มันไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี
「งั้น ให้ผมทำให้ศัตรูเปิดประตูมั้ย」
ลีโอโพลต์เปิดปากเขาออกมา ในเวลาาแบบนี้ผมพึ่งพาเขา
「อย่างแรกสำหรับคืนนี้ มาวางคบไฟเยอะๆไว้ที่รถม้าและให้มันเดิน ด้วยนั้น พวกเค้าจะคิดว่ากองกัพของเราส่วนใหญ่ได้เคลื่อนไหว」
บางอย่างแบบนั้นมันง่ายพอ
「หลังจากนั้นบนวันต่อมา ตัดสินใจจากเมืองนั้น พวกเขาเห็นได้แค่ถึงเนินเขาที่เราอยู่ตอนนี้ ถ้าเราปิดทหารไว้ที่อีกฝั่งของเนินเขา พวกเค้าจะไม่เห็นเค้า เราจะซ่อนกองร้องทหารม้าสองกองและทหารราบกองนึงที่นั่น」
「ชั้นเข้าใจว่าเราต้องทำอะไร แต่จากนี่ไปที่เมืองระยะมันมากเกินไป แม้ว่าพวกเขาไม่ระวังและเปิดประตูเมือง ไม่ใช่ว่าพวกเขาแค่จะปิดมันระหว่างที่เราวิ่งไปเหรอ?」
「ใช่ ดังนั้นนั่นทำไมเราจะพาพวกเค้ามาที่นี่ เมื่อพวกเค้ามาถึงที่นี่เราจะเอาชนะพวกเค้า และศัตรูที่วิ่งหนีจะพยายามจะกลับไปในเมือง และเหมือนซาลาเปา พวกเขาจะไม่สามารถปิดประตูเมืองได้ แม้ว่าพวกเค้าทิ้งพวกเค้าและปิดประตูรั้ว เราจะสามารถที่จะกำจัดศัตรูที่อยู่ข้างนอกประตูเมืองได้อย่างง่ายดาย และหลังจากนั้น เราโจมตีพวกเขาด้วยกำลังได้หรืออะไรก็ตาม และนั้นเพียงพอที่จะให้พวกเค้าพ่ายแพ้」
「เหตุผลสำหรับกองร้อยนึงก็คือให้พวกเค้ามาที่นี่ หือห์」
「ใช่ จากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดจะเป็นทหารอาสา」
「แต่ทหารอาสาไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้จริงนะ? สายการบังคับบัญชาจะเลอะเทอะ」
「ศัตรูก็จะคิดอย่างนั้นด้วย เราจะไม่ใช่การยึดเมือง และเคลื่อนไหวกองกำลังหลัก หน่วยที่เหลือจะเป็น 200 และทหารอาสาจะเป็น 300 แม้ว่าพวกเค้าตัดสินใจจะสู้เรา พวกเค้าต้องเตรียมจำนวนที่จะมาท้าทายเราในการต่อสู้ตอนกลางคืน ถ้าทหารอาสาที่รวมกันได้เริ่มบ้าและอาลาวาดในการโจมตี งั้นแน่นอนว่าเราจะเสียหายจากการโจมตีสวนของศัตรู และแพ้…จากนั้นในความสับสน กองร้อยทหารราบจะเข้ามาด้วยและทำให้รูปแบบเละ… ถ้าคุณเป็นผู้บัญชาการของศัตรูในสถานการนั้นคุณจะทำยังไง?」
แน่นอนว่าผมจะไล่ตามพวกเขาไป กองกำลังในปราสาทมีจำนวน 300 คน ทหารอาสาที่สับสนนั่นช่วยอะไรไม่ได้ ดังนั้นผมจะเอาชนะ 200 ด้วย 300
「มีอันตรายอะไรในปราสาทที่นอกเหนือจากการคาดการณ์ของเรามั้ย?」
「ถ้ามี พวกเขาจะรอจนกว่าเช้า พวกเขาจะออกมาเมื่อตัดสินว่ากองกำลังหลักไม่อยู่ที่นี่แล้ว จากนั้นไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเราที่จะยึดเมืองโดยพวกเราเอง ทิ้งเนินเขาและรอกำลังเสริมมาช่วยเราเมื่อตอนนั้น」
อากอร์เปิดปากของเขา
「ชั้นเขาใจว่านายพูดอะไร แต่ไม่ต้องพูดถึงกองร้อยทหารราบของเรา ทหารอาสาจะทำอะไรที่ช่ำชองอย่างนั้นได้เหรือ ถ้าพวกเค้าเห็นนั่นล่วงหน้า งั้นไม่ใช่ว่าพวกเค้าแค่จะถูกแทงโดยลูกธนูและตายอย่างไร้ความหมายเหรอ?」
ลีโอโพลต์พูดเหมือนมันไม่มีอะไร
「ผมไม่คิดว่าพวกเค้าจะสามารถทำการแสดงอะไรแบบนั้นได้ ตั้งแต่ทีแรก ผมไม่ได้สอนอะไรพวกเค้า ผมแค่สั่งพวกเค้าให้ ‘ทำเต็มที่และโจมตีเมืองด้วยทุกอย่างที่มี’」
—————————————————————
เช้าวันถัดมา แคมป์ของอาร์คแลนด์: เมืองดาโทรห์น
「มันดูเหมือนวิกฤติผ่านไปแล้ว」
คนที่ปกครองหมู่บ้านรอบๆเมือง เคานต์ คอร์ทอซ่า ดาโทรห์น ถอนหายใจออกมา คฤหาสน์ของเขาอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเมือง และมองดูที่อยู่รอบข้างเมือง มันเหมือนที่คนเฝ้าระวังรายงาน ทีมของโกลโดเนียที่ได้ปรากฏในตอนเย็น ได้เดินทัพออกไปในตอนกลางคืน
「ชั้นสงสัยว่าอะไรเกิดขึ้น」
กองกำลังของศัตรูข้ามจำนวน 1000 คนไปอย่างง่ายดาย ไม่ว่าพวกเขาจะรวบรวมมาจากหมู่บ้าน หรือพวกเขามีชาวพื้นเมืองผสมเข้าไป แต่แม้ว่าจะไม่ได้นำส่วนนั้นมาคิด พวกเขาเป็นทีมที่ทรงพลัง
ทหารในเมืองนี้มีประมาณ 300 ถ้าพวกเขาได้โจมตีด้วยพลัง งั้นมันจะเป็นความต่างที่อันตรายในความแข็งแกร่งทางทหาร
「อนุญาตให้พวกเค้าเดินหน้าลึกเขามาทีนี่ แนวหน้าทำอะไรอยู่!?」
กายที่น่าเกลียดและอ้วนของเขาสั่นในความโกรธ เมืองดาโทรห์นที่ตรงชายแดนของโกลโดเนีย แมต่มันไม่ใช่เมืองเมืองได้เปลี่ยนเป็นป้อมปราการเพื่อที่จะต้านทานการก่อกบฏของชาวนาในปีที่ผ่านมา เน้นไปที่ความสามารถในการป้องกัน มันทำหน้าที่เป็นที่ที่ไว้รวบรวมและเติมเสบียงให้กับทีมแนวหน้า ที่สมควรจะอาละวาดอยู่ในโกลโดเนีย
มันดูเหมือนมีรายงานประปรายจากพวกโง่ที่วิ่งมาบอกว่าหน่วยแนวหน้าได้ถูกกำจัดแล้วเมื่อวาน แต่พวกเขาทั้งหมดถูกตัดหัว พวกเขาต้องได้มาจากบ้าถึงหวาดกลัวอย่างยิ่งใหญ่และวิ่งจากทีมของพวกเขา แต่พวกเขาเป็นแค่ขยะที่พยายามจะทำให้ชื่อที่รุ่งโรจน์ของอาร์คแลนด์เปื้อนด้วยโคลน
การขนส่งต่อไปของของที่ต้องมุ่งหน้าไปที่เมืองเป็นอาหารจำนวนมาก ลูกธนู และอาหารม้า แต่ถ้าไม่ว่าประการใดศัตรูสามาระทำให้เมืองนี้พ่ายแพ้ งั้นทุกอย่างจะถูกนำไป ถ้านั่นเกิดขึ้น จุดยืนของความเป็นเคานต์ของเขาจะไม่แน่นอน
「ศัตรูที่เหลืออยู่มีแค่ 200 บวกกับพวกชาวนา! ออกไปและกำจัดพวกเขา!」
อัศวินลูกน้องเพิ่มกำลังใจ แต่มันเป็ 300 ต่อ 500
ชาวนาจะถูกใช้เป็นโล่ด้วยดังนั้นมันอาจจะเป็นการต่อสู้ที่เท่าเทียม ไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรเสี่ยงๆในสถานการณ์นี้ มันโอเคถ้าเราแค่ปกป้องเมือง
「แม้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แค่ออกไปที่นั่นแล้วทำอะไรบางอย่าง หน้าที่ของเราคือปกป้องเมืองและการส่งของ เมื่อกองทัพเหนือมาถึงที่นั้น คนพวกนั้นที่อยู่ข้างนอกจะถูกเตะไปข้างๆ」
「สำหรับคนอย่างพวกเค้า แต่เราก็พอแล้ว」
ฉันรู้ว่าฉันอยากจะสร้างความสำเร็จ แต่ฉันไม่อาจจะเสียเยอะมากได้ ศัตรูมันไม่ใช่แค่โกลโดเนีย มันยังเป็นไปได้ที่คนที่รวมกันอยากจะก่อกบฏ และเอาเปรียบกับสถานการณ์นี้
ยังไงทำไม่นอนกับผู้หญิงล่ะ ฉันทำพวกผู้หญิงจากชนชั้นกลางและเก็บพวกเธอให้เป็นคนรับใช้ ฉันข่มขื้นพวกเธอได้ตามที่ฉันอยากทำ และพวกเธอจะไม่ถูกฆ่าก็ให้กำเนิดและส่งกลับไป มันเป็นซักพักแล้ว ด้งนั้นไม่ไม่ไม่เล่นกับผู้หญิงอายุมากล่ะ
「ศัตรูโจมตี! ศัตรูได้เข้ามาหากำแพงเมือง!」
เสียงกรีดร้องและเสียงผู้หญิงร้องไห้ได้ถูกกดลง มันแค่เป็นเวลาที่กิจใกล้จะเสร็จแล้ว แต่คนเสียงของเฝ้าระวังทำให้เขาใส่เสื้อผ้าของเขาในความตื่นตกใจ ผู้หญิงหยิบเสื้อผ้าเธอแล้ววิ่งหนี ผู้หญิงคนนั้น คืนนี้ ฉันจะบีบคอเธอจนกว่าเธอจะตาย
「เกิดอะไรขึ้น? ศัตรูยังไม่ไปอีกเหรอ!?」
「นั่น ทหารทิ้งชาวนาและพวกเค้าเข้าหาระหว่างตะโกน โยนคบไฟและหม้อน้ำมันใส่เรา! มันดูเหมือนพวกเค้าพยายามจะทำลายประตูเมืองด้วยค้อนด้วย!」
「กล้าดียังไง! ไอ้พวกขยะสกปรก!」
ประตูเมืองทำจากไม้หน้า แต่เพื่อที่จะให้มันทนจากไฟ น้ำและโคลนได้ถูกทาไปทั้งแต่เมื่อวาน ดังนั้นมันจะไม่ไหม้ ก้อนของกองกำลังอาบอยู่ในคำเยาะเย้ย เพิ่มกำลังใจ แต่ตัวเลือกคือไม่จุดไฟมันก็ต้องใช้ค้อนเพื่อทำลายส่วนหนึ่งของประตู ประตูเมืองหนาจะไม่กระดิกแม้แต่นิ้ว
「นายจะให้พวกเค้าทาตามใจไปถึงเมื่อไหร่! ยิงมันเป็นฝนด้วยลูกธนู! ฆ่ามันให้หมด!」
ใกล้ประตูเมืองจากข้างบนกำแพง ลูกธนูตกลงไปเป็นฝนกระจายๆกัน เสียงกรียดร้องเริ่มถูกได้ยิน ภาพนั้นดำเนินต่อไปเป็นเวลาซักพัก แต่หลายคนจากข้างหลางที่วิ่งหนีเริ่มทรุดไปทั้งหมดทีเดิน และพวกเขาเริ่มวิ่งหนีไปถึงข้างหลังทันที
「ฟฟฟฟุน-! มันเป็นเพราะพวกมันอวดดีจนนี่เกิดขึ้น ทำไมไม่เชื่อฟังแล้วไปพรวนดินหรืออะไรซักอย่าง!」
จากนั้น ภาพที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้น ทีมที่เชื่อว่าเป็นทหารที่ถูกก่อตั้งมาล้อมชาวนาที่วิ่งหนี ทำให้พวกเขาหยุดอยู่กับที่ พวกเขาน่าจะเฝ้าดูจากข้างหลัง รอโอกาสของพวกเขาระหว่างที่ขุดหลุมฝังตัวเอง
「ศัตรูสับสนแล้ว! ถ้าเป็นตอนนี้เรากำจัดพวกเค้าได้แน่!」
「มันเป็นโอกาศที่จะมาทุกๆพันปี!」
「ได้โปรดสั่งให้เราเดินทัพ」
อัศวินมาด้วยกันทั้งหมดที่เดียว มันจริงที่ว่าพวกเขาดูเหมือนจะสามารถถูกกำจัดตอนนี้ได้ กองกำลังหลักได้เคลื่อนไหวไปในตอนกลางคืน ดังนั้นพวกเขาต้องไปค่อนข้างไกล พวกเขาจะไม่สามารถเป็นกำลังสนับสนุน และมากกว่าทุกอย่าง มันจะไม่แย่ที่จะได้เกียรติในการเป็นคนแรก ที่เอาชนะโกลโดเนีย
「ดีมาก ชั้นจะอนุญาตนายให้ออกไป แต่อย่าตามพวกเค้าไปไกล!」
「「「ครับท่าน」」」
อัศวินรู้สึกผิดหวังทันที แต่แค่กลับไปที่ทีมของพวกเขา
「ให้ชั้นดูว่าคนพวกนั้นจะไปเจอจุดจบยังไง」
ฉันออกจากระเบียงระหว่างที่ผู้หญิงเติมเครื่องดื่มด้วยแอลกอฮอล์และตัดสินใจจะดูการต่อสู้ ที่ชัยชนะนั้นถูกให้สัญญาไว้แล้ว
—————————————————————
เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19ปี ฤดูร้อน
ชนชั้น: กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม
ทีม: กองพลที่ 1 กองร้อยหทารม้า ทหารม้าหนัก 180 หน่วย, ทหารม้าเบา 20 หน่วย
กองร้อยทหารราบ 3 กอง แต่ละกองมี พลหอก, นักธนู, ติดปืนธนู 200 คน
เหล่าทหารช่าง 200 คน
ทหารอาสา 300 คน
รวม 1300 คน
ลูกน้องกองทัพ: ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ดูแล และ นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร)
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)
อุปกรณ์: เกราะเต็มตัวเหล็กระดับสูง, ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)
สถานที่ปัจจุบัน: ดินแดนของอาร์คแลนด์ส่วนเหนือ
ความสำเร็จ: ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)
ยึดหมู่บ้าน x8
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
เป้าหมายเดือน 3/66
ค่าเน็ต 0/200
ค่าไฟ 0/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord