ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 9 นักรบพเนจร
9 นักรบพเนจร
ผมไปทิศตรงกันข้ามจากทางที่ผมเข้ามาที่ป่า และมาเมืองที่ชือ “โรเลล” ที่คาราวานที่ผมสมควรจะโจมตีเมื่อสองปีก่อนได้มุ่งหน้าไป
มีฐานของกลุ่มโจรใกล้ๆ ที่คนรู้จักเก่าอาจจะอยู่ ดังนั้นผมเลี่ยงมัน
มันมีปัญหาเยอะเกินไปที่จะอธิบายว่าทำไมผมกลับมาคนเดียวตอนนี้
ดังนั้นผมจะมุ่งหน้าไปทางเหนือจากโรเลล ที่ผมมีแผนจะเข้าสู่อาณาจักรอาร์คแลนด์, ที่มีพลังตรงกันข้ามกับอาณาจักรเทรียนี้ และจากนั้นไปเหนือขึ้นไปอีกจนกว่าผมจะถึงดินแดนสหพันธรัฐ
ผมไม่เคยพิจารณาตัวผมเองว่าเป็นคนจากประเทศนี้ ถ้าให้เริ่มพูด ชายแดนประเทศนั้นยาวและกว้าง, ไม่มีความจำเป็นให้นักเดินทางคนเดียวอย่างผมผ่านทางหลวงเหมือนคนโง่
จากข้อมูลของลูซี่, นักเดินทาง, พ่อค้า, ทหารรับจ้างหนีผ่านที่ราบกลางไปอาณาจักรหรือสหพันธรัฐ ไม่ใช่เรื่องหายาก
โดยเฉพาะ ถิ่นทุรกันดารนอกเมืองที่มีการป้องกันในสหพันธรัฐ พูดไม่ได้ว่าความสงบเรียบร้อยของประชาชนดี
ทหารอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เลยมีหลายกรณีที่แต่ละเมืองจะรวมนักรบอิสระ และมอบความไว้วางใจให้พวกเขา ในเรื่องการระงับโจรและคนป่าเถื่อนที่มารุกราน
แม้ว่าถืออาวุธ ผมจะไม่เด่น หรือไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงชีพได้
อย่างไรก็ตาม อย่างแรกผมต้องหาโรงแรมเพื่อนอน
ผมได้นอนข้างนอกสี่คืนติดกันตั้งแต่ผมออกมาจากป่า
การชินกับการอาบน้ำทุกวันมาเป็นเวลาสองปี กลิ่นเและเหงื่อเหนียวๆมันกวนใจผม ผมเลยอยากจะนอนในเตียง
โรเลลมีขนาดเป็นที่สองในอาณาจักรเทรีย พ่ายแพ้ให้กับเมืองหลวงราชวงศ์ทริสเนีย เมืองขนาดกลางที่จำนวนประชากร 3000 คน มันมีกำแพงป้องกันที่เป็นหิน และรั้วไม้ล้อมรอบมัน
เพราะมันได้ใช้งานบ่อยในการเป็นฐานเมื่อมีสงครามกับกระเทศเพื่อนบ้าน ราชาและหมู่บ้านเกษตรกรรวมสิ่งของที่นั่น และเมืองได้มีชีวิตชีวาตามนั้น
ผมไปสู้ทางเข้าเมือง และที่นั่นมีทหารสองคนที่ถือหอก ยืนอยู่ข้างรั้ว
“หยุด! บอกชื่อและเจตนามา!”
“เอเกอร์! ชั้นเป็นทหารรับจ้าง!”
ผมบกชื่อจริงผมจากพวกเขา
ผมหนีจากเมืองหลวงราชวงศ์ทริสเนีย… สถานที่{นั้น}ดูเหมือนจะอยู่บริเวณด้วนนอกของกำแพงเมืองหลวงราชวงศ์
ผมพิจารณาในการมอบชื่อปลอมในเมืองนี้ที่มันใกล้กับเมืองหลวง, แต่ “เอเกอร์” ดูเหมือนจะเป็นชื่อที่รู้จักมาก ของพระเจ้าที่โผล่มาในตำนานบ่อยๆ
ทหารรับจ้างและโจรมากมายใช้มันเพื่อการโชว์, มันจะไม่เน้นผมโดยเฉพาะ
“ทหารรับจ้างอิสระ, หือห์…นั่นเป็นอาวุธที่อันตรายมากนะที่นายมีนั่นน่ะ”
“มันจะเป็นเวลาของการล่าหมาป่าเร็วๆนี้, ใช่มั้ย”
ยามอีกคนแทรกเข้ามาอย่างไม่ใยดี
สำหรับมุมมองของเขา, เขาคนไม่สนใจในทหารรับจ้างคนเดียวสร้างความโกลาหลในเมือง
“ยังไงก็ตาม, อาวุธนั้นใหญ่มากสำรับการล่าหมาป่า นายยังใส่เกราะด้วยใต้ผ้าคลุม เราเลยช่วยไม่ได้นอกจากคิดมาก”
ยามดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพ, อย่างที่คาด บัลดิชมโหฬารดูเหมือนจะสร้างน้ำหนักให้เขา
“งั้นนายจะบอกว่านายไม่ให้ชั้นเข้าไป?”
ถ้าพวกเขาไม่ให้ผมเข้าไป งั้นมันจะไม่มีทางเลือกนอกจากตั้งแค้มป์ภายนอกคืนนี้
“ปรกติแล้ว นายแก้ปัญหาได้ด้วยการจ่ายหนึ่งเหรียญเงิน, แต่เข้าเมืองพร้อมอาวุธทรงพลังโดยไม่มีเหตุผลจริงๆ นั้นไม่อนุญาต
ผมตัดสินจะใจเอา ‘เหตุผล’ เก่าแก่, ดั้งเดิมให้พวกเขาดู
ผมแสดงหนึ่งเหรียญทองให้ยามดู
แค่เมื่อผมทำอย่างนั้น, สีในตาเขาได้เปลี่ยน
“เฮ้ย เฮ้ย, นั่นเหรียญทอง!”
“แน่นอน, เหรียญทองราชวงศ์!”
“แต่ชั้นสงสัยว่าชั้นผ่านได้มั้ยนะ?”
“ล่าหมาป่าและสู้กับมอนสเตอร์เป็นงานแบบนั้น, หือห์, นายจะต้องการหอกและชุดเกราะ”
“นายพูดอะไรควินน์, เจ้านี่ไม่มีหอกหรืออะไรเลย ช่วยไม่ได้ถ้าเค้านำเข้าไปในเมืองโดยการซ่อน”
ยามมอบไม้บล็อกสี่เหลี่ยมประทับตราให้เขา
มันดูเหมือนนี่คือเครื่องพิสูจน์ว่าเขาจ่ายภาษีเข้าเมืองแล้ว
“มีการลงโทษสำหรับการนำอาวุธออกมา หรือข่มขู่ผู้คนในเมือง ถ้าคู่ต่อสู้ไม่มีอาวุธ นายจะโดยลงโทษแม้ว่ามันจะป้องกันตัว”
“ถ้านายอยากจะฆ่าบางคน, นำอาวุธออกมาก่อนที่จะมีพยาน”
คิดว่าการสนทนาจบแล้ว ยามถอนสายตาจากผม แล้วเริ่มเถียงกันว่าจะแบ่งทองยังไง
เพราะทั้งหมดหนึ่งเหรียญทองมันมากเกินไป แต่ผมอยากจะพักสบายๆวันนี้
จากนั้นดูเหมือนมีงานทหารรับจ้างด้วย
สกุลเงินนั้นเหมือนกันทั้งทวีป
1 เหรียญทอง = 10 เหรียญเงิน = 1000 เหรียญทองแดง
อัตราดั้งเดิมคืออัตราแลกเปลี่ยนในสหพันธรัฐ โอลก้า แต่เพราะมันเป็นสกุลเงินที่มั่นคง เก่าแก่ ไม่ถดถอยที่สุดในทวีป น้ำหนักของโรงกษาปณ์ทุกประเทศ ได้ถูกทำให้เท่ากันกับสหพันธรัฐโอลก้า
เมื่อนานมาแล้ว มีประเทศที่พยายามจะใช้สกุลเงินของพวกเขาเอง แต่เพราะไม่มีความมั่นใจในสกุลเงิน มันได้ถูกปฏิเสธ และไม่ได้ถูกใช้โดยใครนอกจากคนของประเทศนั้น
พูดอีกอย่าง มีเหรียญหลากหลายได้ถูกใช้เท่ากับจำนวนประเทศ แต่น้ำหนักของโลหะที่ใช้เท่ากัน ดังนั้นทุกสกุลเงินจะใช้ ‘หนึ่งทอง’ ‘หนึ่งเงิน’ และอื่นๆ
เวลาเดียวที่คุณจะต้องกังวลเกี่ยวกับสกุลเงินคือเมื่อคุณจ่ายราชาหรือขุนนาง
เหรียญที่นอกจากทอง เงิน และทองแดง…ส่วนใหญ่แล้วมีค่าน้อยกว่าทองแดง แต่ละประเทศใช้นี่ แต่ไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นมันใช้ได้แค่ในประเทศ
ขณะที่ผมเข้าเมืองและเดินไปที่ถนนหลัก ผมเห็นที่ผักและพ่อค้าเกวียน
“กระต่ายย่างทั้งตัว 3 ทองแดง! ไก่ชิ้นล่ะหนึ่งทองแดง”
“แอปเปิ้ลลูกะ 30 เหรียญโลหะ! ดีที่สุด สุก อร่อยมาก~!”
“ขนมปังอบสดๆ แค่ 1 ทองแดง”
พ่อค้าเร่ส่งเสียงของพวกเขา ที่นี่ค่อนข้างเป็นเมืองที่คึกคัก
พระอาทิตย์ได้พ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และตอนเย็นจะมาในอีกไม่นาน, คนเลยน่าจะออกมาเพื่อหาอาหารเย็น
ลูซี่ไม่เคยสอนราคาของของให้ผม แต่จากการฟังการตะโกนของพ่อค้าเร่ มันดูเหมือนของชำให้เหรียญโลหะและเหรียญทองแดง และน่าจะไม่ไปถึงหนึ่งเงินแม้ว่าผมซื้อพวกมันในทีเดียว
ซึ่งทำให้ผมจำได้ เมื่อกลุ่มทหารรับจ้างที่ถูกทำลายไปแล้ว เก็บเหรียญ เงินเกือบททั้งหมดที่พวกเขามีเป็นเหรียญเงิน
มีแค่ผู้บัญชาการโลวาโน่ มีเหรียญทองหลายเหรียญ น่าจะเพื่อการดำเนินการของกลุ่ม
เงินที่ผมมีตอนนี้ทั้งหมดเป็นเหรียญทอง ที่ลูซี่มอบให้ผม
อย่างแรกผมต้องหาโรงแรม
มันเกือบจะค่ำแล้ว ตั้งแค้มป์ในเมืองจะเป็นการเอารถม้าไว้หน้าม้า
“โอนี่*-ซัง พี่หาอะไรอยู่เหรอ?”
TLN พี่ชาย
แค่เมื่อผมกำลังจะเข้าโรงแรงใกล้ๆ บางคนได้เรียกผมจากข้างหลัง ผมหันหัวของผม
ที่นั่นคือเด็กที่ดูทะลึ่งในชุดที่สกปรก เป็นไปได้ว่าแค่เลย 10 ขวบ
“ถ้าพี่มอบเงินให้ชั้น ชั้นจะนำทางไปรอบๆ หน้าใหม่หลงแถวนี้ตลอดเลย”
พอดีเลย ผมเพิ่งจะคิดว่ามันจะใช้ความพยายามมากไปที่จะเข้าโรงแรมทั้งหมด แล้วถามว่าพวกเขามีอะไรบ้าง
“ใช่ นำทางให้ชั้นไปโรงแรมที่อาบน้ำและแลกเปลี่ยนเงินได้ซิ”
ทั้งหมดที่ผมมีที่ผมคือเหรียญทอง
ผมต้องการเหรียญเงินและทองแดง สำหรับการจ่ายเงิน
ตาของเด็กชายระยิบระยับเล็กน้อย
“ได้เลย มันแค่ตรงนี้เอง มากับชั้น”
เดินข้างหลังเด็กชาย ตามเขา
ที่แลกเปลี่ยนเงินดูเหมือนจะไกลจากถนนหลักไปนิดหน่อย เด็กชายเดินไปสู่บ้านที่เรียงเป็นแถว
ในทันทีนั้น ผมคิดว่าบางอย่างแปลกไป เด็กชายหยุดเดิน
มีเพียงอาคารที่ดูทรุดโทรม ที่มันดูไม่เหมือนจะเป็นคนอยู่ที่นั่น ไม่ต้องพูดถึงที่แลกเปลี่ยนเงิน
“ร้านค้าและสิ่งต่างๆอยู่ไหนล่ะ?”
“โอนี่-ซัง, นายยังสมองทึบจัง…นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
เด็กออกมาจากบ้านที่ทรุดโทรมทีละคนทีละคน
พวกเขาอายุต่างกันไป จากสิบจนถึงสิบห้า แต่พวกเขาทั้งหมดใส่ผ้าขี้ริ้วที่สกปรก
เข้าใจแล้ว งั้นมันเป็นบางอย่างแบบนี้
“นายควรจะพูดว่านายไม่มีแผนจะนำทางชั้นไปรอบๆ ชั้นบอกว่าชั้นจะหาโรงแรมและที่แลกเปลี่ยนเงิน ไม่ใช่เหรอ?”
เด็กชายมองหน้ากันเอง
“นี่-ซัง นายทึ่มจริง นายหนีไม่ได้อีกแล้ว เร็วๆเข้าแล้วส่งเงินมา เพราะนายจะไปที่แลกเปลี่ยนเงิน นายต้องมีเยอะแน่”
“ส่งมันมาหรือนายจะโดนอัด” “นายเข้ามาอยู่ในโลกของความเจ็บแล้ว!”
เด็กเวรที่ล้อมได้ถือไม้หักๆ และคนที่อยู่บนหลังคาได้พร้อมที่จะโยนก้อนหิน
ผมยังมีสัญชาติญานจากวันที่ผมเป็นทหารรับจ้าง ผมรับสถานการณ์เข้ามาให้หัวในทันที
“นายดูเหมือนจะมีหอกใหญ่ที่นั่น แต่เรามีหินและไม้ ในทางปฏิบัติแล้วมันแค่มือเปล่า ถ้านายนำนั่นออกมานายจะมีปัญหาใหญ่กับยาม
ซึ่งทำให้ผมจำได้ ยามที่ประตูรั้วได้พูดบางอย่างแบบนั้น
ผมเกือบลืม
“นั่นใช่แล้ว หึห์ ขอบคุณที่เตือนความจำให้ชั้น”
เด็กชายได้โมโห ดูเหมือนผมจะกดปุ่มผิด
“พอได้แล้ว แค่ส่งเงินมา!”
“ทำมัน ไม่งั้น!”
ผมส่งสัญญานด้วยมือ ‘มาเอามันไปซี่’
นั่นคือสัญญานเริ่ม
“จัดการมัน”
พร้อมกัน หินได้ตกมาเป็นฝนจากหลังคา และเด็กที่ถือไม้มาเพื่อซัดผม
ผมปัดแค่หินที่กำลังจะโดนหน้าผมด้วยมือ
โยนหินครึ่งๆกลางๆมาที่เกราะหนังอย่างทีจะไม่มีผลถ้าให้เริ่มพูด
“《อุรย่าาาาาา!》” “《เดอรย่าาาา》”
ผมจับเด็กที่มาเพื่อตีผมด้วยไม้และโยนพวกเขาไปข้างหลังผม
พวกเขายังมีตัวที่เบาเหมือนเด็กอยู่ ดังนั้นพวกเขาได้บินไปอย่างน่าขบขับ
แต่เพราะพวกเขาไม่บาดเจ็บกำลังใจเขาเลยไม่ถดถอย และพวกเขารีบเข้ามาทีละคนทีละคน
{จะไม่จบถ้าแบบนี้ ดังนั้นชั้นอาจจะต้องโยนหินให้โดนคนนึงที่หัว} ผมคิด แต่ในทันทีนั้น เด็กที่อยู่บนหลังคาได้ตะโกน
“ขยับไป!! เราจะใช้นี่กับเค้า!”
พวกเขาได้แบกท่อนไม้ใหญ่มา ได้อย่างไรก็ไม่รู้ แบกมันระหว่างสามคน แล้วโยนมันลงมาจากหลังคา
ท่อนไม้ได้ร่มความเร็วและกำลังจะโดนเข้าที่หัวของผม….
แต่ผมหยุดมันด้วยมือซ้าย
มันหนักนิดหน่อยเพราะมันตกลงมา แต่เมื่อมันหยุดมัน มันไม่ได้หนักจริงๆ
ผมเคยแบกอะไรที่หนักกว่านั้น
นั่น และจังหวะเวลาของพวกเขามันไร้เดียวสาเกินไป
เล็งที่ช่องว่างเมื่อผมโดนท่อนไม้ เด็กชายที่มีไม้กระโดดเข้ามา ผมจับหน้าของเขาด้วยมือแล้วบีบ
ตอนแรกเขาส่งเสียงที่โมโห แต่ไม่นานมันเปลี่ยนเป็นเสียงของความปวดร้าว และในท้ายที่สุดเป็นเสียงกรีดร้อง
แต่การช่วยเหลือได้มา ก่อนผมจะขยี้หน้าของเด็กชาย
“《ไอ้พวกเด็กเหี้ย!! แกทำอะไรของแก!!》”
“《แกอยากจะถูกส่งไปในดันเจี้ยนหรือไง!?》”
เพราะเราได้สร้างความวุ่นวาย ยามหลายคนได้มา
“เวร! วิ่ง!”
พวกเด็กชายหายไปในพริบตา
ผมปล่อยเด็กชายที่ผมได้จับไว้อยู่อย่างเมตตา, เขาเซไปหาพวกพ้องของเขา ด้วยกางเกงที่เปียก
“พวกเด็กเหี้ย, ชั้นจะจับพวกมันทั้งหมดซักวันนึง!”
“งั้น ดูเหมือนพวกมันได้รุมนาย แต่นายไม่บาดเจ็บเหรอ?”
“ใช่ ไม่มีปัญหา มันแค่การเล่นของเด็กหน่ะ”
ผมทิ้งท่อนไม้ไว้ที่พื้นแล้วปัดฝุ่นบนตัวผม
“แม้ว่าพวกมันเด็ก นายยืนไหวกับคนเยอะ มันดูไม่เหมือนว่านายเอาอาวุธออกมา ขอชั้นถามละกันว่าทำไมนายอยู่ในที่แบบนี้?
“อืม เด็กคนนึงนำชั้นมาที่นี่แล้วนี่เกิดขึ้นน่ะ”
ยามมองผมแล้วหัวเราะ
“พวก นายมันบางอย่างจริง! ชั้นไม่เคยได้ยินใครโง่มาก ขนาดตามเด็กในผ้าขี้ริ้วเข้ามาในสลัมเลยนะ!!”
“ในที่สาธารณะเด็กพวกนั้นทำได้แค่ข่มขู่และล้วงกระเป๋า แต่เมื่อนายอยู่ในสลัม พวกมันจะรุมนาย”
“ยังไงก็ตาม มันดีที่ว่านายโอเค เราจะทำสิ่งที่มันสมควรโดนซักวันนึง แต่ก่อนหน้านั้น นายตั้งใจจะไปไหน?”
ดูการที่ยามรอบๆมองเราอย่างเงียบๆ คนนี้ต้องเป็นกัปตันแน่
“ชั้นหาโรงแรมที่อาบน้ำได้ แล้วก็ที่แลกเปลี่ยนเงิน”
“อย่างโชคร้าย ห้องอาบน้ำในเมืองนี้มีเพียงแค่บ้านของขุนนางหรือซ่อง แต่ถ้านายอยู่ในโรงแรมคุณภาพสูง นายสามารถได้น้ำร้อนพอที่จะล้างตัว นายเลือกซักที่ได้จากถนนหลัก และสำหรับที่แลกเปลี่ยนเงิน มีที่นึงอยู่ในบล็อกเดียวกัน มันมีที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่ชั้นแนะนำให้นายเลี่ยงซะ ยกเว้นนายอยากจะได้เงินปลอม”
ที่พวกนี้ผุดขึ้นมาไม่ว่าคุณจะจับมันมากขนาดไหน
กัปตัวถอนหายใจแล้วยิ้มอย่างขมขื่น
ผมน่าจะเชื่อเขาได้ ผมเชื่อว่ายามปรกติแล้วจะทำตัวสำคัญตัวเองมากกว่านี้
“ขอบคุณ นั่นช่วยได้มาก ชั้นเอเกอร์ ทหารรับจ้างอิสระ นายบอกชื่อชั้นได้มั้ย ถ้านายไม่ถือน่ะนะ?”
“ม่ายอ่ะ ชั้นแค่ไม่อยากให้คนคิดว่าเมืองนี้เต็มไปด้วยขยะ ชั้นเกรย์ มาจิรุส กัปตันของยามเมืองหมวด 2
งั้นเขาเป็นกัปตันจริงๆ และค่อนข้างถ่อมตัว เมื่อพิจารณาว่าเขามีนามสกุลด้วย ช่างเป็นชายที่ตัวตนดี
“อย่าถือชื่อชั้น ชั้นเป็นลูกชายคนที่สามของตระกูลอัศวิน ไม่ใช่ขุนนางแม้ว่ามีชื่อนั้น แทนที่จะพูดเรื่องนั้น นั่นค่อนข้างเป็นหอกที่เตะตานะที่อยู่ข้างหลังนายน่ะ มันคือฮาลเบิร์ด ไม่ บัลดิช? ความหนาของมีดมากกว่าชั้นสองเท่าง่ายๆเลยนะ มันเหล็กทั้งหมดเหรอ? นายจะไปไหนกับสัตว์ประหลาดนั่น?”
“ชั้นได้ยินว่ามีล่าหมาป่าในเมืองนี้ ชั้นคิดว่าชั้นสามารถจะหาเงินได้บ้าง”
“เข้าใจแล้ว นั่นดูเหมือนจะหั่นหัวหมาป่าครึ่งนึงได้อย่างแน่นอน”
เกรย์ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วไม่ไล่ตามความคิดนั้นไปไกลกว่านั้น
“อืมงั้น นายควรจะรีบแล้วไปที่โรงแรมซะ มีทหารรับจ้างและผู้คนมากมายมาจากหมู่บ้านรอบๆ มาเพื่อล่าหมาป่า ถ้านายช้าโรงแรมจะเต็ม”
นั่นจะมีปัญหา ผมได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะนอนในเตียงคืนนี้
“โอเค งั้นชั้นขอตัวที่นี่นะ…”
ชั้นคิดว่าชั้นสนิทกับนายได้ ปรกติแล้วชั้นจะลาดตระเวนเมือง ทิศตะวันออกจากถนนหลัก เรียกชั้นถ้านายได้บังเอิญเจอชั้นล่ะ!”
อย่างธรรมชาติ ผมยกมือขึ้น แล้วรีบไปที่โรงแรม
“มา พวกนาย มาทำความสะอาดถนนที่เด็กมันทำเละเถอะ!”
ยามได้เคลื่อนไหวที่คำสั่งของเกรย์
“เหี้ย, ชั้นจะฆ่าเด็กพวกนั้นซักวันนึง!”
“พวกมันแค่โยนหินอย่างไร้ประโยชน์…”
หลังจากที่ถนนได้สะอาดในพริบตา ยามพึมพำขณะที่พวกเขาหยิบท่อนไม้ที่ทิ้งลงมากลางถนนน
“เฮ้ย เฮ้ย… นายต้องล้อเล่นแน่…นายจะปวดเมื่อยแค่หยิบนี่ด้วยสองคน…ไอคนนั่นมันยกมันขึ้นด้วยมือซ้ายมือเดียว…
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ชื่อ: เอเกอร์
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
อาชีพ: ทหารรับจ้าง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
เงิน: 29 ทอง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
อาวุธ: บัลดิชใหญ่
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
เกราะ: เกราะหนังสูง, ถุงมือหนังสูง, บูทหนังสูง, โล่หนังสูงและโซ่, ผ้าคลุมสีดำ(ต้องสาป)
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
พวกพ้อง: ไม่มี
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
จำนวนคู่นอน: 1
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ได้ทั้ง facebook และ discord