ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1024 คุณชายสามเย่ตกตะลึง นั่นคือลูกชายแท้ๆของคุณนะ (6)

“ใช่ครับ ผมไปเพราะเย่ซือเฉิน แค่แย่งของกับเขาไม่กี่ชิ้นแล้วสุดท้ายให้เขาจ่ายเงินเอง？เขาจำเป็นต้องฟ้องคุณแม่ไหม？ขี้เหนียวจริงๆ”เด็กน้อยถังจื่อโม่นึกถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินฟ้องเรื่องเขากับคุณแม่ ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจเพิ่มขึ้น

“ลูกทำผิดแล้วยังมีเหตุผลอีก？”เวินลั่วฉิงมองถังจื่อโม่ด้วยใบหน้าเข้มงวดหลายส่วน

“ผมกำลังช่วยเขาอยู่นะครับ เขาไม่ซาบซึ้งใจก็แล้ว ถึงกลับกล้าว่าผมในทางเสียๆหายๆ เหอะ！”ถังจื่อโม่ไม่พอใจ คุณชายสามเย่ว่าเขาลับหลังอย่างนี้ ถือว่าเก่งได้ยังไง？

“ช่วยเขา？”เวินลั่วฉิงอึ้งกับคำพูดของลูกชาย เขาช่วยแบบไหนกันเนี่ย？

เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจทำให้เย่ซือเฉินโกรธ！！

“คุณแม่ครับ แม่กับเย่ซือเฉินรู้จักกันก็ไม่ใช่วันสองวันแล้วใช่ไหมครับ？”ถังจื่อโม่มองหน้าคุณแม่ของตน ดวงตาดำทอประกายแสงระยิบระยับ

“หืม？”เวินลั่วฉิงเห็นท่าทีของลูกชายก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแต่เธอไม่เข้าใจคำพูดของลูกชายในขณะนี้

“เรื่องห้าปีก่อนพวกเรายังไม่พูดถึงได้ พูดถึงตอนนี้แล้วกันครับ หลังจากคุณแม่กลับมาก็แต่งงานกับเย่ซือเฉิน พวกแม่แต่งงานสามเดือนกว่า จากนั้นก็หย่าร้าง จากนั้นเย่ซือเฉินก็มาจีบแม่อีก ซึ่งนับดูเวลาก็ครึ่งปีแล้ว แล้วเย่ซือเฉินเคยมอบของขวัญให้คุณแม่สักชิ้นบ้างไหมครับ？”ถังจื่อโม่ทำหน้าจริงจัง เริ่มวิเคราะห์ให้คุณแม่ของตนฟัง

เวินลั่วฉิงไม่ได้พูด บอกตามตรงเหมือนคุณชายสามเย่จะไม่เคยมอบของขวัญให้เธอจริงๆ

“เวลายาวขนาดนี้ เขาไม่เคยมอบของขวัญให้สักชิ้นเลย ยังคิดจะแต่งเมียอีก？ไม่รู้ว่าเขาใช้สมองส่วนไหนคิด”ถังจื่อโม่หัวเราะหนึ่งเสียง เขารู้สึกว่าเย่ซือเฉินจีบผู้หญิงไม่เป็นเลย เย่ซือเฉินเป็นแบบนี้ยังคิดจะสู่ขอคุณแม่ของเขา เย่ซือเฉินฝันกลางวันไปเถอะ

“ผมช่วยเขามอบของขวัญให้คุณแม่ เขาไม่ซาบซึ้งก็ช่าง แต่กลับเป็นคนขี้ฟ้อง ใส่ร้ายผม อภัยให้ไม่ได้แล้ว”บัดนี้ถังจื่อโม่พูดอย่างมีเหตุและผล

เวินลั่วฉิง“……”

ลูกชายพูดอย่างนี้เหมือนจะมีเหตุผลมากจริงๆ

“ที่รักพูดถูกที่สุด”ฉู่หลิงเอ๋อที่จอดรถเสร็จแล้วเพิ่งขึ้นมาถึง ได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ก็หัวเราะตาหยี จื่อโม่สุดที่รักของเธอพูดถูกที่สุด

คุณชายสามเย่กับฉิงฉิงรู้จักกันนานแล้ว ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถือว่าคงที่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคุณชายสามเย่ยังรู้ว่ามีจื่อซี มีลูกตั้งสองคนแล้ว ความสัมพันธ์ถึงขั้นนี้แล้ว คุณชายสามเย่กลับไม่เคยมอบของขวัญให้ฉิงฉิงเลย？

ไม่น่าให้อภัยจริงๆ

คุณชายสามเย่ทำตัวอย่างนี้แล้วยังคิดจะแต่งเมียอีก？คุณชายสามเย่คิดสวยหรูเกินไปหรือเปล่า？

คุณชายสามเย่มีศัตรูหัวใจมาก หากคุณชายสามเย่ไม่พยายามก็อาจถูกทิ้งได้ทุกเมื่อ ก็เหมือนกับคุณมู่ให้ห้องวีไอพีหมายเลขสิบวันนี้

ดูออกว่าคุณมู่มีใจให้กับคุณหนูถัง！！

คุณมู่ทั้งร่ำรวยทั้งหน้าตาดี ถึงแม้บางครั้งจะพูดมากไปหน่อย แต่โดยรวมก็นับว่าไม่เลว

“คุณก็ตามใจเขาตลอด”เวินลั่วฉิงมองหน้าฉู่หลิงเอ๋อพลันอดส่ายหัวไม่ได้ หากมีเพียงจื่อโม่คนเดียว คงไม่เกิดเรื่องเอิกเกริกใหญ่โตปานนี้ แต่เมื่อมีฉู่หลิงเอ๋อเพิ่มขึ้นอีกคน ถ้างั้นอะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

“ก็ว่างไง ฉันเลยพาจื่อโม่ไปดูความครื้นเครงเสียหน่อย”ฉู่หลิงเอ๋อประดับรอยยิ้ม เธอดูออกว่าฉิงฉิงของเธอำไม่ได้โกรธ ดังนั้นเธอก็ไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว

“จริงๆนะคุณ คืนนี้คึกคักมากจริงๆ”ฉู่หลิงเอ๋อนั่งดื่มน้ำหนึ่งแก้วบนเก้าอี้ด้านข้าง บดันี้แววตาของเธอเปล่งประกายแสงตื่นเต้นดีใจหลายส่วน

“คุณกับจื่อโม่ไปขูดรีดเย่ซือเฉินจะไม่คึกคักได้ไง？”เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปากเล็กน้อย คืนนี้ทั้งสองก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้จะไม่คึกคักได้ยังไง？

“ไม่ได้มีแค่ฉันกับจื่อโม่ ยังมีอีกหนึ่งคน คนนี้เก่งกว่าพวกเราอีก”ฉู่หลิงเอ๋อมองเวินลั่วฉิงด้วยแววประกายแสงเจิดจ้า เห็นได้ชัดว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้เวินลั่วฉิงฟัง

เวินลั่วฉิงมองเธอแวบหนึ่งอย่างไม่สนใจ เธอรู้จักนิสัยใจคอฉู่หลิงเอ๋อดี เป็นคนชอบความคึกคัก ทั้งยังเป็นคนที่กลัวโลกจะวุ่นวายไม่พออีกด้วย

สถานที่แบบนี้อย่างสมาคมประมูลหงเยว่ เกิดเรื่องครื้นเครงก็เป็นเรื่องปกติ มีคนเก่งปรากฏกายสองสามคนก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิด

“ฉิงฉิง คุณไม่รู้ คนในวันนี้ปะทะเย่ซือเฉินตลอด เริ่มประมูลแย่งซื้อของกับเย่ซือเฉินตั้งแต่แรก แย่งแบบดุเดือดมาก คนนี้บ้าคลั่งมาก บ้าคลั่งกว่าจื่อโม่สุดที่รักอีก”ฉู่หลิงเอ๋อมองออกว่าเวินลั่วฉิงไม่สนใจ แต่ก็ไม่อาจกระทบอารมณ์เล่าของเธอได้

แน่นอน ฉู่หลิงเอ๋อรู้ว่าขอเพียงพูดถึงเย่ซือเฉิน ฉิงฉิงต้องสนใจแน่

“ใช่เหรอ？”เวินลั่วฉิงได้ยินว่าคนนั้นคิดจะจู่โจมเย่ซือเฉินตลอดเวลาก็ขมวดคิ้ว มีคนจู่โจมเย่ซือเฉินในสมาคมประมูลหงเยว่？เกิดอะไรขึ้น？

“แน่นอน ชัวร์อยู่แล้ว คนนั้นมีเจตนาจู่โจมคุณชายสามเย่ชัดเจนมาก”ระดับเสียงของฉู่หลิงเอ๋อสูงขึ้นหลายส่วนอย่างเด่นชัด ซึ่งประโยคนี้เธอไม่ได้พูดโอเวอร์เกินจริงเลย

“แต่คนนั้นไม่ได้เปรียบเลยสักนิด สุดท้ายถูกคุณชายสามเย่ขูดรีดอย่างน่าอนาถมาก”ฉู่หลิงเอ๋อเล่ามาถึงตรงนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ฉันบอกให้นะ ฉันไม่เคยเห็นใครโง่เง่าเพียงนี้มาก่อน ถูกคุณชายสามเย่ขูดรีดหนึ่งครั้งก็ถือว่าโง่พอแล้ว สุดท้ายคือยังโดนคุณชายสามเย่ทำให้เสียเงินติดต่อกันหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งเขาถูกคุณชายสามเย่ทำให้เสียเงินกว่า หนึ่งพันแปดร้อยห้าสิบล้าน คุณว่าเขาโง่ไหมล่ะ？เป็นคุณชายเศรษฐีผู้โง่เขลาตัวจริงเสียงจริงเลยละ”

“ถึงแม้จะโง่ไปบ้าง แต่ก็มีเงินจริงๆ เป็นอภิมหาเศรษฐีจริงๆ แถมหน้าตายังหล่ออีกต่างหาก ดูดีกว่าผู้หญิงเสียอีก เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นคุณมู่ปราดแรก เธอก็ตะลึงกับความหล่อของเขาทันที

“ใครเหรอ？！”เวินลั่วฉิงเกิดความสนใจต่อคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ แน่นอนสิ่งที่เวินลั่วฉิงใส่ใจมากที่สุดก็คือคนนี้โจมตีเย่ซือเฉิน

คนที่กล้าโจมตีเย่ซือเฉินอย่างเปิดเผยนั้นมีไม่มาก สถานะคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

“ไม่รู้นะ ฉันไม่รู้จัก แถมคุณชายสามเย่ก็ไม่รู้จัก”เอ่ยถึงเรื่องนี้ฉู่หลิงเอ๋ออดมุ่นคิ้วไม่ได้“ฉันรู้เพียงว่าเขาแซ่มู่ ไม่เขาบอกว่าเขารู้จักคุณ”

“แซ่มู่？รู้จักฉัน？”เวินลั่วฉิงอึ้ง แม่มู่เหรอ？รู้จักเธอเหรอ？

ทำไมเธอจำไม่ได้ว่าเธอรู้จักคนแซ่มู่？

หน้าตาดีแล้วยังรวยอีกต่างหาก เธอไม่รู้ว่าตัวเองรู้จักคนลักษณะนี้จริงๆ

“ทำไม？คุณก็ไม่รู้เหรอ？”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นการตอบสนองของเวินลั่วฉิง จึงรู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่รู้จักผู้ชายคนนี้

ดังนั้น เรื่องนี้แปลกพิสดารมาก！

เจตนาของผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งชวนให้สงสัยมากขึ้น！