ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 272 แม่หญิงแห่งตระกูลเงินที่เก่งกาจไร้เทียม ทาน
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 272 แม่หญิงแห่งตระกูลเงินที่เก่งกาจไร้เทียม ทาน
บทที่ 272 แม่หญิงแห่งตระกูลเงินที่เก่งกาจไร้เทียม ทาน
เงิน วฉิงจ้องไปที่เขา แล้วหัวเราะออกมา หัวเราะออกมา เพราะความโกรธ ดวงตาเธอเป็นประกาย แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า : ทำไมจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน เกี่ยวข้องกันอย่างมากเลย แหละ เล้งตรงไปขอแต่งงาน คน ๆ นั้นก็คือฉัน ฉันก็ต้องกลับ
ไปสิ…”
เงินถั่วงรู้ดีว่าการที่เธออธิบายอะไรตอนนี้ เชื่อเงินก็ไม่ รับฟังอะไรทั้งนั้น ถึงขนาดไม่เปิดโอกาสให้เธออธิบายอะไร
เลย
ทุกครั้งที่เธอเอ่ยพูด พูดได้ไม่ถึงครึ่ง ก็ถูกเขาขัดจังหวะขึ้น มา เธอรู้สึกว่าเยซื้อเฉิน ในตอนนี้ทำตัวเหมือนเด็กอายุสาม ขวบ พูดอะไรไปก็ไม่ฟัง ไร้เหตุผลสิ้นดี ไม่ว่าเธอพูดอะไรไป เขาก็ไม่ยอมรับฟัง ยังเอาสิ่งที่เขาคิดมาทับถมในสิ่งที่เธอ ต้องการจะสื่อออกมาอีก
ฉะนั้น ตอนนี้เธอจึงต้องทำตรงกันข้ามกับเขา
ปรากฏว่าครั้งนี้ เชื่อเงินไม่พูดขัดจังหวะเธอแล้ว แต่บีบ มือเธอจนแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม่นไปที่เธอ เขา โกรธจนดูบ้าราวกับจะกลืนเธอเข้าไปทั้งตัว
เงิน วจึงแอบคิดในใจ ถ้าหากใช้สายตาฆ่าคนได้ ตอนนี้ เธอน่าจะถูกสายตาของ เอเฉินจ้องจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
แล้ว
เธอคิดว่าถ้าเป็นคนอื่น คงถูกให้กลัวจนล้มลงไปกองกับ พื้นแล้ว
โชคดีที่เธอใจกล้า
ในขณะที่ความบ้าของเยซื้อเป็นกำลังจะปะทุออกมานั้น เงินล้วงก็จ้องไปที่เขา แล้วยิ้มออกมา ครั้งนี้เธอฉีกยิ้มกว้าง มาก : “แต่ว่าฉันไม่ตอบตกลงอยู่แล้ว เพราะเล้งทรงแก่กว่า นาย หล่อสู้นายไม่ได้ ไม่มีเงินมากเท่านาย ไม่ได้เก่งกาจ เหมือนนาย แล้วทำไมฉันต้องตอบตกลงด้วย นายคิดสิ คุณ สามี”
เชื่อเงินองไป ดวงตาที่จ้องเขม่นเธอเอาเป็นเอาตายกลับ เปลี่ยนเป็นกระพริบตาปริบ ๆ ดูชื่อ ๆ มื้อ ๆ น่ารักขึ้นมาทันที
จากนั้น สีหน้าของคุณชายสามเที่ขึงขังก็ดูอบอุ่นขึ้น ทันที สายตาที่ดูคลั่งจนน่ากลัวนั้นก็ดูจะหายไปในชั่วพริบตา ความกดดันภายในรถดูท่าจะสลายหายไปกลับสู่สภาวะปกติ
“เหอะ” คุณชายสามแย่ยังคงทำท่าที่หยิ่งผยองพิมพ์ออก มาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่มุมปากก็ยกขึ้นด้วยท่าทีที่สงสัย อยู่เล็กน้อย ถือว่าเธอมีสายตาเฉียบแหลม
เงินถั่วนิ่งเป็นพวกรู้จักสังเกตได้ดีมาก เธอรู้ได้ทันทีว่าตอน คุณชายสามเย่รู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว
เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย
ความฉลาดของเงินถั่วงคือเธอรู้ดีว่าไม่ควรต่างฝ่ายต่าง แข็ง ใส่กัน เธอรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และแก้ ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
เรื่องนี้ถ้าหากเป็นคนอื่นนั้น ไม่รู้จะอาละวาด โวยวาย ขนาดไหน แต่สำหรับเงินถั่วงนั้น ถึงแม้คุณชายสามแย่จะได้ เหตุผลขนาดไหน แต่เธอก็สามารถเอาอยู่
“ที่รักคะ พวกเราจะจอดรถอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน?” เป็นลั่วจึงรู้สึกว่าจอดรถอยู่ตรงนี้ตลอดคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ตรงนี้อยู่ใกล้กับบ้านตระกูลเงินมาก อีกอย่างเล้งทรงก็ยังอยู่ ด้านนอกนั่น
แต่เงินลั่วนิ่งไม่ได้พูดตรง ๆ ว่า ให้ออกไปจากที่นี่
คุณชายสามเถูกเงินลั่วนิ่งปลอบประโลมไปไม่น้อยแล้ว แต่อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงตอนที่เป็นลั่วถึงกำลังจะขึ้นรถ คำพูดที่ เล้งทรงพูดออกมานั้น ทำให้สีหน้าเขาเคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง “เธอกับเล้งทรงสัญญาอะไรกันไว้?”
เงิน วฉิงแอบถอนหายใจ นายคนนี้ไม่จบไม่สิ้นหรือไง?
เธอกับเล้งทรงสัญญาอะไรกันไว้น่ะเหรอ เป็นเธอที่อยากหลีกหนีเล็งทรงซะมากกว่า
เชื่อเงินที่ปกติเป็นคนฉลาดหลักแหลมคนนั้นหายไปไหน แล้ว? ถึงขนาดดูไม่ออกว่าเล้งทรงจงใจพูดให้เขาเข้าใจผิด หรือว่าวันนี้เขือเงินลืมเอาสมองออกมาจากบ้าน
ดังนั้นคุณชายสามแย่ในวันนี้เลยทำตัวเหมือนเด็กสาม
ขวบ
เงินลั่วถึงรู้สึกว่าจะรับมือกับสามเที่ทำตัวเป็นเด็กสาม ขวบนั้น คงจะใช้ไม้อ่อนเฉย ๆ ไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ทั้งไม้ อ่อนไม้แข็งกับเขา
เงินถั่วงแกล้งชักสีหน้า แสดงสีหน้าโกรธออกมา : “เย่อเฉิน เล้งทรงเป็นเมียนาย หรือฉันเป็นเมียนายกันแน่”
“ก็เธอน่ะสิ” เย่ซือเฉินตาเป็นประกายเล็กน้อย ภรรยาของ เขาก็ต้องเป็นเธอสิ เธอถามอะไรแปลกพิกล ตอนนี้เขา เกลียดไอเจ้าเล้งหรงนั่นจนแทบอยากกําจัดให้สิ้นซาก
แต่คุณชายสามเก็มองออกว่าตอนนี้ภรรยาตัวเองโกรธ ขึ้นมาแล้ว
เมื่อเห็นภรรยาตัวเองโกรธ คุณชายสามเก็ไม่ได้พูดอะไร อีก สีหน้าขึงขังก็ค่อย ๆ หายไป
“งั้นนายเชื่อคำพูดของคนนอกอย่างเขา หรือเชื่อคำพูด ฉัน?” เป็นลั่วนิ่งมองท่าทางของเขา แอบหัวเราะอยู่ในใจ แต่ยังคงแกล้งชักสีหน้าอยู่อย่างนั้น กลั้นไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา
“เชื่อเธอไง เ อ าพูดของเมียฉันไง” ในขณะนี้ คุณชาย สามเย่ตอบด้วยความเชื่อฟัง ยืม เธอไม่ได้มองผิดไป เขาเชื่อ ฟังจริง ๆ !
“อืม งั้นก็ดี” เป็นลั่วจิงโล่งอกไปที เรื่องนี้น่าจะผ่านไปได้ แล้วมัง
ตายแล้ว ๆ ทำไมเธอรู้สึกว่าคุณชายสามเย่ยังเอาใจยาก ยิ่งกว่าเด็กที่บ้านเธออีกนะ! ส่วนเด็กโม่ที่บ้านเธอนั้น ยิ่ง เทียบไม่ติดเลยหล่ะ
แต่คุณชายสามเยู่ที่ว่านอนสอนง่ายนั้นเชื่อฟังได้ไม่ถึง สามวินาที ทันใดนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด จับเธอ จูบอย่างดุเดือด
เขาที่จูบเธออย่างดูดดื่มในตอนนี้ดูบ้าบินอย่างมาก มือ ของเขาบีบคลำไปที่หน้าอกของเธออย่างแรง เขาบีบแรงจน เงินถั่วนิ่งรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย
เงินลั่วนิ่งรู้สึกตกใจ เมื่อไม่ใช่ดีขึ้นมาแล้วเหรอ? ทำไม อยู่ ๆ บ้าขึ้นมาอีกเนี่ย?
เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้ที่เป็นลั่วจึงปลอบประโลมเขานั้น ปลอบ ได้เพียงแค่อารมณ์โกรธของเขา แต่ไม่ได้รวมถึงเรื่องอื่น
แต่ก็ถือว่าเยซื้อเฉิน ในตอนนี้ยังพอมีสติอยู่บ้าง เขารู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่บนรถ เล้งทรงและเลขาหลิวก็อยู่ด้านนอกนั่น ดังนั้นเขาจึงไม่ทำอะไรเธอบนรถแน่นอน
ชั่วครู่หนึ่ง เขาก็ปล่อยเธอ เก็บกดความต้องการของตัว เองเอาไว้ จากนั้นก็โทรหาเลขาหลิว : “ขึ้นมาขับรถ เลขาหลิวรับคําสั่ง ก็รีบเปิดประตูขึ้นรถทันที
เมื่อประตูรถเปิดออก เล้งทรงมองเห็นเป็นถั่วงที่นั่งอยู่ เบาะหลังผ่านประตูรถ เมื่อเห็นเป็นถั่วนิ่งไม่มีอะไรผิดปกติ เสื้อผ้ายังเรียบร้อยอยู่ ดูนิ่งสงบ ราวกับว่าขึ้นรถแล้วไม่มี อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
เล้งทรงนิ่งอึ้งไป แววตาเป็นประกาย รู้สึกสับสนว่าเมื่อสัก ครูบนรถนั้น ตกลงเยอเงินได้ทำอะไรกับเธอหรือเปล่า?
แต่คำถามพวกนี้ก็ไม่มีใครตอบ จากนั้นเลขาหลิวก็ปิด ประตูรถ
“ท่านประธาน จะกลับเลยเหรอ?” เลขาหลิวลองแกล้งถาม
“ไปบ้านตระกูลเงิน” เชื่อเงินตอบกลับอย่างรวดเร็ว ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เพิ่งตัดสินใจ แต่เขาคิดเอาไว้นานแล้ว
เล้งหรงไปพูดเรื่องแต่งงานถึงบ้านตระกูลเงินแล้ว ถ้าหาก เขาไม่ทําอะไรบ้าง ภรรยาของเขาคงถูกคนอื่นแย่งไปแน่
“ไปบ้านตระกูลเงิน? ทำไม? ทำไมต้องไปบ้านตระกูลเงิน?” เป็นลั่วจึงตกใจมาก ทําไมต้องไปบ้านตระกูลเงิน เขา จะไปทำอะไรที่บ้านตระกูลเงินตอนนี้
“เธอคิดว่าไงล่ะ?” เย่ชื่อเป็นปรายตามองเธอนิ่ง ๆ เห็น ท่าทีของเธอแล้ว เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“สามีขา ตึกแล้วนะ พวกเรากลับบ้านกันก่อนเถอะ เงิน วงเข้าไปซบเขา ซบที่อกของเขา ออดอ้อนเขา
เงินลั่วจึง รู้ดีว่าการที่เขาไปพบกับคุณปู่นั้นจะเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้น เธอจะให้เยซื้อเฉินไปบ้านตระกูลเงินไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่ต้องรีบหรอก ไปบ้านตระกูลเงิน ใช้เวลาไม่นาน คุณ ชายสามเยยื่นมือไปโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด ดื่ม กับ การออดอ้อนออเซาะของเธอ แต่ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ