ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 385 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง หวาดกลัวเกินไปแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 385 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง หวาดกลัวเกินไปแล้ว (2)
บทที่ 385 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง หวาดกลัวเกินไปแล้ว (2)
ขณะนี้ เวินลั่วฉิงยังรออยู่ที่สนามบิน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้โดยสารวุ่นวายหนักเกินไป หรือว่าปัญหายังจัดการได้แล้ว ในที่สุดพนักงานก็ประกาศว่าสามารถขึ้นเครื่องบินได้แล้ว
เวินลั่วฉิงก็ถอนหายใจเบาๆ ไปหนึ่งที เธอกลัวจริงๆ ว่าวันนี้เครื่องบินจะหยุดบิน
หากเป็นแบบนี้ก็ต้องนั่งเครื่องไฟท์ของวันพรุ่งนี้กลับแล้ว ก็จะเสียเวลาไปหนึ่งวัน ตอนนี้จื่อโม่ยังรอเธออยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย
เวินลั่วฉิงขึ้นเครื่องบินพร้อมกับผู้โดยสารอื่นๆ วางสัมภาระให้เรียบร้อย
ตอนที่พนักงานเตือนว่าให้ปิดเครื่อง เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นสายสองสายที่ไม่ได้รับ คือเบอร์แปลกหน้า เพราะว่าเครื่องบินจะบินแล้ว เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้สนใจ ปิดเครื่องไปเลย
“หัวหน้า คุณเวินขึ้นเครื่อง กลับประเทศMแล้วครับ บินตอนเจ็ดโมงครึ่งครับ” ในไม่ช้าถังหลินก็ได้รับข้อความตอบกลับ
“อืม รู้ละ” ถังหลินจึงจะวางใจลง ที่แท้ฉิงฉิงกลับประเทศMแล้ว เขายังคิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นซะอีก
แต่ว่าทำไมฉิงฉิงถึงรีบกลับประเทศMขนาดนี้?
ในประเทศMมีคนสำคัญอะไรสำหรับเธอ?
สำหรับเรื่องลูกน้อยสองคนของเวินลั่วฉิง ถังไป๋เชียนช่วยเธอปกปิดได้ดีมาก เพื่อที่ถังไป๋เชียนจะปกปิดเรื่องของลูกน้อยสองคน ถึงขั้นไม่สนใจที่จะเผยความลับบางอย่างของเขาออกมา ให้คนรอบๆ ข้างสับสนตามข้อเท็จจริงกันไปเอง
ฉะนั้นจนถึงตอนนี้ถังหลินก็ยังไม่รู้เรื่องของลูกน้อยสองคนเช่นกัน
ฉะนั้น ถังหลินถึงได้รู้สึกแปลกใจว่าทำไมเวินลั่วฉิงถึงรีบกลับประเทศM
ณ ประเทศC แผนการของเย่ซือเฉินราบรื่นมาก คนของเขามาได้เร็วมาก เร็วกว่าที่เย่ซือเฉินคาดไว้ ในไม่ช้าคนของเขาก็ต่อยตีฝ่ายตรงข้ามไปหมด
เย่ซือเฉินได้รับโทรศัพท์ เปิดเครื่อง จากนั้นก็รีบโทรเบอร์โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงออกไป แต่ว่า ไม่มีสัญญาณจริงๆ โทรไม่ออก
เย่ซือเฉินขึ้นรถ รีบจากไป ขณะที่อยู่บนรถ เย่ซือเฉินโทรหาเวินลั่วฉิงตลอดเวลา เพราะว่าในใจของเขายังรู้สึกมีความไม่สบายใจอยู่ รู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
แต่ว่าไม่มีสัญญาณตลอดทางเลย
จนกระทั่งออกไปไกลมาก ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา โทรศัพท์จึงจะมีสัญญาณ โทรศัพท์ของเขาจึงจะสามารถโทรออก
โทรออกนั้นในที่สุดก็สามารถโทรออก แต่ว่าทางเวินลั่วฉิงกลับปิดเครื่องไปแล้ว
เย่ซือเฉินอึ้งไปเล็กน้อย จับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแน่น ทำไมเธอถึงปิดเครื่องแล้ว?
ตามสถานการณ์ทั่วไปแล้ว เธอจะไม่ปิดเครื่อง
เย่ซือเฉินสูดหายใจเบาๆ จากนั้นก็โทรหาเลขาหลิว โทรศัพท์ของเลขาหลิวนั้นโทรติด แต่ว่าไม่มีคนรับ
เขาโทรติดต่อกันหลายสายมาก แต่เลขาหลิวไม่รับเลย
จู่ๆ เย่ซือเฉินก็มีความรู้สึกไม่ค่อยดี วินาทีนั้น เปลือกตาของเขากระตุกกะทันหัน
เวินลั่วฉิงปิดเครื่อง โทรศัพท์ของเลขาหลิวโทรไม่ออก เย่ซือเฉินนึกถึงคุณปู่เย่
เย่ซือเฉินรีบหาเบอร์โทรศัพท์ของคุณปู่ แล้วโทรออกไป
เย่ซือเฉินรู้ว่าต้นตอของเรื่องนี้คือปัญหาของหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป
ขอแค่คุณปู่ไม่ได้ตกลงโอนย้ายหุ้นส่วนให้เขา เวินลั่วฉิงก็ไม่มีทางหย่า
ฉะนั้น ตอนนี้เขาจะต้องมั่นใจกับต้นตอของปัญหาก่อน
ในไม่ช้าสายโทรของคุณปู่เย่ก็ถูกรับแล้ว
“ฮาโหล โทรหาฉันมีเรื่องอะไร?” ในตอนที่คุณปู่เย่ได้รับสายโทรศัพท์จากเย่ซือเฉิน ในใจมีความสับสน เย่ซือเฉินโทรหาเขาเวลานี้อยากจะพูดอะไร?
เพราะว่าอยากได้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปหรือเปล่า?
“คุณปู่โอนย้ายหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้ผมแล้วใช่ไหม?” คุณปู่เย่กำลังคิดอยู่ เสียงที่เย็นชาของเย่ซือเฉินก็ส่งผ่านมา ทันใดนั้นทำเอาคุณปู่เย่ตกใจจนมือสั่นไปไม่กี่ที
เขาเดาถูกแล้วจริงๆ เป็นเพราะเรื่องหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจริงๆ ด้วย!
คุณปู่เย่ได้ยินน้ำเสียงนี้แล้วก็รู้ว่าเขาไม่อยากได้จริงๆ เย่ซือเฉินยิ่งไม่อยากได้ คุณปู่เย่ก็ยิ่งเป็นห่วง ยิ่งกระวนกระวาย
ถ้าหากว่าเย่ซือเฉินไม่อยากได้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจริงๆ งั้นต่อจากนี้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปก็ไม่มีคนดูแลแล้ว
“นายพูดว่าอะไรนะ? ฉันไม่เข้าใจเลยว่านายพูดอะไร? ฉันโอนย้ายหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้นายตอนไหน? นายกำลังฝันอยู่หรือเปล่า?” คุณปู่เย่ตัดสินใจที่จะไม่ยอมรับ เขารู้ว่าวันนี้เวินลั่วฉิงออกจากบ้านตระกูลเย่แล้ว ก็ได้ไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ป อีกอย่างก็ได้ให้เลขาหลิวเริ่มดำเนินเอกสารการโอนย้ายหุ้นแล้ว
ตอนนี้เย่ซือเฉินกำลังไปทำธุระที่ต่างประเทศ รอสองสามวันกลับมาแล้ว เอกสารก็ดำเนินได้พอประมาณแล้ว พอถึงเวลาเย่ซือเฉินไม่อยากได้ก็ต้องเอาแล้ว
“ไม่ได้ให้จริงหรอ?” เย่ซือเฉินได้ยินคุณปู่เย่ปฏิเสธ ในใจก็วางใจไป แต่ว่าก็ยังอดไม่ได้ ตามถามไปต่อ เพราะว่าเรื่องนี้สำหรับเขาแล้วสำคัญมาก นี่มีความเกี่ยวข้องถึงเรื่องใหญ่ของภรรยาเขา
“แน่นอน เรื่องแบบนี้ฉันต้องโกหกด้วยหรอ?” คุณปู่เย่ในขณะนี้ได้ตัดสินใจแล้ว กัดฟันก็ไม่ยอมรับ ห้ามยอมรับเด็ดขาด
คุณปู่เย่นั้นเข้าใจนิสัยของเย่ซือเฉินดี เขารู้ว่าเขายอมรับในเวลานี้ เพียงแค่คำเดียวของเย่ซือเฉินก็สามารถทำให้การโอนย้ายหุ้นหยุดลงได้
“ฉันจะโอนย้ายหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่ให้นายง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง นายคิดเพ้อคิดฝันเกินไปแล้ว” คุณปู่พูดเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง คำพูดนี้ของคุณปู่ยืนหยัดมาก ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติเลย คุณปู่ที่อายุเจ็ดสิบกว่าปีผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อยเลย แค่พูดโกหกเรื่องเล็กๆ แบบนี้จะทำเอาเขาล้มได้ยังไง
ขณะนี้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ คุณปู่เสแสร้งได้ดีมาก ขณะนี้เย่ซือเฉินก็อยู่บนรถ มีความวุ่นวายเล็กน้อย ฉะนั้นเย่ซือเฉินจึงฟังความผิดปกติอะไรไม่ออกเลย
เย่ซือเฉินจึงจะค่อยๆ วางใจลง เขาเข้าใจเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงคือคนที่ทำตามสัญญา ฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้รับหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป เธอไม่มีทางหย่ากับเขาแน่ๆ
อาจจะเป็นเพราะเขาคิดมากเกินไปแล้ว
“ตอนนี้ภรรยาผมอยู่ที่บ้านตระกูลเย่ไหม?” แต่ว่า เย่ซือเฉินยังไม่ได้วางใจอะไรขนาดนั้น จึงลองถามไปอีกประโยคหนึ่ง
เย่ซือเฉินรู้ว่าที่จริงแล้วเวินลั่วฉิงกำลังคิดถึงเรื่องที่จะหย่าอยู่ตลอดเวลา กำลังคิดถึงเรื่องของใบสัญญาของพวกเขาตลอดเวลา ฉะนั้น เป็นไปได้ที่เธอจะใช้โอกาสที่เขามาทำธุระไปที่บ้านตระกูลเย่ไปจัดการกับเรื่องหุ้นส่วนบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป
แน่นอน การที่เย่ซือเฉินถามแบบนี้ในขณะนี้ ก็เพราะว่าโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงโทรไม่ติดมาโดยตลอด เขาติดต่อเธอไม่ได้ เขาเป็นห่วงเธอ
ตามหลักแล้ว เวลาในเมืองAในตอนนี้ยังไม่ถึงเก้าโมง เธอก็ไม่มีทางกลับเช้า โทรศัพท์ก็คงจะไม่ปิดเครื่องเช้าขนาดนั้น
“เคยมา” คุณปู่เย่เข้าใจว่าจะพูดโกหกก็ไม่ควรพูดทั้งหมด ในความเท็จก็มีความจริงปนอยู่บ้าง จึงจะทำให้คนเชื่อได้ง่าย เท็จเท็จจริงจริง จึงจะทำให้คนแยกไม่ออก
ฉะนั้น คุณปู่เย่ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่เวินลั่วฉิงมาที่บ้านตระกูลเย่ อีกอย่างวันนี้ตระกูลกู้ก็เกิดเรื่องมากมายขนาดนั้น เขาไม่พูด ตามความสามารถของเย่ซือเฉินก็สามารถสืบได้
“จากนั้นล่ะ?” หัวใจของเย่ซือเฉินกระตุกขึ้นกะทันหัน เขาเดาถูกจริงๆ ด้วย เธอใช้โอกาสที่เขาออกมาทำธุระไปที่บ้านตระกูลเย่
ความเร็วนี้ช่างเร็วจริงๆ ไม่มีความเสียเวลาเลยสักนิดจริงๆ เธออยากจะหย่ากับเขาขนาดนั้นเลยหรอ?