ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 413 เธอสวยเกิน คุณชายสามเย่ไม่กล้ายอมรับ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 413 เธอสวยเกิน คุณชายสามเย่ไม่กล้ายอมรับ (1)
บทที่ 413 เธอสวยเกิน คุณชายสามเย่ไม่กล้ายอมรับ (1)
“ยัยซื่อบื้อ”ถังหลินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ยัยคนนี้เพิ่งจะปิดคดีใหญ่มาหมาดๆ ตอนนี้เรื่องราวกระจ่างถึงเพียงนี้กลับไม่เข้าใจอีก โง่แล้วใช่หรือไม่?
แต่ท่าทางของเธอเช่นนี้ก็น่ารักดี ชวนให้คนชื่นชอบยิ่งนัก มิน่าล่ะเย่ซือเฉินถึงได้มีใจให้กับเธอ
น้องสาวแสนดีของเธอถูกหมาป่าอย่างเย่ซือเฉินคาบไปเสียแล้ว ช่างคุ้มค่ากับเย่ซือเฉินเลยจริงๆเชียว
“รูปถ่ายคุณย่าของผม คุณดูว่าเป็นแม่ของคุณ และคุณก็รู้ว่าตอนนั้นแม่ของคุณถูกขาย ฉะนั้นเรื่องราวยังไม่พอชัดเจนอีกเหรอ?”ถังหลินอธิบายอย่างมีความอดทน อธิบายในสิ่งที่จะกระจ่างแจ้งแจ่มชัดจนไม่รู้จะชัดเจนไปกว่านี้แล้ว แต่บัดนี้ถังหลินกลับไม่รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเลยสักนิดเดียว
คำพูดของถังหลินนั้นแจ่มชัด ถึงจะโง่เง่าแค่ไหนก็คงจะเข้าใจแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเวินลั่วฉิงไม่ใช่คนโง่อะไร เธอเพียงแต่ไม่อยากจะเชื่อในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ต่างหาก
คุณแม่ของเธอตามหามาตั้งนานก็ยังหาไม่เจอ เธอสืบค้นมาหลายปีก็ไม่เจอเบาะแสอะไรเช่นกัน บัดนี้ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว จึงส่งผลให้เธอทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“คุณ คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ซึ่งน้ำเสียงในขณะนี้มีความสั่นเครือเล็กน้อย
“สามปีก่อน ตอนที่ผมเจอคุณที่ประเทศMครั้งแรก คุณมีหน้าตาละไม้คล้ายคลึงกับคุณแม่คุณมาก และเหมือนตอนคุณย่ายังสาวๆอีกด้วย”ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอก็รู้สึกว่าเธอต้องมีความเกี่ยวข้องกับคุณอาที่หายตัวไปแน่นอน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีทางจะมีหน้าตาคล้ายคลึงกันมากเช่นนี้เด็ดขาด
ฉะนั้นหลังจากที่กลับมาเขาก็เริ่มทำการสืบค้นทันที เขาพยายามติดต่อหาเธอไปหลายรอบ แต่ก็ถูกถังไป๋เชียนขัดขวางไว้หมด ข่าวที่เขาส่งหาเธอก็ถูกถังไป๋เชียนตัดขาดไปหมดสิ้น
ถังหลินรู้ว่าถังไป๋เชียนจงใจจะกีดกั้นเขา
หากไม่ใช่ครั้งนี้เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน เขาก็คงจะไม่มีโอกาสได้พบปะกับเธอเป็นแน่
“แน่ใจเหรอ?”เวินลั่วฉิงรู้ว่าคุณแม่ของเธอได้ตามหาญาติของตนมาตลอดชีวิต แต่บัดนี้ทุกอย่างมากองอยู่ตรงหน้า กลับทำให้เธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อย เพราะนี่คือตระกูลถังที่มีเบื้องหลังไม่ธรรมดาเสียเลย
ไม่ถูก น่าจะใช้คำว่าไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก!!
“น่าจะไม่มีปัญหา”ถังหลินผงกศีรษะเล็กน้อย
หน้าตาของเธอก็คือหลักฐานที่ดีที่สุด อีกทั้งคุณแม่ของเธอถูกขายไปเมื่ออายุห้าขวบ คุณแม่ของเธอแซ่ถัง ซึ่งข้อมูลทุกอย่างล้วนบรรจบกัน ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา ครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ดึงเส้นผมของตนออกมายื่นให้เขา“ไปตรวจDNA พิสูจน์ก่อน”
ถึงแม้ข้อมูลทุกอย่างจะสมเหตุสมผลกันอย่างลงตัว เธอมีหน้าตาคล้ายคุณย่าของเขามาก แต่ทว่าเวินลั่วฉิงคิดว่าควรจะพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อนถึงจะดี
วิธีที่ดีที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุดก็คือการตรวจDNAนั่นเอง
เธอเป็นคนมีนิสัยชอบความกระจ่างชัดเจนเสมอ
คุณแม่อยากจะตามหาญาติให้เจอ เธอจึงสะเพร่าไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องหลังอำนาจของตระกูลถังนั้นซับซ้อนมาก เธอจึงรู้สึกว่าไม่ควรมีหลักฐานที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาอย่างฉบับผลตรวจดีเอ็นเอนั้น
“ไม่จำเป็นหรอก ไม่ผิดแน่”แต่ถังหลินไม่ได้ยอมรับตามข้อเสนอ ถังหลินรู้ว่าสิ่งที่เขาสืบมานานแสนนานนั้นไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน
และอีกอย่างเขารู้สึกว่าถึงแม้จะไม่ใช่จริงๆ แต่เขาก็จะนับเธอเป็นน้องสาวอย่างไม่ต้องสงสัย
มีคนหน้าตาคล้ายกับคุณย่าขนาดนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่น้องสาว เขาก็ยินดีรับกลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลถังอยู่ดี
“ตรวจให้แน่ใจจะดีกว่า หากไม่ใช่ จะได้ไม่ต้องให้คนแก่ต้องมาดีใจเสียเปล่าประโยชน์”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงนึกถึงท่านปู่ถังและท่านย่าถังในงานเลี้ยงตระกูลกู้ขึ้นมา
เห็นคนชราที่น่ารักทั้งสองคน ตอนนั้นได้สูญเสียลูกสาวไปแล้ว ไม่รู้จะเสียใจขนาดไหนกัน
เวินลั่วฉิงไม่อยากให้คนชราทั้งสองต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอีก
“ก็ได้ ตรวจดูแล้วกัน”ถังหลินรู้จักนิสัยของเธอดี รู้ว่าสิ่งที่เธอตั้งมั่นเอาไว้แล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้นจึงทำตามอยากจะเธอบอก
เพราะยังไงเสียเรื่องนี้ก็ไม่ผิดคาดอยู่แล้ว ตรวจให้กระจ่างก็ไม่เป็นอะไร พอถึงเวลาเปิดเผยสู่สาธารณชนก็ไม่ต้องตกเป็นขี้ปากของผู้อื่น
“พอผลออกมาแล้วก็แจ้งบอกฉันด้วย”เวินลั่วฉิงคิดว่าหากคุณแม่เป็นลูกหลานของตระกูลถังจริง ไม่ว่าต่อมาจะเป็นเช่นไร เธอก็จะไปกราบไหว้คนแก่สองท่านนั้นที่บ้านตระกูลถังให้จนได้
มันเป็นความเจ็บปวดของคุณแม่เสมอมา และจะไม่ใช่ความเจ็บปวดของคนชราสองคนที่ได้แต่รอคอยได้อย่างไร พอผลตรวจออกมาแล้วเธอก็ไปเยี่ยมท่านทั้งสองคนจะดีกว่า
สำหรับตอนนี้ เธอยังต้องกลับไปหาเด็กน้อยทั้งสองคนของเธออีก
เธอเกรงว่าหากมีงานยุ่งขึ้นมา จะไม่มีเวลาไปดูเด็กน้อยสองคนนั้น
“หมายความว่าอะไร?คุณจะไป?ไปไหน?”ถังหลินได้ยินความหมายคำพูดของเธอก็ต้องหยุดชะงัก เกิดอะไรขึ้น?ตอนนี้เป็นเวลานับญาติกันไม่ใช่เหรอ?ทำไมเธอยังคิดจะไปอีก?
เธอรีบร้อนอย่างนี้จะไปไหน?มีเรื่องอะไรถึงทำให้เธอพะวงใจถึงเพียงนี้?
“ฉันกลับไปที่ประเทศMก่อน ไม่ กลับประเทศO ผลพิสูจน์ออกมาแล้วคุณก็บอกฉัน ฉันจะกลับมาอยู่แล้ว”เวินลั่วฉิงคิดถึงลูกรักทั้งสองคน ตอนที่เธอออกมาจื่อซียังนอนอยู่เลย หากจื่อซีตื่นนอนแล้วไม่เจอหน้าเธอ ไม่รู้จะร้องไห้หรือเปล่า?
“คุณจะไปอย่างนี้แล้วเหรอ?”ถังหลินรู้สึกร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ง่ายเลยกว่าจะให้เธอกลับมา และเย่ซือเฉินก็ยังมาไม่ถึงอีก
อันที่จริงไม่ใช่เย่ซือเฉินเชื่องช้า แต่ทว่าเขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะปิดคดีได้เร็วขนาดนี้
เวินลั่วฉิงมองเขาด้วยสีหน้าสงสัยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าถังหลินร้อนใจจะรั้งเธอไว้ให้อยู่ต่อ เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ผลตรวจDNAออกมาเร็วมาก วันเดียวก็ได้แล้ว”ถังหลินรีบหาข้ออ้างอย่างสมบูรณ์แบบมาได้
“ถึงเวลาฉันค่อยกลับมา”เวินลั่วฉิงกลับไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงแม้จะมีแค่วันเดียว เธอก็จะเร่งกลับไปพบหน้าลูกรักทั้งสองคนของเธอ
ถังหลินหยุดชะงัก แค่วันเดียวเธอยังคิดจะกลับไปอีก ไปกลับนั้นเหนื่อยเอาการอยู่ แต่เหตุใดถึงทำเช่นนี้?มีความเร่งรีบขนาดไหน?เรื่องสำคัญมาก?
หรือเพื่อถังไป๋เชียน?หรือยัยคนนี้จะชอบถังไป๋เชียนจริงๆ?
ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เย่ซือเฉินก็น่าสงสารมากเลย
“คุณกับเย่ซือเฉินเกิดอะไรขึ้น?”ถังหลินตัดสินใจล่อถามความคิดของเธอ เพื่อเย่ซือเฉิน และเพื่อเธอเองด้วย เพราะเขารู้สึกว่าถังไป๋เชียนเป็นคนแน่วแน่หัวแข็งเกินไป บางครั้งชอบทำเรื่องให้ดีเยี่ยมมากจนเกินไป เธออยู่กับถังไป๋เชียนอาจจะไม่มีความสุขก็เป็นได้
อีกทั้งถังไป๋เชียนปิดบังเธอไว้หลายเรื่อง ถ้าหากรักใครสักคนหนึ่งก็จะไม่หลอกลวงและปกปิดเรื่องใดๆทั้งสิ้น
แน่นอน หากเธอมีใจและยืนกรานเช่นนั้น เขาก็คงจะขัดขืนแต่อย่างใด
“หา?”เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา“คุณไม่รู้เหรอ?”
ความสัมพันธ์ของถังหลินกับเย่ซือเฉินนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว บวกกับความสัมพันธ์ของเธอกับถังหลินตอนนี้ เรื่องระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินมีหรือที่ถังหลินจะไม่รู้?
“ผมรู้เรื่องหย่าของพวกคุณ ผมก็แค่อยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกัน”มุมปากของถังหลินกระตุกเล็กน้อย และมีสีหน้าที่ซับซ้อนด้วย!!