ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 434 คุณชายสามเย่เกิดความหึงหวง (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 434 คุณชายสามเย่เกิดความหึงหวง (3)
ทที่ 434 คุณชายสามเย่เกิดความหึงหวง (3)
สีหน้าที่เคร่งขรึมอยู่แล้วของเย่ซือเฉินก็ยิ่งมืดครึ้มขึ้นมา ราวกับสามารถสาดน้ำฝนลงมาได้ตลอดเวลา ดวงตาทั้งคู่จ้องเขม่นอยู่ที่เธอราวกับจะจ้องให้ใบหน้าเธอเกิดหลุมขึ้นมาอย่างนั้น
คุณเย่!!
ดี ดีมาก ตอนอยู่ประเทศM เธอใช้สถานะจริงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา ขานเรียกเขาว่าคุณเย่ก็แล้วไป
ตอนนี้เธอใช้สถานะเวินลั่วฉิงเหมือนปกติที่อยู่กับเขา แต่เธอกลับเรียกเขาว่าคุณเย่ ฉะนั้นแสดงว่าเธอยากจะตัดสายสัมพันธ์แบ่งกั้นจุดยืนกับเขามากเลยทีเดียว?
ยังจะบอกว่าบังเอิญอีก?บังเอิญมากจริง บังเอิญจนตอนนี้เขาอยากจะบีบคอเธอให้ตายไปเลย
มุมปากของเลขาหลิวกระตุก บังเอิญ?ท่านประธานมาหาคุณนายโดยเฉพาะ จะไม่บังเอิญได้อย่างไร?
ท่าทางของท่านประธานก็คือมาหาคุณนาย ต้องการให้กระจ่างขนาดไหนก็เห็นได้ขนาดนั้น
คุณนายไม่ใช่เป็นคนฉลาดหรอกเหรอ?ทำไมบัดนี้จึงมองจุดนี้ไม่ออก?
“คุณเย่มาเยี่ยมคนไข้ที่โรงพยาบาลเหรอ?”เห็นเขาไม่ตอบและมีสีหน้าน่าสะพรึงกลัว เวินลั่วฉิงจึงถอนหายใจหนึ่งเฮือก คิดว่าเขาคงน่าจะมาดูคนไข้ที่โรงพยาบาล?
เพียงแต่คนนี้เขาเป็นอะไรกันนะ?ท่าทางเช่นนี้ของเขาน่ากลัวจัง
ระหว่างที่แต่งงานกับเขา ถึงแม้จะเคยเห็นเขาบันดาลโทสะมาก่อน แต่ก็ไม่ได้น่าสะพรึงกลัวเฉกเช่นตอนนี้
เพราะพวกเขาหย่าตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ตอนนั้นเลขาหลิวก็ได้ซักถามความคิดเห็นของเขาแล้ว ซึ่งเขาก็เห็นด้วย ฉะนั้นเวินลั่วฉิงจึงรู้สึกว่าเรื่องนั้นจบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ส่วนเวินลั่วฉิงที่รู้สึกว่าทั้งเรื่องไม่มีปัญหาอะไรแม้แต่น้อย
ฉะนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่มีทางคาดเดาว่าเย่ซือเฉินจะมาหาเธอโดยเฉพาะ ไม่ มารั้งเธอโดยเฉพาะ
ฉะนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตอนนี้เขาจะโกรธแค่ไหนก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย
ฉะนั้นเวินลั่วฉิงจึงได้ถามไปเรื่อยๆ
“คุณนายครับ ท่านประธานเขา……”ในที่สุดเลขาหลิวอดไม่ได้ที่จะต้องพูดออกมา
“เลขาหลิว คุณยังเรียกฉันว่าคุณนายอยู่เหรอคะ?ฉันกับคุณเย่ได้หย่ากันแล้ว เลขาหลิวเป็นผู้ดำเนินเรื่องขั้นตอนทั้งหมดเอง คุณลืมไปแล้วเหรอ?”มุมปากของเวินลั่วฉิงขยับยิ้มเบาๆ สีหน้าเป็นธรรมชาติมากโดยที่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย
เลขาหลิวสูดลมหายใจขึ้นหนึ่งเฮือก พลางหดตัวด้วยสัญชาตญาณ คุณนายช่างรู้จักจี้จุดตายจังเลย เพราะเรื่องนี้แหละ แค่วันนี้วันเดียวก็เกือบโดนท่านประธานทรมานให้ตายอยู่แล้ว ตอนนี้คุณนายยังมาเอ่ยถึงเรื่องนี้ในสถานการณ์เช่นนี้อีก มันเป็นการเอาชีวิตเขาชัดๆ?
เย่ซือเฉินจ้องมองดวงตาของเธอด้วยความเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งจุดเผาความโกรธเคืองขึ้นมาชนิดที่เอาไม่อยู่เลยทีเดียว
หย่าแล้วเหรอ?เธอฝันหวานไปแล้ว เขายินยอมเสียเมื่อไหร่กัน?
“คุณเย่ ฉันไม่เสียเวลาคุณแล้ว……”เห็นเขาไม่พูดอะไร เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่งงานมาสามเดือน เธอก็ยังพอรู้จักนิสัยของเขาอยู่บ้าง
ปกติเขาเป็นคนพูดแต่เรื่องสำคัญ สิ่งที่เขาไม่ใส่ใจ เขาจะไม่เหลียวแลมองแม้แต่แวบเดียว เขามาที่โรงพยาบาลน่าจะมีเรื่องสำคัญต้องทำล่ะมั้ง?
คาดว่าตอนนี้เธอน่าจะถ่วงเวลาเขาทำธุระ
ฉะนั้นเธอจึงรู้จักวางตัวเป็นฝ่ายออกไปเอง เพื่อจะได้ไม่ถูกเขาไล่ออกไป
“ไม่เสียเวลาเลย ผมมาหาคุณ”ในที่สุดเย่ซือเฉินก็เอ่ยปากพูดเสียที แต่น้ำเสียงลุ่มลึกและเคร่งเครียด ทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ค่อยออกกับภัยอันตรายที่ผ่านมา
“หาฉัน?หาฉันทำไม?มีเรื่องอะไรเหรอ?”เวินลั่วฉิงหยุดเดิน ก่อนที่จะไปสบตาเหมือนกำลังจะกินคนของเขา ท่าทางในตอนนี้ของเขาช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ “พวกเราหย่ากันแล้ว คุณยังจะมีเรื่องอะไรอีกเหรอ?”
พวกเขาหย่ากันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำตามเงื่อนไข สามารถให้เขาได้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมาครอบครองแล้ว
และอีกอย่าง ตอนที่เธอดำเนินการหย่าก็ไม่ได้เรียกร้องเอาเงินจากเขาแม้แต่บาทเดียว ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการแบ่งทรัพย์สมบัติ
เธอคิดไม่ออกจริงๆว่าตอนนี้เขายังมีเรื่องอะไรต้องมาหาเธออีก?
เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ยึดเหนี่ยวอยู่แต่กับวังวนเก่าๆไม่ปล่อย ซึ่งเรื่องที่เกินขึ้นในประเทศ M เธอจะถือสักว่าเป็นเรื่องบังเอิญและเหตุสุดวิสัยก็แล้วกัน
เขาบอกว่าเขามาหาเธอ แล้วที่โมโหอยู่ในขณะนี้ก็เพราะเธอเหรอ?แต่ทว่า พวกเขาได้หย่ากันแล้ว เธอรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่นะ?
ได้ยินเธอเอ่ยแต่คำว่าหย่าติดปากตลอดเวลา ดวงตาเย่ซือเฉินก็หรี่ขึ้นอย่างอันตราย ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเธอ
จากการเดินเข้ามาใกล้ของเขา กลิ่นอายอันตรายได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่สะดวก
“ถ้าหากคุณเย่มีธุระจริงๆ สามารถใช้เลขาหลิวมาหาฉันก็ได้ เวลาของคุณเย่ล้ำค่ามาก ไม่จำเป็นต้องมาเองหรอกค่ะ”ถึงแม้ท่าทางของเขาในตอนนี้ช่างน่าเกรงกลัวยิ่งนัก แต่เวินลั่วฉิงก็ยังคงสามารถสื่อสารความหมายของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจน เพียงแต่น้ำเสียงตอนพูดถึงท้ายประโยคเริ่มดิ่งต่ำลงมาบ้างเท่านั้น
เวินลั่วฉิงรู้สึกจากใจ ถึงแม้จะมีเรื่องอะไรจริงๆ เขาก็สามารถให้เลขาหลิวมาหาเธอ ไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง
พูดตามจริง เคยมีประสบการณ์เฉกเช่นตอนที่อยู่ประเทศ M ตอนนี้ได้เจอสีหน้าเช่นนี้ของเขา เวินลั่วฉิงก็เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
เลขาหลิวมองหน้าเวินลั่วฉิงก็พบว่ามีความตกตะลึงบางส่วน
สามารถสื่อความคิดของตัวเองออกมาในบรรยากาศที่ถูกท่านประธานกดดันเช่นนี้ ถือว่าคุณนายเป็นหนึ่งเดียวจากที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนและต่อไปก็คงจะไม่มีคนทำได้เช่นกัน
ความกล้าหาญของคุณนาย เขานับถือจับใจจริงๆ เพียงแต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็อย่าดึงเขาไปเกี่ยวข้องได้ไหม
เดิมทีเขาก็โดนเข้าใจผิดและซวยซ้ำซวยซ้อนเกินพออยู่แล้ว
ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น เขาพูดได้อย่างไร้เยื่อใยจริงแท้ หากมีธุระให้เลขาหลิวมา เขาไม่จำเป็นต้องมา?ด้านความรู้สึกดีๆสำหรับเธอ เขายังเทียบเลขาหลิวไม่ได้เลยหรือ ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีเท่าเลขาหลิวเลย?
มองดูท่าทางลอยหน้าลอยหน้า ราวกับไม่ใช่เรื่องของเธอเสียอย่างนั้น เย่ซือเฉินก็กัดฟัน แทบอยากจะกัดเธอให้ย่อยสลายไปเสียเลย
บัดนี้ เย่ซือเฉินไม่อยากจะพูดไร้สาระกับเธอกะทันหัน เดิมทีก็เดินมาถึงด้านหน้าเธออยู่แล้ว นาทีต่อมา เขาจึงอุ้มเธอขึ้นมาแบกไว้ที่ไหล่ของตน ก่อนที่จะสาวเท้าเดินออกไปด้านนอก
“โอ้?เย่ซือเฉิน คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงมานะ”เวินลั่วฉิงมึนงงจนเอ๋อไปเลย คนนี้เป็นบ้าแล้วใช่ไหม?ถึงได้เขากล้าแบกเธอต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้?
เลขาหลิวก็มึนงงจนเอ๋อไปเช่นกัน ไม่เสียทีที่เป็นถึงท่านประธาน ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
“ทำไม?ไม่เรียกคุณเย่แล้วเหรอ?”มุมปากของเย่ซือเฉินยกขึ้น ตอนนี้รู้จักร้อนรนแล้วหรือ!
“คุณเย่”เวินลั่วฉิงหยุดสตาร์ทไปสองวินาที ค่อยเปลี่ยนคำเรียกใหม่ เมื่อกี้ที่เรียกเช่นนั้นออกไปเป็นเพราะรีบร้อนเกินไปในชั่วขณะนั้น
ดวงตาหรี่เล็กน้อยของเย่ซือเฉินกวาดสายตามองเธอแวบหนึ่ง มือข้างหนึ่งตบไปที่ก้นของเธอหนึ่งครั้ง ไม่ได้แรงมากมาย เพียงแต่คำเตือนนั้นชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนยังไงแล้ว
ร่างกายของเวินลั่วฉิงแข็งทื่อ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เห้อะ เย่ซือเฉินถึงขึ้นตบเธอ อีกทั้งยังเป็นก้นของเธอตอนที่อยู่ในอิริยาบถเช่นนี้อีก?
เวินลั่วฉิงอยากจะด่าทอให้สาสมแก่ใจ แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่ค่อยอำนวยต่อเธอเท่าใดนัก
“คุณปล่อยฉันลงมาก่อน ปล่อยฉันลงมา มีอะไรพวกเราคุยกันดีๆ”เวินลั่วฉิงรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือให้เขาปล่อยเธอลงมาก่อน
ถูกเขาแบกไว้เช่นนี้ เพราะยังไงเสียเวินลั่วฉิงก็เป็นผู้หญิง จึงต้องมีความรู้สึกเก้อเขินอยู่บ้าง
“คุณคิดว่าเรื่องระหว่างเราแค่คุยกันดีๆก็สามารถคลี่คลายได้เหรอ?”ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้นอย่างอันตราย คุยกันดีๆ?!