ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 436 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 436 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (2)
บทที่ 436 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (2)
บัดนี้เย่ซือเฉินยังคงกดทับบนร่างของเธออย่างแน่นหนึบ มีเนื่อที่ไม่ใหญ่อยู่แล้วและด้วยท่าทางคลุมเครือเชิงคู่รักเช่นนี้ชวนให้หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา บวกกับการกระทำของเย่ซือเฉินที่เผด็จการ ห้าวเหิน และยังมีเสียงที่ส่งออกมาจากมือถืออีก บรรยากาศแบบนี้ช่าง……
เวินลั่วฉิงอยากจะกดวางสาย เพียงแต่จู่ๆเย่ซือเฉินก็ได้มาจูบเธออีกครั้ง ซึ่งเป็นจูบที่นำพาการลงโทษอย่างโหดร้าย เผด็จการจนหายใจไม่สะดวก
“ฉิงฉิง หกปีแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คุณติดต่อมาหาผมเอง”สายที่ยังไม่ได้ตัดทิ้งมีน้ำเสียงของผู้ชายส่งออกมาต่อ
เย่ซือเฉินเห็นหน้าจอมือถือไม่มีรายชื่อ มีเพียงหมายเลขที่เรียงรายกันเป็นแถว มันเป็นเบอร์ของผู้ชายคนนั้นนี่นา
เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเย่ซือเฉินนั้นลุ่มลึกมากขึ้น ไม่ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหกปี แต่เธอกลับจำเบอร์โทรได้อย่างแม่นยำ
เขารับรองได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้จำเบอร์มือถือของเขาเลย
บัดนี้เย่ซือเฉินฟังเสียงของคู่สายก็รู้สึกคุ้นหูชอบกล แต่บัดนี้เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ จึงขาดการแยกแยะจัดแจงอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ฉิงฉิง หกปีมานี่ ผมยังรักคุณไม่เปลี่ยนแปลง ผมรู้ด้วยนิสัยของคุณ หากตัดสินใจอะไรแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลง ฉิงฉิง พวกเราพลาดเวลาอันสวยงามไปหกปีเต็มแล้ว ผมไม่อยากจะพลาดอีก พวกเราเริ่มต้นกันใหม่ดีไหม……”
ผู้ชายคนนั้นยิ่งพูดยิ่งหยดน้ำหวานใส่ ซาบซึ้งกินใจเหลือเกิน ซึ่งเวินลั่วฉิงที่ถูกเย่ซือเฉินจูบอย่างรุนแรงไม่สามารถตอบได้เลย
บัดนี้เย่ซือเฉินจูบอย่างดุเดือด
ก่อนหน้านี้คุณปู่เวินเคยพูดว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นเหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก คุณปู่เคยพูดว่าสิ่งที่เธอตั้งมั่นเอาไว้ก็จะไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากเดิม
ฉะนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังไม่ลืมผู้ชายคนนั้น และเวลานี้ผู้ชายคนนั้นขอคืนดีด้วย?
เธอจะตอบรับหรือไม่?
ฉะนั้น เย่ซือเฉินจึงไม่ให้เธอมีโอกาสตอบเลย
“ฉิงฉิง คุณฟังอยู่หรือเปล่า?”อีกฝั่งหนึ่งของสาย ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ยินเวินลั่วฉิงตอบ น้ำเสียงยิ่งมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นมาอีก“ผมรู้ หลายปีมานี้ในใจคุณก็ยังมีผมอยู่ ไม่เช่นนั้นหลายปีมานี้ทำไมคุณถึงยังไม่แต่งงาน ผมรู้ว่าคุณก็ยังรอผมอยู่ เหมือนกับผมที่รอคุณอยู่……”
เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของผู้ชายอ่อนโยนขึ้นมาก ยิ่งพูดยิ่งกินใจมากขึ้นกว่าเดิม
บัดนี้ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเย่ซือเฉินน่ากลัวเหลือเกิน ใครว่าเธอยังไม่แต่งงานกัน?เธอแต่งงานกับเขาตั้งนานแล้ว
ใครบอกว่าเธอยังรอผู้ชายคนนั้นอยู่?เหลวไหลทั้งเพ!
จู่ๆเย่ซือเฉินก็คว้ามือถือของเวินลั่วฉิงขึ้นมา จากนั้นก็เปิดกระจกรถโยนทิ้งออกไป
TMD เขาบ้าไปแล้วที่ช่วยเธอรับสายโทรศัพท์ ยังTMDเปิดลำโพงอีก เขาเอาเรื่องใส่ตัวชัดๆ?
มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุก คนรับสายก็เป็นเขา คนที่โมโหในตอนนี้ก็เป็นเขาอีก และยังเอามือถือของเธอโยนทิ้ง เขาคิดจะโวยวายอะไรกัน?
รู้สึกว่ามือของเขากำลังปลดกระดุมเสื้อของเธออยู่ หัวใจของเธอเริ่มสั่นเทา เธอรีบไปจับมือของเขาไว้แน่น ห้ามการกระทำของเขา “เย่ซือเฉิน อย่าโวยวายเลย พวกเราหย่ากันแล้วนะ”
ตอนนี้เธอคือเวินลั่วฉิง แต่งงานเป็นเวินลั่วฉิง ฉะนั้นเธอจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาตอนอยู่ที่ประเทศMไม่ได้
แต่ทว่า จะทำเรื่องอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด เพราะพวกเขาได้หย่ากันแล้ว
“ได้ ไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักทะเบียนกัน”อันที่จริง เขาก็ไม่มีทางทำอะไรเธอบนรถหรอก แต่ทว่า มีบางเรื่องเขารู้สึกว่าตอนนี้จำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ซึ่งสิ่งนั้นก็คือการจดทะเบียนสมรส
“เย่ซือเฉิน พวกเราเพิ่งจะหย่ากันไม่นานมานี้เองนะ”เวินลั่วฉิงจ้องมองเขาด้วยความกระวนกระวาย ก่อนหน้านี้เพิ่งจะหย่ากันไปตอนนี้จะไปแต่งงานอีก?บ้าไปแล้วมั้ง?
“ผมตกลงหรือยัง?”เย่ซือเฉินจ้องมองเธอ ดวงตาก็หรี่ขึ้น ผู้หญิงคงนี้ยังจะมาพูดเรื่องหย่ากับเขาอีกเหรอ!
หย่า?เขาตกลงหรือยัง?ตั้งแต่นาทีที่แต่งงานกันมา เขาก็ไม่เคยคิดจะหย่าเลย เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าเขาไปทำงานต่างถิ่นแค่ครั้งเดียว เธอก็แอบย่องไปดำเนินการหย่าโดยที่เขาไม่รู้ จากนั้นก็หนีออกไป
บัญชีนี้เขายังไม่ได้คิดกับเธอเลย
“ในสัญญาเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า พอคุณได้หุ้นส่วนของบริษัท พวกเราก็จะหย่ากัน ตอนนั้นก็เคยพูดกันแล้วว่าหากคุณไม่อยู่ฉันสามารถไปหาเลขาหลิวได้ ตอนที่ทำเรื่องหย่าเลขาหลิวก็ได้ถามคุณแล้วด้วย ซึ่งคุณก็ได้ตกลงแล้ว มีปัญหาอะไรอีกเหรอ?”คิ้วของเวินลั่วฉิงขมวด นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราหารือกันก่อนแล้วเหรอ?ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นคนตกลงแล้วแท้ๆ
ตอนนี้เขาถือว่าเป็นอะไรกัน?
“ไม่มีปัญหา?เวินลั่วฉิง เพื่อจะได้หย่า คุณยังไม่เลือกวิธีเลย วางแผนทุกขั้นตอนได้อย่างแยบยลมาก คุณรู้ว่าเลขาหลิวต้องขอความคิดเห็นจากผมก่อน ฉะนั้นก่อนหน้านั้นคุณจงใจโทรมาขอพริตตี้รถกับผม คุณจงใจให้ผมเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องนี้ คุณวางกลอุบายกับผมอย่างนี้ คุณคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาเหรอ?”เพลิงโกรธในแววตาของเย่ซือเฉินได้ลุกโชนขึ้นมาอย่างร้อนแรง จ้องมองเธออย่างดุดัน หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ล่ะก็ ตอนนี้เกรงว่าเธอคงจะกลายเป็นผงธุลีไปเสียแล้ว
ใช่ ยอมให้เธอได้หย่าเป็นคนผิดพลาดของเขาเอง แต่ทว่าหากไม่ใช่เพราะเธอวางกลอุบายก่อน ตอนที่เลขาหลิวโทรหาเขาก็คงจะไม่เข้าไปผิดไปเป็นเรื่องอื่นหรอก
ตอนนี้ เธอยังจะถามเขาว่ามีปัญหาหรือเปล่า?
เวินลั่วฉิงจ้องมองเธอ อดไม่ได้ที่ดวงตาต้องกะพริบรัวๆ เธอไปวางอุบายเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ใส่ร้ายเธอชัดๆ ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก เธอคิดว่าช่วยเขาเอาหุ้นส่วนในบริษัทได้แล้ว เขาก็จะยอมหย่าอย่างร่าเริง ฉะนั้นเธอรู้สึกจับใจว่าไม่จำเป็นต้องใช้อุบายอะไรเลย
คิ้วของเวินลั่วฉิงยกขึ้นเล็กน้อย เข้าใจสาเหตุที่เขาโกรธกะทันหัน“ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องนี้คุณถึงมาหาเรื่องฉันนะ?”
เขาที่ทะนงตน บ้าบิ่น ไม่ยอมให้ใครมาวางกลอุบายเด็ดขาด แต่ทว่าเขาเข้าใจผิดจริงๆ
“คุณเย่ ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้วางกลอุบายกับคุณ มันไม่จำเป็นเลย หากคุณจะมาโกรธหรือไม่พอใจกับเรื่องนี้ อันที่จริงทั้งคุณและฉันต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า พวกเราแต่งงานตามเงื่อนไข ซึ่งเป้าหมายก็คือให้คุณได้หุ้นส่วนของบริษัทมาครอบครอง และในเมื่อคุณได้หุ้นส่วนมาแล้ว คุณก็ต้องตกลงหย่าอย่างแน่นอน ฉันไม่ได้วางอุบายใส่คุณ ไม่ใช่เหรอ?”เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ และเธอยังรู้สึกอีกว่าหากอธิบายแล้วปัญหาก็จะคลี่คลายลง
เขาน่าจะปล่อยเธอไป
แต่ทว่าเมื่อเย่ซือเฉินได้ฟังคำพูดของเธอ ไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อยเธอ ร่างกายของเขายิ่งกดทับตัวเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
ใบหน้าของเขายิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้น ดวงตาจับจ้องมองใบหน้าของเธอ พร้อมกับแอบกัดฟัน
ทำไมเธอถึงมั่นใจว่าเขาต้องตกลงหย่า ตั้งแต่นาทีที่เขาได้แต่งงานกับเธอ เขาก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ากันเลย เขาคิดว่าเวลาหนึ่งปีจะเพียงพอสำหรับให้เธอตกหลุมรักเขา แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ไม่ถึงสามเดือนผู้หญิงคนนี้ก็แอบซุ่มเงียบไปหย่าซะงั้น
“ไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักทะเบียน”เย่ซือเฉินมองเธอแวบหนึ่ง ไม่ได้อธิบายให้มากความ แต่เป็นการเน้นย้ำประโยคเก่าแทน
ตอนนี้เขาไม่อยากจะคุยกับเธออะไรทั้งสิ้น เพียงแต่อยากทำในสิ่งที่ตรงประเด็นและเป็นจริงเป็นจังมากกว่า