ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 456 อาการหึงหวงคุณชายสามเย่กำเริบ (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 456 อาการหึงหวงคุณชายสามเย่กำเริบ (6)
บทที่ 456 อาการหึงหวงคุณชายสามเย่กำเริบ (6)
“ค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะ”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอคงไม่อาจโต้เถียงกับคุณหมอได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งสิ้น
ดวงตาของไป๋ยี่รุ่นกะพริบปริบๆ ส่วนลึกของแววตาฉายรอยยิ้มบางส่วนออกมา
คุณหมอตรวจต่อ จากนั้นก็กำชับไม่กี่ประโยค ก่อนที่จะออกไป
ไม่นานไป๋ยี่รุ่ยก็ปิดตาอีกครั้ง น่าจะเป็นเพราะนอนหลับแล้ว
เวินลั่วฉิงไม่กล้าประมาทนั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างจนถึงเที่ยงคืน แล้วไป๋ยี่รุ่ยก็เริ่มมีไข้ขึ้นมา
ตอนที่คุณหมอเดินออกไปบอกว่าสิ่งที่กลัวที่สุดคือคนไข้มีไข้ ฉะนั้นเวินลั่วฉิงไม่กล้าเสียเวลา รีบไปตามคุณหมอ
โชคดีที่อาการไม่ได้รุนแรงจนย่ำแย่กว่าเดิม แต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายอยู่ดี
เวินลั่วฉิงเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีก และที่สำคัญเธอรู้จักนิสัยของไป๋ยี่รุ่ยดี หากเขาฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่กล้าออกไปแม้แต่ก้าวเดียว ขนาดกินข้าวยังเรียกเดลิเวอรี่เลย
อันที่จริงไป๋ยี่รุ่ยก็เคยฟื้นขึ้นมาอยู่ แต่มึนๆเบลอไม่นานก็หลับต่อ
จนถึงวันที่สามไป๋ยี่รุ่ยก็ฟื้นขึ้นมา คุณหมอบอกว่าอาการมั่นคงพ้นขีดอันตรายแล้ว
เวินลั่วฉิงนั่งเฝ้าอยู่อย่างนี้สองวันสองคืนโดยไม่เคยออกไปไหนเลย
บริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ห้องทำงานของเย่ซือเฉิน
“ท่านประธานครับ คุณนายไม่เคยมาที่โรงพยาบาลเลยครับและไม่ได้กลับบ้านตระกูลเวินด้วยครับ ไม่ทราบว่าไปไหน?”เลขาหลิวรายงานข่าวให้ประธานของตนทราบ ซึ่งขณะที่เลขาหลิวกำลังพูดอยู่สองขาก็เริ่มสั่นเทา
เขาเกรงกลัว ใช่แล้วเขากลัว สองวันมานี้ท่านประธานน่ากลัวมาก
เลขาหลิวรู้ว่าเมื่อท่านประธานได้ฟังข่าวเช่นนี้คงต้องน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม แต่เขาก็ต้องรายงาน
เลขาหลิวแอบถอนหายใจ จากนั้นก็ฝืนพูดว่า“สองวันนี้ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ได้อยู่ที่บริษัทครับ แม้แต่เลขาของเขาก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนครับ”
เมื่อเลขาหลิวพูดมาถึงจุดนี้รู้สึกว่าสองขาของตนสั่นไปหมดเลย
เมื่อนำสองประโยคหน้าหลังมาเชื่อมต่อกัน ความหมายก็จะชัดเจนมาก ไม่ว่าใครก็ฟังออกทั้งนั้น
แล้วเย่ซือเฉินจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
อันที่จริง เขาสามารถสั่งให้คนไปสืบว่าเธออยู่ที่ไหนก็ได้ แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น
ดวงตาของเย่ซือเฉินจ้องมองตรงไปยังเอกสารบนโต๊ะ ซึ่งเป็นรายงานที่เขาให้คนไปสืบเรื่องราวทั้งหมดในอดีตของเวินลั่วฉิงกับไป๋ยี่รุ่ย
รวมทั้งเรื่องราวในอดีตด้วย แน่นอนประเด็นสำคัญก็ยังคงเป็นเรื่องที่เวินลั่วฉิงเรียนมอปลายแล้วอยู่กับไป๋ยี่รุ่ย
เรื่องราวเล็กๆน้อยๆ มีมากมาย มีมากมาย
รวมไปถึงเรื่องไป๋ยี่รุ่ยสอนพิเศษเธอด้วย รวมไปถึงเรื่องไป๋ยี่รุ่ยสารภาพรักกับเธอ รวมไปถึงไป๋ยี่รุ่ยสร้างบรรยายกาศโรแมนติกต่างๆให้แก่เธอ
แน่นอน ยังมีสิ่งที่เธอทำเพื่อไป๋ยี่รุ่ยมากมาย
เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่จงใจทำเป็นเล่นตัว ถือตัว ฉะนั้นตอนนั้นเธอก็ได้ทำเพื่อไป๋ยี่รุ่ยแบบ ‘สะเทือนฟ้าดิน’มากมาย
อย่างเช่นว่าเธอทำการ์ด 99 ใบกันมือเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ไป๋ยี่รุ่ย ซึ่งเธอได้เขียนความในใจไว้ทุกใบด้วย
อย่างเช่นในวันวาเลนไทน์ เธอได้ไปเสาะหาเพื่อรวบรวมไฟแช็ครูปแบบต่างๆเพื่อมอบให้ไป๋ยี่รุ่ย เนื่องจากไป๋ยี่รุ่ยชอบเก็บสะสมไฟแช็ค
อ่านเรื่องที่เธอเคยทำเพื่อไป๋ยี่รุ่ย เย่ซือเฉินก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก อิจฉาจนหูตาร้อนเลยทีเดียว
ใครว่าเธอไม่รู้จักความรัก?ใครว่าเธอพลอดรักไม่เป็น?
เธอรู้ดี เธอรู้ดีกว่าใครอื่น ตอนที่มีความรัรก เธอทำได้ดีกว่าผู้หญิงคนอื่นมาก เธอรักลึกซึ้งมากกว่าคนอื่นๆด้วยซ้ำ
เพียงแต่ทุกสิ่งอย่างของเธอได้มอบให้แก่ไป๋ยี่รุ่ยหมดแล้ว
เขาจึงปิดกั้นหัวใจของตนกับผู้ชายคนอื่นๆ แสร้งทำเป็นไม่รู้จักรัก หรือน่าจะพูดว่าเธอไม่ตั้งใจจะเปิดใจ ฉะนั้นจึงไม่เข้าใจ
เย่ซือเฉินอ่านเรื่องราวระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยรู้สึกว่าเป็นการทรมานตนรูปแบบหนึ่ง แต่เขาก็ยังอดทนอ่านต่อไป
ตอนนั้นเกรดของเวินลั่วฉิงแย่จนดูไม่ได้ คุณครูเรียกไปคุยเป็นการส่วนตัว ถามเธอว่าตอนนี้ไม่ตั้งใจเรียน อนาคตจะเป็นอย่างไร?
จากนั้นเวินลั่วฉิงก็พูดออกมาเต็มปากอย่างรู้สึกสมเหตุสมผลว่า หลังจากเธอเรียนจบก็จะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย
เรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปทั่วโรงเรียนในขณะนั้น
ฉะนั้นตอนนั้นเธอคิดไว้ว่าเรียนจบก็จะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย ฉะนั้นตอนนั้นในแผนการใช้ชีวิตของเธอมีเพียงไป๋ยี่รุ่ย
เพื่อไป๋ยี่ร่ยแล้ว เธอสามารถสละทิ้งทุกอย่างได้
หากตอนนั้นไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดเสียก่อน เธอคงจะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ยเสียแล้ว
ตอนนี้ผ่านมาแล้วหกปี ไป๋ยี่รุ่ยบอกกับเธอว่าจะเริ่มต้นใหม่กับเธอ
เธออยากคบกับไป๋ยี่รุ่ยจะเป็นจะตาย แล้วเขาจะทำอะไรได้?
เขากับเธอเป็นสามีภรรยากันเพียงสามเดือน จะไปสู้ไป๋ยี่รุ่ยที่เหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยกกับเธอได้อย่างไรกัน
เธอกับไป๋ยี่รุ่ยนั้นเป็นรักแท้ตั้งแต่เด็ก เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก
ส่วนเขากับเธอเป็นสามีภรรยาสถานะจอมปลอมแค่สามเดือน ซึ่งแต่งงานตามเงื่อนไขข้อตกลงเท่านั้น
หากยังไม่ได้หย่าร้างกัน เขายังสามารถไปแย่งชิงได้อย่างเปิดเผย แต่ตอนนี้พวกเขาได้หย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับเรื่องห้าปีก่อน ถึงเขาจะมั่นใจแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลย และจากการสืบหาที่ผ่านมา เขาไม่มีคำอธิบายที่เป็นรูปเป็นร่างเพียงพอ
หากเธอไม่ยอมรับ เขาจะทำอย่างไรได้?
เขาคงไม่อาจแย่งเธอมา บังคับจิตใจให้เธออยู่ข้างกายได้หรอก ถึงแม้จะได้ตัวเธอมา แล้วหัวใจของเธอล่ะ?
วันนั้นเธอตัดสายของเขาทิ้ง เขาก็อดทนไม่ติดต่อเธอมาโดยตลอด จากนั้นก็ไร้ข่าวคราวของเธอไปเลย
เขาคิดว่าอย่างน้อยเธอจะโทรมาหาเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย
เวลาสองวัน เธอกับไป๋ยี่รุ่ยหายไปด้วยกันทั้งคู่ เรื่องราวแจ่มชัดทุกอย่างดีแล้ว
เพียงแต่เขาจะวางมืออย่างนี้เลยเหรอ?สนับสนุนพวกเขาเหรอ?
สนับสนุนพวกเขาอยู่ด้วยกัน?ด้วยสาเหตุใดกัน?นั้นมันเป็นผู้หญิงของเขา เป็นภรรยาของเขา ทำไมเขาต้องสนับสนุนเธอไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นด้วย
ใช่อยู่ที่เธอกับไป๋ยี่รุ่ยเคยมีความทรงจำดีๆในอดีต และเธอก็เคยพูดว่าจะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งไม่ใช่เหรอ?
เธอไม่ได้แต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย แต่เธอแต่งงานกับเขา!!
ยิ่งไปกว่านั้น คืนห้าปีก่อนเธอมอบครั้งแรกให้แก่เขา ต่อมาคนที่เธอแต่งงานด้วยก็ยังเป็นเขา
ฉะนั้นทำไมเขาต้องสนับสนุนให้เธออยู่กับผู้ชายคนอื่นด้วย
ฉะนั้น ถึงแม้จะต้องใช้วิธีแย่งชิง เขาก็จะแย่งเธอกลับคืนมา
เพียงแต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็สามารถเอาหลักฐานของห้าปีก่อนออกมาได้ ฉะนั้นตอนนี้เขายังขาดเหตุผลที่สมควรอยู่สิ่งหนึ่ง
“นายว่าหากผมทำลายบริษัทของไป๋ยี่รุ่ยทิ้งจะเป็นยังไง?”จู่ๆเย่ซือเฉินก็เงยหน้าขึ้นมามองเลขาหลิว
“หากท่านประธานทำเช่นนั้นจริง นิสัยอย่างคุณนายก็ไม่มีทางคืนดีกับท่านประธานเด็ดขาด คุณนายจะคอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับไป๋ยี่รุ่ยแทน”เลขาหลิววิเคราะห์เสร็จก็ตอบคำถามอย่างตั้งใจ
“นายไสหัวออกไปได้แล้ว” นัยน์ตาของเย่ซือเฉินราวกับเป็นธนูอันเยือกเย็นที่ยิงมาทางเลขาหลิว คำพูดนี้ไอ้สัตว์เอ้ย เขาไม่อยากฟังเลย แต่ในใจของเขาก็รู้ดีว่าเลขาหลิวพูดความจริง
นิสัยอย่างเธอต้องเป็นคำตอบอย่างนี้แน่นอน