ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 458 หลักฐานคืนห้าปีก่อน (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 458 หลักฐานคืนห้าปีก่อน (2)
บทที่ 458 หลักฐานคืนห้าปีก่อน (2)
“ผมได้ยินมาว่าพี่สะใภ้สามไม่ได้รักพี่สาม ผมยังได้ยินมาว่าพี่สะใภ้สามมีแฟนอยู่แล้ว”เสี่ยวชีค่อยๆพูดหนึ่งประโยค ขณะที่เสี่ยวชีพูดออกมาก็จงใจกดเสียงให้ต่ำลงเล็กน้อย
แน่นอน แค่กดเสียงเบาลงนิดเดียวเท่านั้น ดังนั้นทุกคนจึงได้ยินคำพูดของเสี่ยวชีกันหมด
รวมทั้งเย่ซือเฉินด้วย
คุณชายห้าฉิงตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น?เวินลั่วฉิงไม่ได้ชอบพี่สาม?เป็นไปได้ยังไง?
จะมีผู้หญิงหน้าไหนไม่ชอบคุณสมบัติอย่างพี่สามกัน?เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทที่เป็นหญิงสาวโดดเด่นเสียหน่อย ทำไมยังเลือกมากอย่างนี้อีก?
ยิ่งไปกว่านั้นเวินลั่วฉิงยังมีแฟนหนุ่มแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ก่อนหรือหลังหย่ากับพี่สาม?
“นายฟังใครพูด?”เวลานี้เย่ซือเฉินก็กำลังกลัดกลุ้มใจเรื่องนี้อยู่พอดี ได้ยินเสี่ยวชีพูดเช่นนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็จ้องมองเสี่ยวชี ซึ่งเต็มไปด้วยความเยือกเย็น หรือน่าจะพูดว่าดุร้ายถึงจะถ
เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้ชอบเขา และรู้เรื่องระหว่างเวินลั่วฉิงกับไป๋ยี่รุ่ยด้วย แต่เสี่ยวชีรู้ได้อย่างไร?
เสี่ยวชีสบตาของเย่ซือเฉินก็ต้องสะดุ้งกลัว อันที่จริงคำพูดเมื่อสักครู่นี้เสี่ยวชีเพียงแค่แจกแจงเอง เมื่อสักครู่เขาพูดเช่นนี้ก็หยั่งเชิงว่าเขาวิเคราะห์ได้ถูกต้องหรือไม่
เด็กน้อยเสี่ยวชีคาดไม่ถึงว่าพี่สามของตนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองมากถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้เสี่ยวชีเข้าใจแล้ว การวิเคราะห์ของตนมีความเป็นไปได้สูงมากเลยทีเดียว
“ผมฟังพี่ใหญ่เล่าเอง”เสี่ยวชีแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก หัวใจเต้นตุ๊บๆขึ้นมา ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ เสี่ยวชีตัดสินใจใช้พี่ใหญ่เป็นเกาะกำบัง เพราะพี่ใหญ่ไม่ได้กลัวพี่สาม
คิ้วของเย่ซือเฉินขมวด ถังหลินเป็นคนพูด?
พูดตามความจริง ช่วงที่เขากลับมาสองสามวันนี้ไม่ได้เจอหน้าถังหลินเลย เขาบอกว่ามีธุระไปต่างประเทศ
เย่ซือเฉินรู้ว่าถังหลินไม่ใช่คนปากพล่อย แต่เมื่อนึกถึงถังหลินให้ความสำคัญกับเวินลั่วฉิงเป็นพิเศษ……
ดวงตาของเย่ซือเฉินก็ลุ่มลึกลงมาเล็กน้อย!
“เสี่ยวชี อย่าพูดเหลวไหล ช่วงนี้พี่ใหญ่ยุ่งมาก ขนาดพี่ยังไม่ได้เจอหน้าพี่ใหญ่มานานแล้ว นายไปเจอหน้าพี่ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”จี้หซีเข้าใจความคิดของเสี่ยวชีดี แต่เรื่องนี้เดิมทีพี่สามก็มีอคติกับพี่ใหญ่อยู่แล้ว จี้หซีจึงไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนชุลมุนกว่าเดิมอีก
“ช่วงนี้พี่ใหญ่เหมือนเจอปัญหาเข้าแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่ฝั่งพี่ใหญ่เท่านั้น ฝั่งลุงถางก็เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเป็นปัญหาใหญ่อีกด้วย ได้ยินว่าคดีที่แปดตระกูลใหญ่มอบหมายให้ ลุงถางไม่อาจทำให้สำเร็จได้ หัวหน้ากงให้เวลาลุงถางอีกครึ่งเดือน ถ้ายังไขคดีมิได้ ครั้งนี้เห็นทีตำแหน่งหัวหน้าก็คงต้องตกเป็นของตระกูลกู้เป็นแน่”ขณะที่คุณชายห้าฉิงพูดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น สีหน้าก็ฉายความกังวลขึ้นมาบางส่วน
“เกรงว่าครั้งนี้ตระกูลถังคงต้องเจอกับศึกใหญ่เข้าแล้ว หากไม่สามารถไขคดีนี้ได้ ตระกูลถังอาจจะ……”
คุณชายห้าฉิงไม่ได้พูดจบ แต่ความหมายของเขาเป็นที่เข้าใจกันดีของทุกคน
ชั่วขณะนั้น ทุกคนไม่ได้พูดคุยกัน บรรยากาศภายในห้องจึงมีความกดดันเล็กน้อย
เย่ซือเฉินวางแก้วเหล้าในมือลง จู่ๆก็ลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอก
แน่นอนว่าเลขาหลิวต้องตามติดไปด้านหลังอยู่แล้ว
“พี่สามจะไปแล้วเหรอ?ไม่ดื่มเหล้าแล้วเหรอ?”คุณชายห้าฉิงเห็นเขาจะไป จึงอดถามไม่ได้
แต่ทว่าเย่ซือเฉินไม่ได้ตอบ เดินออกไปนอกห้องโดยตรง
“ดูออกว่าพี่สามอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้จริงๆว่าเวินลั่วฉิงกำลังคิดอะไรอยู่?ทำไมอยู่ดีๆก็เล่นหย่ากับพี่สามซะงั้น?ยิ่งไปกว่านั้นทำไมเธอถึงไม่ชอบพี่สามนะ?”สำหรับคุณชายห้าฉิง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องเวินลั่วฉิงไม่ชอบเย่ซือเฉินจริงๆ
แน่นอน คุณชายห้าฉิงพูดหลังจากที่เย่ซือเฉินเดินออกจากห้องไปแล้ว เย่ซือเฉินจึงไม่ได้ยิน
เย่ซือเฉินไม่ได้ยิน แต่จี้หซีได้ยิน จี้หซีจึงหัวเราะ“เรื่องความรักนั้นพูดกันยาก”
เวินลั่วฉิงไม่ชอบพี่สามนั้นมันก็เป็นเสรีภาพของเวินลั่วฉิง ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้อะไรทั้งสิ้น
“ได้ยินว่าบริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะล้มละลายแล้ว ตอนนี้ฐานะของตระกูลเวินไม่สู้ดีนัก”คุณชายห้าฉิงก็เอ่ยขึ้นมาอีกหนึ่งประโยคอย่างกะทันหัน
จี้หซีมองหน้าคุณชายห้าฉิงแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร บริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะล้มละลาย?มีพี่สามอยู่ทั้งคน บริษัทเวินซื่อกรุ้ปจะล้มละลายได้อย่างไร?
ขอเพียงพี่สะใภ้สามเอ่ยปากขอร้องคำเดียว ไม่สิ ไม่ต้องให้พี่สะใภ้เอ่ย พี่สามก็ต้องช่วยเหลือบริษัทเวินซื่อกรุ้ปอยู่แล้ว
บางครั้งความรักก็ทำให้คนไม่สามารถเดินไปด้านหน้าอย่างห้าวหาญโดยไม่ต้องเป็นห่วงข้างหลังใดๆ
“ผมก็จะไปแล้ว”เดิมทีเย่ซือเฉินเป็นคนเรียกจี้หซีมา ในเมื่อเย่ซือเฉินก็ไปแล้ว เขาก็จะคิดจะอยู่ต่อ เขายังต้องกลับไปอยู่กับผู้หญิงของเขา
อยู่เคียงข้างผู้หญิงของเขาดีๆไม่ห่าง
เขาไม่มีทางเป็นเหมือนพี่สามที่ปล่อยให้ผู้หญิงหนีไปเด็ดขาด
เรื่องของเขานั้นราบรื่น ฉะนั้นอีกไม่นานเขาก็สามารถขอเธอแต่งงานเข้าบ้านได้แล้ว
นึกถึงจุดนี้ บนใบหน้าของจี้หซีก็ประดับรอยยิ้มหวานขึ้นมา ซึ่งเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขและพึงพอใจนั่นเอง ถึงแม้จะย่นเวลาไปกว่าสองปี แต่ทว่าตอนนี้เขาสามารถตามหาความสุขของตัวเองกลับคืนมาได้แล้ว
ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้เธอหายไปไหนอีกเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาเห็นชีวิตแต่งงานของพี่สามก็ยิ่งคิดว่าควรแต่งงานแต่เนิ่นๆจะดีกว่า
“พวกนายไปกันหมดแล้ว เหลือให้ผมกับเสี่ยวชีดื่มด้วยกันเหรอ?พวกนายนี่จริงๆเลย”ใบหน้าของคุณชายห้าฉิงเผยความไม่สบอารมณ์เล็กน้อย จึงพลอยลุกขึ้นมายืนด้วยคน“ในเมื่อจะไปก็ไปกันหมดเลย เสี่ยวชีไปด้วยกันเถอะ”
“ได้”เสี่ยวชีรีบลุกขึ้นยืน เพราะยังไงเสียเขาก็ไม่ดื่มอยู่แล้ว ที่เขามาวันนี้ก็เพื่อมาดูความคึกคักเท่านั้นเอง
หลังจากที่เย่ซือเฉินออกมาจากห้องวีไอพีก็เดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วโดยตรง
“ดูแป๊ปเดียวก็รู้ว่าp ปลอมมาก เทคโนโลยีบ้าบออะไรกัน”
“ฝีมือคุณดี คุณpดูสิ”
บัดนี้ด้านในห้องวีไอพีห้องหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งน่าจะกำลังโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งห้องของพวกเขาไม่ได้ปิดมิดชิด บวกกับพูดคุยเสียงดัง จึงทำให้ได้ยินอย่างชัดเจนในขณะที่เดินผ่านบนทางเดิน
“ทำไมคิดจะรังแกกูที่ไม่เป็นเหรอ?อย่าว่าแต่รูปถ่ายกระจอกๆใบหนึ่งเลย แม้แต่ภาพในกล้องวงจรปิดกูยังเปลี่ยนได้เลย”ในน้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นเจือความหยาบคายเอาไว้ แต่มีความไม่ชอบใจมากกว่า
“เชอะ อย่างคุณเนี่ยนะ?ควรทำอะไรก็ไปทำๆซะ อีกอย่างบันทึกวีดีโอไม่ใช่รูปถ่ายสักหน่อย คุณจะเปลี่ยนยังไง?!”
มีความโต้เถียงขึ้นมาหนึ่งประโยคทันที เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในคำพูดของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นในน้ำเสียงของคนพวกนั้นแฝงความเย้ยหยันเอาไว้ด้วย
“ใครว่าไม่ได้ เป็นเพราะแกไม่ได้เรื่องเองต่างหาก ห้าปีก่อนกล้องวงจรปิดในร้านของฉัน ฉันยังเคยเปลี่ยนได้เลย ซึ่งไม่มีจุดรั่วไหลใดๆ เพียงพอในการลวงตาทุกคนได้เลย”ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับไปทันทีหนึ่งประโยค ซึ่งได้ยกเสียงให้ดังขึ้นอย่างเด่นชัด
แต่ทว่าผู้หญิงน่าจะดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย จึงพูดไม่ค่อยชัดเท่าใดนัก
“ยังเคยหลอกทุกคนมาแล้วเลย ผมว่าหลอกได้เฉพาะคนไร้การศึกษาอย่างคุณล่ะมั้ง”มีคนยิ้มเยาะขึ้นมาทันที คนอื่นๆก็เริ่มหัวเราะเสียงดังลั่นออกมาเช่นกัน
ผู้หญิงคนนั้นบันดาลโทสะ ยกเท้าขึ้นไปวางอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆชี้หน้าผู้คนที่อยู่ภายในห้องทีละคน “พวกคุณยังเชื่อใช่ไหม ฉันบอกอะไรเอาบุญก็ได้ ตอนนั้นแม้กระทั่งคุณชายสามเย่ก็ถูกฉันหลอกมาแล้ว”
ขณะที่ผู้หญิงพูดคำนี้ออกมานั้น เห็นได้ชัดว่ามีความโอ้อวดและภาคภูมิใจในตัวเองหลายส่วน!