ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 463 หลักฐานในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน คุณชายสามเย่มาเพื่อชำระแค้น (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 463 หลักฐานในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน คุณชายสามเย่มาเพื่อชำระแค้น (2)
บทที่ 463 หลักฐานในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน คุณชายสามเย่มาเพื่อชำระแค้น (2)
ตอนนี้เวินลั่วฉิงตอบอย่างซื่อสัตย์ และตอบไปตรงๆ อืม ตรงจริงๆ ตรงจนคุณชายสามเย่อยากบีบคอเธอให้ตาย !!
“คุณอยู่กับไป๋ยี่รุ่ยตลอดเวลา สองวันสองคืนเต็มๆงั้นเหรอ?”มุมริมฝีปากของคุณชายสามเย่ยกขึ้นเล็กน้อย มีความเย็นเฉือดเล็กน้อย
พวกเขาอยู่กันสองต่อสอง สองวันสองคืนเต็มๆ……
ตอนนี้เขาอยากฆ่าคน อยากฆ่าไป๋ยี่รุ่ย
เวินลั่วฉิงขยับมุมริมฝีปาก ไม่พูดอะไร ไม่ตอบกลับอะไร ยังก็เป็นแบบที่เขาพูดจริงๆ สองวันนี้เธอก็อยู่กับไป๋ยี่รุ่ยจริงๆ
แต่ว่า ตอนนี้เขาย้ำคำว่าสองวันสองคืน ความรู้สึกนั้นเหมือน……
ตอนนี้เธอไม่ตอบกลับอะไร คุณชายสามเย่ก็รู้คำตอบแล้ว ที่จริงเขารู้คำตอบตั้งแต่แรกแล้ว แต่เมื่อเห็นเธอยอมรับในตอนนี้ เขายังคงรู้สึกว่าความหึงหวงในใจกำลังจะบ้าคลั่ง
จู่ๆเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วยืนตรง จู่ๆก็ยืดมือมา แล้วดึงเธอเข้ามา จากนั้นก็กดเธอไปที่รถด้านหลังเลย
ร่างกายของเขากดทาบที่ตัวของเธอแน่น แต่ว่าเขาไม่ได้จูบเธอ ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองเธออยู่อย่างนั้น จ้องมองใบหน้าของเธอ จ้องมองริมฝีปากของเธอ
เขากำลังคิดอยู่ว่า สองวันสองคืนเต็มๆ ไป๋ยี่รุ่ยทำอะไรกับเธอบ้าง?
เคยจูบเธอไหม ?เคยทำ.……
คุณชายสามเย่แค่คิด ก็รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าละ
“คุณอยู่ด้วยกันกับเขาสองวันสองคืน ทำอะไรกันบ้าง ?”
มือข้างนึงของเขายกขึ้น จับไปที่ริมฝีปากของเธอ ถูไปทีละนิด จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของตัวเอง เสียงอู้อี้และหนักหน่วงเล็กน้อย
เขาห่วง ห่วงมาก ห่วงจนจะเป็นบ้า เขาไม่อยากไปสงสัย แต่ว่า เขารู้ชัดเจนในใจ ในใจของเธอไม่มีเขา ดังนั้นเขารู้ดีว่าเธอเคยคิดที่จะอยากรักษาร่างกายตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกเพื่อเขา
ทางกลับกันเธอกับไป๋ยี่รุ่ยเป็นคู่ชายหญิงที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก คนที่เธอรักคือไป๋ยี่รุ่ย คนในใจของเธอก็คือไป๋ยี่รุ่ย เมื่อก่อนตอนเธอเรียนก็เคยบอกว่าจะแต่งงานกับไป๋ยี่รุ่ย
ดังนั้น ถ้าเรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ สำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
“เย่ซือเฉินคุณเน้นแต่คำว่าสองวันสองคืนหมายความว่าไง?”เวินลั่วฉิงกะพริบตาอย่างรวดเร็ว เย่ซือเฉินเน้นคำว่าสองวันสองคืนอีกครั้ง ถึงเธอจะไม่คิดมากอะไร ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
“ ไป๋ยี่รุ่ยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บหนักมากด้วย”เวินลั่วฉิงจ้องมองเขา ในสายตามีความโกรธอยู่นิดหน่อย เขาคิดว่าทุกคนจะเป็นคนอันธพาลเหมือนเขา เป็นคนหื่นเหมือนเขาหรอ?
ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะไม่ได้พูดเรื่องการได้รับบาดเจ็บของไป๋ยี่รุ่ยอย่างละเอียด แต่ว่าเธอเน้นว่าไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บหนักมาก
การได้รับบาดเจ็บหนักมาก ก็ย่อมจะไม่มีทางมีความคิดสกปรกโสโครกอย่างที่เย่ซือเฉินคิดแบบนั้น
เย่ซือเฉินตะลึงเล็กน้อย มึนงงเป็นเวลาสองวินาที แล้วค่อยรู้ตัวอีกที รู้ตัวว่าเธอกำลังอธิบายให้เขา
เธอบอกว่าไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บหนักมาก ดังนั้น เรื่องที่เขาเคยได้ยินก่อนหน้านั้นเป็นเพราะไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บ?
ดังนั้น สองวันนี้ที่เธออยู่กับไป๋ยี่รุ่ยแค่เป็นเพราะไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บ?
ดังนั้น ระหว่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้มีเรื่องอะไรอื่นๆเกิดขึ้น ยังไงเมื่อกี้เธอก็ได้พูดแล้ว ไป๋ยี่รุ่ยได้รับบาดเจ็บหนักมาก
ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น แน่นอนว่าไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
แต่ว่า เขาคิดว่า ถึงไป๋ยี่รุ่ยจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน เวลาจูบได้ไป๋ยี่รุ่ยก็จะจูบแน่
ดังนั้นคุณชายสามเย่ยังคงหวงมาก หวงมากสุดๆ
แน่นอน คำพูดนี้คุณชายสามเย่ไม่ได้พูดออกมาในตอนนี้
แต่เห็นสีหน้าเธอยังนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณชายสามเย่ รู้สึกว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดจริงๆ
“ตอนนี้ คุณปล่อยฉันได้แล้วใช่ไหม ฉันยังต้องไปเยี่ยมคุณปู่ที่โรงพยาบาล”เวินลั่วฉิงในตอนนี้ยังถูกเย่ซือเฉินกดทับอยู่ที่รถ เธอดิ้นรนสองที แต่ก็ดิ้นไม่หลุดสักที ท่ายืนของเขาและเธอในตอนนี้มันช่างไม่สง่างามเลย
เวินลั่วฉิงคิดว่า เมื่อกี้เธอได้อธิบายชัดเจนแล้ว เขาน่าจะปล่อยเธอได้แล้ว
“ไม่รีบ”แต่ว่าเย่ซือเฉินไม่ใช่แค่ไม่ปล่อยเธอ แต่กลับยังขยับเข้าใกล้อีก กดแน่นขึ้นอีก เขายกมุมริมฝีปากขึ้น รอยยิ้มก็ค่อยๆเบ่งบานบนใบหน้าของเขา
แต่ว่า เวินลั่วฉิงมองรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกน่าขนลุกขึ้นมา
สถานการณ์ที่เขายิ้มขนาดนั้นในตอนนี้มันหมายความว่ายังไง?ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเรื่องยังไม่จบ และรู้สึกว่าเรื่องต่อมาถึงจะเป็นประเด็น และเป็นหัวข้อหลักมากกว่า
“ ทำไมจะไม่รีบ ฉันรีบไปเยี่ยมคุณปู่ที่โรงพยาบาล ”เวินลั่วฉิงใจสั่น สารรูป ของเขาในตอนนี้ เธอยิ่งอยากไปจากเขาให้เร็วขึ้น ยิ่งไกลจากเขายิ่งดี
เธอรู้ บางครั้งเวลาเขาเป็นบ้าขึ้นมา เรื่องอะไรก็กล้าทำหมด
“เวินลั่วฉิง ระหว่างเราสองคนยังมีเรื่องที่จะต้องเคลียร์ต้องสะสางกันอีกเรื่องนึง?”เย่ซือเฉินยิ้มยกริมฝีปากกว้างขึ้น รอยยิ้มนั้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งชัดเจน
“อะไรนะ?”แต่เวินลั่วฉิงเห็นแบบนี้แล้วในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกมากขึ้น
ระหว่างเธอกับเขายังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์ต้องสะสางเหรอ?
เรื่องอะไรที่ต้องเคลียร์ต้องสะสางกัน?เรื่องการหย่าเหรอ ? หรือว่าเรื่องของห้าปีก่อน
เรื่องการหย่า เธอก็ได้เคลียร์กับเขาชัดเจนแล้ว และเรื่องนั้นเมื่อห้าปีก่อน ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นเธอ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาหลักฐานเจอ
ตอนนั้น เธอวางแผนได้ไร้ร่องรอย ขนาดตอนนั้นเขายังหาหลักฐานไม่ได้ แล้วตอนนี้เรื่องก็ผ่านไปตั้งห้าปีแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะหาหลักฐานได้อีก
ดังนั้น ถ้าเขาพูดถึงเรื่องห้าปีก่อนจริงๆ เธอก็จะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ให้ตายก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด
“ห้าปีก่อน เรื่องในThe Kerry Center Hotel ” และแล้ว สิ่งที่เย่ซือเฉินพูดก็คือเรื่องนั้นเมื่อห้าปีก่อนจริงด้วย ตอนเย่ซือเฉินพูดคำนี้ รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากก็ลึกขึ้นเล็กน้อย ภายในแววตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง
“หมายถึงอะไร? ก็คือเรื่องที่คุณถูกคนอื่นข่มขืนในครั้งนั้นเหรอ ? แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”เมื่อกี้เวินลั่วฉิงได้คิดดีแล้ว ตีให้ตายก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด ตอนนี้เธอก็เลยแกล้งทำเหมือนไม่รู้อะไร
ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงตัดความเกี่ยวข้องได้อย่างสะอาดมากเหมือนไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันมาก่อนเลย
“ผมจะดูว่าคุณจะแกล้งถึงตอนไหน ?”เย่ซือเฉินมองเธอ ดวงตาสั่นไหว ขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ
“ฉันยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดเลย ?”เวินลั่วฉิงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อ ไม่ยอมรับ ในขณะที่พูด เธอดิ้นรนแรงๆอีกสองที แต่ก็ดิ้นไม่หลุดซะที
“ เย่ซือเฉิน ห้าปีก่อนที่คุณถูกคนอื่นข่มขืนมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ถ้าคุณจะมาหาว่าเป็นฉันเป็นตัวกลางเรื่องนี้ละก็ งั้นคุณก็ต้องเอาหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ออกมาสิ ทำไมฉันต้องถูกคุณใส่ร้ายโดยไม่มีเหตุผลด้วย” เวินลั่วฉิงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ดังนั้น ที่เวลานี้เธอจึงพูดเกินไปจริงๆ ก็เพราะเวินลั่วฉิงรู้ดี ว่าหากเธอยอมรับ เป็นไปไม่ได้ที่เย่ซือเฉินจะปล่อยเธอไปง่ายๆ
ผลที่ตามมานั้น เธอไม่กล้าคิดเลย
เย่ซือเฉินจ้องมองเธอ มองไปสักพัก แล้วหัวเราะเบาๆทีนึง :“เวินลั่วฉิง คุณแน่มาก ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ ให้ตายก็ไม่ยอมรับ ”
เขาคิดอยู่แล้วว่าเธอจะไม่ยอมรับ แต่ตอนนี้ในมือเขาก็มีหลักฐานที่เพียงพออยู่แล้วล่ะ!