ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 477 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 477 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (1)
ทที่ 477 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (1)
“ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับ” สองตาของเวินลั่วฉิงกระพริบๆอย่างเร็ว โดยฉลาดของรุ่นพี่แล้ว ต้องพอเดาออกว่าเธอทำไมถึงไม่สะดวกรับสายในตอนนี้ แต่รุ่นพี่ก็ยังถามต่อไปเรื่อย?
“อยู่กับใครหรือเปล่า? ดังนั้นจึงไม่สะดวกเหรอครับ?” ถังไป๋เซียนถามต่อไปอีกครั้ง ถ้าฟังดีๆ จะสังเกตได้ว่าตอนนี้ ลมหายใจของเขากำลังร้อนรนใจเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงฟังน้ำเสียงของถังไป๋เซียนออกว่าไม่ค่อยปกติ เธอหันไปมองเย่ซือเฉิน จากนั้นตอบกลับไปเบาๆว่า: “ใช่ ฉันอยู่ด้วยกันกับเย่ซือเฉิน”
เย่ซือเฉินตะลึง นึกไม่ถึงจริงๆ เธอจะตอบถังไป๋เซียนตามตรงว่าเธออยู่กับเขา
เธอหมายความว่าไง? เมื่อกี้เธอยังไม่ยอมรับสายต่อหน้าเขา ตอนนี้ก็กลับบอกถังไปเซียนตรงๆ?
“คุณอยู่กับเย่ซือเฉิน? ทำไมคุณถึงอยู่กับเย่ซือเฉิน? คุณทำไปไปอยู่กับเขาอีกแล้ว?” น้ำเสียงของถังไป๋เซียนสูงขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน กลายเป็นการซักถาม
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว: “พี่คะ ฉันอยู่ด้วยกันกับเย่ซือเฉินจะมีปัญหาอะไรหรือคะ?”
เวินลั่วฉิงก็ไม่รู้ว่าทำไม ได้ยินถังไป๋เซียนซักถามเธอเช่นนี้ในตอนนี้ ในใจรู้สึกไม่สบายใจอย่างกะทันหัน
เธออยู่กับเย่ซือเฉินแล้วทำไมเหรอ? ทำไมเธอถึงอยู่กับเย่ซือเฉินไม่ได้?
เธออยู่กับเย่ซือเฉิน เหมือนไม่มีผลกระทบต่อใครนี่?
เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำไมคำพูดนี้เขาฟังแล้วดีต่อใจจังเลย?
ใช่สิ เมียของเขาอยู่ด้วยกันกับเขาแล้วทำไมเหรอ? ไปขัดขวางใครเหรอ?
ไอ้ถังไป๋เซียนเข้ามายุ่งเรื่องมากเกินไปแล้ว
“คุณกับเขาหย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอครับ?” ถังไป๋เซียนแอบถอนหายใจลึกๆทีหนึ่ง สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องพูดออกมาคำหนึ่ง
สายตาของเย่ซือเฉินกำลังมองเธอและกระพริบอย่างเร็วหนึ่งครั้ง
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้น ในใจยิ่งรู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดเจน
เธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้วก็จริง แต่ว่าใครเป็นคนตั้งกฎว่าหย่ากันแล้วจะเจอกันอีกไม่ได้?
สำหรับคำถามของถังไป๋เซียนในเวลานี้ เวินลั่วฉิงไม่อยากจะตอบ: “รุ่นพี่คะ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
ถังไป๋เซียนเป็นคนฉลาด ต้องฟังออกว่าเวินลั่วฉิงไม่อยากพูดกับเขาต่อ อยากวางสายแล้ว ถังไป๋เซียนเสแสร้งเก่งมากที่สุด ยิ่งเป็นคนที่ทนกับความโมโหได้ แต่ว่าตอนนี้กลับใจร้อนอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกได้ว่าเวินลั่วฉิงกับเขากำลังมีความขัดแย้งกัน เขารู้สึกเหมือนเวินลั่วฉิงกำลังจะห่างเหินเขาไป
ห่างเหินเขา จากนั้นยอมรับเย่ซือเฉินเหรอ?
“ฉิงฉิง เย่ซือเฉินไม่ได้เป็นคนที่ง่ายๆอย่างที่คุณคิด เขาเข้าใกล้คุณมีจุดมุ่งหมายที่ไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นคุณอย่าเชื่อใจเขา……”
“พี่คะ ว่าคนอื่นลับหลังมันไม่ถูกนะคะ” เวินลั่วฉิงกระพริบตาอย่างรวดเร็วและขัดขวางคำพูดของถังไป๋เซียนทันที
ตอนที่เวินลั่วฉิงพูดเช่นนี้ น้ำเสียงก็เฉยๆเหมือนปกติ แต่ว่าในตาของเธอก็มีความโกรธอยู่ด้วย
ปกติเวินลั่วฉิงก็เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อนเหมือนกัน เพียงแต่ว่า ปกติเธอเป็นคนที่ใจเย็นเกินไป ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ดังนั้นมองดูแล้วเหมือนนิสัยดีเกินไป มองดูแล้วเหมือนจะพูดง่ายมากเป็นพิเศษ
เย่ซือเฉินได้ยินถังไป๋เซียนว่าเขาไม่ดี ก็ได้ยินคำพูดที่เวินลั่วฉิงพูดอย่างชัดเจน ในตอนนี้เขายิ่งเห็นความโกรธในตาของเธอได้อย่างชัดเจน
ปกติแล้วเธอมักจะแสร้งทำเป็นดีเหลือเกิน ดังนั้นเวลาที่เธอโกรธแบบนี้จะได้เห็นน้อยครั้งมาก
ความโกรธในสายตาเธอในตอนนี้ ไม่ใช่ความโกรธแบบที่เขาทำให้โกรธอย่างอ่อนหวาน แต่เป็นความโกรธที่โกรธจริงๆ
ดังนั้นเธอกำลังโกรธอยู่จริงๆ
เพราะได้ยินถังไป๋เซียนว่าเขาไม่ดีจึงโกรธจริงๆ อีกทั้งคำพูดนั้นที่เธอพูดเมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการปกป้องเขา
เย่ซือเฉินเพิ่งรู้ว่า ภรรยาตัวเล็กๆของเขาก็มีเขาอยู่ในใจเหมือนกัน และบางทีตำแหน่งที่เขาอยู่ในใจเธอก็สำคัญไม่เบาด้วย
ถ้าไม่งั้น เธอไม่มีทางโกรธถังไป๋เซียนเพื่อปกป้องเขาอย่างแน่นอน
เย่ซือเฉินคิดแล้ว อดใจไม่ไหวจนมุมปากยิ้มกว้างๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเบ่งบานอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกแบบนี้ดีจังเลย
ตอนนี้เวินลั่วฉิงกำลังรับโทรศัพท์อยู่ ไม่ได้มองมาทางเย่ซือเฉิน ดังนั้นจึงไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ซือเฉิน
“ฉิงฉิง คุณฟังผมอธิบายก่อนนะครับ ผมไม่ได้ว่าเขาไม่ดี ผมแค่อยากเตือนคุณ อย่าไปหลงกล บางครั้งคำพูดของผู้ชายเชื่อใจไม่ได้” ถึงไป๋เซียนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว วินาทีนั้นในใจรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ที่จริง เมื่อกี้ก็เพราะเขารู้ว่าเย่ซือเฉินอยู่ข้างๆเวินลั่วฉิง รู้ว่าเย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเขา ดังนั้นถึงได้แกล้งพูดแบบนั้น เขาคิดว่า เวินลั่วฉิงได้ยินเขาพูดแล้ว อาจจะสงสัยในตัวของเย่ซือเฉินซะบ้างก็ยังดี หรืออยู่เงียบๆไม่ตอบ ยิ่งสามารถสะเทือนใจเย่ซือเฉินได้
แต่ว่า เขานึกไม่ถึงเลยว่าเวินลั่วฉิงจะปกป้องเย่ซือเฉินขนาดนั้น
ถังไป๋เซียนรู้ คำพูดบางอย่างพูดออกไปแล้ว จะเก็บกลับมาไม่ได้แล้ว ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่เปลี่ยนน้ำเสียงอีกแบบ แต่ว่าความหมายก็คล้ายๆกัน
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณพี่มากนะคะ” ครั้งนี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมาก หลายปีมานี้รุ่นพี่ได้ช่วยเธออะไรหลายอย่างมากมาย เธอซาบซึ้งในบุญคุณของเขามาก เธอเห็นเขาเป็นเหมือนดั่งญาติคนหนึ่ง
เธอก็รู้ดีว่าคำพูดของผู้ชาย บางครั้งก็เชื่อถือไม่ได้ แต่ว่า……
แต่ว่าเย่ซือเฉินเหมือนไม่เคยพูดคำหวานๆอะไรกับเธอเลย
เธอยังแปลกใจว่าเย่ซือเฉินคงไม่รู้จักใช้คำพูดหวานๆจีบผู้หญิง
เวินลั่วฉิงนึกถึงจุดนี้แล้ว อดใจไม่ไหวจนเงยหน้าขึ้นมามองเย่ซือเฉิน จากนั้นก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ซือเฉินยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เวินลั่วฉิงตะลึงและสองตากระพริบๆ คนๆนี้ทำไมถึงหัวเราะขนาดนี้?
นี่เขากำลังคิดเรื่องอะไรที่ดีใจได้ขนาดนี้?
เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้หรือเปล่า?
ไม่ใช่ เมื่อกี้เขายังหน้าบึ้ง สีหน้ายังหม่นหมองอยู่เลย ในเวลานี้ยิ้มแบบนี้กะทันหัน เธอทำไมรู้สึกตกใจจนกลัว?
“พี่คะ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันวางสายก่อนแล้วนะคะ” เวินลั่วฉิงตกใจกับรอยยิ้มของคุณชายสามเย่ในตอนนี้ จากนั้นก็วางสายของถังไป๋เซียนทันที
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า ที่คุณชายสามเย่ยิ้มขนาดนี้ เธออาจจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น โต้ตอบอย่างระมัดระวังถึงจะดี
มองดูเวินลั่วฉิงวางสายของถังไป๋เซียนไปอย่างนั้น เย่ซือเฉินยิ่งหัวเราะและยิ้มได้อย่างมีความสุขมาก
“นี่ดึกๆดื่นๆอย่างนี้ คุณอย่าหัวเราะแบบนี้ได้ไหม? น่ากลัวจริงๆ” เวินลั่วฉิงก็อดใจไม่ได้ ที่ต้องพูดความรู้สึกในใจของตนเองออกมา
เธอรู้จักเขามานานขนาดนี้ ครั้งแรกที่เห็นเขาหัวเราะยิ้มได้ขนาดนี้ ทำให้คนหวาดกลัวมากจริงๆ……!!
หรือว่าเย่ซือเฉินจะถูกคุณไสยมนต์ดำเข้าแล้วจริงๆ?!
ได้ยินคำพูดของเธอ คุณชายสามเย่ตะลึงอยู่สักพัก เห็นที เวลาเธอเผชิญกับเรื่องของความรักจะโต้ตอบได้ช้าจริงๆ
เห็นได้ชัดว่า เธอไม่รู้เลยว่า ที่เขาดีใจและหัวเราะในตอนนี้ ก็เพราะคำพูดที่เธอพูดกับถังไป๋เซียนเมื่อสักครู่นี้ พูดได้ว่าเพราะเธอปกป้องเขาต่อหน้าถังไป๋เซียน