ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 479 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 479 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (3)
บทที่ 479 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (3)
เย่ซือเฉินอยากช่วยตระกูลเวิน ถึงแม้เธอจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่ เรื่องที่เย่ซือเฉินตัดสินใจแล้วไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้เลย เขาอยากช่วยก็ให้เขาช่วยเถอะ!!
เวินลั่วฉิงคิดไปคิดมา ไม่พูดอะไรต่อไปอีก เธอรู้ว่าคุณปู่ให้ความสำคัญกับตระกูลเวินมาก ถ้ามีเย่ซือเฉินมาช่วยเหลือ ต้องช่วยจัดการปัญหาทุกเรื่องได้แน่นอน
เย่ซือเฉินได้ยินเธอรับปาก แล้วก็ตะลึงเล็กน้อย ตอนที่หันไปมองเธอรู้สึกคิดไม่ถึงและยังรู้สึกดีใจด้วยนิดๆ
เธอรับปากจะให้เขาช่วยเหลือตระกูลเวิน แสดงว่าจะไม่ปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนด้วยหรือเปล่า?
“คุณลงจากรถได้หรือยังคะ?” แต่ว่า เวินลั่วฉิงพูดขึ้นมาอีกคำอย่างกะทันหัน ขัดจังหวะเย่ซือเฉินที่กำลังใช้ความคิดอยู่พอดี
เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจลึกๆ ผู้หญิงคนนี้ทำไมไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์คนอื่นเลย?
ถึงแม้จะไม่ค่อยอยากลงจากรถ ถึงแม้จะไม่อยากห่างเธอ เย่ซือเฉินก็ยังต้องลงจากรถ เพราะคืนนี้เธอต้องกลับไปแน่นอน ยิ่งยืดเยื้อนานเกินไปก็ไม่ค่อยดี
ลงจากรถแล้ว เย่ซือเฉินก็ยังไม่เดินจากไป เขายังคงยืนอยู่หน้าประตูและพูดอย่างเคร่งขรึม: “จำไว้นะ ห้ามวางสายของผม อย่าทำให้ผมหาคุณไม่เจอ ห้าม…..”
เวินลั่วฉิงไม่รอให้เขาพูดจบ รีบเหยียบคันเร่งแรงๆ ขับรถออกไปทันที
คนๆนี้เห็นแก่ตัวจริงๆ นี่ก็ห้าม นั่นก็ห้าม เธอมีอิสระสักหน่อยได้หรือเปล่า?
ก็แค่ห้าปีก่อนนอนกับเขาเท่านั้น? จะเอาอะไรกันนักกันหนา?
ตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องของลูกทั้งสอง ถ้ารู้แล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง?
คุณชายสามเย่ยังยืนอยู่กับที่ ตะลึงอยู่สักพักถึงตั้งสติได้ ผู้หญิงคนนี้ทำไมไม่รู้จักอ่อนโยนเลยสักนิด?
ตัวเขาที่น่าสงสาร เขายังต้องนอนคนเดียวเหมือนเดิม
ในตอนที่เวินลั่วฉิงกลับไปถึงบ้าน ทุกคนก็ยังอยู่ในห้องโถงใหญ่ เห็นเธอเดินเข้าไป ต่างก็รีบเงยหน้าหันมามองเธอ แต่ว่า สีหน้าบนใบหน้าของทุกคนต่างก็ไม่เหมือนกัน
บางคนดีใจ บางคนหงุดหงิด บางคนโกรธ
แน่นอนว่าคนที่ดีใจคือคุณปู่เวิน พอเขาเห็นเวินลั่วฉิงเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นยืน: “ฉิงฉิง ตามปู่มาที่ห้องอ่านหนังสือหน่อย”
เวินลั่วฉิงรู้ว่าการกระทำเหล่านั้นของเย่ซือเฉินในคืนนี้ คุณปู่ต้องซักถามเธอแน่ๆ
แต่เธอคิดว่าเรื่องบางอย่างยังไม่ควรบอกให้คุณปู่รู้
ถ้าคุณปู่รู้ว่าเธอกับเย่ซือเฉินแต่งงานแล้วก็หย่า เธอกลัวว่าจะทำให้คุณปู่โมโหจนหัวใจวาย
“คุณปู่คะ หนูเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนก่อนนะคะ” เวินลั่วฉิงรีบวิ่งตรงขึ้นไปชั้นบน เข้าไปในห้องนอนของตนเอง
ถึงแม้ตอนนี้คุณปู่เวินจะมีคำถามที่อัดอั้นในใจเยอะแยะมากมายที่อยากถาม แต่ว่าเขาก็ไม่ควรบังคับเวินลั่วฉิง เห็นเวินลั่วฉิงกลับห้องไปแล้ว เขาจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
เวินหรวนหรวนที่ยังอยู่ห้องโถงโมโหจนปากเบี้ยวเลยทีเดียว
วันที่สอง ตอนที่เวินลั่วฉิงเดินลงมาชั้นล่าง เวินหรวนหรวนกำลังยืนอยู่ชั้นล่าง เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่ อันที่จริงก็คือน่าจะมาดักรอเธอ! เห็นได้ชัดว่าต้องการสะสางบัญชีกับเธอ
“เวินลั่วฉิง เธอนี่มันหน้าด้านจริงๆเลยนะ นึกไม่ถึงว่าแกกล้ายั่วคุณชายสามเย่” เวินหรวนหรวนเห็นเวินลั่วฉิงลงมา สองตาจ้องเวินลั่วฉิงอย่างดุร้ายจนอยากจะฉีกเธอให้เละ
เดิมที เมื่อคืนทั้งที่เธอก็มีโอกาสดีๆอย่างนั้น แต่กลับถูกเวินลั่วฉิงอีเลวคนนี้ทำลายจนหมดสิ้น
เวินลั่วฉิงหันไปมองเธอ ตอนแรกก็คิดว่าไม่อยากจะสนใจเธอ แต่คิดไปคิดมา แล้วก็หยุดก้าวเท้ากะทันหัน
มุมปากของเวินลั่วฉิงยักขึ้นนิดๆ แล้วก็ยิ้มๆ ค่อยๆพูดว่า: “อืมหืม เห็นได้ชัดว่าฉันทำสำเร็จ? ส่วนเธอล้มเหลว”
เมื่อคืน เวินหรวนหรวนคิดอยากยั่วและดึงดูดความสนใจจากเย่ซือเฉิน มันชัดเจนสุดๆแล้ว แต่เสียดายเย่ซือเฉินไม่มองเธอเลยแม้แต่น้อย
“เวินลั่วฉิง เธอมันหน้าด้าน” เดิมทีเวินหรวนหรวนก็โมโหสุดๆแล้ว ในตอนนี้ยังได้ยินเวินลั่วฉิงพูดเช่นนี้ ยิ่งโมโหจนเป็นบ้า ทนไม่ได้จนจะพุ่งไปหาเวินลั่วฉิงและอยากจะตบเวินลั่วฉิง
“เวินหรวนหรวน ฉันเตือนเธออย่าลงไม้ลงมือดีที่สุด……” เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมามองที่เวินหรวนหรวน พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาๆและช้าๆ แววตาเฉยๆมาก แต่กลับทำให้เวินหรวนหรวนหยุดอย่างกะทันหัน
เวินลั่วฉิงไม่อยากลงไม้ลงมือสู้กับเวินหรวนหรวน เธอไม่อยากให้คุณปู่มาเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ เธอไม่อยากให้คุณปู่เป็นห่วงและกังวลใจ
พวกเขาไม่แคร์ความเป็นความตายของคุณปู่ แต่เธอแคร์
“เวินลั่วฉิง เธอคิดว่าคุณชายสามเย่จะชอบคนอย่างเธอจริงๆเหรอ? เธอดูน้ำหน้าของเธอในตอนนี้สิ คุณชายเย่จะชอบเธอเหรอ? นอกจากเขาตาบอด” เวินหรวนหรวนอิจฉาจนตาร้อนแล้วในขณะนี้ เธอไม่เชื่อว่าคุณชายสามเย่จะชอบเวินลั่วฉิง ไม่มีทาง
“อืม เขาตาบอดมากจริงๆ” เวินลั่วฉิงพยักหน้า แล้วตอบอย่างจริงจัง
เวินลั่วฉิงตอบโต้เช่นนี้มีความหมายอีกแบบหนึ่งก็คือ คุณชายสามเย่ชอบเธอเข้าแล้วจริงๆ
ไม่ว่าจะยังไง เธอกับเย่ซือเฉินก็เคยเป็นสามีภรรยากันมาสามเดือน อีกอย่างช่วงเวลาสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน เย่ซือเฉินก็นอนกับเธออย่างดุเดือดทุกคืนทุกวัน อย่างน้อยเย่ซือเฉินก็ชอบร่างกายของเธอ
“เวินลั่วฉิง เธอ เธอ……” เวินหรวนหรวนโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
ในขณะนี้ หลี่หยุนกำลังลงมาจากชั้นบนพอดี
แน่นอนว่าหลี่หยุนต้องได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว สายตาของเธอเต็มไปด้วยความโหดร้าย แล้วส่งสายตาให้เวินหรวนหรวนทีหนึ่ง จากนั้นเข้าไปชนเวินลั่วฉิงอย่างแรง จะชนให้เวินลั่วฉิงตกบันไดลงไป
ในขณะนี้ เวินลั่วฉิงยืนอยู่บนบันไดขั้นที่หก ทีนี้หลี่หยุนใช้แรงอย่างเต็มที่ ถ้าเวินลั่วฉิงถูกชนจนตกบันไดลงไปด้านล่าง ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
เวินลั่วฉิงไม่หันหน้ากลับไปมอง แล้วก็ไม่ขยับด้วย เหมือนไม่สังเกตเห็น มุมปากของเธอแค่เยือกเย็นเล็กน้อย
ขณะที่หลี่หยุนกำลังจะพุ่งเข้าชนเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงก็ขยับไปทางด้านซ้ายหนึ่งก้าวอย่างกะทันหัน ความเคลื่อนไหวของเวินลั่วฉิงรวดเร็วมาก เร็วจนเวินหรวนหรวนที่จ้องมองเธอตลอดเวลา ยังไม่ทันเห็นว่าเวินลั่วฉิงขยับไปอย่างไร
หลี่หยุนใช้แรงเกือบทั้งหมดคิดจะชนเวินลั่วฉิง แต่ในเวลานี้กลับชนไม่โดนตัวเวินลั่วฉิงอย่างกะทันหัน จึงพุ่งตัวลงบันไดลงไป ล้มกองบนพื้นเหมือนหมาจมกองขี้อย่างนั้น
“แม่ แม่เป็นไรหรือเปล่า?” เวินหรวนหรวนตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวหลี่หยุนลุกขึ้นมา
หลี่หยุนคราวนี้หกล้มเบาๆ อีกทั้งยังหน้ากระแทกพื้น ดังนั้นเจ็บจนเกือบตาย
“เลือด แม่ แม่เลือดไหลด้วยอ่า” เวินหรวนหรวนเห็นเลือดบนหน้าของหลี่หยุน ตกใจจนหน้าซีด
สองตาของหลี่หยุนกระพริบๆอย่างเร็วหลายที ถึงแม้เจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่เธอรู้สึกว่านี่คือโอกาสที่ดี
“ฉิงฉิง เธอ เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง? แกผลักฉันตกบันไดได้ยังไง” หลี่หยุนแหกปากตะโกนร้องดังลั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน รีบทำเป็นเหมือนว่าตนเองถูกทำร้าย
“เวินลั่วฉิง เธอโหดร้ายมาก เธออยากทำให้แม่ฉันตายรึไง?” เวินหรวนหรวนตอบโต้อย่างรวดเร็ว ตะโกนขึ้นมาด่าดังๆเหมือนหลี่หยุน ทั้งสองแม่ลูกเหมาะสมคู่กันจริงๆ
ในเวลานี้ คนรับใช้ของตระกูลเวินที่ยังอยู่รับใช้อยู่ในบ้าน ได้ยินมีคนตะโกนร้องเสียงดัง รีบๆวิ่งเข้ามาล้อมรอบมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเสียงนั้นดังมากเกินไปหน่อย!!
“ฉิงฉิง เธอทำไมโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้ นี่เธอคิดจะเอาให้ฉันตายเลยเหรอ? ฉันกับเธอมีความแค้นอะไรกัน? มีอะไรโกรธเคืองกัน เธอถึงคิดทำร้ายฉัน” หลี่หยุนเห็นทุกคนต่างล้อมเข้ามา ยิ่งตะโกนร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
แบบนี้แหล่ะที่หลี่หยุนต้องการ