ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 480 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 480 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (4)
บทที่ 480 เขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้ว (4)
“เวินลั่วฉิง ถึงยังไงแม่ฉันก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอนะ ปกติเธอไม่เคารพเขาไม่เป็นไร แต่ตอนนี้แกถึงกับจะทำร้ายเค้า……”
เดิมทีเวินหรวนหรวนก็โกรธเกลียดเวินลั่วฉิงมากอยู่แล้ว ในเวลานี้ต้องถือโอกาสนี้ใส่ร้ายเวินลั่วฉิงให้แรงๆ
เวินลั่วฉิงจ้องมองพวกเขา มุมปากเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา สองคนนี้เล่นละครได้น่ารังเกียจมาก
“ฉันว่า พวกเธอเล่นละครให้ใครดูฮะ? ให้คุณปู่ดูเหรอ? ถ้าอยากให้คุณปู่ดู พวกเธอไม่ต้องเสียเวลาหรอกนะ เพราะว่า……”
เวินลั่วฉิงพูดได้แค่ครึ่งเดียวก็หยุดชะงัก จากนั้นยกมือขึ้นมาชี้ไปตรงมุมทางเลี้ยวของบันได แล้วยิ้มพูดว่า: “เพราะว่า คุณปู่เห็นทั้งหมดแล้ว”
หลี่หยุนรีบเงยหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนที่เห็นคุณปู่เวินตรงมุมทางเลี้ยวของบันไดแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แต่เสียงที่ตะโกนร้องไห้นั้นก็รีบหยุดกะทันหัน
“หรวนหรวน ลูกพอแม่ไปโรงพยาบาลหน่อย เจ็บจะตายอยู่แล้ว” หลี่หยุนก็ยังมีความเกรงกลัวคุณปู่เวินเล็กน้อย ในเมื่อคุณปู่เห็นหมดแล้ว งั้นเธอก็ต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“อ่อ ค่ะ ค่อ” เวินหรวนหรวนก็ตอบโต้ได้เร็วมาก รีบๆพยุงตัวหลี่หยุนขึ้นมา แล้วออกไป
มุมปากของเวินลั่วฉิงยิ้มออกมานิดๆ
ที่จริง คุณปู่เพิ่งจะลงมา ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเลยสักนิด แค่หลี่หยุนรู้สึกผิดเอง นึกว่าคุณปู่เห็นแล้วจริงๆ
คุณปู่เวินค่อยเดินลงบันไดช้าๆและตอนที่มองเวินลั่วฉิง สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู เพราะเขารู้ดีว่า ฉิงฉิงอยู่บ้านนี้ คนพวกนั้นต้องคิดหาวิธีรังแกและทำร้ายฉิงฉิง ดังนั้นหลายปีมานี้ คุณปู่ไม่เคยบีบบังคับให้ฉิงฉิงกลับมาอยู่บ้าน
“ฉิงฉิง ปู่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หนูบอกว่าที่ประเทศMยังมีธุระไม่ใช่เหรอ? ถ้าหนูอยากกลับไปก็กลับไปเถอะ เรื่องงานที่บริษัท หนูไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ปู่จัดการเองได้” ถึงแม้คุณปู่เวินอยากให้เวินลั่วฉิงอยู่ข้างๆกาย แต่ว่าเขาไม่อยากให้เวินลั่วฉิงถูกรังแก
ตอนนี้เขาป่วยอยู่ เรื่องหลายอย่างอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง เขากลัวว่าฉิงฉิงจะได้รับอันตราย
เมื่อคืนเย่ซือเฉินเคยพูดไว้แล้ว เขาจะจัดการเรื่องของตระกูลเวินเอง ดังนั้นเรื่องที่บริษัท เวินลั่วฉิงไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย ถ้าเรื่องแค่นี้คนอย่างเย่ซือเฉินยังจัดการไม่ได้ งั้นเขาก็ไม่ใช่เย่ซือเฉินแล้ว
สำหรับเรื่องกลับประเทศM?
พูดจริงๆ ลูกทั้งสองคนก็อยู่ที่ประเทศM เธออยากกลับไปดูแลพวกเขาอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือเย่ซือเฉินจะยอมให้เธอไปเหรอ?
เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินห้ามไว้เมื่อคืน อดใจไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจลึกๆทีหนึ่ง สถานการณ์ในตอนนี้ เย่ซือเฉินต้องไม่ยอมให้เธอจากไปแน่ๆ
ไม่แน่ เธอยังไม่ทันออกจากเมืองA ก็ถูกเขาขัดขวางไว้เหมือนครั้งที่แล้ว
อีกอย่าง ถึงแม้เธอจะออกจากเมืองA กลับไปถึงประเทศM ด้วยความสามารถของเย่ซือเฉินแล้ว ถ้าอยากหาตัวเธอ ก็สามารถหาเจอจนได้ ถึงตอนนั้นบางทีเรื่องของลูกทั้งสองจะถูกเปิดเผยไปด้วย
“ฉิงฉิง ให้ปู่ช่วยหนูจองตั๋วเครื่องบินไหม?” คุณปู่เวินเห็นเวินลั่วฉิงไม่ตอบ จึงลองถามอีกครั้ง
“ไม่ต้องค่ะคุณปู่ หนูยังไม่รีบกลับไปค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่อยากให้คุณปู่เป็นห่วง จึงพูดเพิ่มมาอีกคำ: “คุณปู่วางใจเถอะค่ะ หนูไม่โดนรังแกง่ายๆหรอกค่ะ”
คุณปู่เวินตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะ ที่จริงเขาก็ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงกลับไปเร็วขนาดนี้
เรื่องเมื่อสักครู่นี้ เขาก็เห็นอยู่บ้าง ดังนั้นเขาก็เชื่อว่าฉิงฉิงคงไม่ถูกรังแกง่ายๆขนาดนั้นจริงๆ
“อืม ปู่จะไปที่บริษัท หนูก็ไปด้วยกันสิ” คุณปู่คิดว่าถ้าเวินลั่วฉิงไม่กลับประเทศM เขาพาฉิงฉิงไปที่บริษัทด้วย: “หนูไปเป็นเพื่อนปู่หน่อยนะ”
“ค่ะ” เวินลั่วฉิงนึกถึงสุขภาพคุณปู่ไม่ค่อยดี อีกอย่างเธอก็อยากรู้ว่าเย่ซือเฉินจะทำยังไง ดังนั้นจึงตอบตกลง
ในลานจอดรถของตระกูลเวินไม่มีรถจอดอยู่เหมือนเดิม รถที่เวินจือหยันขับกลับมาเมื่อคืน วันนี้ก็ขับออกไปหมดแล้ว
แต่ว่า เวินลั่วฉิงขับรถของเย่ซือเฉินกลับมาด้วย ดังนั้น จึงขับรถของเย่ซือเฉินไปที่บริษัท
“นี่มันคือรถของเย่ซือเฉินนิ เคยได้ยินว่าเป็นคันที่เย่ซือเฉินชอบมากที่สุด ทำไมเขาถึงให้หนูขับกลับมาได้?” คุณปู่เวินนั่งอยู่บนรถ มองดูเวินลั่วฉิง ยิ้มจนตาเล็กมากเกือบจะมองไม่เห็นอยู่แล้ว
เมื่อคืนเขาก็ดูออกแล้ว เย่ซือเฉินและฉิงฉิงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา เห็นทีน่าจะมีอะไรจริงๆ
“เขาชอบรถคันนี้มากที่สุดเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงตะลึงสักพัก นึกถึงปกติเย่ซือเฉินก็ขับรถคันนี้มากที่สุดจริงๆ
“หนูถามปู่รึ? เขาชอบอะไรหนูน่าจะรู้ดีกว่าปู่ไม่ใช่หรือ?” คุณปู่เวินได้ยินเวินลั่วฉิงตอบคำถาม แล้วก็หัวเราะขึ้นมาดังๆ
เวินลั่วฉิงหันไปมองคุณปู่ ไม่พูดมากอะไรอีก แต่ว่าในใจกลับรู้สึกหงุดหงิด เธอสังเกตเห็นว่าช่วงนี้สมองของเธอเหมือนจะไม่ค่อยทำงาน ชอบทำอะไรผิดพลาดอยู่เรื่อยเลย ชอบพูดอะไรผิดบ่อยๆอีกด้วย
แน่นอน ทุกครั้งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเย่ซือเฉินทั้งนั้น
เธอรู้สึกว่า เธอต้องมนต์ดำของเย่ซือเฉินหรือเปล่า?
“หนูรู้จักเย่ซือเฉินมานานเท่าไหร่แล้ว? พวกเธอกำลังคบกันอยู่ใช่ไหม?” คุณปู่เวินในขณะนี้อดใจไม่ไหวจริงๆ ที่อยากถามความสงสัยในใจ เพราะเขาอยากรู้มากๆๆจริงๆ
“คุณปู่คะ ตอนนี้ท่านควรจะคิดเรื่องของบริษัทไม่ใช่หรือคะ?” เวินลั่วฉิงรีบเปลี่ยนเรื่องพูดไปพูดเรื่องอื่น เธอกลัวว่าเธอจะพูดอะไรผิดอีก
“ตอนนี้คุณปู่ไม่กังวลเรื่องของบริษัทแล้ว” หางคิ้วของคุณปู่เวินยิ้มขึ้นตลอดเวลา ยิ้มจนเหมือนสุนัขจิ้งจอกอย่างนั้น
มุมปากของเวินลั่วฉิงก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เป็นเช่นนั้นจริง ดังคำพังเพยที่เค้ากล่าวไว้ว่า ขิงแก่เผ็ดกว่าขิงอ่อนจริงๆ!!
เวินลั่วฉิงและคุณปู่ถึงที่บริษัทตระกูลเวินอย่างรวดเร็ว พอจอดรถเสร็จ เวินลั่วฉิงพยุงคุณปู่เวินเข้าไปในบริษัทพร้อมกัน
เวินจือหยันได้พาเวินจื้อหลงมาถึงที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว ในเวลานี้กำลังยุ่งกับการปลุกระดมผู้บริหารระดับสูงในบริษัทและพนักงานทั้งหลาย เขาคิดว่าครั้งนี้ เขาต้องชนะขาดลอยแน่นอน
ถึงแม้สถานะการเงินในตอนนี้ของตระกูลเวินจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็สามารถขายเป็นเงินได้ไม่น้อย ตอนนี้หุ้นของตระกูลเวินมีมูลค่า เพราะตึกใหญ่ของตระกูลเวินมีคุณค่า แต่เขาต้องได้บริษัทตระกูลเวินมาอยู่ในมือก่อน
ในเวลานี้ ที่บริษัทตระกูลถัง
หลังจากที่เรื่องของถังหลินเสร็จเรียบร้อย จึงกลับบริษัททันที เรื่องต่างๆสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่ว่าสีหน้าของถังหลินเคร่งเครียดมาก
เรื่องในครั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ามีคนอยากทำร้ายเขา และยังต้องการใช้โอกาสนี้กำจัดเขา
เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เดิมทีไม่อันตรายมากเท่าไหร่นะ แต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ! โดยความสามารถของเขาในตอนนี้ คนที่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้……
เห็นได้ว่าครั้งนี้ ตระกูลกู้ลงทุนไม่น้อย แต่เขาก็ยังรอดชีวิตกลับมาได้
ในเมื่อเขามีชีวิตรอดกลับมาได้ หลังจากนี้ ควรจะต้องคิดบัญชีทีละบัญชีให้ดีๆแล้ว
อีกทั้งฉิงฉิงของบ้านเขาก็กลับมาแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ต้องให้ตระกูลกู้ได้รับการสั่งสอนอย่างสาสม
มุมปากของถังหลินยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็นและนิ่งเฉย คนของตระกูลกู้ยิ่งอยู่ยิ่งจองหองและทำกันเกินไปแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่ไปล้างแผลที่ห้องพยาบาลเถอะครับ” เสี่ยวหูเห็นบาดแผลบนมือของถังหลิน รู้สึกเป็นห่วงมาก
“เดี๋ยวค่อยไป” แต่ว่าถังหลินกลับปฏิเสธทันที บาดแผลแค่นี้สำหรับเขาไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เขายังมีธุระต้องทำ
“ทางพ่อของแกตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” ถังหลินถามต่ออีกคำ ตอนที่ถามคำถามนี้ สีหน้าของถังหลินเคร่งเครียดมากขึ้น
“ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยครับ อีกไม่กี่วันก็ใกล้ถึงวันที่หัวหน้ากงกำหนดไว้แล้ว ถ้าผู้กำกับถังยังไม่สามารถปิดคดีได้ อาจจะ……” เสี่ยวหูยังไม่ทันพูดจบ แต่ว่าชี้ได้ชัดเจนแล้ว
สายตาของถังหลินหรี่ตาลงเล็กๆ ที่จริง เขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้
คดีนี้เป็นคดีที่สืบสวนได้ยากอยู่แล้ว อีกทั้งตระกูลกู้ยังคอยสร้างปัญหาไปทั่ว คอยขัดขวางอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆคุณพ่อไม่มีทางปิดคดีได้แน่นอน
ครั้งก่อน เขาคิดหาทางให้ฉิงฉิงกลับมาเมืองA แต่ว่าฉิงฉิงยังไม่กลับมา เขาก็ไปทำภารกิจแล้ว ดังนั้นจนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ติดต่อฉิงฉิง
ถังหลินเข้าไปในห้องสำนักงาน เปิดลิ้นชักและอยากหยิบสิ่งของออกมา ตอนที่เขาเปิดเอกสาร สังเกตเห็นกระดาษใบหนึ่งอย่างกะทันหัน นั่นคือใบแสดงผลการตรวจDNAใบนั้นที่เขาให้คนเปลี่ยนมา
ครั้งก่อนเขาดูได้แค่แป๊บเดียว แค่รู้สึกว่าคุ้นเคย หลังจากนั้นกู้หนานก็เข้ามากะทันหัน เขาจึงรีบเก็บเข้าไป ไม่ได้ดูอย่างละเอียด
ก่อนหน้านั้น เขายังคิดอยากจะดูดีๆอีกครั้ง แต่เพราะว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขายังไม่ทันได้ดู
ตอนนี้เห็นแล้ว ถังหลินจึงหยิบออกมา ครั้งนี้ เขาเห็นตัวเลขบนกระดาษใบนั้นอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น สองตาของเขาลืมขึ้นโตๆ เขารู้แล้วว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นตา!