ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 491 ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 491 ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (1)
บทที่ 491 ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (1)
“ท่านย่า หยุดเลยๆ” ได้ยินคำพูดของท่านย่าตนเอง ถังหลินตกใจหัวใจแทบจะหยุดเต้น ฉิงฉิงถือเป็นน้องสาวเขา ท่านย่ายังจะให้ล่อลวงมาเป็นภรรยาของเขา?
นี่มันไม่ยุ่งวุ่นวายไปหมดเหรอ?
“ทำไมไม่ได้ล่ะ ฉันแค่คิดว่าฉิงฉิงคนนั้นเป็นคนดีมาก” ท่านย่าถังที่ได้ยินหลานชายของตนเองรีบร้อนปฏิเสธ จึงไม่พอใจมาก
“ฉันจะบอกให้ ฉันชอบฉิงฉิงมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว รู้สึกเหมือนสนิทสนมเป็นกันเองมาก ดังนั้นฉันเลยอยากพามาที่ตระกูลถังของพวกเรา” เป็นความมุ่งหวังของท่านย่าถังที่ไม่เคยดับมอดไปตั้งแต่แรก
“ท่านย่า ท่านที่ท่านคิด บางทีอาจจะเป็นอย่างที่ต้องการก็ได้”
เพราะเรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับเรื่องคดี ตอนนี้ถังหลินยังไม่สามารถเปิดเผยฐานะของเวินลั่วฉิงได้
ดูจากสภาพการณ์ของท่านย่าตอนนี้ ถ้าเขาพูดความจริงออกไป เขากล้ารับประกันได้เลยว่าต่อจากนี้ท่านย่าต้องวิ่งตรงไปหาเวินลั่วฉิงเลยแน่ๆ
“ความหมายของหลานคือเห็นด้วยกับการสู่ขอฉิงฉิง?” ดวงตาของท่านย่าถังวาววับ คิดว่าถังหลินเห็นด้วยแล้ว
“ท่านย่า เธอไม่มีทางแต่งกับผมหรอก เธอแต่งงานมีสามีแล้ว” ถังหลินมองท่านย่าของตนเองอย่างอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“แต่งงานแล้ว? แต่งกับใคร?” ท่านย่าถังชะงักไป: “คนนั้นคู่ควรกับฉิงฉิงเหรอ? หลานรีบบอกมาเป็นใครกันแน่?”
“เย่ซือเฉิน” ถังหลินขยับมุมปากพูดชื่อของเย่ซือเฉินออกมาตามตรง อีกไม่นานฉิงฉิงก็ต้องกลับมาที่ตระกูลถังแล้ว ถึงตอนนั้นเรื่องของฉิงฉิงกับเย่ซือเฉินคงปิดบังต่อไปไม่ได้แน่
“เฉินเฉิน? เขาก็ช่างตาแหลมว่องไว” เกินความคาดหมายของท่านย่าถังเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็เหมือนจะถอนหายใจ คุณชายของตระกูลเย่ก็ถือว่าคู่ควรกับฉิงฉิงได้อยู่
ถังหลินไม่ได้พูดอะไรอีก รีบขึ้นไปเก็บข้าวของที่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว
“ตาเฒ่า เมื่อกี้ถังหลินบอกว่าเวินลั่วฉิงแต่งงานกับเฉินเฉินแล้ว แต่วันนั้นคุณปู่เย่พูดชัดเจนเลยนี่ว่าฉิงฉิงเป็นคนดูแลของคุณย่าเย่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ท่านย่าถังคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ตระกูลกู้แล้วคิ้วขมวดแน่น
เมื่อคิดเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้วก็แปลกมากจริงๆ เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเย่ชัดๆ กลับบอกว่าเป็นผู้ดูแล? สองเฒ่าตระกูลเย่หมายความว่าอย่างไรกันแน่?
“เรื่องของครอบครัวคนอื่น คุณก็อย่าใส่ใจเลย เรื่องเฉินเฉินแต่งงานก็ไม่ได้เปิดเผย แม้แต่งานเลี้ยงก็ไม่ได้จัด อาจจะมีเหตุผลอื่น” แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวค่อนข้างดี แต่เรื่องบางเรื่องที่เขาปิดบังอยู่ พวกเราจะไปถามเลยก็ไม่ดี
“แต่งงานก็แต่งแล้ว ยังมีเรื่องอะไรให้ปิดอีก?” ท่านย่าถังเม้มปากเล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างวาววับขึ้นอย่างรวดเร็ว: “ไม่ได้ ฉันต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน จะให้ฉิงฉิงได้รับความไม่เป็นธรรมไม่ได้”
สัญชาตญาณของท่านย่าถังแค่คิดอยากจะปกป้องเวินลั่วฉิง ปกป้องอย่างไม่มีเหตุผลและไม่มีเงื่อนไข
“คุณเนี่ยน้า” ท่านปู่ถังส่ายศีรษะเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ท่านย่าถังหาเบอร์โทรศัพท์ของที่บ้านตระกูลเย่แล้วโทรออกไปทันที
“ที่นี่ตระกูลเย่ ไม่ทราบว่าต้องการพบท่านไหน?” คนรับใช้ของตระกูลเย่เป็นคนรับสาย
“คุณย่าเย่ ไม่ก็คุณปู่เย่ก็ได้”
“ค่ะ ท่านกรุณารอสักครู่” คนรับใช้เป็นคนระมัดระวังรอบคอบ แค่ได้ฟังก็รู้แล้วว่าฐานะของท่านย่าถังนั้นไม่ธรรมดา ท่าทีจึงเปลี่ยนเป็นสุภาพขึ้นมากทันที
ในขณะนั้นคุณปู่เย่ได้เดินลงมาที่ชั้นล่างพอดี
“คุณท่าน มีสายถึงคุณท่าน” คนรับใช้เรียกคุณปู่เย่ไว้ด้วยท่าทีนอบน้อมเป็นพิเศษ
“ฮัลโหล สายจากใคร?” คุณปู่เย่รับสายโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดี เพราะตอนนั้นเขากำลังหงุดหงิดเรื่องของเย่ซือเฉินอยู่
“ได้ยินว่าเฉินเฉินแต่งงานแล้ว” ท่านย่าถังก็ไม่อ้อมค้อม เอ่ยถามตามตรง: “ได้ยินว่า คนเฉินเฉินที่แต่งงานด้วยคือเวินลั่วฉิง แล้วที่ตระกูลกู้ครั้งก่อน ทำไมพวกคุณถึงยังปิดบัง”
คุณปู่เย่ที่กำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอดี เมื่อได้ยินคำพูดของท่านย่าถังในใจก็ยิ่งโกรธเคือง
ทว่าเขาก็ยังฟังน้ำเสียงของท่านย่าถังออก จึงพาลโมโหใส่ท่านย่าถังไม่ได้
“พวกเขาหย่ากันแล้ว” คุณปู่เย่ตอบ แต่เขาไม่ได้พูดชัดว่าทั้งสองคนหย่ากันเมื่อไหร่
“อะไรนะ หย่ากันแล้ว? เพราะอะไร?” ท่านย่าถังตกใจมาก แต่งงานนะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทำไมถึงพูดแต่งก็แต่ง พูดหย่าก็หย่า
“เดิมพวกเขาแต่งงานกันตามข้อตกลง ตอนนั้นซือเฉินแต่งกับเวินลั่วฉิงก็เพื่อหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปในมือฉัน หลังจากฉันโอนหุ้นบริษัทให้ซือเฉินแล้ว ทั้งคู่ก็หย่ากัน”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” ท่านย่าถังตอบเสียงเบา น้ำเสียงฟังดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่อารมณ์ที่แสดงออกกลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ปีนั้น เรื่องที่คุณปู่เย่บีบคั้นไล่แม่ของเย่ซือเฉินไป เธอก็ทราบอย่างละเอียด คงไม่ใช่เพราะคุณปู่เย่บีบให้ทั้งสองคนหย่ากันหรอกใช่ไหม?
ครั้งก่อนที่ตระกูลกู้ ชัดเจนมากว่าคุณปู่เย่นั้นไม่ถูกชะตาฉิงฉิง
“หย่าแล้วก็ดี ฉิงฉิงคนนั้นไม่คู่ควรกับเฉินเฉินของพวกคุณหรอก” นัยน์ตาท่านย่าถังสว่างวาบ น้ำเสียงที่ใช้พูดก็เปลี่ยนไปทันที
ท่านปู่ถังที่นั่งอยู่ข้างๆ ชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหัวยกยิ้มบาง
“ท่านย่าถังพูดถูกแล้ว เวินลั่วฉิงจะคู่ควรกับซือเฉินของเราได้อย่างไร ไม่พูดถึงการเงินของตระกูลเวินตอนนี้ แต่รูปร่างหน้าตาอย่างเวินลั่วฉิง ทุกวันนี้หาเด็กผู้หญิงที่น่าเกลียดเหมือนเธอขนาดนั้นไม่ได้อีกแล้ว” คุณปู่เย่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดออกมาตามตรงก็เพราะวันนั้นที่ตระกูลกู้ ท่านย่าถังช่วยเวินลั่วฉิง ตอนนี้เมื่อได้ยินท่านย่าถังพูดแบบนั้น จึงไม่ได้คำนึงถึงอีก
แต่เดิมคุณปู่เย่ไม่พอใจเวินลั่วฉิงมากอยู่แล้ว ตอนนี้รู้เรื่องที่เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีบุตรได้ เพราะเรื่องนี้เย่ซือเฉินถึงกับตัดสายโทรศัพท์ใส่เขาโดยไม่สนใจคำขู่ของเขาแม้แต่น้อย ความโกรธนี้ของเขาที่ยังไม่ได้ระบายออกมา
ที่คุณย่าท่านถังพูดนั้นเป็นคำพูดที่อยู่ในส่วนลึกในใจของเขาพอดิบพอดี
อีกด้านหนึ่ง สีหน้าของคุณย่าถังเป็นเปลี่ยนเย็นชาในทันที นัยน์ตาก็เย็นชาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“คุณว่าเธอน่าเกลียดก็น่าเกลียด ยังเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้อีก ผู้หญิงแบบนั้นใครก็ไม่อยากแต่งงานด้วย โชคดีที่ซือเฉินหย่ากับเธอแล้ว” เมื่อคุณปู่เย่เริ่มพูดก็ทนเก็บต่อไปไม่ไหว จึงระบายเรื่องไม่พอใจทั้งหมดในใจออกมา
สีหน้าของท่านย่าถังยิ่งเย็นชาขึ้นไปอีก แต่ว่าดวงตาคู่นั้นกลับวาววับขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่คุณปู่เย่พูดว่าเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้นั้นหมายความว่าอย่างไร?
จะบอกว่าฉิงฉิงมีลูกไม่ได้?
แต่สิ่งที่คุณปู่เย่พูดก็น่าเกลียดเกินไป
เกรงว่าฉิงฉิงเด็กคนนี้อยู่ที่ตระกูลเย่คงได้รับความไม่ยุติธรรมไม่น้อย
“พวกเรากำลังวางแผนหาผู้หญิงที่คู่ควรกับซือเฉิน ให้เขารีบแต่งงาน คุณนายถังพอจะรู้จักผู้หญิงที่เหมาะสมไหม? แนะนำให้ซือเฉินสักคน” สนทนาผ่านสายโทรศัพท์คุณปู่เย่จึงไม่เห็นสีหน้าของท่านย่าถัง