ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 500ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (10)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 500ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (10)
บทที่ 500 ความสวยและความสามารถของเธอ ช่างน่าตกใจ (10)
“เสื้อผ้าไม่ใช่ของปลอม ต้องเป็นของส่วนในแน่ แต่ไม่ใช่ของใหม่ เคยใส่มาก่อนแล้ว”
เดิมชุดนี้ก็เป็นจุดโจมตีได้อีกจุดหนึ่ง
กู้หนานได้ยินที่เวินลั่วฉิงพูด ร่างกายก็นิ่งไป มือข้างหนึ่งแอบกำหมัดแน่น
“เธอพูดมาว่าจะตรวจสอบได้อย่างไร?” ท่านปู่หลี่เป็นคนใจร้อน ทนไม่ไหวจึงถามออกมาตามตรง
ถังหยุนเฉิงในตอนนี้มองเวินลั่วฉิง แล้วกะพริบตาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรกัน? หรือว่าเธอยังจะมองออกว่าเสื้อผ้านี้ใครใส่มาก่อน?
นี่เป็นไปไม่ค่อยได้ไหม?
“เสื้อผ้าชุดนี้ด้านหน้าและด้านซ้ายมีร่องรอยการใช้งานอย่างเห็นได้ชัด แขนเสื้อเป็นสีขาวเล็กน้อย แสดงว่าทั้งสองแห่งได้รับแรงมากที่สุด เทียบกับด้านขวาที่เข้มกว่าอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่ามือข้างขวาได้รับแรงมากกว่าข้างซ้าย แขนเสื้อข้างซ้ายมีร่องรอยการใช้งานหนักที่สุด” เวินลั่วฉิงในตอนนี้อยู่ห่างจากคนสอดแนมไม่น้อย แต่เธอกลับพูดออกมาได้อย่างละเอียด
“นายไปดูหน่อย” ท่านปู่หลี่ตาเป็นประกายขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ
คนที่อยู่ข้างเขารีบวิ่งเข้าไป ตรวจดูตามที่เวินลั่วฉิงพูดอย่างละเอียดแล้วอุทานออกมาอย่างอดไม่ไหว: “เป็นไปตามที่คุณเวินพูดทุกอย่างจริงๆ”
ถังหยุนเฉิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย เด็กคนนี้สายตาเฉียบแหลม หรือว่าได้มาจากที่ปกติมักจะนอนหลับ?
“เธอพูดมาว่าพวกนี้จะสรุปได้อย่างไร?” ท่านปู่หลี่ถามอย่างอดใจไม่ไหวอีกครั้ง
จุดเด่นของเสื้อผ้าพวกนี้ ถ้าคิดอย่างละเอียดรอบคอบก็สามารถมองออกได้ แต่พวกนี้สามารถอธิบายอะไรได้กัน?
“จะสรุปอะไรได้? เสื้อผ้าทุกตัวก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ท่านปู่หลิวไม่เห็นด้วยชัดเจน: “หรือว่าเธอสามารถมองออกว่าเสื้อผ้านี้ใครสวมมาก่อนผ่าร่องรอยพวกนี้ได้จริงๆ? จะหลอกใครล่ะ ถ้าเธอบอกได้จริงๆ ว่าใครสวมเสื้อผ้าชุดนี้มาก่อนโดยอาศัยแค่ร่องรอยพวกนี้ ชื่อของฉันก็เขียนกลับหัวได้แล้ว”
ความจริงแล้วในตอนนี้ไม่เพียงแต่ท่านปู่หลิว คนอื่นๆ ล้วนไม่เชื่อว่าเวินลั่วฉิงจะอาศัยแค่พวกนี้แล้วสามารถมองออกว่าใครเคยสวมใส่เสื้อผ้านี้มาก่อน
สายตาของทุกคนมองเวินลั่วฉิง ทุกคนล้วนรอคำตอบจากเวินลั่วฉิง
กู้หนานประหม่า เพราะถ้าตรวจสอบออกมาได้จริงๆ ว่าเสื้อผ้าเป็นของใคร เรื่องนี้ก็ยุ่งยากแล้ว
แต่ตอนนี้กู้หนานรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าก็แค่หลอกให้สับสนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเธอมองเวินลั่วฉิง มุมปากก็ยกยิ้มเยาะขึ้นเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงเห็นมุมปากที่ยกยิ้มเยาะของกู้หนาน เธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วเริ่มพูด: “คนนี้สูง175 น้ำหนัก64 ถนัดมือซ้าย เป็นเจ้าหน้าที่ซุ่มยิงที่ฝีมือโดดเด่น อายุราวๆ 27 ปี แต่งงานแล้ว”
แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายเรื่อง เช่นงานพิเศษบางอย่าง ดังนั้นฝึกพลซุ่มยิงก็ถือว่าปกติ
เวินลั่วฉิงพูดรายละเอียดอย่างละเอียดมาก เมื่อเธอพูดจบหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คิดถึงคนหนึ่งขึ้นมาพร้อมๆ กัน
เดิมเจ้าหน้าที่ซุ่มยิงส่วนในก็ไม่ได้เยอะ แต่ยังถนัดซ้าย โดยเฉพาะอายุ ส่วนสูง น้ำหนักล้วนอธิบายแล้ว คิดไม่ออกว่าคนนั้นเป็นใครก็ค่อนข้างที่จะยากเล็กน้อย
เมื่อเวินลั่วฉิงพูดจบ ทั้งสนามเงียบลงในทันที ไม่มีใครส่งเสียงชั่วคราว ราวกับเสียงหายใจก็ยังเบาลงเล็กน้อย
ร่างกายของกู้หนานแข็งค้างในทันที ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้างอย่างควบคุมไม่ได้ ในความประหลาดใจยังมีความตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อย
คนที่เหลือของตระกูลกู้ที่มองเวินลั่วฉิงตอนนี้ แต่ละคนสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน ในใจยิ่งสั่นตกใจ เด็กคนนี้มีฝีมือ ถ้ามีเธอช่วยถังหยุนเฉิงไขคดี เป็นไปได้ไหมว่าจะไขคดีได้จริงๆ?
ถึงตอนนั้นพวกเขาตระกูลกู้จะเป็นอย่างไรกัน……
ดูท่าแล้วพวกเขาจะประเมินความสามารถของผู้หญิงคนนี้ต่ำไป ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าผู้หญิงคนนี้เก่งกาจขนาดนี้ คราวนี้แผนควรจะพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงคนนี้ เพื่อกำจัดผู้หญิงอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว
ถังหยุนเฉิงตอนนี้ตะลึงจนเบิกตาอ้าปากกว้าง เดิมที่เขาคิดว่าเด็กคนนี้ขี้เกียจสันหลังยาวจะเก่งกาจขนาดนี้?
ถ้าอย่างนั้นก่อนหน้านี้เธอกินๆ นอนๆ คือจงใจแสดง?
“ยัยหนู เธอสามารถมองพวกนี้ออกจากเสื้อผ้าพวกนี้?” ท่านปู่หลี่ทั้งตะลึงทั้งสงสัย ในตอนนี้เขาไม่มีอคติกับเวินลั่วฉิงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว น้ำเสียงจึงอ่อนโยนขึ้น
“ค่ะ” เวินลั่วฉิงเพียงตอบรับเบาๆ ไม่ได้อธิบาย
“มา มา บอกกับตาเฒ่าหน่อย เธอมองออกผ่านเสื้อผ้าของเขาได้อย่างไรว่าเขาแต่งงานแล้ว? ไหนจะอายุอีก?” ที่ท่านปู่หลี่ไม่เข้าใจที่สุดก็คือสองจุดนี้ วิเคราะห์ส่วนสูง น้ำหนัก ตามขนาดของเสื้อผ้า วิเคราะห์อาชีพจากร่องรอยที่เสื้อผ้า เขายังพอเข้าใจได้ แต่ผ่านเสื้อผ้าชุดนี้มองออกได้อย่างไรว่าเขาแต่งงานแล้ว
“เขาสวมแหวนแต่งงาน ขอบกระเป๋ากางเกงมีร่องรอยของแหวนแต่งงาน ส่วนอายุต้องดูจากหลายๆ อย่าง” คราวนี้เวินลั่วฉิงอธิบาย แต่ก็ครุมเครือมาก บางอย่างถ้าให้พูดอย่างละเอียดก็จะเสียเวลามาก
“มีจริงๆ ด้วย แต่ถ้าไม่สังเกตให้ละเอียดก็จะมองไม่เห็น ตอนนี้ฉันมองอย่างไรก็ดูไม่ชัดเจน คุณถังคงมีสายตาเฉียบแหลมมาก?” คนข้างตัวของท่านหลี่คนนั้นตรวจดูตามอีกครั้ง สีหน้าก็ยิ่งตะลึงมากขึ้นไปอีก
“ฉันเคยได้ยินมา ว่ามีการสอบสวนทางจิตวิทยาผ่านสถานที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปอาการทางกายภาพและบุคลิกภาพของผู้ต้องสงสัย เมื่อก่อนฉันยังไม่ค่อยเชื่อ วันนี้ฉันเชื่อแล้ว” ท่านปู่เมิ่ง ยกนิ้วโป้งให้เวินลั่วฉิง
“ฮ่าฮ่าฮ่า เก่ง เก่งจริงๆ วันนี้เปิดหูเปิดตาให้ตาเฒ่าอย่างฉันแล้ว” ท่านปู่หลี่หัวเราะเสียงดัง เมื่อมองไปทางเวินลั่วฉิงอีกครั้ง สายตานั้นเหมือนกับว่าเขาขุดเจอสมบัติ
“ฉันถามหน่อยหยุนเฉิง นายขุดเจอสมบัติชิ้นนี้จากที่ไหนกัน?” ท่านปู่หลี่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อสักครู่ยังบอกว่าเวินลั่วฉิงเป็นตัวซวย ตอนนี้กลับกลายเป็นสมบัติแล้ว
ถังหยุนเฉิงในตอนนี้รู้สึกสงบเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขายังไม่เชื่อเด็กคนนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กคนนี้เก่งกาจขนาดนี้
“ตาเฒ่า สกุลนายกลับหัวเขียนแล้วจะกลายเป็นอะไร? ตัวอักษรหลิวกลับหัวแล้วจะเป็นอะไร?” ท่านปู่หลี่ไม่ลืมคำพูดที่ท่านปู่หลิวพึ่งพูดไป
“ใครจะรู้ว่าเธอไม่ได้พูดมั่วไปเรื่อย พวกเราที่นี่มีคนแบบนั้นสักคนไหม?” แม้ท่านปู่หลิวในตอนนี้จะหงุดหงิดเล็กน้อยในตอนนี้ แต่น้ำเสียงของเขาดีขึ้นเล็กน้อย
“ใช่แล้วหยุเฉิง พวกเราที่นี่มีคนแบบนั้นสักคนไหม?” ท่านปู่หลี่เองก็คิดถึงปัญหานี้ขึ้นมา เมื่อสักครู่เขาดีใจเกินไปจนลืมส่วนสำคัญที่สุดไป ถ้าหาคนแบบนั้นออกมาไม่ได้ เด็กคนนั้นจะพูดดีอีกแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
พวกเขาหลายคนเป็นผู้อาวุโสที่เกษียณอายุไปแล้ว สำหรับความชัดเจนของตอนนี้ต้องไม่ค่อยเข้าใจอยู่แล้ว
“มี หยวนจวินห้าว” ตอนที่เวินลั่วฉิงพูดจบ ถังหยุนเฉิงก็คิดออกแล้วว่าเป็นใคร และเพราะแบบนี้เขาถึงยิ่งตะลึงยิ่งกว่าเดิม!!