ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 531 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (9)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 531 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (9)
บทที่ 531 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (9)
“ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว ทำไมถึงหย่าอีกล่ะ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินเวินลั่วฉิงยอมรับ จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“เชอะ ก็เป็นเพราะตระกูลเย่รังแกมากเกินไปล่ะสิ”ท่านย่าถังพูดถึงเรื่องนี้ บนใบหน้ามีความโกรธเคืองหลายส่วนอย่างเห็นได้ชัด
“คุณยายค่ะ อันที่จริงเรื่องนี้……”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของท่านย่าถังก็หยุดชะงักรีบอธิบาย
“หนูไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ยายรู้ดี ยายโทรหาคุณปู่บ้านตระกูลเย่ ตาเฒ่านั้นมากเกินไปแล้ว บอกว่าตระกูลเวินล้มละลายแล้ว และยังรังเกียจฉิงฉิงอัปลักษณ์อีก บอกว่าฉิงฉิงของพวกเราไม่คู่ควรกับหลานชายบ้านเขา หืม ฉิงฉิงของพวกเราขี้เหร่ตรงไหน?รอให้เขาเจอฉิงฉิงเมื่อไหร่ ต้องให้เขาตกตะลึงจนตาบอดไปเลย”ท่านย่าถังยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ระดับเสียงก็เพิ่มขึ้นตามอารมณ์โมโหหลายส่วน “ตาเฒ่าบ้านตระกูลเย่ยังให้ยายแนะนำคู่ให้หลานชายเขาอีก อยากให้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆเร็วๆ เชอะ!”
ก่อนหน้านี้ท่านย่าถังก็อยากจะยุ่งเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่ท่านปู่ถังห้ามปรามเอาไว้ บอกว่าพวกเขาไม่ใช่ญาติของฉิงฉิง ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ท่านสามารถยุ่งได้อย่างเปิดเผยและถูกหลักการ
รังแกฉิงฉิงของพวกท่าน เรื่องนี้ไม่จบแน่
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของท่านย่าถังดวงตาพลันกะพริบติดกันสองครั้ง
คุณปู่เย่จะช่วยเย่ซือเฉินหาคู่ ให้เย่ซือเฉินแต่งงาน?
มุมปากเวินลั่วฉิงเม้มขึ้นไม่ได้พูดอะไร
หลายวันก่อนเย่ซือเฉินโทรหาเธอตลอด แต่สองวันมานี้ เธอยุ่งอยู่กับการตรวจค้นข้อมูลทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้เอามือถือเข้าห้องเอกสารดังนั้นจึงไม่ได้รับสายจากเย่ซือเฉินอีก
ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงนึกขึ้นมาได้ว่ามือถือไม่ได้ติดตัวเธอ เมื่อคืนเธอเหนื่อยมาก จึงนอนถึงฟ้าสว่าง และเมื่อตื่นนอนก็ถูกถังหยุนเฉิงลากตัวมาที่บ้านตระกูลถัง ไม่มีเวลาเอามือถือมาเลย
ซึ่งช่วงนี้เธอไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เลย คาดว่าคงปิดเครื่องเสียแล้ว
“ดังนั้น คืนนี้อย่าเชิญคนบ้านตระกูลเย่ วันหลังก็ไม่อนุญาตให้คนตระกูลเย่เข้าบ้านพวกเราเด็ดขาด”ท่านย่าถังสั่งการกับเฟิ่งเหมียวเหมียว
ที่ท่านย่าถังพูดถึงตระกูลเย่ แน่นอนต้องรวมเย่ซือเฉินด้วย
“อืม รู้แล้วค่ะ กล้ารังแกฉิงฉิงของพวกเรา ต้องไม่ให้พวกเขาเข้าบ้านตระกูลถังของพวกเราอยู่แล้วค่ะ”เวลานี้ใบหน้าของเฟิ่งเหมียวเหมียวฉายแววความโกรธเคืองยิ่งกว่าใคร“ยังรังเกียจฉิงฉิงของพวกเราอีก ฉันจะดูสิว่าตระกูลเย่จะหาคนยังไงได้อีก?”
ผู้ชายบ้านตระกูลถังเห็นการตอบสนองของพวกเธอสองคน ต่างประสานตากัน จากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้
บางครั้งผู้หญิงบ้านตระกูลถังนั้นดุร้ายกว่าผู้ชายตระกูลถังเสียอีก
“ฉิงฉิง หนูไม่ได้ขัดแย้งอะไรใช่ไหม?”เฟิ่งเหมียวเหมียวเห็นเวินลั่วฉิงไม่พูดไม่จา จึงเอ่ยปากถามขึ้นมา
“เออ ไม่มีค่ะ”เวินลั่วฉิงได้สติกลับคืนมากะทันหัน เพราะเมื่อกี้กำลังครุ่นคิดอยู่ ไม่ได้ยินว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวถามอะไร เพียงแต่รู้สึกว่าสิ่งที่เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดนั้นเหมาะสมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอไม่ได้ขัดแย้งอะไร
“อืม ถ้างั้นก็ดี”เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกวางใจ จากนั้นก็รีบไปจัดเตรียมงานเลี้ยงตามความคิดของท่านย่าถัง
ถังหลินเดินทางจากอันผิงถึงบ้านก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆแล้ว เฟิ่งเหมียวเหมียวโทรบอกเขาว่าคืนนี้จะจัดงานเลี้ยงให้ฉิงฉิงที่บ้าน
ให้เขาเชิญพี่น้องมาร่วมสร้างสีสันด้วย
เฟิ่งเหมียวเหมียวยังกำชับเป็นพิเศษว่าฉิงฉิงเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูลถังให้ใช้ชื่อว่า ถังฉิ้นเอ๋อ
ถังหลินคาดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ จัดงานเลี้ยงให้ฉิงฉิง คนอื่นไม่ไปก็ได้ แต่เย่ซือเฉินต้องไปให้ได้
ถังหลินส่งข้อความหากลุ่มพี่น้องเจ็ดคน โดยบอกให้มาเจอกันที่เก่า มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ
ตอนที่ถังหลินไปตามนัด นอกจากคุณชายสองโจ๋วกับหลันลิ่วช่าวแล้ว คนอื่นก็มาถึงกันหมดแล้ว ซึ่งรวมทั้งเย่ซือเฉินด้วย เพียงแต่สีหน้าเย่ซือเฉินไม่สู้ดีนัก
เพราะสามวันมานี้เย่ซือเฉินติดต่อเวินลั่วฉิงไม่ได้เลย ตอนแรกเธอไม่ได้รับสาย ต่อมาก็ปิดเครื่องทิ้ง
“ฉิงฉิงล่ะ?”สาเหตุที่เย่ซือเฉินมาก็เพราะอยากรู้ว่าเวินลั่วฉิงอยู่ที่ไหน
“ผมหาน้องสาวเจอแล้ว คืนนี้บ้านผมจะจัดงานเลี้ยงให้น้องสาว พวกนายไปเช้าๆด้วยนะ”ถังหลินไม่ได้ตอบคำถามเย่ซือเฉิน แต่ประกาศเรื่องของเขาโดยตรง
“ผมถามว่าเวินลั่วฉิงล่ะ”ดวงตาคุณชายสามเย่หรี่ขึ้น แววตาเยือกเย็นและมืดครึ้มมีไอสังหารอยู่หลายส่วน
“ฉิงฉิงปิดคดีเสร็จก็กลับมาแล้ว ทำไม?นายไม่ได้เจอเธอเหรอ?”ถังหลินเห็นท่าทางของเขาก็อดหัวเราะอยู่ในใจไม่ได้“นายต้องไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้นะ จัดให้น้องสาวผม น้องสาวผมสวยมากเลย……”
“เกี่ยวห่าอะไรกับผม”คุณชายสามเย่กวาดสายตามองเขาอย่างเย็นชาพร้อมกับตัดบทพูดของเขาทิ้ง
“ทำไมจะไม่เกี่ยว?ปู่ของผมบอกว่าคืนนี้ไม่ได้เป็นงานเลี้ยงธรรมดา แต่ยังหาคู่ดีๆให้น้องสาวผมด้วย ฉะนั้นคุณต้องไปดูสักหน่อยนะ น้องสาวผมสวยมาก อีกทั้งยังเก่งมากๆอีกด้วย”ได้ยินคำพูดของคุณชายสามเย่ ถังหลินเกือบขำเกลี้ยงไปเสียแล้ว ไม่เกี่ยวกับเขาเหรอ?
ไม่เกี่ยวกับเขาถึงจะแปลก?
“ถังหลิน ผมของเตือนว่าอย่าเล่นลูกไม้อะไรเด็ดขาด”คุณชายสามเย่คิดว่าถังหลินอยากได้เวินลั่วฉิง จึงได้จงใจมาไม้นี้
“ผมมีภรรยาแล้ว ภรรยาของผมคือเวินลั่วฉิง”เย่ซือเฉินเน้นย้ำอย่างหนักหน่วง
“พวกนายหย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ?”ถังหลินจงใจเสริมหนึ่งประโยค ถังหลินรู้ว่าคุณชายสามเย่ไม่อยากฟังสิ่งนี้มากที่สุด แต่เขาก็จะพูดให้ได้
“ถังหลิน บันยะบันยังหน่อย”ดวงตาคุณชายสามเย่หันมากะทันหัน สายตาราวจะแทงทะลุได้เลยทีเดียว
“แล้วคืนนี้นายจะไปไหม?”ถังหลินอยากหัวเราะ แต่ก็อดกลั้นไว้ กล่าวขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
“ไม่ไป”คุณชายสามเย่ตอบอย่างหนักแน่น เขาจะไปตามหาภรรยาของเขา ไม่มีเวลาไปร่วมงานเลี้ยงแสนเบื่อหน่ายพวกนั้น
ใครอยากไปก็ไปเอง
“พี่ใหญ่มีน้องสาวเมื่อไหร่?”คุณชายห้าฉิงผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลาถามขึ้นมา
ทุกคนไม่รู้ว่าเมื่อก่อนตระกูลถังมีลูกสาวหายตัวไป ตอนนี้ได้ยินถังหลินบอกว่ามีน้องสาว ต่างรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก
เพราะยังไงเสียก็เกิดขึ้นเมื่อสี่สิบปีก่อน หลายปีก่อนคนบ้านตระกูลถังหากันให้วุ่นเลย ซึ่งคนที่รู้จักบ้านตระกูลถังย่อมรู้ดี แต่ภายหลังไม่มีเบาะแสอะไรเลย จึงเป็นเหตุให้ท่านย่าถังเป็นโรคซึมเศร้า ท่านปู่ถังจึงร้อนใจพาภรรยาไปหาหมอ จึงได้หยุดการตามหาลูกสาวไว้ชั่วคราว
คนนอกเห็นเป็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าถามความคืบหน้าในการตามหาลูกสาวอีกต่อไป จากนั้นก็ค่อยๆไม่มีใครพูดถึง แม้กระทั่งท่านปู่ถังก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้ เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจของท่านย่าถังได้
แต่ท่านปู่ถังไม่เคยละทิ้งความพยายามในการตามหาเลยสักนิด เพียงแต่ยังคงไร้เบาะแสอยู่ร่ำไป
พอถึงรุ่นของถังหลินก็ไม่มีใครเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง บ้างก็ไม่กล้าเอ่ย บ้างก็ลืม เพราะเวลาผ่านไปเนิ่นนาน
ถังหลินมาทราบเรื่องก็เมื่อตอนอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ ถังหยุนเฉิงบอกเรื่องนี้ให้เขาทราบ แล้วให้เขาออกตามหา…