ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 552 คุณชายสามเย่ นี่เล่นลูกไม้ตลบตะแลง
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 552 คุณชายสามเย่ นี่เล่นลูกไม้ตลบตะแลง
บทที่ 552 คุณชายสามเย่ นี่เล่นลูกไม้ตลบตะแลง
แต่ว่า หลายวันก่อนได้ยินว่าไป๋ยี่รุ่ยเจ็บหนักถึงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ดังนั้น เธอจึง……
ซือถูมู่หรงเงยหน้าขึ้น สองตาจ้องมองตรงหน้าเธอ ความเยือกเย็นเมื่อสักครู่นี้หายไป ในขณะนี้สายตาของเขาไม่มีกิริยาอาการใดๆ ดังนั้นทำให้คนมองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่มีก็ดีแล้ว” หลังจากนั้นสักพัก ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย ค่อยๆพูดขึ้นมาคำหนึ่งอย่างช้าๆ
สายตาของซือถูมู่หรงมองไปตรงด้านหน้าของเธอ เมื่อสักครู่นี้เสื้อผ้าของเธอถูกเขาฉีกจนเปิดออกหมดแล้ว แต่ว่าปกติแล้วเธอจะเป็นคนสงวนตัว ดังนั้นข้างในยังใส่เสื้อทับอีกชั้นหนึ่ง
เขารู้ว่า เธอมีความเคยชินเช่นนี้ ถึงจะเป็นฤดูร้อน ไม่ว่าจะร้อนขนาดไหน เธอก็จะเป็นแบบนี้ตลอด
เขารู้ว่า เธอทำเช่นนี้เพื่อจะกันเขา เพราะเมื่อก่อน จู่ๆเขาจะกระชากเสื้อของเธอจนขาดอยู่บ่อยครั้ง
ตอนนั้นเขาจงใจแกล้งทำอย่างนั้น เขาทำเพื่ออยากให้เธออับอาย แต่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเปลี่ยนไป จากนั้นไม่เคยกระชากเสื้อของเธอจนขาดอีกเลย อีกทั้งจะไม่ทำอะไรกับเธอไปเรื่อยโดยไม่แยกแยะสถานที่
ระยะเวลาห้าปี เหมือนมีเรื่องต่างๆมากมายเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจนไปไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
เมื่อกี้นี้เขารู้สึกอารมณ์ร้อนเกินไปหน่อย
เขาลุกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นช่วยเธอจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
หลิวหยิงจ้องมองหน้าของเขา สองตาลืมขึ้นมากลมๆโตๆ เหมือนกำลังมองสัตว์ประหลาดอย่างนั้น
เขากำลังคิดจะปล่อยตัวเธอหรือนี่? จะไม่ทำอะไรเธออย่างนั้นบนรถแล้วหรือ? อีกอย่างเธอยังช่วยเธอจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย?
วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกแล้วหรือไง?
“นี่คุณทำหน้าอะไร? ทำไม? ยังอยากจะทำต่อไปหรือไง?” ซือถูมู่หรงเห็นหน้าตาของเธอ แล้วขมวดคิ้วขึ้น ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าไง? ต้องทำหน้าตกใจขนาดนี้เชียวหรือ?
“ไม่ ไม่ใช่” หลิวหยิงรีบส่ายหัว เหมือนกลัวเขาจะกลับใจ รีบลุกขึ้นมานั่งและใส่เสื้อกันหนาว
“ไม่ต้องขนาดนี้หรอก เราอยู่ด้วยกันมาตั้งห้าปีแล้ว” ซือถูมู่หรงเห็นท่าทางของเธอ มุมปากขยับนิดๆ บนใบหน้าเหมือนยิ้มๆเล็กน้อย
เธออยู่กับเขาห้าปีแล้ว ก็ยังเขินอายขนาดนี้
อยู่ในบ้านก็เป็นเช่นนี้ ทุกครั้งหลังจากที่นอนกับเธอแล้ว เธอจะใส่เสื้อผ้าใต้ผ้าห่มให้เรียบร้อยถึงจะออกมา
บนร่างกายของเธอ ไม่มีตรงไหนที่เขาไม่เคยเห็น ไม่มีที่ไหนที่เขาไม่เคยจูบ บางครั้งเขาไม่เข้าใจจริงๆว่าเธออายอะไรกันแน่?
หลิวหยิงไม่ตอบ อย่าว่าแต่ห้าปี ถึงแม้จะอีกสักห้าปี เธอก็ไม่อาจชินกับการกระทำเช่นนี้ของเขา
ถึงแม้เขาจะปล่อยม่านกันแดดลง แต่ว่าคนขับรถที่อยู่ด้านหน้าก็ได้ยิน ยังดีที่เขาไม่ทำต่อไปอีก
ที่จริงแล้ว เธอรู้สึกได้ว่า สองปีนี้การกระทำของเขาที่ทำต่อเธอ เปลี่ยนไปมาก อย่างน้อยก็ไม่ทำอะไรรุนแรงเกินไปเหมือนตอนเริ่มแรก
บางที เขาอาจไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจขนาดนั้นเหมือนตอนแรกๆ และบางที เขาคงรู้สึกว่า เวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาใกล้สิ้นสุดแล้ว ดังนั้นจึงยอมปล่อยเธอ
“ปล่อยคุณชั่วคราวก่อน คืนนี้อย่าคิดว่าจะได้นอน” ซือถูมู่หรงจ้องเธอสักพัก จากนั้นเอนหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของเธอและพูดจาหยอกเธอ
หลิวหยิงตะลึงนิดๆ ร่างกายเกร็งเล็กน้อย แต่ก็ไม่โต้ตอบอะไรมากนัก ขอแค่ไม่ใช่ข้างนอกก็พอ
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนตอนกลางคืน ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว เธอชินแล้ว ในเมื่อเธอไม่ต้องไปทำงาน พรุ่งนี้เธอนอนอยู่กับบ้านทั้งวันก็ได้
หลิวหยิงนึกถึงตอนที่โทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้ เธอเคยพูดว่าจะทำไก่ตุ๋นเอาไปให้ไป๋ยี่รุ่ย
แต่ว่า นึกถึงกิริยาอาการที่ตอบโต้และคำพูดของซือถูมู่หรงของซือถูมู่หรงเมื่อสักครู่นี้ เธอรู้สึกกังวลและยังรู้สึกหวาดกลัว พรุ่งนี้เธอยังไม่ต้องไปดีกว่า
“คิดอะไรอยู่?” เธอเหม่อลอยเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นแล้ว สายตาหรี่ลงเล็กๆอีกครั้ง
เขาไม่ชอบที่เธอเหม่อลอยคิดถึงเรื่องอื่นเวลาที่เธออยู่ต่อหน้าเขา
“เปล่า” หลิวหยิงส่ายหน้า ส่ายหน้าได้เร็วอย่างชัดเจน
“อย่าโกหกผม ไม่อย่างนั้นคุณรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง” ซือถูมู่หรงหรี่ตาลงเล็กๆและคิดอะไรเพลิน การข่มขู่ในคำพูดนั้นชัดเจนมาก
“อืม ฉันรู้” ครั้งนี้ หลิวหยิงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ในใจก็คิดตัดสินใจไปด้วย พรุ่งนี้ไปเยี่ยมไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของไป๋ยี่รุ่ย แต่เธอจะไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องทำให้ไป๋ยี่รุ่ยได้รับอันตรายแน่ๆ
หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าไป๋ยี่รุ่ยก็พยายามขยันทำงานและประสบความสำเร็จบ้างแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือถูมู่หรงอย่างแน่นอน
ที่จริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องร้อนใจ รอให้สัญญาของเธอกับซือถูมู่หรงจบสิ้นลง เธอก็ได้รับอิสรภาพแล้ว ถึงตอนนั้น เธอก็สามารถทำอะไรก็ได้ที่ตนเองอยากทำ
ถึงตอนนั้น ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ย อย่างน้อยก็เจอหน้าพบปะกันได้ ที่จริงเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย
ที่บ้านตระกูลถัง
งานเลี้ยงสังสรรค์ก็จบลงในที่สุด แขกรับเชิญทั้งหลายต่างก็กลับบ้านกันหมดแล้ว เวินลั่วฉิงเพิ่งจะได้กลับห้องนอนของตนเอง ยุ่งกับงานมาทั้งวัน รู้สึกเหนื่อยมาก
ตอนแรกสองสามวันก่อน เพราะเรื่องคดีความเธอก็ไม่ได้พักผ่อนดีๆมาหลายวันแล้ว
ตอนนี้ เธอแค่อยากอาบน้ำให้สบาย จากนั้นนอนพักผ่อน
เธอยื่นมือไปดึงซิปด้านหลังของชุดกระโปรงและดึงลงไปด้านล่าง แต่ตอนที่ดึงลงไปได้ครึ่งเดียว แขนเอื้อมไปดึงไม่ค่อยถึง เวินลั่วฉิงลุกขึ้นยืน อยากจะเปลี่ยนมืออีกข้าง
แต่ว่า ทันใดนั้นก็มีมือยื่นมาที่หลังของเธอ จากนั้นช่วยเธอรูดซิปลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว
เวินลั่วฉิงตกใจ จะหันกลับไปมอง คนที่อยู่ด้านหลังกลับโอบเธอไว้และตอนที่โอบเธอไว้นั้น ยังรีบถอดชุดเดรสของเธอออกอย่างรวดเร็ว ถอดออกแล้ว!!
“เย่ซือเฉิน คุณบ้าไปแล้ว” ถูกเค้ากอดไว้ เวินลั่วฉิงหันกลับไปไม่ได้ แต่ว่าถึงแม้จะไม่หันกลับไป เธอก็รู้ว่าคนที่กอดเธอไว้ในตอนนี้คือเย่ซือเฉิน
นอกจากเขาแล้วเป็นคนอื่นไปไม่ได้
เมื่อกี้เขากลับไปกับคนอื่นแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงอยู่ในห้องนอนเธอได้?
“อืม ผมมันบ้าไปแล้ว คิดถึงคุณจนเป็นบ้าไปแล้ว” มุมปากของเย่ซือเฉินยิ้มขึ้นเล็กน้อย ถูกต้อง ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นเขา ดูๆแล้วเธอก็คุ้นเคยกับเขามากนิ
ปากของเย่ซือเฉินแตะลงบนหลังของเธอ จูบไปทั่วทั้งตัวเรื่อยๆ มือที่กอดบนตัวของเธอก็ไม่ว่าง ขยับมือลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวตามอำเภอใจ เขาคิดถึงเธอ คิดถึงเธอจนบ้าคลั่ง
เวินลั่วฉิงรู้สึกเกร็งบนหลัง ร่างกายสั่นๆนิดๆ ถูกเขาจูบเช่นนี้ ร่างกายค่อยๆมีความรู้สึกแปลก: “เย่ซือเฉิน คุณปล่อยฉันก่อน”
น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงในตอนนี้เบาลงบ้างแล้ว ฟังแล้วเหมือนจะอ่อนลง
“ไม่ปล่อย” เย่ซือเฉินไม่ยอมฟังอยู่แล้วในตอนนี้ เขาไม่เจอหน้าเธอมาหลายวันแล้ว ไม่ได้กอดเธอจูบแบบนี้มาหลายวันแล้ว ดังนั้น เขาไม่ยอมปล่อย ไม่อยากปล่อย ยิ่งไม่มีทางจะปล่อย!!
อีกทั้งเขายังรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของเธอ การตอบสนองเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกดีใจ ยิ่งทำให้เขาไม่อยากปล่อยมือ
“เย่ซือเฉิน คุณว่าถ้าคุณปู่กับคุณย่าเข้ามาเห็นคุณตอนนี้ จะตีคุณให้ขาหักไหม?”
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเขากำลังจะขยับมือมาถึงด้านหน้าของเธอ จึงรีบยื่นมือมาห้ามและกุมมือเขาไว้ ห้ามการกระทำที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น