ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 556 ฝีมือผู้ใหญ่ตระกูลเย่ทั้งสอง คุณชายสามเย่โต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 556 ฝีมือผู้ใหญ่ตระกูลเย่ทั้งสอง คุณชายสามเย่โต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว (3)
บทที่ 556 ฝีมือผู้ใหญ่ตระกูลเย่ทั้งสอง คุณชายสามเย่โต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว (3)
โจ๋วอันหนานไม่ตอบคำถามของคุณปู่เย่ แต่แกล้งถามกลับไปหลายประโยค
“ใช่ ใช่ หนูบอกปู่หน่อย เธออยู่ที่ไหน?” คุณปู่เย่ตอบกลับไปหลายๆคำ ด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อนใจ
“คุณปู่เย่คะ ท่านหาฉิงฉิงมีเรื่องอะไรหรือคะ? ที่จริงเมื่อกี้หนูก็แค่เห็นเธอแป๊บเดียว ไม่ตั้งใจดูให้ละเอียด ไม่แน่หนูอาจจะมองผิดนะคะ” โจ๋วอันหนานก็ยังไม่ตอบคำถามของคุณปู่เย่ อีกทั้งยังแกล้งไม่อยากจะพูด
“อันหนานเหรอ? อันหนานเห็นฉิงฉิงแล้วเหรอ? อันหนานเด็กคนนี้ทำอะไรรอบคอบ มีหลักการ คุณถามเธอตรงๆขนาดนั้น เธอไม่ยอมพูดหรอก” คุณย่าเย่อยู่ข้างๆก็พอจะฟังออก จึงกระซิบเตือนคุณปู่เย่: “คุณก็ถามตรงไปตรงๆว่าอันหนานตอนนี้อยู่ที่ไหนก็พอแล้ว”
“อันหนาน ตอนนี้หนูอยู่ที่ไหน?” คุณปู่เย่เข้าใจความหมายของคุณย่าเย่ทันที จึงรีบถามกลับไป
“หนูอยู่ที่โรงพยาบาลตี้อีค่ะ หนูมาทำธุระที่นี่พอดี” ครั้งนี้ โจ๋วอันหนานตอบอย่างรวดเร็วและตรงมาก
“ถ้างั้น หนูก็ทำธุระของหนูเถอะ วันหลังปู่ค่อยไปตรวจสุขภาพกับหนูใหม่นะ” คุณปู่เย่ได้คำตอบที่ตนเองต้องการ จึงตอบกลับไปอีกสองสามประโยคแล้ววางสายโทรศัพท์
“เวินลั่วฉิงอยู่ที่โรงพยาบาลตี้อี ก่อนหน้านั้นตาแก่ของตระกูลเวินนอนรักษาตัวอยู่ที่นั่น เธอไปโรงพยาบาลน่าก็เพราะเรื่องอาการของตาแก่เวินนั่นแน่ๆ ตอนนี้เรารีบไปกันเถอะ ต้องเจอนังนั่นแน่ๆ” คุณปู่เย่วางสายแล้วก็รีบเดินออกไปด้านนอก
“ค่ะ เรารีบไปกันเถอะ อย่างให้เธอหนีไปได้อีก” พอคุณย่าเย่ได้ยินดังนั้น ตื่นเต้นมาก หลานของเธอเองเธอบีบบังคับไม่ได้ แต่ว่าถ้าเป็นเวินลั่วฉิงเธอจะไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด
คุณปู่เย่รีบตะโกนเรียกคนขับรถและไปถึงที่โรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด
ที่โรงพยาบาล เวินลั่วฉิงสอบถามอาการป่วยของคุณปู่เวินอย่างละเอียด คุณหมดโจวบอกว่าอาการของคุณปู่เย่ไม่ค่อยดีจริงๆ เพราะอายุมากแล้ว สถานการณ์ทุกวันนี้ก็ได้แต่ใช้ยารักษาไปเรื่อยๆ
จิตใจของเวินลั่วฉิงรู้สึกเคร่งเครียด ที่จริงแล้ว หลายสิบปีมานี้ คุณปู่เย่ดีกับเธอมาก แต่เธอกลับไม่สามารถดูแลอยู่ข้างๆคุณปู่มาโดยตลอด
เวินลั่วฉิงก้มหน้าเดินออกไปถึงด้านนอก เพราะสภาพจิตใจกำลังเศร้าอยู่นั้น ในใจก็กำลังคิดหลายๆเรื่อง ดังนั้น ไม่สังเกตเห็นสิ่งต่างๆรอบข้าง จนเดินไปถึงตรงหน้าของคุณย่าเย่ เธอถึงรู้สังเกตเห็น
“ฉิงฉิง ฉันคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม?” คุณย่าเย่กำลังมองเวินลั่วฉิง กิริยาอาการถือว่าอ่อนโยนแล้วเมื่อเทียบกว่าปกติ
“มีเรื่องอะไรหรือคะ?” เวินลั่วฉิงมองหน้าเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย คุณย่าเย่มาหาเธออย่างกะทันหัน อยากจะคุยอะไรกับเธอเหรอ?
“ฉิงฉิง หนูตามฉันมาหน่อย เราหาสถานที่มานั่งคุยกันดีๆหน่อย” คุณย่าเย่ไม่พูดอะไรโดยตรง แต่ยื่นมือไปดึงตัวเวินลั่วฉิง เดินไปทางระเบียงนอกหน้าต่าง
“คุณย่าเย่ ตกลงท่านมีเรื่องอะไรกันแน่คะ?” แววตาของเวินลั่วฉิงหมองลงเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเกรงใจมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความห่างเหินและเย็นชา
ตอนที่เธอและเย่ซือเฉิจแต่งงานกัน คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่พอใจใจตัวเธอเป็นพันเป็นหมื่นๆเท่า ตอนนั้นคุณย่าเย่ไม่เคยทำสีหน้าดีๆต่อเธอเลยสักครั้ง
ตอนนี้เธอกับเย่ซือเฉินหย่าขาดกันแล้ว คุณย่าเย่กลับมาขอคุยกับเธอ?
“ฉิงฉิง ฉันอยากคุยกับเธอเรื่องของเฉินเฉินหน่อย” ในใจของคุณย่าเย่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว แต่ว่าบนใบหน้ากลับไม่แสดงออกมา สีหน้ามองดูแล้วอ่อนโยนลงบ้างแล้ว
มุมปากของเวินลั่วฉิงยิ้มนิดๆ คุณย่าเย่มาหาเธออย่างกะทันหัน เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวกับเย่ซือเฉินแน่นอน แต่ว่าตอนนี้เธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้ว ไม่รู้ว่าคุณย่าเย่อยากพูดอะไรกันแน่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้ว ก็ไม่เกี่ยวกันแล้ว เธอจะไม่สนใจคุณย่าเย่แน่นอน แต่ว่าเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้นที่เย่ซือเฉินทำเพื่อเธอแล้ว ทันใดนั้นก็กลับรู้สึกลังเลในบางครั้ง เธออยากฟังว่าคุณย่าเย่อยากพูดอะไร? เพราะมันเกี่ยวกับเย่ซือเฉิน!
เวินลั่วฉิงกำลังคิด เธอไม่ปฏิเสธอย่างดื้อรั้น แต่เดินตามคุณย่าเย่ไปที่ระเบียง
เวินลั่วฉิงไปถึงระเบียงแล้ว มองไปเห็นคุณปู่เย่ที่ยืนอยู่บนระเบียง สองตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย เธอพอดูออกว่าคุณปู่เย่กำลังรอเธออยู่
ดังนั้น พวกเขาได้เตรียมพร้อมมา?! และไม่ใช่มาเพื่อคุยอะไรง่ายๆธรรมดา
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่มาพร้อมเพรียงกันเช่นนี้ ดูอลังการไปหน่อยนะ
สายตาของคุณปู่เย่ในขณะนี้ที่มองเธออยู่นั้นมันพูดออกมาได้ยากจริงๆ!!
เวินลั่วฉิงก็ยังคงเข้าใจคุณปู่เย่มากพอ ดังนั้นเธอรู้ว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจจะ…….
ส่วนอีกข้าง หลังจากที่โจ๋วอันหนานวางสายแล้ว ยืนอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ไม่เข้าไปในโรงพยาบาลอีกเลยและไม่ไปไหน สายตาลึกๆของเธอเต็มไปด้วยความสับสน มีความย้อนแย้ง มีความดิ้นรน แต่ว่าสุดท้ายแล้วอารมณ์เหล่านั้นค่อยๆหายไป
เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้ อีกทั้งเวินลั่วฉิงยังมีลูกสองคนกับชายอื่น ดังนั้น เธอไม่ยอมให้เย่ซือเฉินตกหลุมลึกลงไปอีกต่อไป ตอนนี้มีแต่ผู้อาวุโสทั้งสองท่านของตระกูลเย่ที่สามารถห้ามทุกอย่างได้
โจ๋วอันหนานแอบถอนหายใจลึกๆ กำลังคิดจะออกจากที่นั่น ก็เห็นเซี่ยเถียนเถียนเดินมาพอดี สายตาของโจ๋วอันหนานกระพริบๆอย่างเร็วหลายที
ทันใดนั้น โจ๋วอันหนานเดินตรงไปหาเซี่ยเถียนเถียน
“พี่คะ ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่? คนที่งานยุ่งมากอย่างพี่ไม่อยู่ในโรงพยาบาล ทำไมถึงมาเดินเล่นอยู่แถวนี้ได้?” ตอนที่เซี่ยเถียนเถียนเห็นเธอ เห็นได้ชัดว่าตกใจนิดๆ
“เธอมาโรงพยาบาลทำไมคะ? ตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า? ถ้าเธอมีตรงไหนไม่สบายไปหาฉันได้ ฉันช่วยดูให้” โจ๋วอันหนานมองหน้าเธอ บนหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ พี่ไม่ป่วยใช่ไหม? พี่กลายเป็นคนที่กระตือรือร้นขนาดนี้อย่างกะทันหัน ฉันรู้สึกว่ากลัวๆ!” เซี่ยเถียนเถียนมองหน้าเธอแล้ว บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ พี่สาวปกติเป็นคนเย็นชามาก ปกติเป็นคนที่เย่อหยิ่งไม่ค่อยสนใจใครเลย วันนี้เป็นอะไรไป?
“เธอนั่นแหล่ะที่ป่วย ฉันเป็นห่วงเธอไม่ได้เหรอ? ฉันเป็นพี่สาวเธอนะ” โจ๋วอันหนานตะลึงไปสักพัก จากนั้นแกล้งทำเป็นโกรธและจ้องหน้าเธอ
“พี่เป็นห่วงฉัน ฉันต้องดีใจอยู่แล้วสิ แต่ว่ากิริยาอาการของพี่เปลี่ยนมากเกินไป ฉันแค่ไม่ค่อยชินเท่าไหร่” เซี่ยเถียนเถียนจึงยิ้มหัวเราะเบาๆ ก็มันจริงนี่นา พี่กระตือรือร้นกะทันหันแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกรับไม่ค่อยได้
“เธอมาโรงพยาบาลทำอะไร?” โจ๋วอันหนานซักถามอีกครั้ง ขณะที่พูด สองตาของเธอก้มลงไปเล็กน้อย มองดูมือถือ อันที่จริงคือกำลังมองดูเวลาบนมือถืออยู่
“เพื่อนฉันนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ฉันมาเยี่ยมเค้า พี่คะ ฉันรู้ว่าพี่งานยุ่ง งั้นฉันไม่รบกวนเวลาของพี่แล้วนะคะ” เซี่ยเถียนเถียนรู้ว่าปกติแล้วในสายตาของโจ๋วอันหนานมีแต่งาน ดังนั้นเธอไม่กล้ารบกวนเวลาของโจ๋วอันหนาน
“วันนี้ฉันไม่มีธุระอะไร เธออย่าเพิ่งรีบร้อนกลับไปนะ มีเรื่องจะคุยกับเธอนิดหน่อย” แต่ว่า โจ๋วอันหนานตะโกนเรียกเธอ