ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 565 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 565 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (2)
บทที่ 565 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (2)
“ฉิงฉิงหนูยังเด็ก ยังมีเรื่องอีกมากมายที่หนูยังไม่เข้าใจ ดังนั้นหนูต้องจำไว้ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่ต้องสนใจ”ใบหน้าคุณปู่เวินมีความเคร่งขรึมหลายส่วน อีกทั้งยังมีความกังวลใจหลายส่วน ด้วยความโลภของพวกหลี่หยุน ท่านระแวงว่าพวกเขาไม่เพียงแต่อยากได้เงินของฉิงฉิงเท่านั้น ท่านยังกังวลว่าพวกเขาจะทำร้ายฉิงฉิงด้วย
“คุณปู่ค่ะ หนูมีเรื่องอยากบอกค่ะ”เวินลั่วฉิงเข้าใจความเป็นห่วงของคุณปู่เวินเป็นอย่างดี หลายปีมานี้ เธอปิดบังเรื่องส่วนตัวกับคุณปู่มาโดยตลอด ตอนนี้เธอกลับเข้าบ้านตระกูลถังแล้ว เธอรู้สึกว่าควรจะบอกคุณปู่เสียหน่อย
“เรื่องอะไรเหรอ?เป็นเรื่องของบริษัทหรือเปล่า?หนูไม่ต้องกังวลเรื่องในบริษัทหรอก ปู่เชื่อว่าเย่ซือเฉินจะสะสางได้ดี”คุณปู่เวินคิดว่าเธอจะพูดเรื่องของบริษัท
“คุณปู่ค่ะ คนที่ตระกูลถังรับหลานสาวกลับมาเป็นหนูเองค่ะ”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็พูดทีละคำอย่างช้าๆและชัดๆ
คุณปู่เวินหยุดชะงัก จ้องมองเวินลั่วฉิงตาค้าง ไม่รู้ว่าควรตอบสนองอย่างไรดีในชั่วขณะนี้
“ฉิง ฉิงฉิง หนู หนูว่าอะไรนะ?”ผ่านไปสักพัก คุณปู่เวินได้สติกลับคืนมา แต่ใบหน้าของเขาเต็มใบด้วยความตกตะลึงยากเกินจะเชื่อ ซึ่งเขาไม่ใช่ฟังคำพูดของเวินลั่วฉิงไม่เข้าใจ แต่เขาไม่กล้าจะเชื่อเสียมากกว่า
“ขอโทษค่ะคุณปู่ ที่จริงหนูมีหลายๆเรื่องปิดบังคุณปู่อยู่ค่ะ แต่สำหรับเรื่องลูกสาวตระกูลถังหายตัวไป หนูก็พึ่งรู้ช่วงนี้เองค่ะ ไม่ได้จงใจจะปิดบังท่านเลยค่ะ”เวินลั่วฉิงคิดว่าตลอดหลายปีมานี้ เธอปกปิดความลับกับคุณปู่ไว้เยอะ จึงรู้สึกผิดเล็กน้อย
“หนู หนูพูดเรื่องจริงหมดเลยใช่ไหม?หนูก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง?”สีหน้าคุณปู่เวินยังคงอึ้งค้างอยู่เช่นเดิม บัดนี้น้ำเสียงมีความสั่นเทาหลายส่วน
“แล้วหน้าหนูล่ะ?”ทันใดนั้นคุณปู่เวินก็มองใบหน้าของเวินลั่วฉิง ดวงตาทั้งคู่ยิ่งเบิกกว้างเพิ่มขึ้น ท่านจำได้ว่าในรูปถ่ายเด็กผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวยงามมาก สวยมากๆ
“คุณปู่ค่ะ หนูอำพรางใบหน้าอยู่ค่ะ ใบหน้าที่เห็นในรูปถ่ายคือโฉมหน้าที่แท้จริงของหนูเองค่ะ”เวินลั่วฉิงรีบอธิบาย
“จริงเหรอ ถ้างั้นก็ดีเหลือเกิน ดีเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าฉิงฉิงของปู่จะสวยปานนี้ ยังมี หนู หนูเป็นผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชญากรรมใช่ไหม?”ก่อนหน้านี้คุณปู่เวินตั้งใจอ่านข่าวเป็นพิเศษ จึงจำได้อย่างแม่นยำ
“ใช่ค่ะ”เวินลั่วฉิงค่อยๆพยักหน้า
“ฮ่าๆๆ……”จู่ๆคุณปู่เวินก็หัวเราะเสียงดังกังวาน“ดี ดีมากๆ ที่แท้หลานของปู่ก็เก่งกาจถึงเพียงนี้เลย ปู่ยังกังวลว่าจะมีคนรังแกหนูอยู่เลย ตอนนี้ปู่ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”
“คุณปู่ค่ะ ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้บอกเรื่องกลับเข้าไปอยู่บ้านตระกูลถังกับปู่ก่อน ท่านไม่โกรธหนูใช่ไหมคะ?”ระดับเสียงเวินลั่วฉิงลดลงมาหลายส่วน เรื่องที่เธอเข้าไปเป็นสมาชิกครอบครัวตระกูลถัง ก่อนหน้านี้ไม่ได้แจ้งให้คุณปู่ทราบ ไม่รู้ว่าจะทำให้คุณปู่ไม่สบายใจหรือเปล่า?
“เด็กคนนี้ คิดเหลวไหลอะไร ทำไมปู่ต้องโกรธหนูด้วยล่ะ แม่ของหนูเป็นลูกสาวตระกูลถัง หนูเป็นหลานสาวบ้านตระกูลถัง เข้าไปเป็นสมาชิกครอบครัวก็ถือเป็นเรื่องสมควรแล้ว ตอนนี้ปู่ก็วางใจได้เสียที วันหลังเรื่องของหนูก็มีตระกูลถังค่อยดูแลแล้ว ปู่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงทุกๆวันแล้ว”เห็นได้ชัดว่าคุณปู่เวินโล่งอกไปหนึ่งเปลาะ อันที่จริงท่านรู้สุขภาพตนเป็นเช่นไรดี
ท่านกังวลว่าเมื่อท่านจากไปแล้ว ฉิงฉิงจะไร้ที่พึ่งพาในโลกใบนี้ ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ท่านรีบร้อนให้ฉิงฉิงแต่งงาน
แต่ตอนนี้ท่านไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว มีตระกูลถังพึ่งพิง ใครจะกล้ารังแกฉิงฉิงของท่านอีก
ยิ่งไปกว่านั้นฉิงฉิงเองก็เก่งกล้าอยู่แล้ว ฉิงฉิงของท่านเป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชญากรรมกันเลยทีเดียว!!
“คุณปู่ค่ะ ท่านหมายความว่าอีกหน่อยจะไม่สนใจหนูแล้วใช่ไหมคะ?”เวินลั่วฉิงอดหัวเราะไม่ได้ คุณปู่เวินรักใคร่เอ็นดูเธอจริงไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ล้วนหวังดีกับเธอเสมอ
“หนูเป็นหลานของปู่ ปู่ต้องสนใจอยู่แล้ว แต่วันหลังมีเรื่องใหญ่โตอะไรก็มีตระกูลถังเป็นฝ่ายรับผิดชอบ อย่างเช่นเรื่องแต่งงานเป็นต้น อย่างนี้ปู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าหนูจะได้แต่งงานกับคนเลวแล้ว”บัดนี้ใบหน้าคุณปู่เวินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มแห่งความสบายใจและปลาบปลื้มใจ
คุณปู่เวินไม่ใช่คนหัวโบราณ ขอแค่เป็นผลดีต่อฉิงฉิง เขาก็จะยินดีกับเรื่องนั้นๆเสมอ
เวินลั่วฉิงเข้าใจความคิดของคุณปู่ดี เธอรู้สึกอบอุ่น ซาบซึ้งใจ ดวงตาเริ่มเปียกชุ่มเล็กน้อย
“พอแล้ว ปู่รู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อนสักครู่ เมื่อกี้หลี่หยุนให้หนูลงไป?หนูไปดูว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?ตอนนี้ปู่รู้ความสามารถของหนูแล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นห่วงเลยสักนิด”ร่างกายคุณปู่ไม่ค่อยแข็งแรง จึงรู้สึกเหนื่อยเพลียตั้งนานแล้ว เพียงแต่เพราะเป็นห่วงเวินลั่วฉิง จึงไม่กล้าพักผ่อนเท่านั้นเอง
“ค่ะ หนูลงไปดูค่ะ”เวินลั่วฉิงให้คุณปู่เวินพักผ่อนเสร็จแล้วถึงลงจากชั้นบน
ชั้นล่าง เวินจีหยัน หลี่หยุน เวินหรวนหรวน และยังมีเวินจื่อหลงต่างนั่งอยู่บนโซฟาอย่างพร้อมเพรียบกัน เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคอยเวินลั่วฉิงอยู่
เห็นเวินลั่วฉิงลงมา หลี่หยุนส่งสายตาไปให้เวินจีหยันอย่างว่องไว เวินจีหยันคล้อยตาม พลางพยักหน้าหงึกๆ
ปกติเวินลั่วฉิงก็เป็นคนช่างสังเกตอยู่แล้ว จึงรู้ท่าทางของพวกเขาดี แอบหัวเราะเย็นในใจอยู่หลายส่วน
“ฉิงฉิง หนูลงมาแล้วเหรอ หนูมาดูสิ อันนี้คือของขวัญที่คุณป้าซื้อให้หนู หนูมาให้ป้าใส่ให้สิ”หลี่หยุนลุกขึ้นด้วยความสดใส บัดนี้ในมือของหล่อนถือผ้าพันคอไว้
อันนี้ก็คือของขวัญที่หล่อนพูดถึง เป็นผ้าพันคอ และที่สำคัญยังเป็นของเก่าอีกต่างหาก
“ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเลยค่ะ”เวินลั่วฉิงลงมาถึงชั้นล่าง แล้วเดินอ้อมไปนั่งข้างๆ
หลี่หยุนรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย รีบมองหน้าเวินจีหยันแวบหนึ่ง
“ฉิงฉิง หนูอาจจะไม่เข้าใจฐานะของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปเพียงพอ หุ้นส่วนในมือของลุงมีร้อยละยี่สิบ แต่ก็ขายได้แค่ไม่กี่ล้านเอง
ถึงแม้จะเป็นเงินแค่ไม่กี่ล้าน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย หากหนูยินดี ลุงจะช่วยหนูขายหุ้นให้ เงินหลายล้านหยวนนี้ หนูสามารถนำไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ รองเท้าใหม่ที่สวยๆได้เยอะแยะเลยนะ”เมื่อกี้เวินลั่วฉิงขึ้นไปชั้นบน ระหว่างนั้นพวกเขาก็หารือกันเสร็จสรรพ พวกเขาคิดว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนโง่อยู่แล้ว ดังนั้นของแค่คุณปู่ไม่อยู่ พวกเขาก็จะหลอกเวินลั่วฉิงได้อย่างง่ายดาย
เวินลั่วฉิงมองหน้าพวกเขาด้วยดวงตาลุ่มลึก คนพวกนี้ช่างใจดำเสียจริง เมื่อกี้เธอดูแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทเวนิซื่อกรุ้ปในตอนนี้ ถึงแม้แค่ร้อยละสามสิบห้าที่คุณปู่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก็สามารถขายได้มูลค่าเป็นร้อยล้านแล้ว แต่พวกเขาคิดอยากใช้เงินไม่กี่ล้านมาหลอกเธอซะงั้น?
“ใช่เหรอ?พวกลุงไม่หลอกหนูใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงจงใจถามอย่างไร้เดียงสาหนึ่งประโยค
“ฉิงฉิง ที่ลุงพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมดเลย จะหลอกหนูได้ยังไงกัน”เวินจีหยันรีบพยักหน้า ดวงตามีรอยยิ้มอยู่หลายส่วน เขารู้สึกว่าเวินลั่วฉิงหลอกง่ายฉิบหาย ครั้งนี้เขาจะรวยกันใหญ่แล้ว