ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 575 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 575 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (1)
บทที่ 575 คุณชายสามเย่ริอาจไม่ชอบลูกรักทั้งสองคนของเธอ (1)
เธอบอกว่าเธอรับปากแล้ว?!
อีกทั้งยังมีสีหน้าที่ธรรมชาติ สมเหตุสมผลอีกด้วย
ดังนั้น เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอรับปากนั้นเป็นเรื่องปรกติ?เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอรับปากนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง?ดังนั้น เธอเลิกกับเขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเธอเลย?
หรือสำหรับเธอแล้วอาจจะเป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง?
นาทีต่อมา เย่ซือเฉินก็ลุกขึ้นนั่งหันหลังให้เธอ โดยที่ไม่เหลียวมองเลย เขาอยากลุกเดินออกไปเป็นอย่างมาก เขาทำเพื่อเธอมากมาย
คิดว่าเธอจะรับรู้และเข้าใจ ผลสุดท้ายคือการรับปากเลิกกับเขาอย่างง่ายดาย
“เวินลั่วฉิง คุณน่าจะรู้ว่าท่านไม่กระโดดจริงๆหรอกใช่ไหม?”เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้
เขารู้ว่าเธอเป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง อ่านใจคนเป็น เธอรู้ว่าคุณปู่ไม่กระโดดตึกจริงๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่รู้จุดนี้
เขารู้ความจริงสำหรับคำตอบอยู่แล้ว แต่เวลานี้เขาก็ยังคงถามขึ้นมาอยู่ดี
“อืม ฉันรู้ ฉันรู้ว่าท่านขู่ฉัน แต่หากเกิดเหตุไม่คาดคิดล่ะ……”แน่นอนเวินลั่วฉิงรู้กลอุบายของคุณปู่เย่ดี แต่ตอนนั้นจู่ๆหน้าต่างก็เปิดออก เธอจึงกังวลเล็กน้อยว่าคุณปู่เย่จะกระโดดลงไปจริงๆ
“คุณรู้ว่าท่านไม่กระโดดจริงๆ ไม่มีทางเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ท่านเป็นคนกลัวตายกว่าใครๆ”เย่ซือเฉินยังคงไม่หันหน้าไปมองเธอ
เวลานี้น้ำเสียงของเขามีความเคร่งขรึมอยู่หลายส่วน
คุณปู่กลัวตาย เขาดูออก เขาไม่เชื่อว่าเธอจะดูไม่ออก เพราะเธอเป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชญากรรม
หากเกิดเหตุไม่คาดคิด?เธอบอกเธอกลัวเหตุไม่คาดคิดในความเป็นไปได้หนึ่งในหมื่น?
ดังนั้นความสำคัญของเขาในใจเธอ เทียบไม่ได้กับเศษเสี้ยวหนึ่งในหมื่นเลยสักนิดใช่ไหม?
“ตอนนั้นอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น ฉัน……”เวินลั่วฉิงรู้ทุกอย่างดี แต่ถึงแม้จะรู้ ตอนนั้นอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น……
“เวินลั่วฉิง คุณมีหัวใจบ้างไหม?”เย่ซือเฉินยกมุมปากยิ้มเย็นอยู่หลายส่วน เวลานี้หากตั้งใจฟัง น้ำเสียงของเขาจะเป็นความรู้สึกโกรธในความเจ็บปวดที่รุนแรง
“มี”เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก จากนั้นก็ตอบหนึ่งคำ
“คิก”เย่ซือเฉินหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงมีความเย้ยหยันตัวเองหลายส่วน“ใช่ คุณมีหัวใจ แต่หัวใจคุณทำด้วยก้อนหิน ขัดถูอย่างไรก็ไม่มีทางอุ่นหรือร้อนได้ หรืออาจบอกว่าหัวใจของคุณไม่เคยอยู่ที่ผมเลย ดังนั้น……”
คำพูดประโยคท้าย เย่ซือเฉินไม่ได้พูดออกมา เรื่องบางเรื่อง เขาเข้าใจดี……
เข้าใจตั้งแต่แรกแล้วว่าหัวใจของเธอไม่ได้อยู่ที่เขาเลย
เพียงแต่ เขาคิดว่า ขอแค่เขาแน่วแน่ ต้องมีสักวันที่เธอจะเข้าใจ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอเข้าใจดีแล้ว แต่เวลานี้กลับสาดน้ำเย็นใส่ตัวเขาอย่างเย็นเหยียบ ตอนนี้เขายังจะพูดอะไรได้อีก?
เขาจะทำอะไรได้อีก?
“เวินลั่วฉิง หากนี่เป็นสิ่งที่คุณเลือก ผมก็จะเคารพในการตัดสินใจเลือกของคุณ”เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจ พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง แต่เขากลับพบว่า หัวใจของเขายิ่งสลดใจ ยิ่งเจ็บปวดเพิ่มขึ้น
คำบอกว่าเมื่อมาถึงปลายลิ้น เขาก็ไม่อาจพูดออกมาได้
เย่ซือเฉินนั่งหลังตรง ไม่ได้หันไปมองเธอเลย เพราะหากมองหน้าเธอแล้ว อาจทำให้เขาทำเรื่องที่ควบคุมตนเองไม่ได้ออกมา
เวินลั่วฉิงมองแผ่นหลังของเขา ดวงตาทั้งคู่พลันกะพริบหลายครั้ง เธอยกมุมปากขึ้นเตรียมจะเปิดปากพูด……
นาทีต่อมา จู่ๆเย่ซือเฉินก็ลุกขึ้นยืน ก้าวไปยังทิศทางด้านนอกอย่างเร็วไว เขาเกรงว่าหากยังไม่ไป คงต้องควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นแน่……
“ฉันรับปากพวกท่านว่าจะไม่แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่”เห็นเขาลุกขึ้นด้วยท่าทางจะจากไป เวินลั่วฉิงได้สติพลันรีบพูดออกมา
ตอนนั้นเธอกังวลว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ยิ่งไม่อยากให้พวกท่านเอะอะโวยวายต่อไป ฉะนั้น เธอจึง ‘เกิดสติปัญญาในยามคับขัน’รับปากพวกท่านไป
กล่าวกันว่า ภาษาจีนนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เธอค่อนข้างเห็นด้วยกับจุดนี้ คำไม่กี่พยางค์ หากนำมาแยกแยะจัดแจงก็จะได้ความหมายที่ไม่เหมือนกัน ประเด็นหลักคือต้องมองว่าคุณจะเข้าใจยังไง
ฝีของเย่ซือเฉินหยุดค้าง แผ่นหลังยืดตรงมากขึ้น ได้ยินคำพูดนี้ของเธอ เขารู้สึกหัวใจของเขาได้ร่วงดิ่งลงไปยังก้นอุโมงค์น้ำแข็ง จนทำให้หนาวเหน็บถึงกระดูก
มุมปากของเขายกขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แม้แต่การยิ้มเย้ยหยันก็ไม่อาจทำได้แล้ว สาเหตุที่เขาไม่เคยถามเธอ เพราะกลัวจะได้รับคำตอบที่ทำร้ายจิตใจเช่นนี้
ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้เธอหมายความว่ายังไง?จะบอกเขาให้ได้เลยใช่ไหม?
ยังกลัวเขาไม่เข้าใจอีกเหรอ?กลัวเขาจะมาพัวพันต่อเหรอ?
เธอจำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้ไหม?
“ผมบอกแล้ว ผมเคารพในทางเลือกของคุณ คุณวางใจได้ วันหลังผมจะไม่มาเสนอหน้าให้คุณเห็นอีก”เขาก็มีศักดิ์ศรีของเขา มีความโอหังของเขา ปกติคุณชายสามเย่อย่างเขามักจะทะนงตนกว่าใครอื่น ในเมื่อเธอตัดสินใจเลือกแล้ว ในเมื่อเธอพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว เขาคิดว่า เขาควรวางมือเสียที
เขาคิดว่า อีกหน่อยจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก เขาน่าจะทำได้
หลังจากที่เย่ซือเฉินพูดจบก็ก้าวไปยังทิศทางด้านนอกอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ เขารู้สึกว่าเหมือนมีตะกั่วยึดสองขาเอาไว้ ทำให้หนักจนยกไม่ไหว แต่ถึงแม้จะหนักแค่ไหน เขาก็ต้องเดินออกไปอยู่ดี
“เย่ซือเฉิน คุณจะไปแล้วเหรอ?”เวินลั่วฉิงนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับมองแผ่นหลังของเขา เม้มปากไม่รู้เป็นเพราะอะไร จู่ๆก็รู้สึกไม่เป็นธรรมขึ้นมา
คนที่เอาความตายมาข่มขู่เธอเป็นคุณปู่กับคุณย่าของเขา ดังนั้นตอนนั้นเธอจึงเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา
ฉะนั้นเธอจึงรับปากพวกท่านสองคน เธอบอกว่าจะไม่แต่งเข้าไปบ้านตระกูลเย่ แต่เธอไม่ได้บอกว่าจะไม่แต่งงานกับเขา
เธอคิดว่าเขาจะเข้าใจ แต่เขาไม่เข้าใจเอาสักเลย
เขาไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจเท่านั้น ยังพูดจาเสียดสีเช่นนี้อีก?!อีกทั้งยังคิดจะจากไป เมื่อกี้เขายังพูดว่าอีกหน่อยจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก
“ไม่งั้นล่ะ?”เย่ซือเฉินหยุดเดินอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้หันหน้าไปมองเวินลั่วฉิงแล้ว“ถ้าผมไม่ไปอย่างนี้?คุณยังอยากให้ผมทำอะไรอีก?เวินลั่วฉิง คุณรับปากว่าจะเลิกกันแล้ว คุณยังคิดจะให้ผมทำอะไรอีก?“
“ขอร้องคุณให้เปลี่ยนใจเหรอ?เวินลั่วฉิงอย่างคุณพูดคำไหนคำนั้น รักษาสัจจะ สิ่งที่คุณรับปากไว้แล้วคุณจะเปลี่ยนใจได้ไหม?”เวลานี้ระดับเสียงของเย่ซือเฉินยกสูงขึ้นมาหลายส่วน เพลิงโทสะที่ระงับเอาไว้ ตอนนี้ได้ระเบิดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นท่าทางของเขาในตอนนี้ดุดันและดุร้ายเล็กน้อย
เวินลั่วฉิงเห็นท่าทางของเขาก็ตะลึงงัน ลืมตอบสนองในชั่วขณะนั้น ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาโมโหมากถึงเพียงนี้
และเป็นครั้งแรกที่เขาดุเธอแรงขนาดนี้
“เวินลั่วฉิง เรื่องที่คุณรับปากไว้ คุณกลับคำเป็นไหม?”เย่ซือเฉินถอนหายใจแรงๆ จากนั้นก็อดถามขึ้นมาหนึ่งประโยคไม่ได้
“ไม่”เวลานี้เวินลั่วฉิงก็รู้สึกโกรธ ความโมโหก็เริ่มลุกโชนขึ้นมาแล้ว
เย่ซือเฉิน คุณเป็นหมูหรือไง สมองหมุนไม่ทันก็ช่างเถอะ แต่นี่ถึงกลับมาตวาดใส่เธอเชียวหรือ เขามีสิทธิ์อะไรถึงได้ตวาดใส่เธอเช่นนี้?
คุณปู่กับคุณย่าของเขาเป็นคนบีบบังคับเธอแท้ๆ พวกท่านต่อว่าเธอจนไม่เหลือชิ้นดี ด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ แต่เธอก็ไม่ได้โมโหอะไร แล้วทำไมเขาถึงได้ตวาดใส่เธอเช่นนี้ด้วย?