ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 584 เมียร้องผัวตาม เหมาะสมที่สุด ความสามารถกากสุดๆ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 584 เมียร้องผัวตาม เหมาะสมที่สุด ความสามารถกากสุดๆ (1)
บทที่ 584 เมียร้องผัวตาม เหมาะสมที่สุด ความสามารถกากสุดๆ (1)
เวินลั่วฉิงฟังคำพูดของเด็กทั้งสองคน อารมณ์ซับซ้อนขึ้นมาเป็นพิเศษในทันที
เรื่องการทดสอบนี้ เธอไม่มีความคิดเห็นอะไร แต่ว่าเรื่องที่จะหาสามีใหม่ให้เธอ…
เวินลั่วฉิงคิดว่า ถ้าเด็กสองคนนี้ทำอย่างนั้นขึ้นมาจริง ไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินจะทำยังไงกับเด็กสองคนนี้กันล่ะ?
“หม่ามี๊ พ่อยังไม่รู้เรื่องของพวกเราใช่สินะ?” ถังจื่อโม่เอาโทรศัพท์มาจากมือของถังจื่อซี จากนั้นวางไว้ข้างหู และถามมาหนึ่งคำถาม
“อ่า? อืม” เวินลั่วฉิงดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ตอบกลับไปสองคำ เวินลั่วฉิงไม่กล้าพูดเรื่องที่เย่ซือเฉินไม่ชอบเด็ก
“ได้ อย่างนี้แล้วกัน” น้ำเสียงของถังจื่อโม่เป็นธรรมชาติมาก ฟังไม่ออกว่าดีใจหรือไม่ดีใจ : “หม่ามี๊ เครื่องจะบินแล้ว หนูต้องวางโทรศัพท์แล้ว”
“ได้” เวินลั่วฉิงไม่อยากวางนิดหน่อย แต่เมื่อคิดว่าอีกไม่นานเด็กทั้งสองคนก็จะกลับมาแล้ว เธอจะได้เจอเด็กทั้งสองคนในเร็วๆ นี้แล้ว ในที่สุดในใจก็สบายขึ้นมาหน่อย
หลังจากเวินลั่วฉิงคุยโทรศัพท์กับถังจื่อโม่เสร็จ จึงโทรหาถังหลินอีกครั้ง : “เด็กทั้งสองคนขึ้นเครื่องบินแล้ว จะถึงหลังจากนี้ประมาณสี่ชั่วโมง”
“ได้ สบายใจได้ ฉันจะไปรับอย่างตรงเวลา” ในน้ำเสียงของถังหลินมีความตื่นเต้นอย่างชัดเจน “ใช่แล้ว คุณยังไม่ได้บอกปู่ย่าสินะ?”
“ยังไม่ได้บอกเลย คุณบอกว่าจะทำเซอร์ไพรส์ให้พวกเขาไม่ใช่หรือไง?” มุมปากของเวินลั่วฉิงเม้มน้อยๆ ถังหลินย้ำกับเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าอย่าเพิ่งบอกคนแก่ทั้งสองคน บอกว่าถึงตอนนั้นจะทำเซอร์ไพรส์ให้พวกเขา
“ฉันเคยให้คุณดูรูปไปแล้ว ถึงเวลาคุณอย่าจำผิดล่ะ” เวินลั่วฉิงสั่งอีกครั้งอย่างไม่ค่อยสบายใจ
อีกด้านของโทรศัพท์ ถังหลินกลอกตามองบน ก็แค่รับเด็กสองคนไม่ใช่หรือไง? เขาจะจำผิดหรือไง? เรื่องใหญ่ขนาดไหนกัน?
ถังหลินคิด เด็กทั้งสองคนต้องเชื่อฟังมากแน่ๆ หลังจากเจอเขาต้องดีใจมากแน่นอน ถังหลินยิ่งคิดยิ่งดีใจ ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น
แต่ บางครั้ง ความจริงมักจะไม่เหมือนกับสิ่งที่คิดไว้
หลังจากเวินลั่วฉิงวางสายก็ตรงไปที่โรงพยาบาล
ขณะนั้น ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เย่ซือเฉินยืนอยู่ตรงหน้าเตียงผู้ป่วยของคุณปู่เย่ ดวงตาเย็นชาคู่นั้นกวาดมองขาที่ใส่เฝือกของคุณปู่เย่ กวาดมองไปที่ บาดแผล บนลำตัวและใบหน้า ดวงตาของเขาลึกจนถึงที่สุด
“เฉินเฉิน คุณมาแล้ว” คุณย่าเย่เห็นท่าทางของเย่ซือเฉินในตอนนั้น กลัวนิดหน่อย แต่ตั้งแต่เย่ซือเฉินเข้ามาก็ยืนอยู่ตรงนั้น ยืนอย่างเย็นชาขนาดนั้น ไม่พูดสักคำ เธอต้องทำลายความเงียบนี้ถึงจะดี
ดวงตาของเย่ซือเฉินขยับนิดหน่อย มองไปทางคุณย่าเย่ ดวงตานั้นยังคงเย็นชาเหมือนเดิม เย็นจนกระทั่งไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย
หลังจากเรื่องของแม่เขา ความรู้สึกของเย่ซือเฉินที่มีต่อตระกูลเย่เจือจางมาก หลายปีมานี้รวมถึงทุกอย่างที่คุณปู่เย่คิดและทำ เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับตระกูลเย่มากแล้ว
แต่ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็เป็นญาติของเขา
แต่เมื่อเขาเห็นวิดีโอนั้น ในใจของเขาก็เยือกเย็นขึ้นมา
สบตากับดวงตาเขา คุณย่าเย่สั่นอยู่ในใจ เธอแอบถอนหายใจเงียบๆ พยายามยิ้มออกมา และถามอีกครั้งว่า : “เฉินเฉิน มาเยี่ยมคุณปู่ คุณปู่ต้องดีใจมากแน่ๆ แต่ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้…”
“ต่อหน้าฉันก็ต้องแกล้งทำขนาดนี้ไหม?” มุมปากเย่ซือเฉินขยับ ขัดจังหวะคำพูดของเธอ น้ำเสียงนั้นเย็นเป็นน้ำแข็งโดยไม่มีความอบอุ่นใดๆ เลย
เดิมที่เขาคิดว่า เขามาแล้ว อย่างน้อยพวกเขาคงไม่โกหกเขา แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว แม้แต่เขาพวกเขาก็คงคิดจะหลอกด้วย?
คุณย่าเย่ถูกเขาขัดจังหวะไว้จนพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่น้อยในชั่วขณะ
“คุณพูดอะไรไร้สาระ ฉันบาดเจ็บจนเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นทำร้าย ตอนนี้คุณยังคิดจะปกป้องผู้หญิงคนนั้นอีกหรือไง?” คุณปู่เย่ที่เดิมทีแกล้งนอนได้รับบาดเจ็บรุนแรงอยู่บนเตียงโกรธขึ้นมาทันที
มุมปากของเย่ซือเฉินเผยรอยยิ้มเย็นขึ้นมานิดหน่อย เขามองไปที่คุณปู่เย่ สายตาเยาะเย้ย ความเด็ดขาดมากขึ้น เขาเอาเอกสารข้อมูลชุดหนึ่งออกมาและส่งไปตรงหน้าคุณปู่เย่
“อะไร?” คุณปู่เย่ตะลึง เพราะยังแกล้งทำเป็นบาดเจ็บหนัก จึงนอนไม่ขยับ ไม่รับเอกสารมา
คุณย่าเย่เห็นสถานการณ์อย่างนี้ จึงยื่นมือออกไปรับเอกสารที่อยู่ในมือเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินมองคุณย่าเย่ ปรากฏความผิดหวังในดวงตาเย็นชามากมาย แต่เขาก็ปล่อยมือ เอาเอกสารที่อยู่ในมือให้คุณย่าเย่ไป
หลังจากที่คุณย่าเย่รับเอกสารมา เริ่มเปิดดู สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นดูน่าเกลียดเป็นพิเศษ มือที่ถือเอกสารไว้ก็สั่นอย่างอดไม่ได้ : “เฉินเฉิน นี่คุณหมายความว่าอะไร? คุณคิดจะทำอะไร?”
“เป็นอะไรกันแน่?” คุณปู่เย่เห็นท่าทางคุณย่าเย่ ดวงตาคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย
คุณย่าเย่ถอนหายใจออกมาแรงๆ จากนั้นส่งเอกสารให้คุณปู่เย่
ตอนนั้นเองคุณปู่เย่ก็ไม่เสแสร้งอีกแล้ว เขาก็รู้ว่าไม่สามารถโกหกเย่ซือเฉินได้ เขายื่นมือมารับเอกสารอย่างรวดเร็ว มองแค่นิดหน่อย สีหน้าของคุณปู่เย่ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“คนสารเลวอย่างแก แกคิดจะทำอะไร?” คุณปู่เย่ทนไม่ได้ขึ้นมาทันที ตะโกนความโกรธออกมาเสียงดัง ในน้ำเสียงมีความโกรธอย่างยิ่ง ดูไม่เหมือนคนได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
“นี้เป็นเรื่องที่คุณทำทั้งหมดในหลายปีมานี้ ฉันช่วยคุณจัดไว้หมดแล้ว ฉันคิดว่าถ้าฉันเอาของเหล่านี้ให้ตำรวจ คิดว่าช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนี้คงต้องไปใช้ในคุกเสียแล้ว” สีหน้าของเย่ซือเฉินขณะนั้นไร้ความรู้สึกใดๆ เขารู้ตั้งนานแล้วว่าในบ้านตระกูลเย่ไม่มีความเป็นครอบครัวอะไร
เขารู้ตั้งแต่ตอนนั้นที่แม่โดนบีบบังคับให้ออกไปจากตระกูลเย่
ดังนั้น ตอนนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องครอบครัวกับพวกเขา
“แก แก แก …” คุณปู่เย่โกรธจนสั่นไปทั้งตัว หรือไม่ใช่แค่โกรธ ทำเรื่องโหดร้ายมากมายขนาดนั้น ในใจของเขาคงมีความกลัวอยู่บ้างสินะ?
“ฉันเป็นปู่ของแก เพื่อผู้หญิงคนเดียวแก่ถึงกับทำอย่างนี้กับฉัน?” ขณะนั้นคุณปู่เย่ไม่สนใจเสแสร้งได้รับบาดเจ็บแล้ว ลุกขึ้นนั่งทันที จ้องมองเย่ซือเฉินอย่างโหดเหี้ยม
“ฉันให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมง คุณเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรทำอะไร หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ถ้าฉันไม่เห็นผลลัพธ์ที่พอใจ ฉันจะส่งเอกสารพวกนี้ไปที่สถานีตำรวจ” ดวงตาของเย่ซือเฉินตอนนั้นทำให้คนรู้สึกกลัว น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาเหมือนกัน และน้ำเสียงหนักแน่นอย่างยิ่ง ไม่มีช่องว่างให้เจรจาแม้แต่น้อย
บางเรื่องเขาไม่จำเป็นต้องอธิบาย เขารู้ว่าคุณปู่เย่เข้าใจดี
“แก? แกมันคนสารเลว แกอยากจะทำให้ฉันโกรธจนตายใช่ไหม?” คุณปู่เย่โกรธจนหน้าแดงไปหมด เขายื่นมือออกมาชี้ไปที่เย่ซือเฉิน แต่มือข้างนั้นกลับสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เห็นได้ชัดมาก ขณะนั้นคุณปู่เย่โกรธจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ
“แกต้องรู้ แกเป็นคนของตระกูลเย่ แกเอาของพวกนี้ให้สถานีตำรวจไป ก็มีผลกระทบกับแกด้วย” คุณปู่เย่แอบถอนหายใจเงียบ พยายามให้ตัวเองสงบลง