ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 593 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น(4) (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 593 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น(4) (5)
บทที่ 593 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (5)
“ใช่แล้ว ถังหลินบอกว่าจะกลับมาแล้ว จะไปรับใครนี่แหละที่สนามบิน ไม่รู้ว่าใครถึงต้องให้เขาไปรับเอง” ท่านย่าถังบ่นพึมพำ
“เขาบอกว่าไปรับแล้วก็จะพากลับมาเลยใช่ไหม ถึงตอนนั้นก็รู้เองแหละ” ท่านปู่ถังอยากรู้แต่ไม่มากนัก พูดสบายๆ
เวินลั่วฉิงเม้มปาก กำลังคิดว่าจะบอกพวกเขาก่อนดีไหม
เวลานี้เอง ถังหยุนเฉิงก็พาเฟิ่งเหมียวเหมียวกลับมาเช่นกัน
“เอ๊ะ ทำไมพวกเธอก็กลับมา” ท่านปู่ถังเห็นสองคนที่เข้ามา ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง สองคนนี้เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ ทำไมวันนี้มาอีก
ตอนนี้ภายในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลคงจะมีเรื่องมากมายถึงจะถูก
“ถังหลินโทรมาหาพวกเรา ให้พวกเรารีบกลับมา บอกว่ามีเรื่องสำคัญมากครับ” ถังหยุนเฉิงขมวดคิ้วนิดหนึ่ง เห็นชัดว่าไม่ค่อยพอใจ “เขาต้องมีเรื่องสำคัญมากจริงๆ ไม่อย่างนั้น…”
“ถังหลินบอกแล้วมีเซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์ที่ถังหลินพูด ต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน่” เฟิ่งเหมียวเหมียวรีบพูดต่อจากเขา
“ถังหลินก็พูดอย่างนี้กับพวกเรา บอกว่ามีเซอร์ไพรส์ คิดว่า เขาจะพาแฟนมาหรือเปล่า” ท่านย่าถังอดไม่ได้ที่จะคาดเดา
“อายุขนาดเขาพาแฟนมาบ้านก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เซอร์ไพรส์อะไรกัน ไม่ใช่พาหลานชายมาหาปู่ย่าซะหน่อย” ถังหยุนเฉิงยังมีงานอีกมาก ตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่สนใจถังหลิน แต่ถูกเฟิ่งเหมียวเหมียวบังคับลากมา ตอนนี้เขาถึงไม่พอใจมาก
“แค่ก…” เมื่อได้ยินถังหยุนเฉิงพูดเช่นนี้ เวินลั่วฉิงถึงกับสำลักน้ำลาย
“ฉิงฉิง เป็นอะไรไป” ท่านย่าถังที่ยืนข้างเวินลั่วฉิง รีบตบหลังเธอ
“ไม่เป็นไรๆ แค่สำลักค่ะ” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าหน้าแดง ไม่รู้ว่าสำลักหรือเปล่า
“ดูสิเธอตื่นเต้นแล้ว ลุงของเธอก็พูดไปเรื่อย นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พ่อแม่อยากอุ้มหลานคงจะต้องรอไปก่อน”
เฟิ่งเหมียวเหมียวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ไม่แน่อาจจะพาหลานชายมาหาพวกเราจริงๆ” ท่านย่าถังมีแววตาเป็นประกายรางๆ “ฉันกับพ่อของเธอรอหลานมาหลายปีแล้ว”
“แม่ คิดอะไรอยู่ ถังหลินยังไม่แต่งงานซะหน่อย ขนาดแฟนยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนเลย จะไปพาหลานจากไหนมาคะ หนูรู้พ่อแม่รอคอยหลานมาตลอด แต่ที่แม่คิดมันห่างไกลความจริง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดค่ะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวเข้าใจลูกชายตัวเองดี
“ถ้ามันอยู่ๆ ก็มีลูกมาจากไหนไม่รู้ มันกล้ารังแกลูกสาวบ้านอื่น ดูสิผมจะไม่หักขามันมั้ย” ถังหยุนเฉิงอบรมเข้มงวดมาตลอด เรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างนี้เขาเข้มงวดมาก
“แค่ก แค่ก แค่ก…” เวินลั่วฉิงสำลักน้ำลายอีกครั้ง ครั้งนี้เธอถึงกับควบคุมไม่ได้สำลักหลายครั้ง
“ฉิงฉิง หลานเป็นอะไรไป ทำไมไอขนาดนี้ ไม่สบายหรือเปล่า” สีหน้าท่านย่าถังเป็นกังวลไม่น้อย
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร หนูสบายดีค่ะ” เวินลั่วฉิงรีบทำมือปฏิเสธ ตอนนี้ เธอรู้สึกร้อนตัวเหลือเกิน
ถ้าจะคิดดีๆ ตอนแรกถือว่าเธอทำร้ายคุณชายสามเย่หรือเปล่า จากนั้นก็ให้กำเนิดเด็กสองคน
อย่างนั้นอีกเดี๋ยวลุงจะหักขาเธอมั้ย
เธอต้องบอกถังหลินไหมนะ อย่าเพิ่งพาเด็กๆ กลับมา
“พวกเรามาแล้วครับ” แต่ ตอนนี้เอง เสียงถังหลินก็ดังเข้ามา หลังจากเสียงนั้น ก็เห็นถังหลินที่หน้าประตู ถังหลินกำลังจูงมือเด็กสองคน
ในห้องโถง ทุกคนในที่นั้นเมื่อได้ยินเสียงถังหลินก็มองไปตามเสียงนั้น มองเห็นถังหลินจูงมือเด็กสองคน แต่ละคนถึงกับนิ่งตะลึงงัน
เวลานี้เองเยว่หงหลิงยืนข้างหลังถังจื่อซี ภาพนี้มองแล้วทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่าย
เวินลั่วฉิงคิดถึงเมื่อครู่ที่ถังหยุนเฉิงบอกว่าจะหักขา ในใจรู้สึกกลัว จึงไม่กล้าพูดอะไรไปชั่วขณะ
เวลานี้เอง ตำแหน่งที่เวินลั่วฉิงยืนถูกถังหยุนเฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวบังพอดี เด็กสองคนจึงไม่เห็นเธอ
“รีบทักทายเร็ว” ถังหลินพาเด็กๆ เดินมาข้างหน้า แล้วเรียกให้เด็กสองคนทักทายผู้ใหญ่
“สวัสดีค่ะคุณปู่ คุณย่า ปู่ทวด ย่าทวด” ถังจื่อซีแต่ไหนแต่ไรปากหวานอยู่แล้ว และไม่เคยกลัวอะไร จึงเรียกทุกคนในห้องโถงอย่างว่าง่าย เพราะเวินลั่วฉิงยืนหลังถังหยุนเฉิงไม่ขยับ ถังจื่อซีมองไม่เห็นเธอ จึงไม่ได้เรียก
พูดตามหลักแล้ว ถังจื่อซีควรจะเรียกถังหยุนเฉิงคุณปู่ แต่ถังจื่อซียังเด็ก แยกไม่ได้ละเอียดขนาดนั้น
ถังจื่อโม่ดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็เรียกตามถังจื่อซีอย่างว่าง่าย
ชั่วขณะนั้น ทุกคนยิ่งยืนนิ่งเหมือนหุ่น ทุกคนต่างยืนตรง ไม่แสดงออกอะไรทั้งนั้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในห้องโถง
เมื่อทุกคนได้ยินเสียง ก็รีบหันไปมอง ก็เห็นท่านย่าถังล้มลงนั่งที่โซฟา ยังดีที่ด้านหลังคือโซฟา ไม่อย่างนั้นคงล้มลงนั่งบนพื้นแล้ว
“ฉัน ฉันตาลายหรือเปล่า” ท่านย่าถังกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สายตาจ้องมองเด็กสองคนไม่กะพริบ หน้าตาบ่งบอกว่าไม่อยากเชื่อ เธอรู้สึกว่าตอนนี้ต้องตาลายแน่
“แม่ ไม่ได้ตาลายหรอกค่ะ น่าจะจริง แม่ทายถูกแล้ว ถังหลินพาหลานกลับมาจริงๆ แถมยังสองคนด้วย” เฟิ่งเหมียวเหมียวเคลื่อนสายตา มองท่านย่าถัง ดูเหมือนจะตั้งสติมาบ้าง แต่ยังไม่ทั้งหมด เสียงนั้นเหมือนจะร้องไห้ ดูท่าคงจะตกใจมาก แน่นอนว่าอาจจะตื่นเต้นด้วย
เฟิ่งเหมียวเหมียวมองเด็กทั้งสอง สายตาเป็นประกาย โอ๊ย เด็กน้อยสองคนนี้ทำไมน่ารักขนาดนี้ อย่างนี้
ถังหยุนเฉิงที่เพิ่งจะโวยวายอยากจะหักขาถังหลินตอนนี้มองเด็กสองคน สายตาเปี่ยมด้วยแสงสว่างที่ต่างจากปกติ ต่างพูดกันว่าความผูกพันแต่ละรุ่น ใครกันไม่ชอบหลาน และเด็กสองคนนี้ยังน่ารักขนาดนี้ด้วย
แน่นอน ใบหน้าท่านปู่ถังก็ปีติ และตื่นเต้นเช่นกัน
“คุณลุง คุณป้าสวัสดีค่ะ คุณปู่ถัง คุณย่าถังสวัสดีค่ะ” เยว่หงหลิงเดินตามเข้ามา ก็ทักทายอย่างมีมารยาท
“โอ๊ะๆๆ เรียกอะไรกันป้า เด็กโตขนาดนี้แล้ว เรียกแม่สิ แม่” เฟิ่งเหมียวเหมียวสายตามองเยว่หงหลิง รีบกระตือรือร้นต้อนรับ เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกเด็กโตขนาดนี้ ถังหลินถึงพามาบ้าน รู้สึกผิดต่อเด็กๆ มาก จึงต้องการชดเชยให้เต็มที่
ดังนั้น เฟิ่งเหมียวเหมียวจึงแสดงความคิดของตัวเองเต็มที่
เวินลั่วฉิงได้ยินเฟิ่งเหมียวเหมียวพูดอย่างนั้น ก็แทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง นี่มันเรื่องอะไรกัน