ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 605 คุณท่านทั้งสองของตระกูลเย่ได้พบเจอกับเด็ก ๆ แล้ว (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 605 คุณท่านทั้งสองของตระกูลเย่ได้พบเจอกับเด็ก ๆ แล้ว (4)
บทที่ 605 คุณท่านทั้งสองของตระกูลเย่ได้พบเจอกับเด็ก ๆ แล้ว (4)
คุณปู่เย่มองจนตาแทบถลนออกมา ใจทั้งดวงก็แทบเต้นจนมาอยู่ถึงคอหอยแล้ว นี่ถ้าเกิดว่าไม่ทันระวังแค่นิดเดียวแล้วรับไม่ได้ งั้นผลก็จะ……
“บรรพบุรุษน้อยจ๋า นี่มันเป็นของที่มูลค่ามหาศาลทั้งนั้นนะ ถึงบ้านหนูไม่ขาดเงิน แต่ว่าถ้าหนูทำมันตกแตก ก็จะหาของที่เหมือนกันอีกไม่ได้แล้วนะ” ท่านย่าถังมองถังจื่อซีแล้วพูดขึ้นติด ๆ
พอคุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของท่านย่าถังแล้ว ก็ยิ่งเชื่ออย่างไม่สงสัยเลย หัวใจก็ยิ่งบิดกันยิ่งขึ้นแล้ว
ถังจื่อซีเพื่อนตัวเล็กกลับไม่ได้สนใจอะไรเลย เอาแต่หัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วอาจจะรู้สึกว่าเล่นโยนแผ่นหยกเล่นมันสนุกไม่พอ จากนั้นก็เอาเหรียญหยกในกล่องออกมา แล้วก็มาโยนเล่นด้วยกัน แล้วครั้งนี้ ถังจื่อซียังตั้งใจโยนให้สูงขึ้นไปอีก
ถังจื่อซีเพื่อนตัวเล็กรับแผ่นหยกไว้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าเหรียญหยกนั้นโยนออกไปไกลแล้ว แล้วก็บินไปทางคุณปู่เย่โดยตรงเลย
เหรียญหยกที่ลอยขึ้นมานั้นพุ่งไปทางคุณปู่เย่ก็จริง แต่ว่าก็ยังพอมีระยะห่างกับคุณปู่เย่อยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน
คุณปู่เย่ฮึดสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง และอดไม่ไหวร้องอย่างตกใจขึ้นมาคำหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอัตโนมัติ และก้าวเดินไปสองก้าว จากนั้นก็แย่งรับเหรียญหยกชิ้นนั้นมาไว้ในมือได้
คุณปู่เย่คว้าเหรียญหยกมาไว้ได้ แต่พอตั้งสติกลับมาได้ก็สายเกินไปซะแล้ว แล้วเขาหันไปทางท่านปู่ถังและท่านย่าถังอย่างอัตโนมัติ
ท่านปู่ถังและท่านย่าถังต่างก็จ้องมองเขา บนใบหน้าต่างก็มี‘ความตกใจ’อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ว่าพวกเขาต่างก็ไม่ได้พูดอะไร
พอผ่านไปครู่หนึ่งแล้วท่านปู่ถังก็ค่อย ๆ หันสายตาไป
“จื่อซี เลิกโยนของไปเรื่อยได้แล้ว” ท่านย่าถังก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจไปติด ๆ เหมือนกัน
สถานการณ์แบบนี้มันจะชัดเจนไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ทุกคนต่างก็เห็นชัดเจน และรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ไม่ได้พูดเปิดโปงออกไป
คุณปู่เย่รู้สึกขวยเขินเล็กน้อย แต่ว่าก็เห็นได้ชัดว่าโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง คุณปู่เย่รู้สึกว่า ในเมื่อทุกคนต่างก็ไม่ได้พูดเปิดโปงเขา งั้นก็คงจะทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่เลย
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คุณปู่เย่จะรีบกลับไปนั่งที่รถเข็นก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในตอนนี้คนทั้งหมดล้วนมองเห็นแล้ว ถ้าเขายังจะรีบกลับไปนั่งบนรถเข็นก็จะดูยิ่งเขินอายมากขึ้น
ในมือของคุณปู่เย่ถือเหรียญหยกชั้นนั้นเอาไว้ รู้สึกถึงความเนียนเรียบแบบนั้น ก็รู้สึกเสียดายไม่อยากจะปล่อยมือ แต่ว่าพอมองเห็นถังจื่อซีกำลังลืมตาโต ๆ จ้องมองเขาอยู่ เขาจะไม่คืนก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยเดินไปข้างหน้าอีกสองก้าว เพื่ออยากจะเอาเหรียญหยกคืนให้กับถังจื่อซี
“ให้หนูเถอะค่ะ” อยู่ ๆ เวินลั่วฉิงก็ลุกยืนขึ้นมา แล้วเดินมาถึงข้างหน้าคุณปู่เย่ จากนั้นก็เอามือยื่นออกไปถึงตรงหน้าคุณปู่เย่
“อ๋อ ได้ ได้” คุณปู่เย่รู้สึกไม่อยากจะปล่อยมือเล็กน้อย แต่ว่าคนอื่นเขามาเอาแล้ว เขาจะไม่ให้ก็ไม่ได้แน่
ในขณะนี้ เขายืนอยู่ตรงหน้าเวินลั่วฉิง
หลังจากที่เวินลั่วฉิงรับเหรียญหยกไปแล้ว ดวงตาทั้งคู่ก็กวาดมองไปที่ขาของเขาทีหนึ่ง “ดูแล้วขาของคุณปู่เย่ก็ใช้การได้คล่องแคล่วดี เดินไม่กี่ก้าวเมื่อกี้ก็เดินได้ราบรื่นดี ดูแล้วมันก็ไม่ได้หัก และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรด้วย”
คุณปู่เย่อึ้งไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าอยู่ ๆ เวินลั่วฉิงจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้ เมื่อกี้ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังยังทำเป็นมองไม่เห็น แล้วต่างก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
นี่เวินลั่วฉิงกลับเปิดโปงเขาตรง ๆ อย่างไม่คำนึงถึงอะไรเลยงั้นเหรอ?
นี่เธอหมายความว่ายังไงกันแน่?
สีหน้าของคุณปู่เย่เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ขึ้นมาชั่วพริบตา
“ฉิ้นเอ๋อ อย่าเสียมารยาทขนาดนี้” ท่านย่าถังแสร้งทำเป็นร้องเรียกขึ้นมาคำหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ” เวินลั่วฉิงพูดเสียงเบาขึ้นประโยคหนึ่ง น้ำเสียงเบามาก แต่กลับชัดเจนดี
“ไม่ ไม่เป็นไร” คุณปู่เย่นึกว่าเธอพูดกับเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอึดอัดมาก และลำบากใจอยู่บ้าง แต่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เพราะฉะนั้นคุณปู่เย่ก็ยังตอบกลับไปประโยคหนึ่งอย่างอัตโนมัติ
แต่ว่าเวินลั่วฉิงกลับมองยังไม่มองคุณปู่เย่เลยแม้แต่นิดเดียว แต่มองไปทางท่านย่าถัง “คุณยาย ขอโทษค่ะ คุณยายก็รู้ว่าหนูเห็นเรื่องที่เสแสร้งแกล้งทำแบบนี้ไม่ได้ที่สุดเลย”
คุณปู่เย่ที่ขวยเขินมาตั้งแต่แรก พอตอนนี้มาได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง ก็ยิ่งขวยเขินถึงขีดสุดแล้ว ใบหน้าทั้งหน้าก็เปลี่ยนดูไม่ได้ขึ้นมาในพริบตา
คุณย่าเย่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ เมื่อกี้ในตอนที่เธอตั้งสติขึ้นมาได้ และอยากจะไปห้ามปรามมันก็ไม่ทันซะแล้ว
ตอนนี้ คุณย่าเย่เองก็เขินอายจนแทบไม่ไหวแล้ว
“เรื่องนี้ ตอนแรกตากับยายก็ไม่รู้มาก่อน” ท่านย่าถังถอนหายใจขึ้นเบา ๆ ทีหนึ่ง การถอนหายใจในครั้งนี้นั้นเรียกได้ว่ามีความหมายลึกซึ้งมาก!!
พอคำพูดนี้ของท่านย่าถังพูดออกมา คุณย่าเย่ก็แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเลย
สีหน้าของคุณปู่เย่ก็ยิ่งดูไม่ได้เลย
“คุณปู่เย่ คุณกลับไปนั่งบนรถเข็นก่อนเถอะ นี่ถ้าอีกเดี๋ยวมีคนอื่นมาเห็นเข้าอีก ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงแล้ว” ท่านย่าถังมองไปที่คุณปู่เย่อีกครั้ง ท่าทีแบบนั้นดูเปลี่ยนไปเป็นค่อนข้างซับซ้อนวุ่นวาย
พอคุณย่าเย่ได้ยินคำพูดของท่านย่าถัง ก็ลุกขึ้นมา แล้วอยากจะเข็นรถเข็นไปให้คุณปู่เย่
ดวงตาของเวินลั่วฉิงหมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แล้วอยู่ ๆ ก็มองไปที่คุณย่าเย่
คุณย่าเย่สบเข้ากับสายตาของเวินลั่วฉิง ในใจก็กระตุกขึ้นทีหนึ่ง ไม่รู้ทำไม อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายขยับไม่ได้ในพริบตาขึ้นมา แล้วก็ได้แต่ยืนทื่อ ๆ อยู่อย่างนั้น
คุณย่าเย่ไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นแค่สายตาปกติธรรมดาเท่านั้น แต่ทำไมถึงได้……
คุณปู่เย่เห็นคุณย่าเย่ยืนอยู่ไม่ขยับ ไม่ได้เข็นรถเข็นมาให้เขา ตัวเองจึงได้แต่เดินกลับไปที่รถเข็นเอง แล้วก็นั่งลงบนรถเข็นด้วยตัวเองเลย
เวินลั่วฉิงอุ้มถังจื่อซีขึ้นมา แล้วก็เดินอ้อมไปอีกทาง จากนั้นก็ขึ้นชั้นบนไป
“มีใครอยู่ไหม ส่งแขก” จากนั้น ท่านปู่ถังก็ลุกขึ้นยืน แล้วก็ออกคำสั่งไล่แขกเลย
“ท่านถัง ท่านย่าถัง คุณฟังผมอธิบายก่อน……” สีหน้าของคุณปู่เย่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็มองไปทางท่านปู่ถังอย่างรวดเร็ว และอยากจะอธิบาย
“อาการของคุณปู่เย่นั้น พวกเราก็มองเห็นกันชัดเจนมากแล้ว น่าจะไม่ต้องอธิบายแล้ว” ท่านย่าถังมองไปที่เขา เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงเย็นลงไปหลายองศา
“ท่านถัง ท่านย่าถัง นี่ผมเองก็มีความทุกข์ใจไม่มีทางเลือกเหมือนกัน” คุณปู่เย่รู้ว่า เมื่อกี้เขาได้ลุกขึ้นมา แล้วยังเดินไปอีกหลายก้าว เพราะฉะนั้นถ้ายังแกล้งทำเป็นบาดเจ็บอีกก็คงจะไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ขอความเห็นใจแล้ว
“ที่ผมทำแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าซือเฉินของบ้านเราทั้งนั้น พวกคุณคงจะไม่รู้ ยัยผู้หญิงอัปลักษณ์หน้าไม่อายเวินลั่วฉิงคนนั้นเอาแต่มายุ่งกับซือเฉินของเราไม่หยุด เวินลั่วฉิงไม่เพียงไม่สวยเท่านั้น ยังไม่สามารถมีลูกได้อีก ถ้าซือเฉินของเราแต่งงานกับเธอไป ชาตินี้ทั้งชาติก็คงหมดสิ้นกันแล้ว ถ้าซือเฉินแต่งงานกับเธอชาตินี้ทั้งชาติก็คงจะไม่ได้เป็นพ่อคน ตระกูลเย่ของเราก็จะไร้ผู้สืบทอดแล้ว เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ยุ่งไม่ได้” จนถึงตอนนี้คุณปู่เย่ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด เขาไม่เคยผิดมาก่อน คนผิดจะต้องเป็นคนอื่นเสมอ
ดวงตาของท่านย่าถังกรอกไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็แอบถอนหายใจไปทีหนึ่ง ตาแก่นี่ว่าฉิงฉิงของบ้านพวกเขาต่อหน้าพวกเขาอย่างนี้เลยเหรอ ได้ ดีมาก นี่ถ้าไม่ต้องทำตามแผนการของฉิงฉิงนะ เธอจะเอาไม้มาไล่ตีพวกเขาให้ออกไปจริง ๆ
ถ้าเย่ซือเฉินแต่งานกับฉิงฉิงแล้วชาตินี้จะไม่ได้เป็นพ่อคนเหรอ? ถ้าเย่ซือเฉินแต่งงานกับฉิงฉิง แล้วตระกูลเย่ของพวกเขาก็จะไร้ผู้สืบทอดเหรอ?
ได้ งั้นต่อไปหลานรักทั้งสองคนก็ไม่ต้องยอมรับตระกูลเย่แล้ว
“เพราะฉะนั้น คุณก็เลยแกล้งทำเป็นบาดเจ็บ? แกล้งทำเป็นกระดูกหัก? แล้วก็บอกกับนักข่าวว่าเวินลั่วฉิงตีคุณจนบาดเจ็บแบบนี้เหรอ?”