ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 607 คุณชายสามเย่สารภาพรักอย่างองอาจ สะเทือนไปทั่วทั้งงาน (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 607 คุณชายสามเย่สารภาพรักอย่างองอาจ สะเทือนไปทั่วทั้งงาน (2)
บทที่ 606 คุณชายสามเย่สารภาพรักอย่างองอาจ สะเทือนไปทั่วทั้งงาน (2)
“อืม ไม่สนใจ” ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบไหว มุมปากคลี่ออกเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาอดกลั้นมาตั้งนาน จะอดกลั้นจนพูดออกมาได้แค่ประโยคแบบนี้
เย่ซือเฉินหายใจถี่ขึ้นเล็กน้อย จิตใจอยู่ ๆ ก็หนักอึ้งขึ้น จากนั้นตั้งนานก็ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา
เขาไม่พูดอะไร เวินลั่วฉิงก็ยิ่งไม่มีอะไรจะพูด ทั้งสองคนต่างก็เงียบขรึมอยู่อย่างนั้น เงียบจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน
“ผมอยากจะมัดคุณไว้ข้างกายผมจริง ๆ มัดไว้ตลอดชีวิต!” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน คุณชายสามเย่ก็ค่อย ๆ ถอนหายใจ น้ำเสียงนั้นฟังดูมีความรู้สึกโหดเหี้ยมอยู่บ้าง
คาดว่าน่าจะรู้สึกโกรธอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวินลั่วฉิงทำให้โกรธหรือเปล่า
“จอมเจ้าถิ่น” ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงอดไม่ไหวต้องคลี่ออกเล็กน้อย คนคนนี้มักจะชอบวางอำนาจแบบนี้ตลอดกาล
เธอเองก็บอกไปแล้วว่าไม่สนใจ เขายังจะเอาเธอไปมัดไว้ข้างกายอีก นี่ไม่ใช่โจรแล้วจะคืออะไร?
“ถ้าผมเป็นโจรเจ้าถิ่น ก็จะไปฉุดคุณกลับมาเป็นคุณผู้หญิงแห่งหมู่บ้านจอมโจร” เย่ซือเฉินอึ้งไปเล็กน้อย แล้วในเสียงที่ลอยมาอีกครั้งเหมือนกับว่าจะเสียงหัวเราะแฝงมาด้วยเสี้ยวหนึ่ง แต่ว่าก็ยังคงมีความรู้สึกโหดเหี้ยมอยู่บ้าง
“ฉันไม่อยากเป็นคุณผู้หญิงแห่งหมู่บ้านจอมโจรสักหน่อย” มุมปากของเวินลั่วฉิงคลี่ออกเล็กน้อย คนคนนี้นี่ฉุดจนติดเป็นนิสัยแล้วใช่ไหม?
“ฉุด” ครั้งนี้ คุณชายสามเย่พูดมาแค่คำนี้คำเดียว คำที่ง่ายจนไม่รู้จะง่ายยังไงแล้ว แต่ว่ากลับมีอำนาจและหยิ่งผยองอย่างที่สุด
ไม่ยินยอมก็ฉุด และนี่ก็เป็นสไตล์ของเขาคุณชายสามเย่อยู่แล้ว
เวินลั่วฉิง “……”
ชั่วขณะหนึ่ง เวินลั่วฉิงไม่รู้แล้วจริง ๆ ว่าจะสามารถพูดอะไรได้อีก?
เอะอะอะไรก็แข็งกร้าว มาใช้ไม้แข็ง ตอนนี้ยังจะมาใช้การฉุดโดยตรงอีกเหรอ ?
หรือว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยเหรอว่าจะขอเธอแต่งงานตามปกติอะไรบ้างสักครั้ง?
“ฉิงฉิง ผมคิดถึงคุณแล้ว” เย่ซือเฉินหายใจเข้าเงียบ ๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดปากพูดขึ้น คำพูดนี้ถึงจะเป็นคำพูดที่เขาอยากจะพูดมากที่สุด เขาคิดถึงเธอ คิดถึงมาก
“อืม” มุมปากของเวินลั่วฉิงคลี่ออกเบา ๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับเบา ๆ คำหนึ่ง
คุณชายสามเย่ “……”
เขาบอกว่าคิดถึงเธอแล้ว พูดได้ชัดเจนขนาดนี้ แต่เธอกลับมีปฏิกิริยาแบบนี้เหรอ
“ฉิงฉิง ผมคิดถึงคุณแล้ว” คุณชายสามเย่พูดย้ำอีกรอบ ครั้งนี้น้ำเสียงเหมือนจะต่ำลงบ้างเล็กน้อย แต่ว่ากลับมีความรู้สึกรุ่มร้อนเพิ่มขึ้นมาหลานส่วน
“อืม” เวินลั่วฉิงยังคงตอบกลับเบา ๆ คำหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้ ความกว้างที่มุมปากเหมือนจะกว้างยิ่งขึ้นมาหลายองศาแล้ว
คุณชายสามเย่ “……”
ผู้หญิงคนนี้นี่ ทำไมเขาถึงได้อยากจะกัดเธอให้ตามแบบนี้?
แต่น่าเสียดายตอนนี้เขาอยากจะกัดก็กัดไม่ได้
“วิดีโอถ่ายเสร็จแล้วใช่ไหม?” คุณชายสามเย่รู้สึกว่าถ้าเขายังคงสนทนาหัวข้อเมื่อกี้ต่อ คาดว่าจะต้องอัดอั้นตายแน่ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยเปลี่ยนหัวข้ออย่างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยถามถึงแผนการในครั้งนี้ของเธอมาก่อน แต่ว่าเขารู้ว่าเธอจะทำอะไร
“อืม” เวินลั่วฉิงตอบกลับเบา ๆ อีกคำ ถึงแม้ว่าเธอยังจะไม่ได้ถาม แต่เธอเชื่อว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวจะต้องถ่ายวิดีโอไว้เรียบร้อยแล้วแน่นอน
“กะว่าจะโพสต์ออกไปทันทีเลยไหม?” แล้วคุณชายสามเย่ก็ถามขึ้นอีกประโยค แน่นอนว่าตอนนี้ที่เขาถามคำถามนี้ เขาก็ต้องมีความคิดและแผนการของตัวเองอยู่
“อืม” เวินลั่วฉิงยังคงตอบกลับคำเดียวคำง่าย ๆ ที่ไม่รู้จะง่ายยังไงอีกแล้วอยู่เหมือนเดิม
“เวินลั่วฉิง นอกจาก ‘อืม’แล้ว คุณยังพูดอะไรอย่างอื่นได้อีกไหม?” พอคุณชายสามเย่ได้ยินคำเดียวที่เธอตอบมา ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้เขาไม่เห็นตัวตนของเธอ และอยากจะฟังเสียงของเธอบ้าง อยากจะฟังเธอพูดคำพูดดี ๆ หน่อย ทำไมมันถึงได้ยากขนาดนี้ล่ะ?
เขารู้ว่าเธอจะต้องจงใจแน่ ๆ!!
“อืม” เวินลั่วฉิงจงใจตอบกลับเบา ๆ อีกคำหนึ่ง รอยยิ้มที่มุมปากก็คลี่ออกอย่างไม่ขาดสาย เธอรู้สึกว่าบางครั้งแกล้งคุณชายสามเย่เล่นบ้างก็สนุกมากเหมือนกัน แล้วความไม่สบายใจที่มีในใจเมื่อกี้ก็ได้จางหายไปหมดแล้ว
“เวิน ลั่ว ฉิง” คุณชายสามเย่ร้องเรียกขึ้นทีละคำทีละคำ ในน้ำเสียงก็มีความโหดเหี้ยมเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน แล้วตอนนี้เขาก็อยากจะกัดเธออีกครั้งแล้ว อืม กัดอย่างโหดเหี้ยม กัดเธอให้แรง ๆ
เวินลั่วฉิงกลั้นไม่ไหว จนหัวเราะมีเสียงออกมาเลย
คุณชายสามเย่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็หายใจเข้าแรง ๆ ทีหนึ่ง เขาโกรธจะเป็นจะตายอยู่ฝั่งนี้ แต่เธอกลับดี! หัวเราะได้อย่างมีความสุขขนาดนี้
แต่ว่า พอได้ยินเธอหัวเราะได้อย่างดีใจขนาดนี้ พอรู้ว่าเธอไม่ได้โมโหเพราะเรื่องเมื่อกี้อีกแล้ว และใจของเขาก็วางลงได้ทั้งหมดสักที
เขาก็รู้ว่าคำพูดพวกนั้นของคุณปู่เมื่อกี้มันไม่น่าฟังมากจริง ๆ มันทำร้ายคนเกินไป ทำให้เธอต้องทุกข์ใจแล้ว
แต่ว่า ต่อไปจะไม่เป็นอีกแล้ว
“ฉิงฉิง วันนี้กลับบ้านกับผมไหม” เย่ซือเฉินคิดไป ถ้าคลิปวิดีโอของวันนี้ปล่อยออกไปแล้ว เรื่องราวก็คงจะคลี่คลายได้แล้ว เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาก็คิดแต่ว่าจะพาเธอกลับมายังไงดี
มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุกแรง ๆ ขึ้นทีหนึ่ง คนคนนี้นี่จริง ๆ เลย เธอพบว่าไม่ว่าจะเป็นหัวข้อสนทนาอะไร สุดท้ายเขาก็สามารถวกกลับมาตรงจุดนี้ได้อยู่ดี
กลับบ้านกับเขาเหรอ? เธอบ้าไปแล้วเหรอถึงจะกลับบ้านกับเขา
ถ้าเธอยอมกลับบ้านกับเขา ก็เหมือนกับว่าเป็นกระต่ายน้อยตัวหนึ่งเดินเข้าไปในดงหมาป่า คาดว่าวันที่สองแม้แต่กระดูกก็คงจะโดนเขากัดจนแตกละเอียดแล้ว
“ไม่” เวินลั่วฉิงปฏิเสธไปอย่างแน่วแน่ ตามเขากลับบ้าน นั่นเป็นเรื่องที่อันตรายมากเรื่องหนึ่ง ที่สำคัญ เธอยังมีลูกรักอีกสองคนจะต้องดูแลด้วย
ไม่ว่ายังไงเย่ซือเฉินก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับลูกรักทั้งสองคนหรอก
และอีกอย่างตอนนี้พวกเขาก็หย่ากันแล้วด้วย!!
“ฉิงฉิง” น้ำเสียงของคุณชายสามเย่แหบแห้งเล็กน้อย แล้วยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่เวินลั่วฉิงกลับกดวางสายไปเลย
จ้องมองโทรศัพท์ที่โดนวางสายไป ดวงตาของคุณชายสามเย่กะพริบขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าใครบางคนจะวางสายโทรศัพท์ของเขาไปทั้งอย่างนี้
ที่เวินลั่วฉิงจะต้องวางสายไปเร็วขนาดนี้ก็เพราะว่า อย่างแรกเพราะว่าไม่อยากจะฟังเขาพูดอีก เธอกลัวว่าถ้าเธอไม่แน่วแน่แค่ครู่เดียวก็อาจจะโดนเขาหลอกไปได้ เหตุผลอย่างที่สองคือเธอเห็นถังจื่อซีเพื่อนตัวเล็กเดินเข้ามาแล้ว
“คุณแม่ วันนี้หนูแสดงได้เก่งไหมคะ?” ถังจื่อซีเพื่อนตัวเล็กเดินเข้ามา แล้วมองไปที่เวินลั่วฉิง และรอให้ได้รับความชื่นชม
“เก่งมากจ้ะ” เวินลั่วฉิงนั่งลง และอุ้มเธอขึ้นมา แล้วก็ใช้แรงหอมที่แก้มเธอแรง ๆ ทีหนึ่ง ลูกรักของเธอ วันนี้แสดงได้ดีมากจริง ๆ เลย
เวินลั่วฉิงรู้ว่าคุณปู่เย่เป็นคนเจ้าเล่ห์ จิตใจที่ระมัดระวังตัวก็แข็งแกร่งมาก วันนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น คุณปู่เย่ก็คงจะไม่หลงกลได้ง่าย ๆ แบบนี้แน่
วันนี้เป็นเพราะว่าจื่อซีช่วยไว้มากจริง ๆ
ตอนแรกเวินลั่วฉิงยังคิดว่าถ้าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เจอกับจื่อซีเข้า จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? มักจะพูดว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เรื่องของสายเลือดนี่ช่างเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
พูดอย่างครั้งแรกตอนที่ท่านย่าถังเจอเธอ ถึงจะไม่รู้สถานะของเธอ แต่ก็ยังปกป้องเธอทุกวิถีทาง
แต่ว่าเห็นได้ชัด ว่าเรื่องสายเลือดเมื่ออยู่บนตัวคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่ได้มีความพิเศษอะไรเลย เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้ว ความรักระหว่างญาติพี่น้องนั้นไม่ได้สำคัญอะไรเลย
“พี่ชายล่ะ?” เวินลั่วฉิงไม่เห็นถังจื่อโม่เลย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“พี่อยู่ในห้องหนังสือของคุณปู่ทวดค่ะ” มุมปากของถังจื่อซียกสูงขึ้นเล็กน้อย “พี่ไม่สนใจหนูเลยค่ะ”
เวินลั่วฉิงกลับอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา ห้องหนังสือของท่านปู่ถัง คนทั่วไปนั้นเข้าไปไม่ได้หรอกนะ เธอกลับมาตระกูลถังก็เป็นช่วงระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปในห้องหนังสือของท่านปู่ถังได้เลย
ห้องหนังสือของท่านปู่ถัง ปกติถ้าทำเรื่องอะไรผิดไป ก็จะต้องได้รับโทษตามกฎบ้าน มีแต่ตอนที่ไปรับใช้เท่านั้นถึงจะเข้าไปได้
ข้าวของข้างในห้องหนังสือท่านปู่ถัง ปกติแล้วยิ่งไม่มีใครกล้าแตะ แม้แต่ถังหลินเองยังไม่กล้าแตะไปเรื่อยเลย