ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 624 เทพธิดาเวินหึงหวง (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 624 เทพธิดาเวินหึงหวง (1)
บทที่ 624 เทพธิดาเวินหึงหวง (1)
“ทำไมหล่อนถึงนอนอยู่บนพื้น?”เวินลั่วฉิงยิ่งรู้สึกแปลกประหลาด เรื่องนี้เหมือนจะอธิบายไม่ถูกหลัก ดังนั้นเธอกังวลว่าเย่ซือเฉินจะเกิดเหตุไม่คาดคิดอย่างอื่นขึ้น
“ไม่รู้”ตอนที่คุณชายสามเย่ทุบกู่หยิงหยิงจนสลบ เขายังไม่ค่อยรู้สึกตัวนัก เขาจำสิ่งที่ตัวเองทำเมื่อสักครู่ไม่ได้
“เย่ซือเฉิน คุณฟังดีๆนะ คุณอย่าไปแตะต้องหล่อน”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ ยกระดับเสียงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “คุณไม่ต้องเข้าใกล้หล่อน และไม่ต้องให้หล่อนเข้าใกล้คุณ”
เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงทางโน้นกำลังเล่นไม้ไหนอยู่ แต่เธอรู้ว่าเวลานี้เย่ซือเฉินโดนวางยา แถมยาก็ออกฤทธิ์แล้วอีกต่างหาก หากเวลานี้เย่ซือเฉินไปสัมผัสผู้หญิงคนนั้น คงต้องระงับอารมณ์ใคร่ไม่อยู่เป็นแน่
อภัยให้กับความเห็นแก่ตัวของเธอด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าเย่ซือเฉินต้องทรมาน แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาไปแตะต้องผู้หญิงคนอื่น
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยิ่งรู้สึกกลัว
เวลานี้เย่ซือเฉินยังคงมีสติการรับรู้อยู่บ้าง ดังนั้นเขารู้ว่าเธอกังวลใจเรื่องอะไร เขาก็รู้อาการของตัวเองดี ดังนั้นเขาไม่กล้าแม้แต่เหลียวมอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแตะต้องตัวเลย
แต่เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ในใจเย่ซือเฉินก็รู้สึกสบายเป็นพิเศษ ในที่สุดผู้หญิงของเขาก็อยากครอบครองเขาเพียงผู้เดียวแล้ว เย่ซือเฉินอดหัวเราะไม่ได้
เพียงแต่เสียงหัวเราะนั้นเบาและอ่อนแรงมาก อีกทั้งยังแฝงความเร่าร้อนไว้หลายส่วน ฟังดูแล้วให้ความรู้สึกแปลกๆ
เวลานี้เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบ
บัดนี้ได้ยินเขาหัวเราะ ไม่ได้ยินเขาตอบ หนังตาเวินลั่วฉิงพลันกระตุกสองครั้ง จากนั้นก็เพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน “เย่ซือเฉิน คุณห้ามแตะต้องหล่อน ห้ามแตะต้องหล่อน ได้ยินไหม?”
เวลาที่เวินลั่วฉิงกล่าวออกมา พลางเหยียบคันเร่ง เพื่อเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอรู้ว่าตอนนี้คือช่วงการทำเวลา ทุกเสี้ยวนาทีมีความหมาย เธอรู้แต่เพียงว่าต้องใช้ความเร็วสูงสุดในการไปให้ถึงจุดหมาย เธอไม่อาจสนใจอย่างอื่นได้
เย่ซือเฉินหัวเราะอีกครั้ง“เผด็จการมาก”
ผู้หญิงของเขาเผด็จการจริงๆ แต่เขาชอบ ชอบที่เธอเป็นแบบนี้ เขาชอบเวลาเธอร้อนใจเพื่อเขา ชอบเวลาเธอหึงหวง……
“เย่ซือเฉิน คุณอย่าหัวเราะ ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ หากคุณกล้าแตะต้องตัวหล่อน ฉันไปถึง ฉัน……”เวลานี้เวินลั่วฉิงพูดข่มขู่เขาแรงๆ
“ยังไง?”เย่ซือเฉินกำมือถือไว้ หางคิ้วยกขึ้นเล็กน้อย เสียงหัวเราะดังขึ้นหลายส่วน เวลานี้ได้ยินเสียงของเธอ ร่างกายก็ไม่ค่อยทรมานมากแล้ว
และเป็นเพราะคุยโทรศัพท์กับเธอ เขาถึงสามารถรักษาสติสัมปชัญญะที่เหลือเพียงน้อยนิดได้
“ฉันจะเชือดคุณทิ้ง”เวินลั่วฉิงพูดคำรุนแรงหนึ่งประโยค เพราะเธออยากให้เขารับรู้ถึงความรุนแรงของเรื่อง ดังนั้นเธอจึงพูดหนักไปบ้าง
อืม หนักไปหน่อย
แต่ก็ไม่ได้ขู่ขวัญเขาได้ทั้งหมด
“โหดร้ายจริงๆ”เย่ซือเฉินหยุดชะงัก จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก เธอช่างโหดร้ายเสียจริง
เชือดเขาทิ้ง?เธอไม่เสียดายเหรอ?
“ดังนั้น คุณอย่าไปแตะต้องเรื่อยเปื่อย จำไว้”เวินลั่วฉิงเน้นย้ำอีกครั้ง
เวินลั่วฉิงนึกขึ้นว่าตอนนี้เขาโดนวางยา แล้วยังมีผู้หญิงล่อนจ้อนอยู่ในห้องของเขาอีก เธอตึงเครียด หรืออาจถึงขั้นหวาดกลัว เธอรับรู้เป็นครั้งแรกว่า เธออยากครอบครองคุณชายสามเย่เพียงผู้เดียวขนาดไหน
ใช่ ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว!!
เธอไม่อนุญาตให้เขาไปแตะต้องตัวผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด!!
เพราะกลัวเย่ซือเฉินจะสูญเสียสติ และกลัวเย่ซือเฉินจะกระทำการบุ่มบ่ามบางอย่าง เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้วางสาย คุยกับเขาอยู่ตลอดทาง และตอนนี้เธอยิ่งขับเร็วเพิ่มยิ่งขึ้น
เห็นได้ชัดว่าความเร็วของเธอเกินกำหนดเสียแล้ว อีกทั้งเกินมาไม่ใช่น้อยๆ แน่นอนเธอยังฝ่าไฟแดงอีกด้วย
ตอนนี้คือเวลากลางคืน เวินลั่วฉิงเลือกเส้นทางข้างทะเลสาบ เนื่องจากรถน้อย ไม่มีคนขับผ่าน
ดังนั้นเธอถึงกล้าขับเกินกำหนด กล้าฝ่าไฟแดง
เธอได้ยินเสียงรถตำรวจดังมาจากด้านหลัง แต่เธอก็ไม่ได้ชะลอรถให้หยุดเลย กลับขับเร็วกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ รถตำรวจถูกเธอทิ้งห่างอยู่ด้านหลัง เพราะเธอเคยฝึกเทคนิคการขับรถมาก่อน
เดิมทีต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง แต่เวินลั่วฉิงกลับใช้แค่ยี่สิบนาทีก็ถึงจุดหมาย
“เย่ซือเฉิน”เวินลั่วฉิงเกือบถึงหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเย่ก็ขานเรียกเย่ซือเฉินอีกครั้ง
“อืม”อีกฝั่งหนึ่ง เย่ซือเฉินรีบตอบ ถึงแม้เสียงจะเร่าร้อน แต่เขายังคงมีสติอยู่อย่างเห็นได้ชัด ยังได้ยินเสียงของเธออยู่
“เย่ซือเฉิน ตอนนี้คุณออกมาเองได้ไหม?ฉันมาถึงแล้ว”เวินลั่วฉิงคิดว่าหากเธอเดินเข้าคฤหาสน์ตระกูลเย่แล้วถูกพบเข้า เกรงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็นขึ้น การที่เย่ซือเฉินออกมา จะเป็นเรื่องง่ายเสียมากกว่า
เย่ซือเฉินออกมา ขอเพียงไม่ถูกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เห็น ส่วนพวกคนรับใช้คงไม่กล้าพูดอะไรหรอก
เวินลั่วฉิงกำลังคิด ตั้งแต่เย่ซือเฉินโดนวางยาจนถึงตอนนี้ ได้ผ่านเวลามานานแล้ว คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คงไม่เฝ้าดูแล้ว ไม่เช่นนั้นเย่ซือเฉินคงไม่มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับเธอหรอก
“อืม ได้”เย่ซือเฉินตอบเสียงทุ้มต่ำ ถึงแม้จะพยายามควบคุมสุดความสามารถ น้ำเสียงก็ยังคงเปลี่ยนไป เขาระงับอารมณ์ไม่ได้แล้วจริงๆ
ได้ยินเธอมาถึงแล้ว ในที่สุดเขาก็โล่งอก ดิ้นรนลุกขึ้นยืน เวลานี้กำลังกายของเขาก็ฟื้นฟูแล้วเล็กน้อย ฉะนั้นการเดินจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต
เวลานี้คุณชายสามเย่ไม่รู้เวลาจริง สำหรับเขาถือว่ายาวนานมากๆ ดังนั้น คุณชายสามเย่จึงรับรู้ไม่ได้ว่าเวินลั่วฉิงเดินทางจากคฤหาสน์ถังมายังคฤหาสน์ตระกูลเย่ ใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีเท่านั้น
“เย่ซือเฉิน อย่าให้พวกคุณปู่รู้นะ”เวินลั่วฉิงไม่วางใจเล็กน้อย อดกำชับหนึ่งประโยคไม่ได้
“อืม”เย่ซือเฉินตอบรับเสียงทุ้มต่ำ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเดินไปยังทิศทางประตู
ซึ่งเวลานี้กู่หยิงหยิงยังคงนอนอยู่บนพื้น
เย่ซือเฉินจะเดินจากเตียงไปยังประตูทางออก จำเป็นต้องเดินผ่านหล่อน
เท้าของเย่ซือเฉินโดนตัวหล่อน ร่างกายของเขาก็แข็งค้าง แต่ไม่ได้หยุดแม้แต่วินาทีเดียว เขาก้าวเท้าออกไปโดยตรง
เวลานี้ร่างกายของเขายิ่งทรมาน คล้ายกับมีแมลงนับสิบล้านตัวกำลังกัดกินร่างกายของเขาอยู่ ทำให้เขารู้สึกจะบ้าคลั่ง อารมณ์ใคร่เกือบจะพลุ่งพล่านแล้ว
เวลานี้เขาคิดเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือรีบหาตัวเวินลั่วฉิงเจอเร็วๆ
ดังนั้น เขาไม่สังเกตเห็นเรื่องอื่น กู่หยิงหยิงที่นอนอยู่บนพื้น เมื่อโดนเขาถีบ ร่างกายพลันกระตุก
เย่ซือเฉินฝืนทนความทรมานทางร่างกาย เปิดประตูห้องเดินออกไป
ด้านนอกไม่มีคน เงียบเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่วางใจ จึงเคยมาดู แต่เมื่อเห็นห้องของเย่ซือเฉินปิดไว้ตลอด ต่อมาพวกท่านก็ไม่ได้มาดูอีก
ถึงแม้เย่ซือเฉินจะทรมาน แต่ความเร็วในการเดินนั้นไม่ได้ช้าเลย เพียงแต่ตอนที่เขาเกือบจะลงไปถึงชั้นล่าง ทันใดนั้นประตูห้องของจินหมิงเจินก็ได้เปิดออก
“คุณจะไปแล้วเหรอ?”จินหมิงเจินเห็นท่าทางของเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่าเธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ดี