ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 625 เทพธิดาเวินหึงหวง (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 625 เทพธิดาเวินหึงหวง (2)
บทที่ 625 เทพธิดาเวินหึงหวง (2)
จินหมิงเจินรู้แผนการที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่จัดเตรียมไว้ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าทำลาย และไม่กล้าทำอะไร
ตอนที่กู่หยิงหยิงขึ้นมา เธอก็ได้ยินเต็มสองหู ตอนนั้นเธอกัดฟันกรอด ไม่กล้าทำอะไร
เพียงแต่เธอคาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะออกมาเร็วขนาดนี้ อีกทั้งเสื้อผ้าบนร่างกายของเย่ซือเฉินยังคงเรียบร้อย ไม่มีรอยยับเลยสักนิด ไม่เหมือนคนที่ทำแบบนั้นมาแล้ว
หรือเย่ซือเฉินไม่ได้แตะต้องตัวกู่หยิงหยิง?
แต่เย่ซือเฉินถูกวางยาแล้วแท้ๆ กู่หยิงหยิงก็เพิ่งเข้าห้องของเย่ซือเฉินไปหมาดๆ ในเมื่อกู่หยิงหยิงเข้าไปในห้องเย่ซือเฉินแล้ว คงไม่มีทางปล่อยเย่ซือเฉินไปเด็ดขาด ทำไมทั้งสองยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน?
เวลานี้ผิวกายของเย่ซือเฉินกลายเป็นสีแดงที่ชวนให้ตกตะลึง ดวงตาจินหมิงเจินหมุนไปมา เห็นสภาพเขาแล้วก็รู้ว่ายังไม่ได้คลายฤทธิ์ยาในร่างกายของเขาออก
ดังนั้นเขายังไม่ได้แตะต้องตัวกู่หยิงหยิงจริงๆ!!
ดูออกว่าฤทธิ์ยาในร่างกายของเขากำเริบแล้ว เขาถึงขั้นขีดสุดแล้ว
จินหมิงเจินยกมุมปากขึ้น หยัดกายเดินไปด้านหน้าเขากะทันหัน“ทรมานมากใช่ไหม?ฉันช่วยคุณได้……”
ขณะที่ฉินหมิงเจินกำลังพูดประโยคนี้ออกมา ร่างกายก็โถมเข้าใกล้เย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินหรี่ตา ยกเท้าถีบเธอกะทันหัน เวลานี้พลังกำลังของเย่ซือเฉินฟื้นฟูแล้ว ดังนั้น การถีบครั้งนี้ เขาถีบจินหมิงเจินกลับเข้าไปภายในห้องของเธอ
จินหมิงเจินล้มอยู่บนพื้นแบบลุกไม่ขึ้น
เย่ซือเฉินไม่ได้มองเธอแม้แต่แวบเดียว แต่ลงไปชั้นล่างทันที
จินหมิงเจินล้มอยู่บนพื้น กัดฟันด้วยความเกลียดแค้น เธอไม่เข้าใจจริงๆ เย่ซือเฉินโดนวางยาแล้วแท้ๆ และยาก็ออกฤทธิ์แล้วด้วย แต่ทำไมเขายังปฏิเสธการเย้ายวนของผู้หญิงได้อีก?
และในขณะนี้ จู่ๆจินหมิงเจินก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอตกใจรีบลุกขึ้น ถึงจะไม่เห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตู แต่เธอกังวลว่าจะเป็นพวกคุณปู่เย่ จึงยกเท้าดันประตูห้องของตนเองให้ปิดสนิท
ซึ่งคนที่เปิดประตูในเวลานี้ก็คือกู่หยิงหยิง เมื่อกี้กู่หยิงหยิงถูกเย่ซือเฉินแตะจนรู้สึกตัว ตอนนั้นเธอได้ยินเสียงของเย่ซือเฉิน เขาน่าจะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอฟังออกว่าเย่ซือเฉินยังคงมีสติ ดังนั้นถึงแม้เธอจะฟื้นแล้ว แต่ก็ไม่กล้าลุกขึ้นยืน เธอกลัวว่าเย่ซือเฉินจะทุบเธอให้สลบอีกครั้ง หรือทำร้ายหนักกว่าเก่า
เวลาเย่ซือเฉินลงมือขึ้นมา ช่างรุนแรงจริงๆ
ใบหน้าของกู่หยิงหยิงประดับความเหี้ยมโหดไว้หลายส่วน เย่ซือเฉินคิดจะไปจากที่นี่?เชอะ ไม่มีทาง!!
เธอรอให้เย่ซือเฉินเดินออกมาแล้วก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะสวมใส่เสื้อผ้า จากนั้นเธอก็รีบเปิดประตูเดินออกมา
เธอเห็นด้านนอกไร้ผู้คน ส่วนเย่ซือเฉินก็ลงจากชั้นบนแล้ว กู่หยิงหยิงคิดดูแล้วก็รีบตามออกไป
เธออยากดูว่าเย่ซือเฉินจะไปไหน?
กู่หยิงหยิงกลัวเย่ซือเฉินจะรู้ตัว จึงไม่กล้าเข้าใกล้
กู่หยิงหยิงเห็นเย่ซือเฉินเดินออกจากประตูใหญ่แล้ว จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กู่หยิงหยิงอยู่ห่างจากพวกเขา แต่ยังคงมองหน้าตาผู้หญิงคนนี้ออกอยู่ดี
วินาทีนั้น กู่หยิงหยิงตะลึงงัน คนนี้ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ถังฉิ้นเอ๋อที่ตระกูลถังเพิ่งตามตัวกลับมาได้ไม่ใช่เหรอ?ทำไมถังฉิ้นเอ๋อถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ล่ะ?
สิ่งที่ทำให้กู่หยิงหยิงยิ่งตะลึงกว่าเดิมก็คือ วินาทีต่อมาเย่ซือเฉินก็โอบกอดถังฉิ้นเอ๋อไว้ จากนั้นก็ใช้แรงจูบถังฉิ้นเอ๋อ
การกระทำของเย่ซือเฉินนั้นรุนแรง เร่าร้อน บ้าคลั่ง เวลานี้เย่ซือเฉินถูกวางยา ความบ้าคลั่งของเขาจึงถือเป็นเรื่องปกติ
แต่กู่หยิงหยิงพบว่าความบ้าคลั่งของเย่ซือเฉินยังคงมีความระวังอยู่หลายส่วน กู่หยิงหยิงเห็นเย่ซือเฉินกอดถังฉิ้นเอ๋อ มือของเขาจับแน่น แต่ต่อมาก็คลายลง กลัวถังฉิ้นเอ๋อจะเจ็บตัวอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นตอนนี้เย่ซือเฉินยังมีสติการรับรู้อยู่ ดังนั้นเวลานี้เย่ซือเฉินรู้ว่าตัวเองกอดผู้หญิงคนไหนมาจูบอยู่
แต่ทำไมถึงเป็นถังฉิ้นเอ๋อ?
วันนี้เย่ซือเฉินเพิ่งแถลงข่าว สารภาพรักกับเวินลั่วฉิงผ่านทางสื่อ แต่กลางคืนดันมาจูบกับถังฉิ้นเอ๋ออย่างเผ็ดร้อนปานนี้?!
เย่ซือเฉินโดนวางยา แต่ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในห้อง เธอถอดเสื้อผ้าเย้ายวนเขา เขากลับไม่หวั่นไหวเลยสักนิด แค่แตะยังไม่เคยเลย
ทำไมตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นถังฉิ้นเอ๋อ เขาก็……
นาทีที่เย่ซือเฉินเห็นหน้าเวินลั่วฉิงก็รู้สึกผ่อนคลาย ความยับยั้งชั่งใจก็พังทลายลงอย่างราบคาบ นาทีนั้นเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป และทนไม่ไหวแล้วด้วย เขาเพียงอยากกอดเธอ จูบเธอแรงๆ เอาเธอแรงๆ
“ไม่ใช่จะไปที่โรงพยาบาลหรอกเหรอ?ฉันพาคุณไปโรงพยาบาล?”เวินลั่วฉิงถูกเขาจูบจนเกือบหายใจไม่ออกแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะคลายออก เวินลั่วฉิงจึงพูดขึ้นมากะทันหัน
เย่ซือเฉินก้มหน้ามองเธอ ดวงตาหรี่ขึ้น ล้อเล่นอะไร ตัวเธอมาแล้ว ทำไมเขาต้องไปโรงพยาบาลอีก
“ไป กลับบ้านพวกเรากัน”เย่ซือเฉินก้มหน้าจูบเธอ จากนั้นก็จูบในขณะที่อุ้มเธอไปด้านนอก
เวลานี้หากไม่ใช่เย่ซือเฉินยังเหลือสติส่วนสุดท้ายอยู่ หากไม่ใช่ควบคุมตัวเองสุดพลัง เขาก็อยากเอาเธอที่นี่ซะเลย
จูบเธออย่างนี้ ถึงแม้จะทำให้ร่างกายสบายขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอเลยสักนิด
เวลานี้สติการรับรู้ของเย่ซือเฉินคือจะกลับบ้าน แต่การกระทำของเขากลับควบคุมไม่ไหว เขาจูบเธอ พลางอุ้มไปที่มุมผนังข้างทาง ซึ่งไม่ใช่ทางกลับบ้านแต่อย่างใด
“ขึ้นรถ ขึ้นรถก่อน”เวินลั่วฉิงเห็นเธอใกล้จะถูกเขาอุ้มไปที่มุมผนังเสียแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างร้อนรน เมื่อสักครู่เพิ่งบอกว่าจะกลับบ้านอยู่เลย?แต่ตอนนี้พาเธอมายังมุมผนัง มันหมายความว่าอย่างไร?
เธออยากพาเขาขึ้นรถก่อน แต่กลับพบว่าเธอไม่อาจพาเขาไปได้เลย
เห็นได้ชัดว่าเวลานี้เย่ซือเฉินคลุ้งคลั่งเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาอดกลั้นมาเสียนาน นานจนทรมานสุดๆ
นาทีที่เขาเห็นเวินลั่วฉิง เขาก็ไม่ทนอีกต่อไป……
ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว แรงปรารถนาในร่างกายของเขาได้ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
อีกอย่างสติของเขาในขณะนี้ถูกแรงพิศวาสกระโจนเข้าใส่แบบไม่เหลือเลยสักนิด
เขาทำตามการตอบสนองของร่างกาย เอาเธอ จะเอาเธออย่างบ้าคลั่ง
เวลานี้ในสมองของเย่ซือเฉินก็มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว
ช่วงเวลานี้ เย่ซือเฉินไม่ได้ยินเสียงของเวินลั่วฉิงแล้ว ดังนั้นเวินลั่วฉิงพูด เขาไม่ได้ตอบสนองเลยสักนิด
การจูบเธอของเขายิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น ยิ่งเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้น เขาไม่เพียงพอกับการจูบอีกต่อไป ดังนั้นมือของเขาเริ่มดึงเสื้อผ้าของเธอ มืออีกข้างเกือบแนบอยู่บนผิวกายของเธอ แล้วใช้แรงนวด
เวลานี้ เขาช่างบ้าคลั่ง บ้าคลั่งถึงขั้นควบคุมไม่อยู่ บ้าคลั่งจนชวนให้ขนลุก
“เย่ซือเฉิน”เวินลั่วฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รีบยื่นมือออกไปจับข้อมือของเขาไว้ อยากหยุดการกระทำของเขา
เธอรู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินไม่มีสติ กำลังคลุ้มคลั่งกับอารมณ์ใคร่อยู่ เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และเป็นไปได้ที่เขาจะเอาเธอที่นี่