ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 631 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 631 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (6)
บทที่ 631 เรื่องบานปลายใหญ่โต คุณชายสามเย่โกรธจริงๆแล้ว (6)
หากผู้หญิงในวิดีโอเป็นฉิงฉิง เรื่องนี้ก็เข้มข้นแล้ว
“หืม?ลูกสะใภ้พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร?”ท่านย่าถังไม่เข้าใจความหมายของเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉิงฉิง ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยซื้อเสื้ออย่างนี้ให้หนูตัวหนึ่งนะ เหมือนเสื้อที่ผู้หญิงในวิดีโอใส่ทุกอย่าง หนูเคยใส่เสื้อตัวนั้นไหม?”เฟิ่งเหมียวเหมียวชี้ไปที่เสื้อผ้าบนตัวผู้หญิงในวิดีโอ ก่อนจะมองหน้าเวินลั่วฉิงอีกครั้ง
“อืม……”เวินลั่วฉิงตอบเสียงเบา ฟังไม่ออกว่าเป็นคำถามหรือเป็นคำตอบ สรุปก็คือมีความหมายทั้งสองทาง
“ฉิงฉิง เมื่อคืนหนูออกไปข้างนอกใช่ไหม?หนูกลับมาตอนเช้านี้ใช่ไหม?”แต่เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวไม่อยากปล่อยเธอไปง่ายๆ รีบถามเพิ่มสองประโยค
ซึ่งขณะที่เฟิ่งเหมียวเหมียวถามประโยคพวกนี้ ทุกคนในห้องโถงต่างมองมายังเวินลั่วฉิงอย่างพร้อมเพรียงกัน
เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก สบตาเข้ากับท่านย่าถังและท่านปู่ถัง ไม่รู้ควรพูดอย่างไรไปชั่วขณะ
“ฉิงฉิง เมื่อวานน้องฝ่าไฟแดงติดต่อกัน ขับเกินความเร็วที่กำหนด แม้แต่ตำรวจจราจรยังตามไม่ทัน น้องอธิบายให้พี่ฟังหน่อยได้ไหมว่าเมื่อคืนไปไหนมา?”บังเอิญเวลานี้ เสียงของถังหลินส่งเข้ามาในห้องโถง
ในมือเขาถือใบสั่งจราจรหนึ่งกองใหญ่ ส่ายหัวให้เวินลั่วฉิง“ฉิงฉิง น้องว่าใบสั่งกองใหญ่อย่างนี้จะจัดการยังไงดี?เมื่อกี้พี่ช่วยน้องนับดูแล้ว น้องฝ่าไฟแดงทั้งหมดหกจุด ฝ่าไฟแดงหกจุด ถูกหักไปหกส่วน หกคูณหกเท่ากับทั้งหมดสามสิบหกส่วน แล้วยังมีปัญหาเรื่องขับเร็วเกินกำหนดอีก ตำรวจจราจรบอกว่าขับเกิน200ขึ้นไป……”
เวลานี้ถังหลินคิดบัญชีกับเธออย่างตั้งใจ
มุมปากเวินลั่วฉิงกระตุก เมื่อคืนเธอเร่งรีบมาก ช่วยคนเหมือนช่วยดับเพลิง ตอนนั้นช่วยเย่ซือเฉินเร่งด่วนกว่าช่วยเพลิงไหม้อีก
ท่านปู่ถังขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่เด็กเหลวไหล ดังนั้นต้องมีเหตุจำเป็นแน่ๆ ดังนั้นเขาไม่ได้รีบร้อนพูดอะไร
“ฉิงฉิง หนูเร่งอย่างนี้ จะไปทำอะไรเหรอ?”ใบหน้าเฟิ่งเหมียวเหมียวมีความตกตะลึงหลายส่วน แต่บึ้งลึกของแววตามีรอยยิ้มหลายส่วน เธอมองทะลุทุกอย่างแล้ว
“ไปไหนได้อีก?ไปบ้านตระกูลเย่ไง หาเย่ซือเฉินแหละ”ถังหลินพูดต่อจากเฟิ่งเหมียวเหมียว
“ฉิงฉิง เมื่อวานหนูไปหาเย่ซือเฉินเหรอ?”ท่านย่าถังมองเวินลั่วฉิง ดวงตากะพริบเร็วๆหลายครั้ง “ดังนั้นผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่กู่หยิงหยิง แต่เป็นหนู?”
เวลานี้เวินลั่วฉิงไม่ยอมรับก็ไม่ได้แล้ว จึงพยักหน้าช้าๆ
“ฉิงฉิง หนูจะมาไม้ไหนกัน?ไปบ้านตระกูลเย่กลางดึก กับเย่ซือเฉิน……”ท่านย่าถังมองเวินลั่วฉิง พลางขมวดคิ้วเป็นปมแน่น “แล้วไอ้กู่หยิงหยิงหมายความว่ายังไง?”
“อันนี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอคะ?กู่หยิงหยิงใช้วิดีโอให้ทุกคนเข้าใจผิดค่ะ”มุมปากเฟิ่งเหมียวเหมียวมีความเย้ยหยันหลายส่วน “ความคิดยัยเด็กคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ”
“แต่คนเมื่อคืนไม่ใช่เธอ เธอทำอย่างนี้ถูกเปิดโปงง่ายมาก?เย่ซือเฉินพูดคำเดียวก็เปิดโปงได้แล้ว”ท่านย่าถังรู้สึกไม่เข้าใจ
“เมื่อวานหล่อนต้องเห็นหน้าหนูแล้วแน่ๆ ตอนนั้นหนูไม่ได้แต่งหน้าอำพรางตัวตนที่แท้จริง ดังนั้นหล่อนไม่รู้ว่าหนูก็คือเวินลั่วฉิงเมื่อวานเย่ซือเฉินเพิ่งสารภาพรักกับเวินลั่วฉิง กลางคืนก็อุ้มคุณหนูตระกูลถังจุมพิต หล่อนคงคิดว่าใช้จุดนี้ข่มขู่เย่ซือเฉินได้ หล่อนคิดว่าเย่ซือเฉินไม่กล้าออกมาพูดข้อเท็จจริง ยิ่งไปกว่านั้นหล่อนยังคิดว่าสามารถใช้ตระกูลถังให้เป็นประโยชน์ได้ด้วย”เวินลั่วฉิงมองทะลุความคิดของกู่หยิงหยิงได้ทั้งหมด
กู่หยิงหยิงกล้าทำเช่นนี้ เพราะจับประเด็นนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“กู่หยิงหยิงคนนี้ร้ายกาจมาก ผู้หญิงคนหนึ่งร้ายกาจขนาดนี้ น่ากลัวจริงๆ”เฟิ่งเหมียวเหมียวส่ายหัว แสดงความไม่เห็นได้อย่างชัดเจน
“แต่เรื่องทั้งสองบ้านหมั้นหมายกัน กู่หยิงหยิงตบมือข้างเดียว คงไม่ดังหรอก ดังนั้นเรื่องนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็มีส่วน”เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ใบหน้ามีความเย็นเหยียบหลายส่วน
พวกคุณปู่เย่ถึงขั้นวางยาปลุกเซ็กส์เย่ซือเฉิน แล้วยังมีเรื่องอะไรที่พวกเขาทำไม่ได้กัน?
เวินลั่วฉิงเพิ่งพูดจบก็มีเนื้อหาใหม่ขึ้นมาทันที
คุณย่าเย่ยอมให้นักข่าวมาสัมภาษณ์
“ไอ้แก่บ้านตระกูลเย่จะก่อเรื่องอะไรอีก?”ท่านย่าถังดูรายงานข่าว พลางขมวดคิ้วแน่น“เมื่อก่อนฉันคิดว่าคุณย่าเย่เป็นคนมีเหตุผล วันนี้ดูแล้ว คุณย่าเย่ต่างหากที่เป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายมากสุด”
“คุณย่าเย่ครับ ได้ยินว่าตระกูลเย่จะแต่งงานสานสัมพันธ์กับตระกูลกู่ ทางตระกูลกู่เผยว่าได้ตกลงเรื่องแต่งงานของทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้จริงไหมครับ?”นักข่าวถามตรงและชัดเจนมาก ตอนนี้ทุกคนอยากได้คำตอบนี้กันทั้งนั้น
“เมื่อวานพวกเราคุยเรื่องแต่งงานกับตระกูลกู่แล้วจริงๆค่ะ เมื่อคืนพวกเราเชิญหยิงหยิงมาเป็นแขกที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ค่ะ”ใบหน้าคุณย่าเย่ประดับรอยยิ้ม คำพูดของท่านชัดเจนมากๆ
ไม่เพียงยอมรับเรื่องแต่งงานของทั้งสองตระกูล ยังบอกว่าเมื่อคืนเชิญกู่หยิงหยิงมาที่ฤหาสน์ตระกูลเย่อีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับยอมรับว่า ผู้หญิงในวิดีโอเป็นกู่หยิงหยิงแล้ว
“ความหมายของคุณย่าเย่คือเมื่อคืนคุณกู่ไปที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ใช่ไหมครับ?ถ้าเช่นนั้น คนที่จูบกับคุณชายสามเย่ตรงหน้าประตูบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์ ก็คือคุณกู่ใช่ไหมครับ?”นักข่าวถามต่อ หวังว่าจะสามารถขุดคุ้ยข่าวให้ได้มากที่สุด
ครั้งนี้คุณย่าเย่ไม่ได้ตอบ เพียงแต่ยิ้มเบาๆ แต่ตอนนี้ท่านนิ่ง ในสายตาของทุกคนก็เท่ากับท่านยอมรับเงียบๆ
“เมื่อวานคุณชายสามเย่สารภาพรักกับเวินลั่วฉิง ทำไมตอนกลางคืนถึงได้จูบอยู่กับคุณกู่อย่างอาลัยอาภรณ์ครับ?คนในวิดีโอเป็นคุณกู่จริงๆใช่ไหมครับ?”แน่นอน ยังมีนักข่าวมีทีท่าสงสัยอยู่
คุณย่าเย่หมุนตา มองนักข่าวคนนั้นแวบหนึ่ง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย“เรื่องอื่นดิฉันไม่รู้ค่ะ แต่เมื่อคืนเวินลั่วฉิงไม่ได้มาที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ค่ะ ดิฉันคิดว่าหากทุกคนอยากตรวจสอบเรื่องนี้ คาดว่าคงตรวจสอบได้โดยง่ายนะคะ”
สาเหตุที่คุณย่าเย่กล้าพูดเช่นนี้ เพราะต่อมากู่หยิงหยิงบอกกับท่านว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิง แต่สำหรับผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร กู่หยิงหยิงบอกว่าดูไม่ค่อยชัด
จากนั้นท่านก็ได้ดูวิดีโอ และมั่นใจว่าคนที่อยู่กับเย่ซือเฉินเมื่อคืนไม่ใช่เวินลั่วฉิง
“ความหมายของคุณย่าเย่ก็คือ ผู้หญิงในวิดีโอไม่ใช่เวินลั่วฉิงอย่างแน่นอนเหรอครับ?”มีนักข่าวถามอีกหนึ่งประโยค
“ใช่หรือไม่ใช่ พวกคุณสามารถดูให้ละเอียดได้ค่ะ น่าจะดูไม่ยาก”ครั้งนี้คุณย่าเย่ตอบตรงมาก
เวลานี้รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านยิ่งลึกขึ้นมาอีก ขอเพียงผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เวินลั่วฉิง ถ้าเช่นนั้นทุกอย่างก็จัดการง่ายมาก
ได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ นักข่าวหลายคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“ดิฉันตั้งใจสังเกตผู้หญิงในวิดีโอดูแล้วค่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เวินลั่วฉิงจริงๆค่ะ”เห็นได้ชัดว่ามีคนไปพิสูจน์วิดีโอมาแล้ว ซึ่งคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจเป็นอย่างยิ่ง