ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 641 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (8)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 641 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (8)
บทที่ 641 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (8)
ราวกับว่าเพื่อที่จะให้กู่หยิงหยิงวางใจขึ้นไปอีก เวินลั่วฉิงยังพลิกกระเป๋ากลับ แล้วสะบัด ในกระเป๋าสะอาดมาก ไม่มีอะไรเลย
ในตอนที่เวินลั่วฉิงทำเรื่องพวกนี้ไม่มีใครมาห้ามสักคนเลย ทำต่อหน้าทุกคนแบบนั้นเลย
คนส่วนใหญ่ที่เห็นการกระทำของเธอแล้ว บ้างก็มีความอึ้ง บ้างก็มีความงง ไม่เข้าใจว่าหมายความอะไร
แต่ก็มีคนฉลาดที่เดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
โดยเฉพาะตอนที่เห็นสีหน้าของกู่หลิงหลิงที่อึ้งไปทันที ผู้คนมากมายต่างก็เข้าใจแล้ว
กู่หลิงหลิงที่เห็นของของเวินลั่วฉิง สีหน้ามีความอึ้งที่ไม่อยากจะเชื่อ
กู่หลิงหลิงไม่เข้าใจ เธอได้ใส่กำไลหยกไว้ในกระเป๋าของเวินลั่วฉิงแท้ๆ ระหว่างนี้ เธอไม่ได้เห็นเวินลั่วฉิงหยิบออกมาเลย ทำไมตอนนี้ถึงไม่มีแล้วล่ะ?
และสีหน้าของกู่หยิงหยิงในขณะนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน กำไลหยกชิ้นนั้นไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของเวินลั่วฉิงแล้ว งั้นตอนนี้มันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
ทันใดนั้นกู่หยิงหยิงก็นึกขึ้นว่าตอนที่เวินลั่วฉิงเดินผ่านเธอไปตอนนั้น เวินลั่วฉิงอยู่ใกล้กับเธอมาก อีกอย่างมือของเธอก็จับอยู่ในมือ เวินลั่วฉิงที่เดินผ่านเธอไปอยากจะจับกระเป๋าเธอนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
เธอสามารถนำกำไลหยกใส่ไว้ในกระเป๋าของเวินลั่วฉิงใส่ร้ายเวินลั่วฉิง แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงก็สามารถนำกำไลหยกใส่เข้าไปในกระเป๋าของเธอได้ กระเป๋าของเธอในวันนี้เป็นประเภทที่ไม่มีซิป อยากจะใส่กำไลหยกนั้นเข้าไปไม่ได้ยาก
ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่า เมื่อกี้ที่เวินลั่วฉิงเดินไปเธอไปได้เอนตัวเล็กน้อย สามารถปิดกั้นสายตาของผู้คนได้ ฉะนั้นในตอนที่เวินลั่วฉิงทำเรื่องพวกนี้ ไม่มีใครเห็น
และกล้องวงจรปิดในร้านนี้ก็เสียแล้ว กล้องวงจรปิดเสียแล้ว ก็ไม่สามารถเก็บภาพในสถานการณ์นั้นได้
ฉะนั้น ถ้าหากว่าขณะนี้กำไลหยกอยู่ในกระเป๋าของเธอจริงๆ เธอไม่สามารถยืนยันได้เลยว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนใส่เข้ามาในกระเป๋าของเธอ ก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เวินลั่วฉิงไม่สามารถยืนยันได้
ถ้าหากเวลานี้ ตำรวจค้นเจอกำไลหยกในกระเป๋าเธอจริงๆ งั้นก็……
กู่หยิงหยิงในขณะนี้ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวาย ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว
ตำรวจเห็นกู่หยิงหยิงและกู่หลิงหลิงต่างก็ให้ความร่วมมือ ต่างก็เดินมาทางนี้ จะตรวจค้น
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ไม่ว่ายังไงแล้วพวกเราก็เป็นผู้หญิง พวกคุณค้นตัวพวกเราต่อหน้าผู้คนแบบนี้คงจะไม่เหมาะสมหรอกมั้งคะ?” กู่หยิงหยิงกระวนกระวายแล้ว น้ำเสียงของเธอได้เผยออกถึงความกลัวภายในใจของเธออย่างชัดเจน
กู่หยิงหยิงที่พูดว่าจะให้ความร่วมมือตำรวจในเมื่อกี้แท้ๆ ตอนนี้กลับมีท่าทีที่จะปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัดเจน
กู่หยิงหยิงในตอนนี้สามารถแน่ใจแล้วว่า กำไลหยกอยู่ในกระเป๋าของเธอ ฉะนั้น เธอไม่สามารถให้ตำรวจตรวจค้นเธอต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้
“งั้นก็ยังไม่ตรวจค้นร่างกาย ตรวจกระเป๋าของคุณกู่ก่อนเถอะ” เวินลั่วฉิงมองดูกู่หยิงหยิง ยิ้มอีกครั้ง น้ำเสียงที่ค่อยๆ เจรจาต่อรอง และดูเข้าใจซึ่งกันและกัน
“เชิญคุณกู่นำกระเป๋าของคุณมาให้พวกเรา พวกเราขอตรวจค้นหน่อยครับ” ตำรวจรู้สึกว่าเวินลั่วฉิงพูดได้สมเหตุสมผล แน่นอน พวกเขาก็ไม่อยากจะค้นตัวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต่อหน้าผู้คน โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลกู่อีกด้วย
“เวินลั่วฉิง เธอมีสิทธิ์อะไรมาค้นกระเป๋าของฉัน?” กู่หยิงหยิงจับกระเป๋าในมือแน่น แล้วถอยหลังไปไม่กี่ก้าว
ตำรวจมองเธอ ขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณกู่ครับ ไม่ใช่คุณเวินที่จะตรวจค้นกระเป๋าของคุณครับ คือพวกเราตำรวจที่จะตรวจสอบเรื่องให้ชัดเจนครับ ฉะนั้นขอเชิญคุณกู่ให้ความร่วมมือกับพวกเราด้วยครับ”
“เวินลั่วฉิง เธอตั้งใจใส่ร้ายฉัน” กู่หยิงหยิงถือว่าฉลาดมาก ในเวลานี้เธอไม่ได้พูดกับตำรวจมากมาย แต่ว่ากลับโจมตีไปทางเวินลั่วฉิงโดยตรงเลย
เวินลั่วฉิงมองเธอ มองเธอแบบเงียบสงบ ไม่พูดอะไร
“เวินลั่วฉิง ฉันรู้ว่าเธออิจฉาฉัน ฉะนั้นจึงตั้งใจใส่ร้ายฉัน” กู่หยิงหยิงในขณะนี้อยากจะใช้เรื่องของเมื่อวานมาแก้ตัวให้ตัวเอง
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า สมองของกู่หยิงหยิงหมุนได้เร็วมาก
“อิจฉาเธออะไร?” เวินลั่วฉิงยิ้มด้วยเสียงเบา เพียงแค่แวบเดียวเขาก็มองความคิดของกู่หยิงหยิงออกแล้ว
“อิจฉาที่เมื่อคืนคุณชายสามเย่อยู่กับฉัน” ที่จริงแล้ว กู่หยิงหยิงไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แต่ว่าตอนนี้เธออยากจะโจมตีเวินลั่วฉิงมากๆ
“เธอพูดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เธอกับคุณชายสามเย่กลิ้งอยู่บนเตียงด้วยกันทั้งคืนที่โรงแรมหรอ?” เวินลั่วฉิงยักคิ้ว ในตอนที่พูดประโยคนี้ สีหน้าธรรมชาติเหมือนกำลังพูดว่าวันนี้อากาศดีมาก
ผู้คนต่างก็อึ้งไปเลย เวินลั่วฉิงพูดถึงเรื่องนี้ ควรจะอิจฉาจนบ้าคลั่ง กัดฟันเกลียดไม่ใช่หรอ?
ทำไมเธอถึงสงบเฉยชาได้เพียงนี้?
กู่หยิงหยิงอึ้งไปเลย เวินลั่วฉิงกลับไม่สนใจ? ไม่ว่ายังไงแล้วผู้หญิงที่อยู่กับเย่ซือเฉินในเมื่อคืนก็ไม่ใช่เวินลั่วฉิง
แต่ว่า แน่นอนว่ากู่หยิงหยิงในตอนนี้ไม่มีทางปฏิเสธ เธอไม่ได้ตอบ แสดงว่ายอมรับแล้ว
“พวกเธอกลิ้งอยู่บนเตียงทั้งคืน เช้านี้คุณกู่ยังสามารถใส่เสื้อเมื่อคืนเดินออกมาจากโรงแรมได้? อีกอย่างบนเสื้อก็ไม่มีแม้แต่รอยพับ? คุณชายสามเย่เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยขนาดนี้เลยหรอ? ดูจากในคลิปแล้วไม่เหมือนนะ?” เวินลั่วฉิงมองกู่หยิงหยิง ภายใต้รอยยิ้มมีความหมายอันลึกซึ้งอยู่
ที่จริงแล้ว เรื่องนั้นพูดกันแล้วว่าจะให้เย่ซือเฉินมาจัดการ ฉะนั้นเวินลั่วฉิงไม่อยากจะยุ่ง แต่ว่าขณะนี้กู่หยิงหยิงได้พูดถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าเธอต้องพูดถึงมุมมองของตัวเองสักหน่อย
“ไม่ใช่แน่นอน ตามที่ฉันรู้ เย่ซือเฉินก็คือสัตว์ร้าย” มู่หรงซือถูที่ไม่ได้พูดมาตลอด ขณะนี้กลับพูดต่อมาหนึ่งประโยค
เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้น จ้องเขาหนึ่งที นายต่างหากที่เป็นสัตว์ร้าย แม้แต่สัตว์ร้ายก็สู้ไม่ได้
ราวกับว่าเข้าใจความหมายในแววตาของเวินลั่วฉิงแล้ว มู่หรงซือถูยิ้ม พูดคำพูดที่น่าตกใจอีกครั้ง “ตอนที่เย่ซือเฉินแตะต้องตัวเองก็เหมือนกับสัตว์ร้ายไม่ใช่หรอ?”
เวินลั่วฉิง “……”
ให้ตายเถอะ ไม่พูดได้ไหม?
คนเยอะขนาดนี้ เขาไม่อาย แต่เธออาย
ตอนแรกนั้น ทุกคนต่างก็ไม่ได้นึกถึงจุดนี้ แต่ว่าเวินลั่วฉิงในขณะนี้พูดแบบนี้แล้ว จุดสนใจของทุกคนต่างก็ไปอยู่บนเสื้อผ้า
ผู้คนที่ยืนรอบอยู่ตรงนี้ถึงขั้นไปค้นวิดีโอที่กู่หยิงหยิงเดินออกมาจากโรงแรม เห็นถึงเสื้อผ้าที่เรียบร้อยบนตัวของกู่หยิงหยิง
“เสื้อผ้าของคุณกู่เรียบร้อยมากจริงๆ ไม่เหมือนกับทำเรื่องอย่างว่ามาทั้งคืนเลย ถึงแม้ว่าจะนอนคนเดียว ก็ไม่ถึงขั้นที่เสื้อผ้าไม่มีแม้แต่รอยยับหรอกมั้ง?”
“คลิปวิดีโอเมื่อคืนสถานการณ์ที่คุณชายสามเย่บ้าคลั่งขนาดนั้น เสื้อผ้าไม่สามารถเรียบร้อยแบบนี้แน่นอน เนื้อผ้าแบบนี้ง่ายมากที่จะเกิดรอยยับ”
“ฉัน ตอนเช้าที่ฉันออกจากโรงแรม ฉันรีดผ้าแล้ว” กู่หยิงหยิงในขณะนี้สีหน้าแย่ไปเลย ซีดขาวมาก ดูแย่มากๆ แต่ว่าไหวพริบของเธอดีมาก ในไม่ช้าก็หาเหตุผลที่ดีออกมาได้
“อืม วันนี้สองแล้วคุณกู่ยังมีเสื้อผ้าที่สมบูรณ์แบบและรีดเรียบร้อยนี่เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย” เวินลั่วฉิงมองเธอไปหนึ่งที เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าประโยคนั้นมีความหมายโดยนัยอยู่
เมื่อคืน เสื้อผ้าของเธอถูกใครบนคนฉีกจนเป็นเศษๆ แล้ว