ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 644 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (11)

บทที่ 644 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่ (11)

“แต่ว่า ก่อนหน้านี้ ฉันมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องทำ” เวินลั่วฉิงหยุดพูดไปสักพัก จากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสริมขึ้นไปประโยคหนึ่ง

“เรื่องอะไร?” กู่หยิงหยิงอึ้งไปเลย ในแววตามีความสงสัยเพิ่มขึ้น เวลานี้แล้วเวินลั่วฉิงจะทำอะไรกันแน่?

เวลานี้ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญอีก?

เวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบเธอ แค่ยิ้มโค้งที่ริมฝีปาก รอยยิ้มบนใบหน้าดูเพิ่มมากขึ้น

มู่หรงซือถูก็ยิ้มอีกครั้ง เขารู้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ง่ายแบบนี้แน่ๆ ฉะนั้นข้างหลังต่างหากที่เป็นจุดสำคัญ

เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจกู่หยิงหยิงอีก แต่ว่ามองไปทางพี่หลิวหน้าเคาน์เตอร์ แล้วพูดว่า “พี่หลิว ช่วยแก้ไขราคาของกำไลหยกนี้หน่อย”

“คะ? ค่ะ” พี่หลิวมึนงงเล็กน้อย ดึงสติกลับมาแล้วถามว่า “เจ้านายคะ จะแก้ไขเป็นเท่าไหร่คะ?”

กู่หยิงหยิงได้ยินว่าจะแก้ไขราคา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แต่ว่ากู่หยิงหยิงก็ยังทำเสียง หึ ด้วยความเย็นชาไปอีกคำ เวินลั่วฉิงก็แค่อยากจะขึ้นราคา หึ เธอจะดูว่าเวินลั่วฉิงจะขึ้นสักเท่าไหร่กัน?

เธอคิดว่าเวินลั่วฉิงก็คงไม่กล้าที่จะขึ้นอะไรมากมาย ไม่ว่ายังไงแล้วก็มีคนมากมายขนาดนี้ที่มองอยู่

เวินลั่วฉิงจับกำไลหยกขึ้นมาแล้วหมุน ค่อยๆ มองอย่างละเอียด แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “อื้ม ฉันดูแล้วสีของกำไลหยกนี้สง่า

สีสันต่างๆดีมาก ต้องได้ราคาดีแน่ๆ แก้ไขเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่นละกัน ตัวเลขนี้ก็ดูมงคลดี”

ประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงออกมา คนที่อยู่ในงานต่างก็ตกใจกันหมด

นี่ นี่ก็โหเกินไปแล้ว? หยกที่ราคายี่สิบล้านแก้ไขเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่น? ขึ้นมาเป็นสิบเท่าเลย?

คนที่มาดูความบันเทิงต่างก็ให้ความสนใจขึ้นมาทันที แต่ว่าเวินลั่วฉิงเพิ่มราคาที่สูงขนาดนี้ คุณกู่คงจะไม่ซื้อแล้วแน่ๆ เวินลั่วฉิงก็เกินไปแล้วจริงๆ ราคานี้คนที่จะซื้อไหวมีไม่มาก

ตระกูลกู่ถึงแม้จะมีเงินก็คงไม่ออกเงินหนึ่งร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่นมาซื้อกำไลหยกราคายี่สิบล้านหรอก อีกอย่างในมือของคุณกู่ก็คงไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น

“เวินลั่วฉิง เธอบ้าไปแล้ว? นี่คือการปล้นต่อหน้าต่อตาเลย? เธอยังจะเอาหน้าอยู่ไหม?” หลังจากที่กู่หลิงหลิงดึงสติกลับมาแล้ว ก็ตะโกนพูดด้วยความโมโห

“คุณเวิน คุณทำแบบนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมมั้งคะ?” กู่หยิงหยิงกดทับความโกรธในใจ บนใบหน้าก็ยังคงความอ่อนโยนไว้อยู่

“มีอะไรไม่เหมาะสม? ร้านนี้เป็นร้านของฉัน กำไลหยกนี้เป็นของฉัน ฉันอยากจะแก้ไขราคาคือความอิสระของฉัน ฉันอยากขายเท่าไหร่ก็เป็นอิสระของฉัน ไปเดือดร้อนใครหรอ?” สิ่งที่เวินลั่วฉิงพูดคือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล จะพูดว่าคำพูดนี้ของเธอก็ไม่ได้ผิด สิ่งของเป็นของเธอ แน่นอนว่าเธอพูดยังไงก็อย่างนั้น

เธอมีสิทธิ์ที่จะเอาแต่ใจ!!

แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงรู้ว่าทำแบบนี้ไม่สมเหตุ ไม่ถูกตามกฎ แต่ว่ากับคนที่ไม่มียางอายต้องพูดเหตุผล กฎระเบียบต่างๆ กับเขาหรอ?

“แต่ว่า เมื่อกี้พูดกันไว้แล้ว ฉันจะซื้อกำไลหยกนี้ จากนั้นเธอก็ขึ้นราคากะทันหัน นี่ไม่ใช่กันหลอกลวงอย่างเห็นได้ชัดเจนหรอ?” กู่หยิงหยิงรู้สึกว่าความโมโหที่หน้าอกตัวเองกำลังค่อยๆ เพิ่มขึ้น จะกดทับไม่ไหวแล้ว

“เธอสามารถไม่ซื้อได้นิ ฉันไม่ได้บังคับให้ซื้อซะหน่อย?” เวินลั่วฉิงมองไปทางกู่หยิงหยิงหนึ่งที น้ำเสียงนั้นช่างน่าโมโหจริงๆ

“แน่นอน หากคุณกู่ไม่ซื้อ งั้นพฤติกรรมที่คุณกู่ขโมยของก็สมบูรณ์ ฉันจะยืนหยัดฟ้องร้องคุณกู่แน่นอน” เวินลั่วฉิงหยุดพูดไปสักพัก จากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสริมอีกหนึ่งประโยค

ความหมายของเธอคือ ไม่ก็ใช้เงินแปดร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่นซื้อกำไลหยก ไม่ก็ฟ้องร้องกู่หยิงหยิง

กู่หยิงหยิง “……”

“ไอ้หยา พอฉันแก้ไขราคา งั้นจำนวนเงินของสิ่งของที่คุณกู่ขโมยก็เพิ่มขึ้นแล้วสิ” เวินลั่วฉิงตะโกนดังขึ้น จากนั้นก็มองไปทางกู่หยิงหยิง ยิ้มด้วยความรู้สึกผิด “คุณกู่ ขอโทษนะคะ ไม่ทันระวังไปเพิ่มโทษให้คุณแล้ว”

มู่หรงซือถูยักคิ้ว อื้ม นี่เป็นสไตล์ของเวินลั่วฉิง

พูดตามความจริง นิสัยของเวินลั่วฉิงกับผู้หญิงที่บ้านของเขาเหมือนกันมาก ถึงว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน

ผู้หญิงของเขากลับไปวันนั้นเป็นเด็กดีมาก คืนนั้นเธอโทรมาบอกว่าวันที่สองจะไปส่งซุปไก่ให้ใครบางคน แต่ว่าไม่ได้ไป สองสามวันนี้เธอก็ไม่ได้ไปเจอผู้ชายคนนั้นแล้ว จุดนี้เขาพอใจมาก

พอนึกถึงผู้หญิงของเขา มู่หรงซือถูก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม หลังจากจัดการเรื่องวันนี้เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถอยู่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงของเขาได้แล้ว

ผู้คนได้ยินประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงแล้ว ต่างก็อึ้งไปหมด วิธีนี้สุดยอดมาก!

“คุณตำรวจ คุณช่วยให้เหตุหน่อยค่ะ คุณเวินทำแบบนี้ไม่เหมาะสมใช่ไหมคะ?” กู่หยิงหยิงฉลาดมาก ขณะนี้รู้ว่าให้ตำรวจมาช่วย

“คุณเวิน แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ ครับ” ตำรวจอายุสี่สิบกว่ากะพริบตา มองไปทางเวินลั่วฉิง แล้วพูดด้วยเสียงที่ระมัดระวัง

พูดตามความจริง เขาไม่อยากเป็นโทษทั้งสองฝ่ายเลย ฉะนั้นหวังว่าเรื่องนี้จะเคลียร์กันได้

“อ๋อ งั้นขอถามคุณตำรวจหน่อยค่ะว่าไม่เหมาะสมตรงไหนคะ?” เวินลั่วฉิงมองไปทางตำรวจ ถามด้วยความจริงใจ

ตำรวจ “……..”

ทุกคนต่างก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม แต่ไม่มีใครพูดได้ว่าไม่เหมาะสมตรงไหน ของก็เป็นของเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงราคาได้

เมื่อกี้เวินลั่วฉิงก็พูดแล้วว่า ไม่ได้บังคับให้กู่หยิงหยิงซื้อ

“คุณเวินครับ ราคานี้จะสูงไปหน่อยหรือเปล่าครับ?” ตำรวจพูดด้วยความอ้อมค้อม สูงไปหน่อย? นั่นแค่สูงไปหน่อยหรอ?

“สูงหรอ? ฉันรู้สึกว่าไม่สูงเลยนะ” เวินลั่วฉิงทำสีหน้าจริงจัง ไม่เหลือพื้นที่ให้เจรจาเลย

“หนึ่งร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่น อื้ม กำไลหยกนี้ราคานี้แหละ” จากนั้น มู่หรงซือถูก็เปิดปากพูดอีกครั้ง พูดด้วยความมั่นใจ

“คุณซือถูช่างมีแววจริงๆ ค่ะ” เวินลั่วฉิงมองไปทางมู่หรงซือถู อดไม่ได้ที่จะยิ้ม อื้ม ครั้งนี้ให้ความร่วมมือได้ไม่เลว

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ” มู่หรงซือถูตอบกลับด้วยความเกรงใจ

ผู้คนมองดูทั้งสองที่ชมไปชมมา ดูแล้วต่างก็เบิกตากว้าง นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?!

มู่หรงซือถูเปิดปากพูดแล้ว ตำรวจปิดปากทันทีเลย ไม่กล้าพูดอะไรอีก

มู่หรงซือถูบอกว่าราคานี้ ใครจะกล้าพูดว่าไม่ถึงราคานี้ล่ะ?

ตำรวจก็ไม่กล้าพูดแล้ว กู่หยิงหยิงโมโหมาก เธออยากจะรีบทำให้เรื่องจบ แต่ว่าเวินลั่วฉิงไม่มีทางให้เธอได้ใจจากเห็นได้ชัดเจน

หนึ่งร้อยแปดสิบแปดล้านแปดแสนแปดหมื่น กู่หยิงหยิงไม่มีจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงเธอแล้ว ถึงแม้แม่ของเธอก็ไม่สามารถเอาเงินออกมามากมายขนาดนี้ได้

ตอนนี้ในบัตรของเธอมีแค่ยี่สิบล้าน

ปกติมากสุดในมือเธอก็มีแค่ล้านสองล้าน ครั้งนี้เพราะว่าเรื่องงานแต่งของเธอกับคุณชายสามเย่ คุณพ่อถึงให้มาเยอะขนาดนี้

“คุณเวิน หากคุณยังยืนหยัดที่จะแก้ไขเป็นราคานี้ ฉันอาจจะไม่ซื้อ” กู่หยิงหยิงคิดไปนานมาก ในที่สุดก็มีข้อตัดสินในใจ

ราคานี้เธอรับไม่ไหวจริงๆ ไม่เพียงแต่เฮ ถึงจะเป็นตระกูลกู่ก็รับไม่ไหว