ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 650 หึงหวงจนโมโห (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 650 หึงหวงจนโมโห (1)
บทที่ 650 หึงหวงจนโมโห (1)
มู่หรงซือถูในขณะนี้ขับเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เห็นเธอแล้ว ในตอนที่เห็นว่าเธอโทรมา มู่หรงซือถูอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็รับแล้ว
ที่จริงแล้ว น้อยมากที่เธอจะโทรหาเขาก่อน
ภายในเวลาห้าปี จำนวนครั้งที่เธอโทรหาเขาก่อนสามารถใช้นิ้วมือสองข้างนับได้เลย อีกอย่างทุกครั้งที่โทรก็เพราะว่าจำเป็น
“ฮัลโหล” มู่หรงซือถูรับโทรศัพท์ แววตามองไปทางเธอที่ยืนอยู่ในที่ไม่ไกล เธอกำลังจะออกจากบ้าน?
เสื้อผ้าในวันนี้ของเธอสวยมาก!
“นายกำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า?” หลิวหยิงได้ยินเสียงของเขา ทันใดนั้นจังหวะหัวใจก็เต้นเร็วขึ้น มีความตื่นเต้น เธอแอบสูดหายใจลึก พยายามให้เสียงตัวเองดูเงียบสงบ
“อื้ม?” มู่หรงซือถูจอดรถ จอดอยู่ในที่ไม่ไกลจากเธอ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอโทรหาเขา ถามว่าเขายุ่งหรือเปล่า?
เขาคิดว่าวันนี้ดวงอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตก!
พูดตามความจริง อยู่กับเธอมาตลอดหลายปีนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่เธอโทรหาก่อนแล้วถามว่าเขายุ่งอยู่หรือเปล่า
เขารู้สึกว่า นี่ควรจะเป็นเรื่องที่น่าดีใจ แต่ว่า เขามองเห็นเธอที่ยืนอยู่ไม่ไกลก้มหัวเล็กน้อย เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าใจไม่อยู่กับตัว
โทรหาเธอ แต่ใจไม่อยู่กับตัว?
คำว่า “อื้ม” ของมู่หรงซือถู มีความอบอุ่นเล็กน้อย ฟังไม่ออกว่าเป็นประโยคคำถาม ขณะนี้หลิวหยิงได้ยินเป็นคำบอกเล่า จึงคิดว่าเขากำลังยุ่งอยู่จริงๆ
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าหลิวหยิงโล่งอก “งั้นนายไปทำธุระต่อเถอะ”
ในตอนที่พูดประโยคนี้ เสียงของเธอดูผ่อนคลายลงเยอะมาก
มู่หรงซือถูมองเธออยู่ในที่ไม่ไกลมากนัก ฉะนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าเขามีการตอบสนองอย่างไร
ในตอนที่เห็นเธอพูดว่าเขายุ่งอยู่ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการตอบสนองผ่อนคลายมาก
“เป็นอะไรหรอ?” มู่หรงซือถูหรี่ตาเล็กน้อย ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ ถามไปประโยคหนึ่ง
“ไม่มีอะไร แค่อยากจะถามว่าคืนนี้นายกลับมาเมื่อไหร่?” ตอนแรกหลิวหยิงอยากจะวางสายแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับถามมาอีกประโยค ทันใดนั้นเขาตื่นเต้นขึ้นเยอะมาก
“ทำไม? คิดถึงฉันแล้ว?” มู่หรงซือถูได้ยินประโยคนี้แล้ว ยิ้มริมฝีปาก จู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็รับรู้แล้ว?
กลับรู้แล้วว่าเขาจะกลับเมื่อไหร่?
“อ้ะ? อา….” หลิวหยิงมีความอึ้งเล็กน้อย ยังดึงสติกลับมาไม่ได้ในเวลานั้น
“หวังให้ฉันรีบกลับมาอยู่กับเธอหรอ?” มู่หรงซือถูเห็นท่าทางของเธอแล้ว รอยยิ้มที่ฝีปากเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
มู่หรงซือถูไม่ได้พูดว่าเขากลับมาแล้ว
“อ้ะ? ไม่ต้อง ไม่ต้อง ฉันรู้ว่านายทำงานยุ่งอยู่” หลิวหยิงได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว จู่ๆ ก็กระวนกระวายขึ้น
รอยยิ้มบนริมฝีปากของมู่หรงซือถูหายไป จับโทรศัพท์ไว้แน่น เขามองออกว่า เธอพูดว่าไม่ต้องคือไม่ต้องจริงๆ และเขาทำงานยุ่งก็แค่ข้ออ้างที่เธอหามา
รถของเขาจอดอยู่ในที่ไม่ไกล เธอแค่หันหลังมาก็เจอแล้ว แต่เธอกลับไม่เห็น
ฉะนั้น ตอนนี้เธอใจไม่อยู่กับตัว อีกอย่างยังมีความตื่นเต้น เร่งรีบ
นี่เธอรีบจะไปไหน?
อีกอย่าง เขาเห็นว่าเมื่อกี้ที่เขาบอกว่ารีบกลับมาหาเธอ เธอดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดเจน?
กระวนกระวายอะไร?
“ทำอะไรคนเดียวอยู่ที่บ้าน?” มู่หรงซือถูไม่อยากสงสัย เขาเองก็ไม่ยอมที่จะสงสัย แต่ว่าสภาพของเธอในตอนนี้ทำให้เขายากที่จะสงสัยไม่ได้
“อ้ะ? ดู ดูทีวี” ตอนนี้หลิวหยิงรู้สึกผิดมาก ฉะนั้นพอได้ยินประโยคนี้ จึงมีการตอบสนองที่ปากไวกว่าสมอง
คำพูดนี้ฟังก็ฟังออกว่าพูดออกมางั้นๆ ไม่ได้ผ่านสมอง เธอพูดโกหกไม่เป็น ฉะนั้นตอนนี้จึงพูดติดๆขัดๆไปแล้ว
“ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงทีวีล่ะ?” มู่หรงซือถูจับโทรศัพท์แน่น หรี่ตาขึ้นมา ในแววตาดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดเจน
ขณะนี้ เธออยู่ข้างล่างตึกแท้ๆ เธอกลับบอกเขาว่าเธอดูทีวีอยู่ที่บ้าน?
ทำไมถึงต้องโกหก?
“อ้ะ? ฉันโทรหานาย ก็เลยกดหยุดทีวีไว้” หลิวหยิงหยิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามคำถามนี้ ทันใดนั้นเธอรู้สึกผิดไปเลย แต่ว่าพูดโกหกไปหนึ่งประโยค งั้นต่อมาก็ต้องใช้คำโกหกอื่นๆ มาโกหกไปเรื่อยๆ
นี่คือการตอบสนองที่จำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้!!
นี่คือการตอบสนองที่หลิวหยิงในตอนนี้จะทำโดยสัญชาตญาณ ความเอาตัวรอดของเธอทำให้เธอทำการตอบสนองแบบนี้ออกมา
เธอกลัวมู่หรงซือถู กลับมาตลอด ถึงแม้ว่าเธอและเขาจะอยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว แต่เธอก็ยังกลัวเขา
ยังดี ระยะเวลาห้าปีจะสิ้นสุดลงแล้ว ต่อจากนี้เธอก็จะอิสระแล้ว ไม่ต้องกลัวเขาแล้ว
แววตาของมู่หรงซือถูจ้องเธออยู่ตลอดเวลา ค่อยๆ เย็นชาลง ค่อยๆ เย็นชาลง ทันใดนั้น รอบๆ ตัวของเขาก็มีความเย็นที่ทำให้ขนลุก ทำให้อุณหภูมิในรถลดต่ำลงถึงขั้นน้ำแข็ง
ได้ ดีมาก เธอโกหกเขาแบบนี้เลย? กดหยุดทีวีไว้? ฮื้ม คำโกหกนี้แต่งได้ไม่เลวจริงๆ
ทันใดนั้น เขาพูดไม่ออกเลย
“นายยุ่งก่อนเลย ฉันไม่กวนนายแล้ว ฉันวางก่อนนะ” ไม่ได้ยินเสียงของเขา เสียงของหลิวหยิงก็ต่ำลงเล็กน้อย
“อืม” มู่หรงซือถูยังคงจ้องเธอเหมือนเดิม เม้มริมฝีปาก จากนั้นก็พูดด้วยเสียงต่ำ
เขาไม่ได้ลงรถ และไม่ได้พูดอะไรอีก เขาอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงโกหกเขา?
ในที่ไม่ไกล หลิวหยิงรีบวางโทรศัพท์ลง เธอโล่งอกอย่างเห็นได้ชัดเจน
มู่หรงซือถูมองดูการตอบสนองของเธอ ทันใดนั้นก็ดูเย็นชาลงสุดขีด การโทรหาเขาสำหรับเธอแล้วคือการทรมานอย่างหนึ่งหรอ?
หลิวหยิงวางสายลง ไม่ได้รีบจากไป ยังคงรออยู่ที่เดิม
มู่หรงซือถูมองดูเธอ ขมวดคิ้ว ในใจยังคงมีความหวังบางๆ อยู่
รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าเมื่อกี้เธอโกหกเขา รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าเธอโกหกต้องมีเป้าหมายแน่นอน แต่ก็ยังหวังว่าจะไม่เป็นไปตามที่เขาคิด
หลังจากที่หลิวหยิงโทรหามู่หรงซือถู ในใจยังคงกระวนกระวาย ฉะนั้นเวลานั้นเธอยังคงลังเล ลังเลว่าจะไปเยี่ยมไป๋ยี่รุ่ยดีไหม
แต่ว่า ฟังความหมายของคุณหมอแล้วเหมือนสถานการณ์ของไป๋ยี่รุ่ยจะไม่ดีมากๆ!
และในขณะนี้ มีรถยาวคันหนึ่งผ่านมาพอดี แววตาของหลิวหยิงประกายขึ้น สมองของเธอสั่งการให้มือของเธอโบกรถเอาไว้
รถบาสจอดลง หลิวหยิงจึงจะรู้ตัวว่าตัวเองโบกรถเอาไว้ ในเมื่อโบกรถแล้ว งั้นก็ขึ้นรถ
หลังจากขึ้นรถแล้ว หลิวยิงบอกชื่อโรงพยาบาลของไป๋ยี่รุ่ยไป คนขับรถแท็กซี่ก็ขับจากไปในไม่ช้า
รถขอมู่หรงซือถูจอดอยู่ข้างๆ ห่างจากเธอไม่ไกล อีกอย่างรถของมู่หรงซือถูก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ว่าเธอกลับมองไม่เห็น
เห็นว่าเธอขึ้นรถจากไป ริมฝีปากของมู่หรงซือถูเผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา รอยยิ้มนั้น ดูไม่ออกเลยว่ายิ้มกว้างเพียงไหน แต่ว่าเย็นชาสุด
ขณะนี้ เขาจับโทรศัพท์ไว้ในมือ มือขอเขาจับแน่นขึ้น แน่นขึ้น โทรศัพท์ที่อยู่ในมือเขาจะเปลี่ยนทรงแล้ว
เห็นว่ารถของเขาจากไปไกลแล้ว เขากางมือที่จับโทรศัพท์ออก จากนั้นก็โทรออกไปอีกสาย
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์จะเปลี่ยนทรงไปแล้ว แต่ว่ายังสามารถโทรได้อยู่!!