ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 669 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 669 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (3)
บทที่ 669 คุณชายสามเย่เล่นขั้นที่พีคกว่า (3)
“พวกท่านน่าจะรู้ว่า ตอนนี้ถังหยุนเฉิงเลื่อนขั้นเป็นผู้บัญชาการแล้ว ส่วนถังหลินก็เลื่อนตำแหน่งได้สามขั้น หากตระกูลถังจะโจมตีผมโจมตีตระกูลเย่ คาดว่าแค่ดีดนิ้วก็เอาอยู่แล้ว”ครั้งนี้เย่ซือเฉินใช้ตระกูลเย่มาข่มขู่ เย่ซือเฉินรู้ดีว่า แต่ไหนแต่ไรคนตระกูลเย่ไร้ความปรานี แค่เห็นผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง
คุณปู่เย่ได้ยินตระกูลถังจะโจมตีตระกูลเย่ ได้สติทันควัน ก่อนจะพูดอย่างหวาดหวั่น “นายกับถังหลินเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันไม่ใช่เหรอ?”
“น้องสาวแท้ๆกับพี่น้องร่วมสาบาน พวกท่านคิดว่าถังหลินจะเลือกใคร?”เย่ซือเฉินเงยหน้ามองคุณปู่เย่แวบหนึ่ง การมองแวบนี้ความนัยชัดเจนมาก
เย่ซือเฉินรู้ว่าเขากับถังหลินคือเพื่อนเป็นเพื่อนตาย ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เขากับถังหลินไม่มีทางหักหลังซึ่งกันและกัน แต่เย่ซือเฉินรู้ดีว่า คนอย่างคุณปู่เย่ไม่เคยมีมิตรแท้ ดังนั้นเย่ซือเฉินรู้ว่าคุณปู่เย่เชื่อคำพูดของเขา
เวลานี้ถังหลินโทรเข้ามาพอดิบพอดี แนนอน เย่ซือเฉินกับถังหลินได้เตรียมกันมาก่อนแล้ว
“ถังหลินโทรมาแล้ว”เย่ซือเฉินมองหน้าคุณปู่เย่อีกครั้ง เอามือถือขึ้นมา แต่ไม่ได้รับสาย คล้ายกับกำลังลังเลอะไรอยู่
“นายรับสายเลย ฟังดูว่าเขาจะพูดยังไง นายกดลำโพงด้วย พวกเราก็จะได้ยินด้วย”คุณปู่เย่พูด พลางรีบก้าวลงมาจากบันได แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ซือเฉิน
คุณย่าเย่ก็ตามมาติดๆ
ครั้งนี้เย่ซือเฉินเชื่อฟังเป็นพิเศษ เขารับสาย พลางกดลำโพงขึ้นมา
“เย่ซือเฉิน ดูผลงานที่นายทำสิ นายทำอย่างนั้นกับน้องสาวฉันแล้ว ไอ้เฮีย นายยังไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นอีก”เมื่อรับสาย เสียงตะคอกของถังหลินก็ส่งมา ฟังออกว่าถังหลินโกรธจัดจริงๆ ถังหลินที่ปกติเป็นสุภาพชนผู้ทรงสง่าเอ่ยปากด่าทันที
คุณปู่เย่ได้ยินคำด่าของถังหลิน ร่างกายสั่นระริกไปทั้งตัว สีหน้าดูแย่ในชั่วพริบตา
“พี่ใหญ่ ฟังผมอธิบาย……”เย่ซือเฉินตอบหนึ่งประโยคอย่างเสแสร้งแกล้งทำ
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ใหญ่ นายทำเรื่องอย่างนั้นกับน้องสาวฉัน ยังมีหน้ามีเรียกพี่ใหญ่อีก นับจากวันนี้ ฉันไม่มีน้องชายอย่างนาย”อีกฝั่งหนึ่งของสาย ถังหลินตัดบทของเย่ซือเฉินด้วยเสียงตวาด “เมื่อวานนายมาขอขมาอย่างดี นายบอกว่าจะสู่ขอฉิ้นเอ๋อ เห็นแก่ท่าทีที่จริงใจของนาย พวกเราจึงยกโทษให้ รับปากว่าไม่ฟ้องร้องนาย แม่ง แต่นายก็กลับหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น ไอ้บ้านายมันเหมือนเฉินซื่อเหม่ย(ตัวละครในเปาบุ้นจิ้น ซึ่งมีนิสัยชั่วร้าย อกตัญญู และทะเยอทะยาน)ชัดๆ……”
อีกฝั่งหนึ่ง ถังหลินยิ่งด่าก็ยิ่งเสียงดัง ความโกรธที่มีมือถือขัดกั้น คนทางนี้ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจน
ไม่ชมไม่ได้ว่าถังหลินมีพรสวรรค์ด้านการแสดงมากจริงๆ
ซึ่งฝั่งนี้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยิ่งฟัง สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่ รู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน
“พี่ใหญ่ ผมไม่ได้จงใจจริงๆ ผมอยากสู่ขอฉิ้นเอ๋อจากใจ ผมก็ไม่รู้ว่า……”เย่ซือเฉินลองอธิบายอีกครั้ง แน่นอน คือการแสร้งทำให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ดู
“ไอ้ห่า เย่ซือเฉิน นายมันลวงโลก เย่ซือเฉิน นายเชื่อไหมว่าฉันจะทำให้นายหายไปจากโลกนี้ได้ นายเชื่อไหมว่าฉันจะทำให้ตระกูลเย่หายไปจากโลกนี้”ถังหลินพูดแทรกเย่ซือเฉินอีกครั้ง และดูข่มขู่ทันที
จากนั้นถังหลินก็วางสาย วางสายเสียแล้ว!
ยามนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ช็อกมาก!!
ทั้งสองแข็งทื่อ ยืนอยู่กับที่อย่างไม่กระดุกกระดิก
คำสุดท้ายของถังหลิน พวกเขาได้ยินเต็มสองหู ถังหลินจะให้ตระกูลเย่หายสาบสูญไปจากโลกนี้?
ความหมายนั้นก็คือให้พวกเขาหายไปด้วยใช่ไหม?
หากคนอื่นพูดในลักษณะนี้ พวกเขาก็ไม่สนใจหรอก แต่คนนั้นคือถังหลิน พวกเขา……
“งั้น งั้นตอนนี้ทำยังไงดี?”คุณปู่เย่ได้สติก็พูดด้วยเสียงสั่นเทาหนึ่งประโยค บัดนี้ คุณปู่เย่กลัวมากจริงๆ
เพราะเรื่องนี้ตระกูลเย่เป็นฝ่ายผิด เพราะเย่ซือเฉินลวนลามคุณหนูถังก่อน ซึ่งมันถือว่ารุนแรงมาก ตระกูลถังสามารถโจมตีพวกเขาได้อย่างมีเหตุมีผลและเปิดเผย
“แล้วตอนนี้ทำยังไงดี?พวกเราประกาศเรื่องงานแต่งงานกับกู่หยิงหยิงไปแล้ว หากพวกเราเป็นฝ่ายยกเลิกก็จะถูกว่าคนอื่นหัวเราะเยาะได้”คุณย่าเย่ลังเลเรื่องยกเลิกงานแต่งขึ้นมา
เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ก็แอบหัวเราะเย็นอยู่ในใจ ดังนั้นเพื่อเกียรติของคุณย่า จะไม่เป็นห่วงแม้แต่ชีวิตของเขา พวกเขาช่างดีงามเหลือเกิน
“หน้าตาสำคัญหรือตระกูลเย่สำคัญ?”คุณปู่เย่กวาดสายตามองท่านอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แน่นอน สิ่งที่คุณปู่เย่อยากรักษาคือตระกูลเย่ ไม่ใช่เย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินรู้ตัวตั้งนานแล้ว แต่เวลานี้ยังคงรู้สึกหดหู่ใจเหมือนหัวใจโดนแช่แข็งก็ไม่ปาน
“ประเด็นคือพวกเราเป็นฝ่ายคุยเรื่องนี้เอง ทางตระกูลกู่ไม่ได้ผิด กู่หยิงหยิงก็เป็นเด็กที่ไม่เลวเลย พวกเราหาข้ออ้างยกเลิกงานแต่งไม่ได้ในเวลานี้หรอก”เวลานี้คุณย่าเย่รู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่ฟังจากความหมายแล้ว เป็นความอึดอัดใจที่หาข้ออ้างยกเลิกงานแต่งไม่ได้
“ใช่ ถังฉิ้นเอ๋อบอกว่าคืนนั้นกู่หยิงหยิงตามผมออกมา ตอนนั้นผมกับถังฉิ้นเอ๋อจูบอยู่ด้านนอกตั้งนาน กู่หยิงหยิงก็ยืนมองตั้งนานตอนนั้นเธอต้องจำถังฉิ้นเอ๋อได้แน่ๆ”เย่ซือเฉินเสริมหนึ่งประโยคอย่างพอดิบพอดี เป้าหมายที่เขามาในวันนี้ก็คือให้ตระกูลเย่กับตระกูลเย่กัดกันเอง
ดังนั้น เขาต้องบอกจุดได้เปรียบในการแก้ไขให้คุณปู่กับคุณย่าทราบ
“หลาน หลานบอกว่ากู่หยิงหยิงรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นคือถังฉิ้นเอ๋อ?”คุณย่าเย่ชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง
“ถ้ากู่หยิงหยิงไม่รู้ เธอกล้าทำอย่างนี้ไหม?หากผู้หญิงคืนนั้นเป็นผู้หญิงทั่วไป แม้จะเป็นถึงระดับคุณหนูของตระกูลเศรษฐี พอถึงรุ่งเช้า หากเป็นคนอื่นก็คงไม่นิ่งอย่างนี้หรอก มีเพียงตระกูลถัง มีเพียงถังฉิ้นเอ๋อที่ไม่อยากไปแก่งแย่งเรื่องพวกนี้ และกู่หยิงหยิงก็จับจุดนี้ได้”อันที่จริงประวัติด่างพร้อยของกู่หยิงหยิงมีมาก แต่เย่ซือเฉินไม่ได้บอกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่
ปล่อยให้พวกเขาไปสืบเอง ผลลัพธ์จะดีกว่า
มีเพียงอย่างนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้กัดกันเต็มเหวี่ยง
ใครก็รู้ว่าคุณชายสามเย่มีวิธีการที่ร้ายกาจ แต่เมื่อก่อนเขาไม่เคยใช้กับเพื่อนและคนในครอบครัว
นาทีนี้ สำหรับคุณชายสามเย่แล้ว คนตระกูลเย่พวกนี้ไม่ใช่ครอบครัวของเขาอีกต่อไป
“คิดไม่ถึงเลยว่ากู่หยิงหยิงจะมีแผนการร้ายอย่างนี้?”คุณย่าเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าไม่พอใจหลายส่วน “พวกเราถูกเธอหลอกใช้งานแล้ว?”
“น่ารังเกียจมาก ผู้หญิงอย่างนี้ให้แต่งเข้าตระกูลเย่ไม่ได้”คุณปู่เย่เริ่มด่าออกมา
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทัศนคติของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเลือกทางเดินได้แล้ว……