ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 672 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 672 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (2)
บทที่ 672 คุณพ่อสุดยอดที่สุดแล้ว (2)
“คุณแม่ไม่คิดจะให้เย่ซือเฉินมาช่วยหรอครับ?” จู่ๆ ถังจื่อโม่กลับพูดประโยคนี้ออกมา ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินยังไม่ผ่านแบบทดสอบของเขา แต่ว่าตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณแม่แล้ว ไม่ควรหาเย่ซือเฉินมาช่วยหรอ?
“อื้ม เดี๋ยวแม่โทรหาเขา” เวินลั่วฉิงอึ้งไปสักพัก มองไปทางถังจื่อโม่ แล้วหัวเราะเบาๆ
ดูเหมือนว่า ในใจของเจ้าเด็กถังจื่อโม่ เย่ซือเฉินก็สุดยอดมากๆ ไม่เช่นนั้น เขาไม่มีทางให้เธอขอความช่วยเหลือจากเย่ซือเฉินหรอก
ไม่ใช่ว่าเวินลั่วฉิงจะนึกไม่ถึงเย่ซือเฉิน แต่เป็นเพราะว่า ตอนนี้ทางตระกูลเย่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ อีกอย่างทุกๆ เรื่องต่างก็มีความสัมพันธ์กับเขา
ขณะนี้เวินลั่วฉิงไม่อยากลากเย่ซือเฉินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของตระกูลเวินแล้ว
เวินลั่วฉิงลงจากตึก จึงจะนึกขึ้นว่า เมื่อคืนรถของเธอถูกหลี่หยุนขับออกไปแล้ว เมื่อคืนเธอต่อรถกลับมา
เวินลั่วฉิงไม่อยากให้คนในตระกูลถังรู้เรื่องนี้ ไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง ฉะนั้น จึงคิดอยากจะต่อรถไปที่บ้านตระกูลเวิน
ในห้องรับแขกไม่มีคน เวินลั่วฉิงเดินตรงออกไปทางข้างนอกเลย
“ฉิงฉิง เธอจะออกไปหรอ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวอยู่ที่สวนพอดี พอเห็นเวินลั่วฉิงเดินออกไปทางข้างนอกด้วยความเร็ว จึงอดไม่ได้ถามไปหนึ่งประโยค
“อื้ม มีธุระนิดหน่อยค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบาย แม้กระทั่งเท้าก็ไม่ได้หยุดเดิน แค่หันมองไปทางเฟิ่งเหมียวเหมียว
“รีบมากไหม? เธอไม่ขับรถออกไปหรอ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวเห็นเธอเดินตรงไปทางประตู ไม่ได้เดินตรงไปทางโรงรถ มีความแปลกเล็กน้อย
“รถของหนูเมื่อคืนไม่ได้ขับกลับมาค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง ฉะนั้นไม่ได้พูดความจริง
“งั้นให้คนขับรถไปส่งเธอ” เฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่ได้คิดมาก พูดประโยคนี้ออกมาอย่างธรรมชาติ
“ไม่ต้องแล้วค่ะ เดี๋ยวต่อรถไปเองค่ะ” เวินลั่วฉิงกลับใกล้จะเดินออกจากประตูแล้ว
“เจ้าเด็กนี่รีบขนาดนี้ทำไมเนี่ย?” เฟิ่งเหมียวเหมียวขมวดคิ้วเล็กน้อย มีความรู้สึกแปลกๆ รางๆ
“อัยยา เจ้าเด็กทั้งสองล่ะ ฉิงฉิงออกไปคนเดียว ทำไมไม่เห็นเจ้าเด็กทั้งสองนั่นล่ะ?” แต่ว่า วินาทีต่อไป เฟิ่งเหมียวเหมียวก็นึกถึงเจ้าเด็กทั้งสอง จึงรีบขึ้นตึกด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด
หลังจากที่เวินลั่วฉิงขึ้นรถแล้ว อยากจะโทรหาเย่ซือเฉิน แต่ว่า เธอกลับเห็นบนอินเทอร์เน็ตมีข่าวรายการหนึ่งรายงานขึ้นมา
ในข่าวรายงานถึงว่า หญิงสาวที่คุณชายสามเย่จูบด้วยความไปอยากจากพรากที่หน้าประตูของบ้านตระกูลเย่ไม่ใช่กู่หยิงหยิง คนที่เผยแพร่การรายงานนี้ให้กับนักข่าวคือคุณย่าเย่
แต่ว่า ครั้งนี้คุณย่าเย่ไม่ได้เปิดงานแถลงข่าวกับนักข่าว ไม่ได้พูดกับทุกคนโดยตรง แค่บอกข่าวนี้กับนักข่าว
ผู้ที่รายงานข่าวนี้คือสื่อที่มีชื่อเสียงมาก ความน่าเชื่อถือของสื่อนี้ก็สูงมาก พวกเขาพูดว่าคุณย่าเย่เป็นคนบอกข่าวนี้มาในจุดนี้น่าจะไม่ได้มีความแตกต่างมาก
เมื่อวานตระกูลเย่พึ่งประกาศข่าวงานแต่งกับตระกูลกู่ แม้กระทั่งวันแต่งงานก็ประกาศแล้ว วันนี้จู่ๆ กลับเผยแพร่ข่าวนี้ออกมา…..
เรื่องนี้ทำให้พวกที่รอดูความบันเทิงไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ถึงแม้ว่าเมื่อวานคุณย่าเย่ไม่ได้ยอมรับว่าผู้หญิงในคลิปที่คุณชายสามเย่จูบคือกู่หยิงหยิง แต่ว่าคำพูดต่างๆนานา ที่คุณย่าเย่พูดก็เหมือนกับยอมรับแบบอ้อมค้อมแล้ว
ฉะนั้น ทางอินเทอร์เน็ตก็ระเบิดแตกอีกค้าง พูดถึงอะไรก็มีหมด
แต่ว่าก็มีคนไม่น้อยที่สงสัยถึงความจริงของข่าวนี้ รู้สึกว่าตามสถานะของคุณย่าเย่แล้วน่าจะไม่ทำเรื่องที่กลับคำพูดของตัวเอง
แต่ว่า เวินลั่วฉิงกลับไม่สงสัยเลย เธอเชื่อมากว่าข่าวนี้คุณย่าเย่เป็นคนเผยออกมาเอง
แน่นอน คนที่สามารถทำให้คุณย่าเย่พูดกลับคำแล้วเผยแพร่ข่าวนี้ออกมา ก็มีความเป็นไปได้แค่ทางเดียว
นั่นก็คือ คุณย่าเย่รู้แล้ว คนที่อยู่กับเย่ซือเฉินในคืนนั้นคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ถังฉิ้นเอ๋อ
แน่นอน เวินลั่วฉิงรู้ เย่ซือเฉินต้องเป็นคนบอกพวกเขาแน่นอน ทั้งหมดนี้เย่ซือเฉินเป็นคนวางแผนไว้
ไม่ยากที่เวินลั่วฉิงจะเดาออกถึงความต้องการของเย่ซือเฉิน
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ผู้ชายคนนั้นร้ายกาจถึงบ้านจริงๆ ถึงขั้นทำลายตระกูลบ้านของตัวเองแล้ว
แต่ว่า ในเมื่อเย่ซือเฉินบอกกับคุณปู่เย่แล้วว่าคนที่อยู่กับเขาเมื่อคืนคือ ‘ถังฉิ้นเอ๋อ’ งั้นเย่ซือเฉินก็ยิ่งไม่เหมาะที่จะออกหน้ามาจัดการกับเรื่องทางบ้านตระกูลเวินแล้ว
ฉะนั้น เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้โทรออกไป แค่เก็บโทรศัพท์ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายสามเย่ออกหน้าเอง
ในตอนที่เวินลั่วฉิงมาถึงบ้านของตระกูลเวิน คนที่ถังหลินจัดไว้ก็ได้มาถึงแล้ว กำลังรอเธออยู่ที่หน้าประตูของบ้านตระกูลเวิน
ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เวินลั่วฉิงแค่มองแวบเดียวก็มองออกแล้วว่าพวกเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
แต่ว่า พวกเขาแต่งตัวได้ธรรมดามาก สายตาอะไรก็ปกปิดได้ดีมาก คนนอกมองไม่ออกถึงความผิดปกติอะไรเลย
“คุณหนูใหญ่ คุณชายถังให้เรามาปกป้องคุณ” ทั้งสองมองเห็นเวินลั่วฉิง ต่างก็เดินมาด้วยความเคารพ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าถังหลินได้บอกสถานะของเวินลั่วฉิงให้กับพวกเขาแล้ว
“อื้ม พวกเธอเข้าไปพร้อมฉันละกัน” เวินลั่วฉิงพอใจกับทั้งสองคนมาก ถังหลินทำงาน ไม่มีจุดที่ตำหนิได้เลยจริงๆ
แต่ว่า ในเมื่อพวกเขารู้สถานะของเธอแล้ว งั้นต้องเป็นคนข้างกายที่สามารถเชื่อใจได้ของถังหลิน
เวินลั่วฉิงคิดอยู่ว่า เรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว เธอจะเชิญคนอีกสองคนมาดูแลคุณปู่ แล้วส่งสองคนนี้กลับไปให้ถังหลิน
เวินลั่วฉิงพาทั้งสองเข้าไปที่บ้านของตระกูลเวินโดยตรง คุณปู่เวินตื่นแล้ว ขณะนี้กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องรับแขก
เวินลั่วฉิงไม่เห็นเวินจีหยันและหลี่หยุน
“ฉิงฉิง เธอมาแล้ว” คุณปู่เวินเห็นเธอแล้ว บนใบหน้าก็ยิ้มเบิกบานมาก รีบวางหนังสือพิมพ์ในมือลง “เธอไม่ต้องมาเยี่ยมฉันทุกวันก็ได้ คุณปู่ไม่เป็นอะไรแล้ว”
มองออกว่า อาการวันนี้ของคุณปู่เวินไม่แย่ สีหน้าก็ไม่แย่ อารมณ์ก็ดี ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่ายังไม่รู้เรื่องของเวินหรวนหรวน
“คุณปู่ หนูเชิญคนสองคนมาดูแลคุณปู่ค่ะ” เวินลั่วฉิงพาสองคนนั้นมายังข้างหน้าของคุณปู่เวิน
“ไม่ต้อง ตอนนี้คุณปู่ดีมาก ไม่ต้องการคนมาดูแล” คุณปู่เวินอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็ส่ายหัว “เธอไม่ต้องมาเป็นห่วงเรื่องของคุณปู่”
“คุณท่าน นี่คือความหวังดีของคุณหนูใหญ่ หากท่านปฏิเสธแล้ว คุณหนูใหญ่น่าจะไม่ชอบใจเอานะครับ” พ่อบ้านคือคนฉลาด เขาน่าจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติรางๆ
“อ้อ งั้นก็ได้” คุณปู่เวินได้ยินพ่อบ้านพูดแบบนี้แล้ว ก็รีบพยักหน้าตอบกลับ
“คุณปู่ หนูขึ้นตึกไปดูสักพักนะคะ เมื่อคืนในห้องหนูยุ่งเล็กน้อย หนูขึ้นไปเก็บของแป๊บหนึ่งนะคะหลิงหลินเธอขึ้นมาช่วยฉันเก็บหน่อย” เวินลั่วฉิงหาเหตุผลหนึ่งขึ้นมา แล้วพาหลิงหลินขึ้นตึกไป
ขณะนี้ เวินจีหยันและหลี่หยุนยังอยู่ในห้อง ทั้งสองทั้งกระวนกระวายทั้งกลัว ถึงขั้นไม่กล้าลงตึกไป
เวินลั่วฉิงเดินไปยังหน้าห้องของทั้งสองเลย จากนั้นก็เคาะประตู
“ใคร? คือใคร?” เวินจีหยันได้ยินเสียงเคาะประตู ตกใจจนกระโดดขึ้นมาเลย ขณะนี้พวกเขาก็เป็นเหมือนกับกระต่ายตื่นตูม มีการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยก็ตกใจไปหมด
“คุณลุงสอง หนูเองค่ะ” เวินลั่วฉิงมาหาพวกเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเป็นเรื่องด่วน ไม่สามารถเสียเวลาได้