ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 683 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 683 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (1)
บทที่ 683 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (1)
“หมายความว่ายังไง?คุณหมายถึงฉันไล่พวกเขาไปแล้ว พวกเขาจะมาอีกเหรอ?อีกทั้งยังเรียกว่าน้ำใจของเย่ซือเฉินอีก?”ดวงตาท่านย่าถังกะพริบรัวๆ รู้สึกสับสนอีกครั้ง
“ผมเดาว่าเย่ซือเฉินพูดถึงเรื่องนี้รุนแรงมาก ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่มาขอขมาเร็วอย่างนี้หรอก เย่ซืเฉินทำอย่างนี้ก็เพื่อช่วยฉิงฉิงระบายความขมขื่นนะ ดังนั้นเรื่องนี้จะจบง่ายๆอย่างนี้ได้ไง?”ไม่ชมไม่ได้แล้วว่าท่านปู่ถังเดาแม่นมาก เกือบตามพยาธิตัวกลมในท้องของคุณชายสามเย่ทันแล้ว
“ถือว่าไอ้เด็กคนนี้ยังมีสามัญสำนึกอยู่บ้าง”ครั้งนี้ท่านย่าถังรู้สึกพึงพอใจมาก
“แน่นอน เย่ซือเฉินทำอย่างนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยฉิงฉิงระบายความอัดอั้นตันใจ ยังให้คุณมีโอกาสระบายอารมณ์ได้อีกด้วยนะ”ท่านปู่ถังมองท่านย่าถัง มุมปากพลางยกขึ้น
“ก็ใช่อยู่ ฉันจะถือโอกาสนี้ระบายให้หมด หลายวันที่ผ่านมานี้ฉันปวดหัวจะตายอยู่แล้ว”ท่านย่าถังไม่เกรงใจเลยสักนิด
คนอื่นได้ยินคำพูดของท่านก็อดหัวเราะไม่ได้
มุมปากของเด็กน้อยถังจื่อโม่ยกขึ้นอีกครั้ง ดูท่าเย่ซือเฉินปฏิบัติกับคุณแม่ไม่เลวเลย
หรือเขาควรพาน้องสาวไปพบเย่ซือเฉินจริงๆ?
“ขออภัยด้วยครับ คุณนายพวกเราแจ้งมาว่าวันนี้ไม่รับแขกครับ พวกท่านกลับเถอะครับ”นอกประตูใหญ่บ้านตระกูลถัง พ่อบ้านไล่คนอย่างสุภาพ
“พวกเรามากันแล้ว ทำไมเธอถึง……”คุณปู่เย่ได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไป และอดเสียงดังไม่ได้
คุณย่าเย่รีบดึงเขาไว้
“งั้นพวกเราก็ไม่รบกวนแล้ว ของพวกนี้เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของพวกเรา รบกวนคุณพ่อบ้านเอาเข้าไปด้วยค่ะ”คุณย่าเย่รู้ดีว่าพวกเขาไม่มีคุณสมบัติแข็งข้อกับตระกูลถัง
“พวกท่านนำของขวัญกลับไปเถอะครับ คุณนายแจ้งมาว่า ตระกูลถังของพวกเราไม่ได้ขาดสนอะไรเลยครับ”พ่อบ้านไม่มีทางรับของขวัญพวกนี้เด็ดขาด
ตระกูลถังของพวกเขาไม่ใช่พวกชั้นต่ำที่ละโมบโลภมาก
ไล่คนไปแล้ว แต่กลับรับของไว้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไปจะไม่น่าฟังขนาดไหนเชียว?
“คุณพ่อบ้านค่ะ คุณช่วยพวกเราหน่อยนะคะ พวกเราตั้งใจมา……”สีหน้าคุณย่าเย่ก็เปลี่ยนเล็กน้อย แต่ท่านยังคงพยายามพูดดีๆเข้าไว้
ทว่าพ่อบ้านกลับให้คนปิดประตู ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้านนอก
“พวกเขาเกินไปแล้ว”สีหน้าคุณปู่เย่มืดครึ้มทันตา
“พอแล้ว กลับไปก่อน วันหลังค่อยมาใหม่”คุณย่าเย่รู้ว่าเวลานี้ต้องอดทนอย่างเดียว เพราะอนาคตซือเฉินของพวกเขายังต้องสู่ขอคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
“วันหลังคุณจะมาก็มาเอง ผมไม่อยากถูกพวกเขาทิ้งอยู่ด้านนอก”การไม่ให้เกียรติครั้งนี้ คุณปู่เย่รับไม่ได้
“เพื่อซือเฉิน พวกเราต้องมา ซือเฉินของพวกเรานอนกับคุณหนูถังหลังโดนวางยา ถ้าตระกูลถังอยากใช้เรื่องนี้โจมตีพวกเราจะทำยังไงดี?”คุณย่าเย่ระงับความโกรธของตัวเองไว้ พลางเกลี้ยกล่อมคุณปู่เย่ ท่านรู้ว่าผลของการเป็นปรปักษ์นั้นรุนแรงมาก
คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของท่านก็ไม่ได้พูดอีก
“อันที่จริง ฉันรู้สึกว่าเป็นโอกาสทองเลยนะ ถ้าวันนั้นไม่เกิดเรื่องอย่างนั้น ตระกูลถังคงไม่ยอมให้ถังฉิ้นเอ๋อแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่หรอก คุณลองคิดดูสิ พอตระกูลเย่กับตระกูลถังแต่งงานสานสัมพันธ์เมื่อไหร่ ภายภาคหน้าตระกูลเย่ของพวกเราก็จะได้ทุกอย่างดั่งใจหมาย เพื่อสิ่งนี้ วันนี้พวกเราต้องทนชั่วคราวก่อน”เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเย่มองการณ์ไกลมาก
“อืม คุณพูดมีเหตุผล”สีหน้าคุณปู่เย่ผ่อนปรนลงเล็กน้อย อาจเป็นเพราะจินตนาการถึงภาพอนาคต มุมปากของเขาจึงอดยกขึ้นไม่ได้
“แต่ผมนึกถึงปฏิกิริยาของถังฉิ้นเอ๋อครั้งก่อน ผมก็ไม่ชอบใจเลย หากเธอไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ผมจะไม่อนุญาตให้ซือเฉินแต่งงานกับเธอเด็ดขาด”คุณปู่เย่นึกถึงเรื่องถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเปิดโปงที่เขาแกล้งเจ็บขา จึงรู้สึกไม่พอใจต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นอย่างยิ่ง
“สำนวนพูดถูก แต่งกับไก่คล้อยตามไก่ แต่งกับสุนัขคล้อยตามสุนัข แบบว่าปรับตามให้เข้ากับสามี ดังนั้นถึงเธอจะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง แต่เมื่อแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ของพวกเราแล้ว เธอก็ต้องเคารพนับถือผู้ใหญ่อย่างพวกเราสองคน และถึงเวลานั้นคุณก็จะหายโกรธเอง”คุณย่าเย่มองหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของคุณย่าเย่ฟังแล้วมีความหมายลึกซึ้งมาก ฟังแล้วเหมือนได้ความหมายว่าแต่งสะใภ้เข้าบ้านแล้วค่อยสั่งสอนให้หลาบจำ!
ไม่บอกไม่ได้แล้วว่า หากไม่ใช่คนบ้านเดียวกันก็จะไม่เหยียบเท้าเข้าบ้านเดียวกันเด็ดขาด คุณปู่เย่เข้าใจความหมายของคุณย่าเย่ทันควัน มุมปากค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาหลายส่วน “อืม คุณพูดถูก รอให้เธอแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่ก่อน กลายเป็นหลานสะใภ้ของพวกเราเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่เคารพพวกเราไม่ได้แล้ว”
โชคดีตอนนี้พวกเขาอยู่นอกประตูใหญ่ ท่านย่าถังจึงไม่ได้ยินคำพูดพวกนี้ หากท่านย่าถังได้ยิน คงถือไม้กวาดขับไล่แน่ๆ
หลังจากเวินลั่วฉิงพาคุณปู่เวินมาที่บ้านตระกูลถัง เธอก็ไปช่วยตามจับพวกผู้ร้ายด้วยอีกแรง
แต่เมืองAออกจะกว้างใหญ่ จึงยังไม่พบเบาะแสอะไรเลย หายากจริงๆ
วิดีโอของเวินหรวนหรวนเผยแพร่โดยการใช้ไวไฟของร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เวลาที่เผยแพร่วิดีโอนั้นออกมา ร้านอาหารยังไม่ได้เปิดเลย จึงไม่รู้ว่าผู้ร้ายคนนั้นไขรหัสไวไฟของร้านอาหารได้ หรือเคยใช้บริการจากทางร้าน เลยสามารถใช้ไวไฟได้กันแน่?
ตอนนี้ยังจับตัวผู้ร้ายคนนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเป็นยังไงกันแน่
ผู้ร้ายคนนั้นมาลงวิดีโอที่นอกร้านอาหาร ความเป็นไปอันแรกก็คือ รังโจรของคนนั้นอยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก แน่นอน แต่ยังไม่ปัดความเป็นไปได้ที่ผู้ร้ายอาจจะจงใจ ‘หลอกบอกตำแหน่งผิดๆ’
ถังหลินตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบของร้านอาหารแล้ว แต่ก็ไม่พบจุดสงสัยเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าคนนั้นหลบกล้องวงจรปิดได้
ลูกน้องของถังหลินกับทีมตำรวจทำการค้นหาบริเวณรอบๆร้านอาหารที่เข้าข่าย แต่ก็ไม่พบสิ่งใดเลย
ตอนที่เวินลั่วฉิงถึงสถานีตำรวจ ถังหลินกับคุณชายห้าฉิงกำลังปรึกษาหารือกันอยู่……
แน่นอนเวลานี้เวินลั่วฉิงไม่ได้อำพรางใบหน้าที่แท้จริง ยังคงเป็นหน้าตาของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอยู่!
“พี่สะใภ้สามมาแล้วเหรอ”คุณชายห้าฉิงเห็นเวินลั่วฉิง ดวงตาพลันฉายแสงประกายหลายส่วน “พี่สะใภ้สาม รีบมาช่วยพวกเราวิเคราะห์หน่อย ผมกับพี่ใหญ่เกือบจะค้นหาทุกซอกทุกมุมหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรเลย”
เวินลั่วฉิงเดินเข้าไป จากนั้นก็อ่านรายละเอียดที่ถังหลินเขียนวิเคราะห์จัดแจงและวางแผนไว้ เวินลั่วฉิงยังอ่านรายงานความคืบหน้าของคดีอีกด้วย
หลังจากที่เวินลั่วฉิงอ่านจบก็หลับตาเล็กน้อย นิ้วชี้ขวาเคาะเบาๆบนโต๊ะ หนึ่งครั้ง สองครั้ง อย่างเบาช้ามีจังหวะ
ถังหลินกับคุณชายห้าฉิงมองอยู่เงียบๆ ไม่รบกวนสมาธิของเธอ
“ยังหารถตู้ที่ฉันบอกได้ไหม?”ผ่านไปสักพัก เวินลั่วฉิงก็ลืมตา ถามขึ้นมากะทันหัน
“ยังเลย หมายเลขทะเบียนรถที่น้องเห็นก่อนหน้านี้เป็นของปลอม เลยหาไม่เจอ พี่ได้สั่งให้ไปค้นหารถตู้โดยเฉพาะแล้ว แต่จนถึงป่านี้ยังหาไม่เจอเลย พวกเขาระวังมาก เจ้าเล่ห์มาก”บัดนี้สีหน้าถังหลินหนักอึ้งด้วยความเคร่งเครียด“ทั้งในเขตชานเมืองและตัวเมือง พวกเราก็ค้นหาหมดแล้ว”