ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 692 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 692 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (3)
บทที่ 692 พ่อลูกเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ (3)
“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากกลับบ้าน”เวลานี้เวินลั่วฉิงอารมณ์ไม่ดีนิดๆ เธอไม่ชอบให้ใครมาติดตามเธอ แต่เธอรู้ว่าเวลานี้เธอปฏิเสธยังไงเขาก็ไม่รับปาก
“ได้ ผมส่งคุณกลับ”เย่ซือเฉินรับปากทันที เขาก็อยากไปบ้านตระกูลถังพอดี เพราะมีเรื่องสำคัญต้องทำ
ตอนที่รถของเย่ซือเฉินจอดอยู่นอกประตูบ้านตระกูลถัง เวินลั่วฉิงก็อยากเปิดประตูลงจากรถ
“อย่าเพิ่ง รอผมด้วย”คุณชายสามเย่รีบลงจากรถ จากนั้นก็ช่วยเธอเปิดประตูรถ
เวินลั่วฉิงอึ้ง ความหมายของเขาคือจะเข้าไปพร้อมเธอ?
เข้าบ้านตระกูลถังพร้อมกัน?
เรื่องอื่นก็ช่างปะไร แต่ตอนนี้ลูกรักทั้งสองอยู่ในบ้านตระกูลถังนะ
ถ้าเขาเข้าไปคงต้องเห็นลูกรักทั้งสองคนแน่ แล้วพ่อลูกก็จะเจอหน้ากันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ?
ถึงแม้ลูกทั้งสองคนซ่อนตัว แต่ช่วงนี้บ้านตระกูลถังมีของเล่นของเด็กๆอยู่ทุกมุมของบ้าน สามารถเห็นร่องรอยของเด็กๆได้ทุกที่
หากเขาสังเกตเห็น……
เวินลั่วฉิงนึกถึงท่าทีของถังจื่อโม่ก่อนหน้านี้ นึกถึงแผนการที่ถังจื่อโม่เคยเล่า เธอต้องฟังคำพูดของเด็กน้อยถังจื่อโม่อยู่แล้ว
หากตอนนี้เธอพาเย่ซือเฉินเข้าไป เด็กน้อยถังจื่อโม่รู้เรื่องจะต้องโกรธแน่ๆ เด็กน้อยถังจื่อโม่โกรธน้อยมาก แต่หากโกรธขึ้นมาจะน่ากลัวมากๆ จะเมินใส่ได้
“คุณไม่ต้องเขาไป……”เวินลั่วฉิงตัดสินใจช่วยลูกชายตัวเอง ลูกชายเป็นคนที่เธอคลอดเองนะ
ผู้ชายคนนี้ ตอนนี้ยังไม่นับว่าเป็นของเธอ มีคำที่ว่าใดๆในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืน ถึงเวลาไม่รู้ว่าจะกลายเป็นของใคร
“เวินลั่วฉิง ผมพบคนไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาทั้งคู่ก็หรี่ขึ้น
เวินลั่วฉิงมองหน้ารูปหล่อจนไม่อาจหล่อกว่านี้ได้แล้ว พลางถอนหายใจเบาๆ ถ้าเขาพบหน้าผู้คนไม่ได้ คาดว่าคนอื่นคงต้องมุดแผ่นดินหนีแล้ว
“ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมาย ซึ่งยังไม่ได้แก้ไขเลย คุณตาคุณยายเห็นแล้วจะโมโหได้”ตอนนี้เวินลั่วฉิงได้แต่ใช้เหตุผลนี้แล้ว
“วางใจเถอะ เรื่องพวกนี้ผมจะแก้ไข วันนี้ผมมาก็เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ”เย่ซือเฉินได้ยินเธอพูดอย่างนี้ สีหน้าดีขึ้นบ้างแล้ว
ระหว่างที่คุณชายสามเย่พูดก็เปิดประตูรถให้เธอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จูงเธอลงรถ มือของเขาโอบอยู่ที่เอวของเธอ แล้วเตรียมก้าวเข้าไปในคฤหาสน์
“ไม่ ไม่ได้ คุณยังเข้าไปไม่ได้”เวินลั่วฉิงนึกถึงถังจื่อโม่จึงหยุดเดิน พลางมองหน้าเขา น้ำเสียงตอนนี้หนักแน่น แต่เห็นได้ชัดว่าหนักแน่นไม่เพียงพอ
เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ พลางขมวดคิ้วแน่น“เวินลั่วฉิง คุณซ่อนผู้ชายไว้ในบ้านเหรอ?”
คุณชายสามเย่แค่พูดพร่ำเพรื่อ เขารู้จักเธอดี เธอไม่ใช่คนแบบนั้น
เพียงแต่เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเขา ดวงตากะพริบอย่างรวดเร็ว สีหน้าก็เปลี่ยนไป
ปกติเวินลั่วฉิงเป็นคนมีสติ เย่ซือเฉินเห็นสีหน้าเธอเปลี่ยนไป ดวงตาทั้งคู่พลันหรี่ขึ้นอีกครั้ง “เวินลั่วฉิง หมายความว่ายังไง?ทำไมผมรู้สึกว่าเมื่อกี้คุณรู้สึกผิดในใจ?ผมพูดแทงใจดำเหรอ?”
คุณชายสามเย่ไม่ยินดีเชื่อความเป็นไปได้อย่างนั้น แต่การตอบสนองของเธอเมื่อสักครู่…
“หากเป็นจริง คุณจะทำยังไง?”เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย ถามเสียงเบาหนึ่งประโยค
คำพูดของเขาไม่ผิดเลย ในบ้านไม่ใช่ซ่อนผู้ชายไว้คนหนึ่งเหรอ?
เพียงแต่ผู้ชายคนนี้เป็นลูกชายของเขา
คุณชายสามเย่ได้ยิน ร่างกายก็แข็งค้าง ดวงตาที่มองเธอยิ่งหรี่ขึ้นกว่าเก่า “ถ้าจริง ผมจะตัดเขาทิ้ง……”
ผู้หญิงคนนี้ยังกล้าถามเขาว่าถ้าจริงจะทำยังไงอีก?
เขาจะทำยังไง?
เขาก็จะตัดผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ลังเล ไม่ลังเลเลยสักนิด!!
เวินลั่วฉิงถอนหายใจ คนนี้ชอบใช้ความรุนแรงจริงๆ
เวินลั่วฉิงออกเหงื่อแทนลูกจื่อโม่ของเธอ
เวินลั่วฉิงมองหน้าเขา พลางกะพริบตาปริบๆ ไม่งั้น เธอพาเขาเข้าไป ดูว่าเขาจะทำอย่างที่ตัวเองพูดหรือเปล่า……
“คุณท่านครับ คุณนายครับ คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วครับ คุณชายสามเย่เป็นคนส่งกลับมาครับ คุณชายสามเย่บอกจะเข้ามา คุณหนูใหญ่กำลังขวางอยู่ครับ แต่ผมดูจากสถานการณ์แล้วเหมือนคุณหนูใหญ่จะขวางไม่อยู่นะครับ”เวลานี้พ่อบ้านวิ่งเข้ามาในห้องโถง ก่อนจะรายงานอย่างละเอียด
“เย่ซือเฉินมาแล้ว?เวลานี้เย่ซือเฉินมาทำไม?ยังสะสางเรื่องตระกูลกู่ไม่ได้เลย?”ท่านย่าถังรู้สึกคาดไม่ถึง ท่านคิดว่าเย่ซือเฉินแก้ไขปัญหากับตระกูลกู่สำเร็จแล้ว ถึงจะมาที่บ้านตระกูลถัง
“เขารอไม่ไหวแล้วเหรอ”ท่านปู่ถังอดหัวเราะไม่ได้
“ปกติคุณชายสามเย่มีความอดทนสูงไม่ใช่เหรอ?”คุณปู่เวินได้ยินความนัยในคำพูดของท่านปู่ถัง อดเสริมหนึ่งประโยคไม่ได้
“นั้นมันตอนปกติ”ท่านปู่ถังยกมุมปากขึ้นเบาๆ“ตอนนี้ เขาไม่จับตามองดีๆก็อาจเสียภรรยาไปได้ทุกเมื่อ”
“แล้วให้เขาเข้ามา หรือไม่ให้เขาเข้ามา?”ท่านย่าถังมองไปยังท่านปู่ถัง เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ท่านย่าถังคิดจะฟังคำของท่านปู่ถัง
“จื่อโม่ไม่อยากให้เย่ซือเฉินรู้เรื่องของพวกเขาเร็วๆ จื่อโม่ยังมีแผนการของเขาอยู่ พวกเราทำลายแผนการของจื่อโม่ไม่ได้ ดังนั้น……”ถึงแม้ท่านปู่ถังจะพูดไม่หมด แต่ความหมายนั้นชัดเจนเกินพอ หากให้เลือกระหว่างถังจื่อโม่กับเย่ซือเฉิน เขาเลือกจื่อโม่อย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
ยามนี้เด็กน้อยถึงจื่อโม่นอนกลางวันอยู่กับถังจื่อซีชั้นบนพอดี
“อืม คุณพูดถูก เพื่อจื่อโม่ของพวกเรา ให้เขาเข้ามาตอนนี้ไม่ได้”ท่านย่าถังรีบพยักหน้า
“แต่คุณชายสามเย่ใกล้จะเข้ามาแล้ว คุณหนูใหญ่ขวางไม่อยู่ครับ”พ่อบ้านฟังแล้วเข้าใจว่าไม่ให้เข้ามา แต่คุณชายสามเย่จะเข้ามาเรื่องนี้ควรทำอย่างไรดี?
“ถ้าฉิงฉิงอยากขวางจริง มีหรือจะขวางเขาไม่ได้?”มุมปากท่านย่าถังอดยกขึ้นไม่ได้“ฉันทายว่าฉิงฉิงแกล้งทำเป็นขวาง สุดท้ายขวางไม่สำเร็จ เธอก็จะได้มีข้ออ้างกับจื่อโม่”
“ถ้าเช่นนั้นให้คุณชายสามเย่เข้ามาเหรอครับ?”พ่อบ้านไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณนาย ดังนั้นจึงถามหนึ่งประโยค
“ยังไงเสียเด็กทั้งสองคนกำลังนอนกลางวันอยู่ ให้เขาเข้ามาเถอะ”ท่านย่าถังรู้สึกว่าหากฉิงฉิงขวางไม่ได้ งั้นก็ให้เย่ซือเฉินเข้ามาเลย
ยังดีที่เด็กทั้งสองคนไปนอนแล้ว
“แต่บรรยากาศภายในบ้านอย่างนี้ คุณรู้สึกว่าเขาจะไม่รู้เหรอ?”ท่านปู่ถังมองของเล่นมากมายในห้องโถง พลางส่ายหัวเล็กน้อย
“ใช่เนอะ งั้นทำยังไงดี?”ท่านย่าถังก็สังเกตเห็นสิ่งนี้ ในห้องโถงมีของเล่นของเด็กๆเต็มไปหมดเลย
“เขาต้องมาหาพวกเราแน่ๆ พวกเราไปคุยกันด้านนอก ด้านนอกมีของเล่นน้อยหน่อย ไม่เปิดเผยมากนัก”เห็นได้ชัดว่าท่านปู่ถังคิดออกตั้งนานแล้ว ระหว่างที่พูดก็ลุกขึ้นยืนด้วย