ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 696 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 696 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (2)
บทที่ 696 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (2)
อันที่จริง ตอนนี้เวินหรวนหรวนแค่พูดก็ลำบากแล้ว เธอเจ็บบริเวณปากมาก เพราะมีหลายจุดฉีกขาดและเสียดสีจนหนังถลอก ลำคอของเธอก็เจ็บมาก น่าจะเกิดการการกระทำที่รุนแรง จนทำให้ลำคอได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงแม้จะเป็นสภาพนี้ เวินหรวนหรวนก็ยังคงพูดได้ชัดเจนมาก
เวินหรวนหรวนแต่งเรื่องไว้ล่วงหน้า หรือน่าจะพูดว่าหลี่หยุนสอนเธอก่อนหน้านี้
เวลานี้ ห้องคนไข้เงียบสงบมาก นักข่าวหลายคนไม่ส่งเสียง เพราะสภาพเวินหรวนหรวนน่าอนาถมาก อีกทั้งพวกเขายังเคยดูวิดีโอก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งการทารุณเช่นนั้น มันโหดร้ายกับผู้หญิงมาก
เวินหรวนหรวนหยุดพูดชั่ววูบ ใบหน้าเผยความเจ็บปวดหลายส่วน ริมฝีปากก็สั่นระริกเล็กน้อย “ตอนนั้น ฉันรู้สึกสงสัยนิดหน่อยแต่ฉันคิดไม่ถึง ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเวินลั่วฉิงจะทำร้ายฉัน ฉันเป็นน้องสาวฝ่ายพ่อของเธอ แต่เธอกลับทำร้ายฉันอย่างโหดร้าย?”
บัดนี้น้ำเสียงของเวินหรวนหรวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เวลานี้ความเจ็บปวดของเธอไม่ได้เสแสร้ง เพราะเธอเจ็บปวดจริงๆ ดังนั้นคนมองยิ่งสงสารเธอมากขึ้น
วินาทีนี้ นักข่าวทั้งหลายต่างเงียบงันอย่างหาดูได้ยาก ยังคงไม่พูดอะไร ฟังเวินหรวนหรวนระบายอย่างเงียบๆ
“ตอนออกจากประตูใหญ่บ้านตระกูลเวิน ฉันตามเธออยู่ด้านหลัง ฉันคุยกับเธอ แต่เธอเมินใส่ฉัน ปกติเธออยู่บ้านก็ไม่ค่อยแยแสพวกเรา ดังนั้น ตอนนั้นฉันก็ไม่ทันสังเกตและไม่ได้คิดอะไรมาก เดินตามเธอออกไปเรื่อยๆ……”
“แค่ก……”เวินหรวนหรวนหยุดพูดอีกครั้ง จากนั้นก็ไอกะทันหัน
เธอไออย่างนี้คงสะเทือนไปถึงบาดแผล ทำให้เจ็บไปทั้งตัวจนต้องหดตัว เดิมทีเธอก็เป็นคนผอมแห้งอยู่แล้ว ตอนนี้มีบาดแผลเต็มตัว
ซึ่งมองแล้วยิ่งสะเทือนขวัญ รู้สึกสงสารยิ่งขึ้น
“คุณเวินพูดช้าๆก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรีบ”ปกตินักข่าวจะเร่งให้รีบตอบคำถาม แต่เดี๋ยวนี้กลับบอกให้เธอพูดช้าหน่อย
แววตาหลี่หยุนแอบซ่อนยิ้มจางๆไว้หลายส่วน เห็นทีหรวนหรวนแสดงละครได้สมจริงมาก นักข่าวที่พบเห็นเรื่องราวมานัดต่อนัดยังหลอกได้เลย พวกเขาเริ่มสงสารหรวนหรวนแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงประชาชนเลย
ตอนนี้หลี่หยุนอยากใช้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนทำลายเวินลั่วฉิงให้ราบคาบ
“พวกเราออกจากประตูใหญ่ของบ้าน แล้วเลี้ยวทาง เวินลั่วฉิงก็ผลักฉันไปด้านหน้า จากนั้นก็ตะโกนเรียกโจรที่ซ่อนอยู่ให้มาจับฉันตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็มีผู้ชายพุ่งเข้ามามัดตัวฉัน จากนั้นก็ยัดของใส่ปากฉัน สุดท้ายก็พาฉันขึ้นรถ”เวินหรวนหรวนเล่าถึงเรื่องพวกนี้ ร่างกายก็สั่นเทาไม่หยุด มีบางส่วนที่แสดง แต่มีบางส่วนนั้นกลัวจริง ๆ ตอนนี้ย้อนนึกถึงภาพเหล่านั้น เธอก็อดกลัวไม่ได้
“คุณเวินค่ะ ตอนที่คุณถูกลักพาตัว เวินลั่วฉิงทำอะไรอยู่คะ?”มีนักข่าวคนหนึ่งอดถามหนึ่งประโยคไม่ได้
“เธอยืนมองอยู่ด้านข้าง โจรพวกนั้นไม่ได้ระวังตัวจากเธอเลย เธอยังบอกกับโจรพวกนั้นว่า เมื่อทำงานสำเร็จ เธอจะโอนเงินส่วนที่เหลือให้พวกเขา”เวลานี้เวินหรวนหรวนยิ่งมีสีหน้าเจ็บปวดกับหวาดกลัว
คำพูด ณ ตอนนี้ของเวินหรวนหรวนได้สวนทางกับความจริงอย่างสิ้นเชิง
แต่ว่าตอนนี้เวินหรวนหรวนกลายเป็นผู้เสียหาย และเวลานี้ยังหาหลักฐานมัดตัวหลี่หยุนติดต่อกับโจรไม่ได้
ฉะนั้นคำพูดในขณะนี้ของเวินหรวนหรวนทำให้ทุกคนเชื่อง่ายมาก
“เลือดเย็นเกินไปหรือเปล่า โหดร้ายเกินไปหรือเปล่า”มีนักข่าวคนหนึ่งเริ่มด่าขึ้นมา
“ตอนนั้นเธอยังบอกให้พวกนั้นถ่ายคลิปวิดีโอ ถ่ายเสร็จก็ให้ไปลงในเน็ต เมื่อเธอเห็นวิดีโอแล้วจะโอนเงินส่วนที่เหลือให้พวกเขา”เวินหรวนหรวนทนความเจ็บปวด พลางฝืนพูดออกมาอีกหนึ่งประโยค ซึ่งประโยคนี้เวินหรวนหรวนเป็นคนเพิ่มเข้าไปเอง
ตอนนั้นเวินลั่วฉิงไม่รู้เป้าหมายของพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกเขาจะถ่ายวิดีโอ แต่เวินหรวนหรวนรู้แต่แรกแล้ว
ตอนที่เวินหรวนหรวนพูดก็ใช้มือบังหน้าของตัวเอง ดูแล้วเจ็บปวดมาก แต่ยังเป็นการปกปิดความรู้สึกผิดในใจได้อย่างดีอีกด้วย
ก่อนหน้านี้วิดีโอถูกแชร์อย่างดุเดือด นักข่าวที่อยู่ตรงนี้คงเคยดูกันหมดแล้ว เวลาเวินหรวนหรวนเอ่ยปากพูดถึงเรื่องวิดีโอเอง ทำให้คนที่อยู่ตรงนี้อดสะเทือนใจไม่ได้ ยิ่งรู้สึกสงสารเวินหรวนหรวน
เพราะวิดีโอนั้นน่าอนาถสุดๆ!
“เวินลั่วฉิงโหดร้ายจริงๆ ไร้มนุษยธรรม คุณหมอบอกว่าหรวนหรวนของพวกเราไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก และขาก็พิการแล้ว วันหลังเดินต่อไปไม่ได้แล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกเวินลั่วฉิงทำร้ายทั้งนั้น”หลี่หยุนรู้สึกว่าเวินหรวนหรวนพูดพอสมควรแล้ว จึงเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยค ซึ่งคำพูดเช่นนี้ไม่เหมาะให้เวินหรวนหรวนพูด เธอพูดเองจะเหมาะสมที่สุด
หลี่หยุนพูดคำนี้ในขณะที่มีคราบน้ำตา มีใบหน้าทุกข์ใจ เป็นความโศกเศร้าที่คนเป็นแม่ควรมี
เพียงแต่เวินหรวนหรวนได้ยินเธอพูดก็ตกใจทันทีทันใด มือที่จับหน้าไว้รีบปล่อยลง จากนั้นจ้องมองหลี่หยุน ก่อนหน้านี้หลี่หยุนไม่ได้บอกเธอเรื่องพวกนี้เลย
เธอไม่รู้เรื่องตัวเองไม่สามารถมีบุตรได้ ยิ่งไม่รู้เรื่องขาตัวเองพิการ เธอไม่รู้ว่าอาการของตัวเองจะสาหัสปานนี้!
“หรวนหรวน หรวนหรวนที่น่าสงสารของแม่”หลี่หยุนสบตาเวินหรวนหรวน ก่อนจะรีบไปด้านหน้าเตียงของเวินหรวนหรวนจากนั้นก็โอบกอดเวินหรวนหรวนไว้แน่น
“ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนี้”เวินหรวนหรวนส่ายหัวสุดชีวิต เธอไม่กล้าเชื่อพวกนี้ เธอไม่เชื่อว่าจะโหดร้ายอย่างนี้ “แม่ หนูเดินไม่ได้แล้วจริงๆเหรอ?”
เวินหรวนหรวนรับได้เรื่องไม่สามารถมีบุตรได้ แต่เรื่องเดินไม่ได้ เธอทำตามยอมรับไม่ได้
“หรวนหรวน ลูกทำใจดีๆ คุณหมอบอกว่าอาการหนูหนักมาก มีแผลทั่วร่างกาย โกรธไม่ได้ และขยับไม่ไปเรื่อยไม่ได้”หลี่หยุนยังคงกอดเวินหรวนหรวนไว้แน่น ฟังดูเหมือนเกลี้ยกล่อมเวินหรวนหรวน แต่คือการเผยอาการบาดเจ็บของเวินหรวนหรวน
“ขาของหนู ขาของหนูเดินไม่ได้แล้วจริงๆเหรอ?เดินไม่ได้แล้วจริงเหรอ?ไม่ ไม่ใช่อย่างนี้ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆก็ให้หนูตายไปเลยจะดีกว่า”เวินหรวนหรวนเห็นหลี่หยุนไม่ได้ปฏิเสธ ยิ่งรู้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริง
เนื่องจากเวินหรวนหรวนก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ ดังนั้นความเจ็บปวดกับหัวใจที่แหลกสลายนั้นสมจริงเป็นพิเศษ เมื่อเหล่านักข่าวเห็นภาพนี้แล้วก็อดหดหู่ใจไม่ได้
“หรวนหรวน หรวนหรวนที่น่าสงสารของแม่ ทำไมชีวิตหนู่ถึงได้อาภัพเช่นนี้”หลี่หยุนกอดเวินหรวนหรวน พลางโห่ร้องไห้ขึ้นมา
นักข่าวเห็นภาพเช่นนี้ก็ไม่สะดวกอยู่ในห้องคนไข้อีก ต่างทยอยออกจากห้องกันหมด
หลี่หยุนนั้นฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ ครั้งนี้เธอไม่เพียงแต่เชิญนักข่าวบันเทิงมาเท่านั้น ยังเชิญสื่อจากทุกแขนงอีกด้วย
ไม่นาน สัมภาษณ์ของเวินหรวนหรวนเผยแพร่โดยสื่อสารมวลชนในรูปแบบที่หลากหลาย นักข่าวบางคนเขียนแบบมีปริศนา แต่นักข่าวบางคนเขียนเวินลั่วฉิงเหมือนมารร้ายที่สติฟั่นเฟือนจนก่อกรรมทำเข็ญไปเรื่อย