ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 698 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 698 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (4)
บทที่ 698 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่ เท่ระเบิดไปเลย (4)
เธออยู่ที่สถานีตำรวจ เรื่องนี้ก็ต้องพึ่งเย่ซือเฉิน แน่นอนเธอเชื่อมั่นในความสามารถของเย่ซือเฉินอย่างสนิทใจ
“อีกอย่าง คุณชายห้าฉิงเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจแห่งนี้ คุณยังกลัวฉันโดนรังแกเหรอ?”เวินลั่วฉิงพูดกึ่งเท็จกึ่งจริงอีกหนึ่งประโยค
“ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ถึงแม้พี่สะใภ้สามอยู่ในสถานีตำรวจก็ต้องรับการดูแลดั่งแขกชั้นสูงแน่ๆ จะให้พี่สะใภ้สามโดนรังแกได้อย่างไร”คุณชายห้าฉิงรู้ว่าเวินลั่วฉิงบริสุทธิ์ ดังนั้นพูดอย่างมั่นใจมากๆ
“คุณได้ยินหรือยัง ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว”เวินลั่วฉิงมองหน้าเย่ซือเฉิน รอยยิ้มบนใบหน้าบานสะพรั่งไม่ขาดสาย “อีกอย่างมีเพียงฉันเข้ามาอยู่ในสถานีตำรวจแล้ว มีคำให้การของฉันถึงจะเรียกตัวหลี่หยุนมาสอบสวนอย่างถูกต้องตามหลักการ”
เวินลั่วฉิงอยู่ที่สถานีตำรวจก็มีเป้าหมายอื่นด้วย ปกติเธอไม่ใช่คนนั่งรอความตายอยู่แล้ว
เวินหรวนหรวนแจ้งความจับเธอ เธอก็แจ้งความหลี่หยุนได้
“ได้ ผมรับปากคุณ”สุดท้ายเย่ซือเฉินก็ตกลง จากนั้นก็หันไปมองคุณชายห้าฉิง พลางพูดเสียงเคร่งขรึม “หากเธอได้รับลำบากแม้แต่นิดเดียว พี่จะคิดบัญชีกับนาย”
“พี่สาม วางใจเถอะ ผมรับรองว่าพี่สะใภ้สามไม่ได้รับความลำบากแม้แต่น้อย”คุณชายห้าฉิงรีบเอ่ยปากรับรอง
เย่ซือเฉินถึงออกไป
หลังเย่ซือเฉินออกไปแล้ว เวินลั่วฉิงก็ทำการแปลงโฉม จากนั้นคุณชายห้าฉิงก็จัดคนเข้าไปสอบสวนตามขั้นตอนปกติสองคน
และในเวลานี้มีนักข่าวมากมายล้อมอยู่นอกสถานีตำรวจ เพื่อจะได้รับข่าวมากขึ้น เรื่องนี้กลายเป็นเช่นนี้ นักข่าวต่างก็บ้าคลั่งไปแล้ว
“ผู้กำกับครับ สถานีตำรวจของพวกเราเกือบโดนนักข่าวล้อมไว้หมดแล้ว ตอนนี้คนทำคดีของพวกเราไม่อาจเข้าออกได้ปกติ ควรทำยังไงดีครับ?”มีตำรวจนายหนึ่งรีบเข้ามาขอคำสั่ง เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษ
“ให้คนปล่อยข่าวว่าจับผู้ร้ายได้อีกหลายคน และสอบสวนได้เบาะแสเพิ่มแล้วบางส่วน บอกกับนักข่าวว่าผลสอบสวนของตำรวจไม่ตรงกับคำให้การของเวินหรวนหรน บอกนักข่าวว่า คนว่าจ้างผู้ร้ายเป็นคนอื่น”ดวงตาคุณชายห้าฉิงหรี่ขึ้น พลางสั่งการเสียงเคร่งขรึม
อันนี้คือความจริง นายจ้างผู้ร้ายคือหลี่หยุน แต่เพราะผู้ได้รับความเสียหายเป็นเวินหรวนหรวน หากไม่มีหลักฐานก็ไม่มีใครเชื่อว่าหลี่หยุนเป็นผู้กระทำ เพราะสุดท้ายผู้ที่รับเคราะห์อย่างโหดร้ายคือลูกสาวแท้ๆของหลี่หยุนเอง
คุณชายห้าฉิงทำอย่างนี้ ประการแรกคืออยากกดดันหลี่หยุนให้กระวนกระวายใจ ประการที่สองคือไม่ให้นักข่าวเชื่อเวินหรวนหรวนอย่างสนิทใจ ไม่อยากให้เขียนข่าวแบบไม่ลืมหูลืมตา
แน่นอน ถ้าหากตำรวจสืบได้ว่าการแจ้งความของเวินหรวนหรวนไม่มีมูล เขาก็มีเหตุผลไม่คุมตัวเวินลั่วฉิงแล้ว
นักข่าวพวกนี้ส่วนมากไม่ใช่นักข่าวที่ปั้นน้ำเป็นตัว และอีกอย่างคำพูดของตำรวจมีอำนาจความเชื่อถือสูงมาก
ดังนั้น ข่าวที่นำเสนอต่อมาก็มีความยุติธรรมมากขึ้น
เหล่านักท่องเน็ตตัวยงเห็นรายงานข่าวที่เป็นกลาง การแสดงความคิดเห็นก็เปลี่ยนไป ซึ่งส่วนมากหวังให้ตำรวจรีบความจริงให้พบโดยเร็ว รีบจับตัวผู้ร้า
ภายในโรงพยาบาล หลี่หยุนเห็นรายงานข่าวพวกนั้นก็ตกตะลึง
“ไม่ใช่บอกว่าจับพวกนั้นไม่ได้หรอกเหรอ?เรื่องพวกนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”หลี่หยุนกินปูนร้องท้อง เวลานี้เห็นข่าวเช่นนี้ต้องกลัวเป็นของธรรมดา
“ถ้าคนพวกนั้นโดนจับจริงๆ จะซัดโทษมาถึงฉันหรือเปล่า?”บัดนี้หลี่หยุนตกใจจนมือสั่นไปหมดแล้ว!
“แม่ ตอนนี้ผู้เสียหายคือหนู หนูถูกทำร้ายอย่างอนาถเช่นนี้ แค่แม่ไม่ยอมรับก็ไม่มีใครเชื่อว่าแม่เป็นคนทำหรอก”เวินหรวนหรวนกลับหัวเราะเสียงเย็น“มีใครเชื่อว่าแม่คนหนึ่งจะทำร้ายลูกสาวให้เป็นแบบนี้กันล่ะ?”
“ขอเพียงหนูยืนยันว่าเวินลั่วฉิงทำร้ายหนู เวินลั่วฉิงก็ไม่มีทางหนีไปได้เด็ดขาด”เพื่อให้ทำร้ายเวินลั่วฉิงสำเร็จ เวินหรวนหรวนก็ทุ่มเทเสียจริงๆ
เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้วและไม่มีอะไรให้เป็นห่วงอีก
“อีกอย่างพวกเราพูดว่า เวินลั่วฉิงกับพวกโจรคุยกันไว้ก่อนแล้ว พวกเขาจงใจใส่ร้ายพวกเรา”อะไรที่เรียกว่า ผู้ร้ายเรียกจับโจร ซึ่งเวินหรวนหรวนเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีมากทีเดียว
“ใช่ หรวนหรวนพูดถูก”เดิมทีเวินจีหยังก็กลัว แต่ได้ยินคำพูดของเวินหรวนหรวนแล้วก็โล่งอก
“แต่ว่าฉันกับโจรพวกนั้นเคยติดต่อกัน พวกเรามีการคุยกันผ่านโทรศัพท์ อีกทั้งฉันยังโอนเงินไปให้พวกเขาแล้วด้วย”เรื่องพวกนี้หลี่หยุนเป็นคนทำเอง หลี่หยุนจึงรู้สึกกลัวมากที่สุด
“ไม่แน่หรอกว่าตำรวจจะหาหลักฐานพวกนั้นเจอ ก่อนหน้านี้ตำรวจหญิงบอกแล้วว่า ตอนที่พวกตำรวจไปถึง คนพวกนั้นก็หนีไปหมดแล้ว คนที่ติดต่อกับคุณ ไม่แน่ว่าอาจจะหนีไปแล้ว”ยามนี้เวินหรวนหรวนเงียบเป็นพิเศษ ราวกับกลายเป็นคนฉลาดทันควัน
“จริงเหรอ?เป็นจริงอย่างนี้เหรอ?”ใบหน้าหลี่หยุนยังคงความกังวลและหวาดกลัวไว้ สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือตำรวจจับคนพวกนั้นได้แล้ว
“จริงสิ ถ้าคนที่ติดต่อกับแม่ถูกจับได้แล้วให้การสารภาพ ฝ่ายตำรวจต้องมาจับตัวแม่แล้วแหละ คงไม่ปล่อยข่าวแบบกำกวมอย่างนี้หรอก”ไม่ชมไม่ได้ว่ายามนี้เวินหรวนหรวนวิเคราะห์ได้แม่นยำมาก
“ดังนั้นถึงตำรวจจะมาเรียกแม่ไปสถานีตำรวจ แม่ก็ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด แสดงท่าทางกระวนกระวายไม่ได้เด็ดขาด ดูจากข่าวที่ตำรวจเผยแพร่ออกมา พวกเขาน่าจะยังหาหลักฐานไม่เจอ”ก่อนหน้านี้หลี่หยุนออกความคิดให้เวินหรวนหรวน ส่วนตอนนี้กลายเป็นเวินหรวนหรวนออกความคิดให้หลี่หยุนแทน
ไม่พูดไม่ได้ว่า แม่ลูกคู่นี้ถอดแบบมาตรงเป๊ะ
“อืม ใช่ ใช่ หรวนหรวนพูดถูก หรวนหรวนของแม่ฉลาดมาก”หลี่หยุนถึงโล่งอกเล็กน้อย พลางมองเวินหรวนหรวนด้วยรอยยิ้ม
แต่รอยยิ้มของเธอยังไม่ทันฉายออกมาหมด ประตูห้องคนไข้ก็ถูกผลักเข้ามา จากนั้นก็มีตำรวจสองนายเดินเข้ามา “หลี่หยุน เชญคุณไปให้การสืบสวนกับพวกเราที่สถานีตำรวจครับ”
“ทำไม?พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับตัวฉัน?”สีหน้าของหลี่หยุนที่พึ่งบรรเทาลงเมื่อสักครู่ บัดนี้กลายเป็นแย่มากในชั่วพริบตา
และอยากหลบด้วยสัญชาตญาณ เพราะเธอกินปูนร้องท้อง
เวินหรวนหรวนกลับลุกขึ้นกะทันหัน พลางจับเธอไว้ “แม่ ตำรวจแค่ให้แม่ไปให้ความร่วมมือในการสืบคดี แม่ควรให้ความร่วมมือกับตำรวจดีๆ”
เวินหรวนหรวนส่งสายตาไปให้หลี่หยุนโดยที่ไม่มีใครเห็น สิ่งสำคัญหลักก็คือ ไม่ให้หลี่หยุนยอมรับ ไม่ให้กระวนกระวาย ไม่ว่าตำรวจจะถามอย่างไรก็ไม่ยอมรับเด็ดขาด
เวินหรวนหรวนคิดว่าหากหลี่หยุนไม่ยอมรับ ตำรวจก็ทำอะไรเธอไม่ได้
เวลานี้ในสถานีตำรวจ
“พี่สะใภ้สาม พอนำตัวหลี่หยุนมา คุณก็สอบปากคำเองได้เลย”ตอนนี้คุณชายห้าฉิงรู้ความเก่งกาจของเวินลั่วฉิงดี ดังนั้นให้เวินลั่วฉิงสอบปากคำหลี่หยุนคือทางเลือกที่ดีที่สุด
“อืม”ตอนแรกเวินลั่วฉิงก็คิดจะทำอย่างนี้อยู่แล้ว สถานการณ์ในตอนนี้พวกเขาต้องรวดเร็วฉับไว จำเป็นต้องหาหลักฐานให้เจอ
แน่นอน ขอเพียงหลี่หยุนถูกตำรวจจับตัวมา ขอเพียงเวินลั่วฉิงสอบปากคำเอง หลี่หยุนก็คงปิดไม่มิด
แต่เวลานี้ มีคนร้องเรียกคุณชายห้าฉิงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บอกว่าคุณชายห้าฉิงใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
บอกว่าคุณชายห้าฉิงกับเวินลั่วฉิงมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม!!