ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 721 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (11)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 721 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (11)
บทที่ 721 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (11)
อันที่จริงเขาอยากตรวจดีเอ็นเอแต่แรกแล้ว เพียงแต่ถังฉิ้นเอ๋อไม่เห็นด้วยเสมอมา
“ไม่จำเป็น”เวินลั่วฉิงปฏิเสธเขาโดยตรง เธอรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นเลย
“ฉิงฉิง พ่อหนูไม่ใช่เวินจือฝางจริงๆ หลังเวินจือฝางเกิดอุบัติเหตุยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งตอนหนูเกิดเขาก็ยังอยู่ ตอนนั้นแม่หนูตรวจดีเอ็นเอหนูกับเวินจือฝาง ผลยืนยันว่าหนูไม่ใช่ลูกสาวเวินจือฝาง”เย่โป๋เหวินเห็นเธอหนักแน่นเช่นนี้ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยิ่งร้อนใจเพิ่มขึ้น
“ดังนั้นพ่อของฉันก็ต้องเป็นคุณ?”เวินลั่วฉิงยิ้มเบาๆ เพียงแต่รอยยิ้มนั้นเย็นเยียบมาก ยิ่งเจือความเย้ยหยันไว้อีกด้วย
“ฉิงฉิง ความจริงในอดีตซับซ้อนมาก มีครั้งหนึ่ง ฉันกับแม่หนูและเวินจือฝางคุยธุระด้วยกัน แล้วถูกคนวางยา คนพวกนั้นน่าจะไม่ได้โจมตีพวกเรา เพียงแต่ส่งน้ำชาผิดห้อง แต่พวกเราต่างก็ดื่มน้ำชานั้น ต่างหลงกลกันหมด……”เย่โป๋เหวินหยุด ไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายนั้นชัดเจนเกินพอ
เวินลั่วฉิงมองเขา พลางกะพริบตารัวๆ“คุณมั่นใจว่าจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง?”
เวินลั่วฉิงรู้ว่ายาประเภทนั้นร้ายกาจแค่ไหน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกพิลึก
“อันที่จริง ตอนนั้นพวกเราก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนพวกเราตื่นมา ของภายในห้องกระจัดกระจาย เสื้อผ้าบนตัวพวกเราก็ยุ่งเหยิงมาก แต่ถือว่ายังสมบูรณ์อยู่ ตอนนั้นพวกเราคิดว่าไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงแต่เวลาต่อมาแม่ของหนูตั้งท้อง ซึ่งเวลาเหมาะเจาะมาก แม่ของหนูเป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัว ตอนนั้นแม้แต่แฟนหนุ่มก็ไม่มี เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอะไรกับผู้ชาย ดังนั้น……”
เย่โป๋เหวินหยุดพูดอีกครั้ง เขามองหน้าเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า “ต่อมา เวินจือฝางตัดสินใจสู่ขอแม่หนู แต่ทางตระกูลเวินคัดค้าน และภายหลังเวินจือฝางก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น หลังหนูคลอดออกมาแล้ว แม่หนูให้หนูกับเวินจือฝางตรวจดีเอ็นเอ
แต่ผลตรวจชี้ให้รู้ว่าหนูกับเวินจือฝางไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ตอนนั้นฉันก็อยากทำ แต่แม่หนูไม่ตกลง ต่อมาเวินจือฝางเสียชีวิต แม่หนูเลยพาหนูจากไป ฉันตามหาพวกหนูมาโดยตลอด แต่ก็หาไม่เจอเลย……”
“ดังนั้น ไปตรวจDNAกัน ดีไหม?”หลังเย่โป๋เหวินพูดจบพลันมองหน้าเวินลั่วฉิงด้วยแววตาวิงวอน “ถ้าฉันไม่ใช่พ่อของหนูก็ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ถ้าฉันเป็นพ่อหนูจริงๆ……”
“ได้ ฉันรับปาก”เวินลั่วฉิงเอ่ยปากพูดกะทันหัน ตัดบทพูดเขาทิ้ง
คำพูดของเย่โป๋เหวินเมื่อสักครู่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเรื่องนี้แปลกมาก ดังนั้นเธอรับปากไปตรวจ DNA
“ดี”เย่โป๋เหวินได้ยินเวินลั่วฉิงรับปาก ความตื่นเต้นบนใบหน้าก็มากขึ้นหลายส่วน เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจว่าพ่อของเวินลั่วฉิงไม่ใช่เวินจือฝาง งั้นก็ต้องเป็นเขาแน่นอน
“เอาเส้นผมของคุณมา ฉันจะไปตรวจ”เวินลั่วฉิงเห็นเขาตื่นเต้น แววตาของเธอกลับเย็นเยียบเพิ่มขึ้น
ถ้าพ่อของเธอเป็นเย่โป๋เหวินจริงๆ เช่นนั้นเธอกับเย่ซือเฉินก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด
ตื่นเต้น?ความตื่นเต้นของเขาในตอนนี้ ให้ตายสิ ทำให้เธอเคืองใจมาก
“ไม่ ฉันไปตรวจ ฉันไปตรวจเอง”เย่โป๋เหวินปฏิเสธเวินลั่วฉิง เรื่องนี้เขาจะไปตรวจด้วยตัวเอง มีเพียงเขาไปตรวจเอง เขาจึงจะวางใจ
“คุณไม่เชื่อใจฉัน?คุณกังวลว่าเพื่อฉันจะได้อยู่กับเย่ซือเฉิน ฉันจะทำผลตรวจปลอมออกมา?”เวินลั่วฉิงหัวเราะกะทันหัน“เย่โป๋เหวิน ถ้าฉันอยากทำปลอมขึ้นมา ถึงคุณจะไปตรวจเอง ฉันก็ทำได้อยู่ดี แถมยังไม่ให้คุณรู้ตัวด้วย”
การตรวจนี้ใครไปทำก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
แต่เขาถึงกับจะไปตรวจเองให้ได้?
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่!
ทำไมตอนนี้เธอมองเย่โป๋เหวินแล้วรู้สึกไม่พอใจมากอย่างนี้?
“ฉิงฉิง หนูไม่ทำหรอก”เย่โป๋เหวินหน้าเปลี่ยนสี เขามองเวินลั่วฉิง ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่ใบหน้าเขามีความกังวลอย่างชัดเจน
เวินกังวลว่าเวินลั่วฉิงจะทำอย่างนั้นจริงๆ
เวินลั่วฉิงแอบยิ้มเย็นอยู่ในใจ เย่โป๋เหวินนั้นแน่มาก!
“อืม ฉันไม่ทำหรอก แต่ ฉันขอบอกคุณเลยนะ ไม่ว่าผลตรวจDNAจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่อาจกระทบการอยู่ด้วยกันของฉันกับเย่ซือเฉินได้”เวินลั่วฉิงจงใจพูด จงใจพูดให้เย่โป๋เหวินฟัง
เธอเห็นเย่โป๋เหวินแล้วไม่ชอบหน้า ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลย อารมณ์เธอจะไม่ดีมากๆเลย
“ฉิงฉิง มันเป็นไปได้ยังไง?”เย่โป๋เหวินกลับเชื่อสนิทใจ สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที น้ำเสียงมีความร้อนใจและกังวลมากขึ้น
“ขอแค่ฉันยินดี ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้”เวินลั่วฉิงมองไปยังเขาแวบหนึ่ง พลางยกคิ้วขึ้น คำพูดนี้บ้าระห่ำอย่างไร้ขีดจำกัด
“ฉิงฉิง หนู หนู……”เย่โป๋เหวินร้อนใจจริงๆ หมุนวงวีลแชร์ไปด้านหน้าเวินลั่วฉิง จากนั้นก็พูดกับเธอด้วยเสียงร้อนใจ
เวินลั่วฉิงดึงเส้นผมยื่นไปตรงหน้าเย่โป๋เหวิน“คุณเย่ ทางที่ดีคุณอธิษฐานอย่าให้ผลตรวจDNAของพวกเราเหมือนกันเลย ไม่เช่นนั้น……”
เวินลั่วฉิงจงใจพูดแล้วหยุดกลางคัน จากนั้นเวินลั่วฉิงก็เห็นสีหน้าเย่โป๋เหวินกลายเป็นขาวซีด
ไม่รู้เพราะเหตุใด ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็อารมณ์ดีขึ้นมากเลย
เธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับเย่โป๋เหวินไม่ว่าจะด้านไหนทั้งนั้น ดังนั้นความตื่นเต้นและความดีใจที่เย่โป๋เหวินแสดงออกมา ในสายตาเธอมันช่างดักดันยิ่งนัก รู้สึกไม่สบายเป็นพิเศษ
ตอนเขาตื่นเต้นเคยนึกถึงเย่ซือเฉินบ้างไหม?
เขาเคยคิดบ้างไหม ภายใต้ความตื่นเต้นและดีใจของเขา จะทำให้เธอกับเย่ซือเฉินเจ็บปวดแค่ไหน
ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวจนทำให้เธอรับไม่ได้
“ฉิงฉิง ผลตรวจออกมาแล้วจะบอกหนูนะ”เย่โป๋เหวินแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ทำให้อารมณ์ของตัวเองสงบลง ความหมายในคำพูดของเขาชัดเจนมาก
ผลออกมาแล้วเขาบอกเวินลั่วฉิง แล้วยังไงต่อ?จากนั้นเขาก็จะคุยเรื่องเธอกับเย่ซือเฉิน?
“ไม่จำเป็น คุณรู้เองก็พอ สำหรับฉันไม่จำเป็นต้องรู้”เวินลั่วฉิงเป็นคนช่างสังเกต ทำไมจะไม่รู้ความคิดของเขา เธอไม่ต้องการเขาบอกผลตรวจเธอ!!
เวินลั่วฉิงพูดคำนี้จบก็หันหลังจากไป เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ หรือเธอไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก
เดิมทีเธออยากสืบเรื่องของแม่ แต่กลับดึงเข้าไปเกี่ยวข้องเหมือนในละครน้ำเน่า
“ฉิงฉิง รอผลตรวจออกมาแล้วพวกเราคุยกันใหม่”เย่โป๋เหวินเห็นเธอก้าวเท้าจะเดินออกไป พลางขมวดคิ้วแน่น ตอนนี้เธอกลับไปได้ แต่เมื่อมีผลตรวจออกมา เขาต้องคุยกับเธอดีๆ
คุยเรื่องของพวกเขา คุยเรื่องเธอกับเย่ซือเฉิน
เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจว่าเวินลั่วฉิงคือลูกสาวของเขา