ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 725 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (15)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 725 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (15)
บทที่ 725 การตรวจดีเอ็นเอที่ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อ (15)
เขาอยู่นอกประตูบ้านตระกูลถังจำเป็นต้องตกใจขนาดนี้ไหม?ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย
“เย่ซือเฉิน คุณไม่ต้องไป ฉันยังไม่กลับไปเร็วๆ คุณกลับไปพักผ่อนที่บ้านตัวเองก่อน”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เธอยอมรับ ตอนนี้เธอกลัวเย่ซือเฉินเล็กน้อย
เธอกลัวเย่ซือเฉินจะรู้อะไรเข้า
เย่ซือเฉิน“……”
ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้นทีละนิด วันนี้ผู้หญิงคนนี้ทะแม่งๆ เธอไม่อยากเจอหน้าเขา?
“เวินลั่วฉิง คุณบอกว่าจะกลับบ้านไปนอน สุดท้ายคุณปัดเลขาหลิวทิ้ง ปัดบอดี้การ์ดทิ้ง แล้วแอบออกไปคนเดียวด้านนอก คุณควรอธิบายเรื่องนี้ให้ผมเข้าใจหรือเปล่า”
เย่ซือเฉินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็จะรู้สึกแปลกมาก
“ฉันไม่มี”เวินลั่วฉิงโต้เถียงด้วยจิตใต้สำนึก ตอนที่เธอให้เลขาหลิวกับบอดี้การ์ดกลับไป เธอไม่รู้ว่าเย่โป๋เหวินจะโทรหาเธอ
ตอนนั้นเธออยากกลับบ้านไปนอนจริงๆ
“ผมจำได้ว่าคุณรับปากผมไว้ว่า หากคุณออกจากบ้านตระกูลถังเมื่อไหร่ คุณจะโทรหาผม แล้วผมจะส่งคนไปปกป้องคุณ ผลสุดท้ายคุณแอบออกไปคนเดียว……”ดวงตาที่หรี่ขึ้นของเย่ซือเฉินมีอันตรายหลายส่วน น้ำเสียงก็เคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน
เขารู้จักเธอดี ปกติเธอรับปากแล้วจะทำตามแน่นอน งั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ฉันไม่ใช่ออกมาคนเดียว มีลุงหลี่กับฉัน”ตอนที่เวินลั่วฉิงพูดคำนี้มองไปยังลุงหลี่แวบหนึ่ง
“ไปไหน?”เย่ซือเฉินกลับไล่ถามหนึ่งประโยค
“เย่ซือเฉิน ฉันแค่ออกจากบ้าน คุณจำเป็นต้องถามขนาดนี้ไหม?ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบเสียหน่อย ฉันจะมีอะไรได้?”เวินลั่วฉิง
บอกเขาไม่ได้ บัดนี้เธอจงใจใช้น้ำเสียงไม่พอใจหลายส่วน
ตาหรี่เล็กน้อยของเย่ซือเฉินกะพริบอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอตอบสนองมากเกินเหตุอันควรหรือเปล่า?
ด้วยนิสัยปกติของเธอ ไม่น่าจะ……
“เย่ซือเฉิน ถึงแม้ตอนนี้พวกเราเป็นคู่รักกัน แต่ต่างฝ่ายต่างต้องมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองบ้าง”สำหรับจุดนี้ เวินลั่วฉิงคิดอย่างนี้เสมอมา แต่ ณ ปัจจุบัน เธอไม่ได้คิดอย่างนี้แล้ว
การรักใครสักคน คงอยากอยู่กับอีกฝ่ายทุกวินาที แม้ว่าจะไม่ทำอะไร ไม่พูดอะไร ขอเพียงได้อยู่ด้วยกันก็เป็นความเพียงพออย่างนี้
เธอรู้ว่า เธอตกหลุมรักเย่ซือเฉินแล้ว แต่เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นลึกมากขนาดไหน
ทว่าตอนนี้เธอรู้แล้ว เธอไม่อยากแยกจากเขา เธอคิดไปถึงว่า แม้เธอกับเขาจะเป็นพี่น้องแท้ๆ เธอก็ไม่อยากแยกจากเขา
ความคิดของเธออาจไม่ถูกต้อง อาจเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง อาจไม่ถูกโลกยอมรับ
แต่เธอไม่อยากสนใจ
เธอสามารถเฝ้ารักษาความลับนี้ ถึงแม้ความลับนี้จะกดทับเธอจนเธอหายใจไม่สะดวก เธอก็ยินดีอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาตลอดกาล
ใช่ หากผลตรวจเป็นอย่างนั้นจริงๆ เช่นนั้นเธอจะเฝ้าเก็บรักษาความลับไว้คนเดียว ไม่ให้ใครรู้สักคน รวมทั้งเย่ซือเฉินด้วย
แน่นอน มันจะเป็นผลที่แย่สุดๆ หรือผลอาจไม่เป็นเช่นนั้น เธออาจจะตีตนไปก่อนไข้
“เย่ซือเฉิน คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงเบาช้าลง ตอนพูดเธอจับมือถือไว้แน่นกว่าเก่า
“แล้วคุณล่ะ?”อีกฝั่งหนึ่งของสาย น้ำเสียงเย่ซือเฉินเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วนอย่างเลือนราง
เวินลั่วฉิงชะงัก เธอ?
เธอยังต้องรอข้อมูลจากถังหลิน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อ?
หากผลตรวจปรากฏว่าเธอกับเย่โป๋เหวินเป็นสายเลือดเดียวกัน สิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนั้นคงมีไม่น้อย ดังนั้นเธอต้องไม่มีเวลานอน
“ฉันก็กลับไปนอน”แต่เวินลั่วฉิงยังคงตอบหนึ่งประโยค
“ผมเจอคุณแล้วค่อยกลับ ผมรอคุณนอกประตูบ้านตระกูลถัง”
เย่ซือเฉินเป็นคนดื้อรั้นเสมอ สิ่งที่เขาตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้
และวันนี้เธอตอบสนองผิดปกติยิ่งนัก ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเจอหน้าเธอ
“ก็ได้”เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก สุดท้ายก็ยอมประนีประนอม
เพราะเธอตัดสินใจแล้ว แม้จะเป็นอย่างที่เย่โป๋เหวินพูด เธอก็ไม่คิดแยกทางกับเย่ซือเฉิน
เธอกับเย่ซือเฉินมีลูกสองคนแล้ว
เช่นนั้นขอเพียงเธอปกปิดได้เนี้ยบ เจอหน้าก็เจอหน้าสิ
“ลุงหลี่ ขับเร็วหน่อยค่ะ”หลังเวินลั่วฉิงวางสายก็เร่งลุงหลี่ทันที
ตอนที่เวินลั่วฉิงกลับไปถึงบ้านตระกูลถัง รถของเย่ซือเฉินก็จอดอยู่ด้านนอกแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขารอนานแค่ไหน
เมื่อรถของเวินลั่วฉิงจอดแล้ว เย่ซือเฉินก็ลงจากรถรีบเดินเข้าไปหา เวินลั่วฉิงลงจากรถปุ๊บ เย่ซือเฉินก็เข้ากอดปั๊บ จากนั้นก็เข้าไปจูบอย่างโหยหาสุดแรงชนิดที่ไม่ได้ตั้งแต่พูดอะไรเลย
ร่างกายเวินลั่วฉิงแข็งค้าง เม้มปากด้วยจิตใต้สำนึก คำพูดของเย่โป๋เหวินยังคงมีผลกระทบต่อจิตใจเธออยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้เธอทำใจไว้แล้ว ไม่ว่าผลตรวจจะเป็นเช่นไรก็จะอยู่กับเย่ซือเฉิน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็กลายเป็นคิดอย่าง เจอสถานการณ์จริงแล้วเป็นอีกอย่าง
ถ้าเธอกับเย่ซือเฉินมีสายสัมพันธ์ทางโลหิตจริงคงไม่มีทางที่จิตใจเธอจะไม่มีอุปสรรคสักเล็กน้อย
“เป็นอะไร?”เย่ซือเฉินรู้สึกว่าเธอผิดปกติ หยุดการกระทำลง พลางมองหน้าเธอด้วยความสงสัย
“นี่นอกบ้านตระกูลถัง คุณไม่กลัวคนอื่นเห็นเหรอ?”เวินลั่วฉิงหาเหตุผลที่เหมาะสมได้ ใบหน้าไม่ได้เผยอะไรผิดแปลก แต่ในใจเธอกลับกดดันและเจ็บปวดเล็กน้อย
เธอพบว่าก่อนผลออกมา หน้าอกของเธอก็เหมือนมีก้อนหินกดทับไว้ ถ้าผลออกมาเป็นจริงอย่างนั้น เธอยังคงแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไหม?
วินาทีนี้ เวินลั่วฉิงไม่รู้จริงๆ
เย่ซือเฉินมองหน้าเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดกะทันหันว่า“งั้นเข้าไปในรถ”
“คุณไม่ใช่บอกว่าเห็นฉันแล้วกลับไปหรอกเหรอ?ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”บัดนี้ ทำให้หนังตาของเวินลั่วฉิงกระตุกด้วยจิตใต้สำนึก
ขึ้นรถแล้ว คงควบคุมหลายๆเรื่องไม่ไหว
“เห็นคุณแล้วผมไม่อยากไปเลย”เย่ซือเฉินอุ้มเธอไม่ปล่อย เขาไม่ยินดีปล่อยมือ
อีกทั้ง วันนี้เธอแปลกมาก
“เย่ซือเฉิน คุณพอแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”เวินลั่วฉิงใช้แรงเล็กน้อยเพื่ออยากดิ้นออกจากเขา แต่เขากอดกระชับแน่นหนึบ
เธอเลยดิ้นไม่หลุด“ฉันก็เหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน”
ลุงหลี่ขับรถเข้าไปแล้ว บัดนี้เหลือเพียงเธอกับเย่ซือเฉิน
“คุณจูบผมครั้งหนึ่งแล้วผมจะกลับไป”เย่ซือเฉินไม่อยากปล่อยมือออกจากเธอ ไม่อยากกลับไป แต่นึกถึงที่เธอไม่ได้นอนทั้งคืน
เขาก็เป็นห่วงเธอมาก
ฉะนั้น เขาไม่ได้ไล่ถามให้ถึงที่สุด บางเรื่องเธอไม่พูด เขาก็ไปสืบเองได้ ในทางกลับกันไปสืบเองจะยิ่งง่ายขึ้นกว่าอีก
เขารู้มาโดยตลอดว่าอยากล่อถามอะไรจากปากผู้หญิงคนนี้นั้นยากโครตๆ