ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 730 คุณชายสามเย่รู้จนได้ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 730 คุณชายสามเย่รู้จนได้ (2)
บทที่ 730 คุณชายสามเย่รู้จนได้ (2)
เย่ซือเฉินได้ยินพลันขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ถึงแม้ตลอดหลายปีมานี้เขากับเย่โป๋เหวินจะไม่ค่อยคุยกันมากนัก ถึงแม้จะมีโทรศัพท์ขวางกั้น แต่เขายังคงฟังเสียงออก น่าจะฟังไม่ผิด……
แต่ความหมายของคู่สายสนทนาทำให้เขาไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเย่โป๋เหวิน
เย่โป๋เหวินกับเวินลั่วฉิง?เป็นไปได้ยังไง?
“เห้อ คิดไม่ถึงว่าจะดีใจเปล่าๆ”เย่โป๋เหวินไม่ได้ยินเสียง แต่ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ซึ่งเขาคิดว่าบางครั้งเขาก็จะพูดออกมา
ได้ยินคำว่าดีใจเปล่าๆ ดวงตาที่หรี่ขึ้นเล็กน้อยของเย่ซือเฉินก็ยิ่งเคร่งขรึมอย่างชัดเจน
เย่ซือเฉินขยับมุมปาก ยังคงไม่พูดอะไร เขาเอามือถือของตัวเองออกมา แล้วเห็นมีข้อความเข้าหลายฉบับ
ซึ่งเป็นข้อความที่เขาให้คนไปสืบเมื่อวาน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายสืบได้ความแล้ว ตอนที่ข้อความเข้าเขาก็ไม่ได้ยินเสียง แน่นอน ถึงจะได้ยินตอนนั้นเขาก็ไม่มีเวลาอ่าน
คนนั้นตอบข้อความให้เขาอย่างกะทัดรัด บอกว่าเมื่อวานเย่โป๋เหวินนัดเจอเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงไปตามนัด ดังนั้น……
“ฉิงฉิง ฉันจะกลับไปที่ศูนย์พักฟื้นแล้ว พวกเราเจอหน้ากันอีกได้ไหม?”อีกฝั่งหนึ่งของสาย เย่โป๋เหวินลังเลสักพัก เสียงที่ต่ำเล็กน้อยปนการหยั่งเชิงและการรอคอยที่ตั้งความหวัง
ได้ยินคำว่ากลับศูนย์พักฟื้น ร่างกายเย่ซือเฉินก็แข็งค้าง วินาทีนี้เขาแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายคือเย่โป๋เหวิน
เย่โป๋เหวินพ่อของเขา
เมื่อกี้พ่อของเขาพูดว่าอะไรนะ?บอกว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่ลูกสาวเขา ยังบอกว่าเขาแอบดีใจเปล่าๆ?
เขาดีใจอะไร?
เย่โป๋เหวินพึ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน ถึงขั้นนัดเจอเวินลั่วฉิง ถ้างั้นคงรู้ความสัมพันธ์ของเขากับเวินลั่วฉิงแน่ๆ
ดังนั้น เย่โป๋เหวินคิดว่าเวินลั่วฉิงคือลูกสาวเขาเลยดีใจ?
ดีใจ?คิก เย่โป๋เหวินเป็นพ่อที่ดีมากเลย
“ฉิงฉิง ได้ไหม?”ฝ่ายเย่โป๋เหวินไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงรู้สึกแปลกใจ อดถามหนึ่งประโยคไม่ได้
“ไม่ได้”มุมปากเย่ซือเฉินขยับเล็กน้อย คำพูดเย็นเยียบส่งออกมาทีละคำ บัดนี้ดวงตาเย่ซือเฉินเย็นยะเยือกถึงขีดสุด แม้นกั้นไว้ด้วยสายโทรศัพท์ แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงเย็นซ่าทะลุถึงใจ
เขาพูดว่าไม่ได้!!
อย่างไม่มีสิทธิ์ให้เจรจาต่อรอง!!
“คุณไม่ใช่ฉิงฉิง คุณเป็นใคร?”เย่โป๋เหวินได้ยินเสียงของผู้ชายก็อึ้งทันที น้ำเสียงมีความตกตะลึงหลายส่วน
เห็นได้ชัดว่าเขาฟังเสียงเย่ซือเฉินไม่ออก
ริมฝีปากเย็นแข็งของเย่ซือเฉินเพิ่มความเย้ยหยันขึ้นหลายส่วน คิก น่าขัน พ่อเขาฟังเสียงของเขาไม่ออก
ช่างเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเขาโดยแท้
“ฉิงฉิงล่ะ ฉิงฉิงอยู่ไหน?”เย่โป๋เหวินได้สติรีบถามโดยเร็ว ซึ่งน้ำเสียงมีความกังวลและเป็นห่วง
เย่ซือเฉินสามารถได้ยินอย่างชัดเจนผ่านสายโทรศัพท์ มุมปากเย่ซือเฉินเพิ่มความเย้ยหยันขึ้น
ยี่สิบปีมานี้ เย่โป๋เหวินไม่เคยใส่ใจกับเรื่องของเขาเลย ไม่เคยสนใจเขาเลย เขาคิดว่าเย่โป๋เหวินสนใจคนไม่เป็นเสียแล้ว ตอนนี้เห็นทีคงไม่ใช่
เย่โป๋เหวินแค่ไม่สนใจเขาเท่านั้น
“เธอนอนอยู่”สายตาเย่ซือเฉินมองไปยังเวินลั่วฉิงที่ยังคงนอนหลับอยู่ สายตากลายเป็นอ่อนโยนทันที
อันที่จริงด้วยนิสัยของเย่ซือเฉิน หากเย่โป๋เหวินพูดอย่างนี้ เย่ซือเฉินจะไม่อธิบายเลย
ฉะนั้น บัดนี้เย่ซือเฉินจงใจพูดเช่นนี้
“นาย?นายคือซือเฉิน”อีกฝั่งหนึ่งของสาย เย่โป๋เหวินชะงักไปหลายวินาที จากนั้นก็อุทานด้วยความตกใจ เขาฟังออกเสียที
หรือเขาอาจฟังเสียงเย่ซือเฉินไม่ออก แต่เป็นการคาดเดา
“นาย นายอยู่กับฉิงฉิงด้วยกัน?”เย่โป๋เหวินแอบถอนหายใจ พลางรีบถามหนึ่งประโยค บัดนี้ฟังเสียงของเขาแล้วรู้สึกแปลกๆ “เมื่อกี้นายบอกว่าฉิงฉิงนอนอยู่?”
“อืม เมื่อคืนเธอเหนื่อยทั้งคืน เพิ่งนอนหลับ”เย่ซือเฉินฟังความคิดของเย่โป๋เหวินออก ดังนั้นเขาเลยจงใจพูดแบบนี้ จะว่าไปเขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิด เมื่อวานเธอเหนื่อยแล้วจริงๆ
“พวกลูก ทำไมพวกลูก??”เสียงเย่โป๋เหวินสูงขึ้นหลายส่วน บัดนี้ เหมือนเขาจะลืมว่าผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ซึ่งเวินลั่วฉิงไม่ใช่ลูกสาวของเขา
ดังนั้นเย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงทำอะไรก็ไม่เป็นไร
“ทำไมพวกเราไม่ได้?มีปัญหาอะไร?”ดวงตาทั้งคู่ของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้นทีละนิด“พวกเราอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว เธอเป็นภรรยาของผม พ่อไม่รู้เหรอ?”
เย่ซือเฉินพูดอย่างนี้เพื่อหยั่งท่าที ถ้าเย่โป๋เหวินไม่รู้ สิ่งที่เย่โป๋เหวินพูดว่าดีใจเปล่าๆ เขาอาจให้อภัยได้
“ฉันรู้ ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนพวกลูกเคยแต่งงานกัน แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน……”เห็นได้ชัดว่าเย่โป๋เหวินไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเย่ซือเฉิน เขาแค่ตอบไปตามคำถาม
ตอบชนิดที่คิดว่าต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว……
“ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกันยังไง?ทำไมพวกเราอยู่ด้วยกันไม่ได้?”ดวงตาที่หรี่ขึ้นของเย่ซือเฉินมีความอำมหิตหลายส่วนวินาทีนี้ ความหวังสุดท้ายที่เขามีต่อเย่โป๋เหวินก็ไม่เหลือเลยสักนิด
“ไม่ใช่ผลตรวจออกมาแล้วเหรอ?เวินลั่วฉิงไม่ใช่ลูกของพ่อ ไม่ใช่เหรอ?”ตอนที่เย่ซือเฉินพูด เสียงของเขาเย็นยะเยือกแบบไร้ความรู้สึก
“ใช่ แต่ผลเพิ่งออกมา ฉิงฉิงรู้สิ่งที่ฉันพูดอยู่แท้ๆ ทำไมเมื่อคืนเธอถึงไปหาลูก กับลูก………”เย่โป๋เหวินพูดประโยคนี้อย่างร้อนใจและเร็วมาก
ตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อวานเวินลั่วฉิงแค่พูดพล่อยๆ คาดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะไม่สนใจอะไรจริงๆ
ผลตรวจยังไม่ออกมาเวินลั่วฉิงก็ไปหาเย่ซือเฉินเสียแล้ว?นอนด้วยกันกับซือเฉินแล้ว?
เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง?ทำอย่างนี้ได้อย่างไร?
“ถึงผลตรวจจะเป็นลูกสาวพ่อ แต่ไม่กระทบต่อการอยู่ด้วยกันของพวกเรา ดังนั้น พ่อน่าจะรู้สึกโชคดีที่เธอไม่ใช่ลูกสาวนะ”บัดนี้แววตาเย่ซือเฉินประกายความกระหายเลือดอย่างเหี้ยมโหด คำพูดทีละคำนั้นหม่นหมองเป็นพิเศษและไม่หนักแน่นแบบไม่ให้สงสัยอะไรเลย
เย่ซือเฉินพูดประโยคนี้จบ ไม่รอให้เย่โป๋เหวินพูดก็วางสายทิ้ง เขาไม่อยากพูดไร้สาระกับเย่โป๋เหวินอีก
คำพูดของเย่ซือเฉินชัดเจนมาก
ถึงเวินลั่วฉิงจะเป็นลูกสาวแท้ๆของเย่โป๋เหวิน เขาเย่ซือเฉินก็จะอยู่กับเวินลั่วฉิงด้วยกัน
ไม่มีใครขัดขวางสิ่งนี้ได้
เพราะยังไงเสียพวกเขาไม่เอาลูก มีลูกไม่ได้ ดังนั้นเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ
แน่นอน เขายังรู้สึกโชคดีที่เธอไม่ใช่ลูกสาวของเย่โป๋เหวิน
เพราะเขารู้ดีว่า หากเธอเป็นลูกสาวของเย่โป๋เหวินจริง แม้นพวกเขายังคงอยู่ด้วยกัน แต่ไม่แคล้วทำให้เธอรู้สึกกดดันแน่นอน
ทันใดนั้นเย่ซือเฉินนึกถึงท่าทีผิดปกติของเธอในเมื่อวาน ตอนนั้นเธอหลบเขาอยู่อย่างเห็นได้ชัด ต่อมา ตอนเขาจูบเธอ ร่างกายเธอก็ปฏิเสธเล็กน้อย