ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 736 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 736 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(2)
บทที่ 736 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(2)
คุณชายน้อยแน่ใจว่าจะขึ้นรถที่เขาเป็นคนขับ ? นายใหญ่คนอื่นๆของตระกูลถังจะยินยอมเหรอ ? !
“ตามคน”ถังจื่อโม่เหลือบมองเขาไปแวบหนึ่ง และพูดมันออกมาอย่างชัดเจน หากไม่พูดกันตรงๆก็คงจะทำงานกันลำบาก
“ตามคน?”เสี่ยวหลิวตกตะลึง ตาเบิกโพลงขึ้นมาทันที :“ได้ครับ งานนี้ผมถนัดเลยครับ ”
คนขับเสี่ยวหลิวเดิมทีเคยเป็นนักแข่งรถ หลังจากที่ไปล้ำเส้นใครบางคนเข้า ในระหว่างการแข่งขันถูกปองร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เคราะห์ยังดีที่ได้ถังหลินช่วยเหลือเอาไว้จากนั้นเขาก็ติดตามถังหลินมาโดยตลอด
แน่นอนว่า ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นที่ถังหลินจะเรียกใช้เขา หากถังหลินต้องเข้าบริษัทหรือทำธุระที่เกี่ยวกับแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลมักจะไม่เรียกใช้เขาแต่อย่างใด เพราะกฎระเบียบของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลนั้นเข้มงวดอยู่มาก
“คุณชายน้อย เราจะสะกดรอยตามใครครับ ?” เมื่อขึ้นรถมาได้ ใบหน้าของเสี่ยวหลิวก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด การสะกดรอยตามคนเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว
“แม่ผม เมื่อกี้แม่ออกไปกับลุงหลี่ นายเร่งหน่อย หากยังโอ้เอ้อยู่แบบนี้จะตามไม่ทันเอา” หลังจากออกมาได้ถังจื่อโม่ก็ไม่เห็นรถที่ลุงหลี่ขับออกมาแล้วและอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ขึ้นมาทันที
“สะกดรอยตามคุณหนูใหญ่?” เสี่ยวหลิวหน้าถอดสีขึ้นมาทันที ตกใจสุดขีด ตระกูลถังในตอนนี้ คนที่ล่วงเกินไม่ได้เป็นอันขาดเลยนั้นก็คือคุณชายน้อยกับคุณหนูน้อย รองลงมาก็คือคุณหนูใหญ่
สะกดรอยตามคุณหนูใหญ่ หากโดนจับได้ ตัวเขาเองก็อย่าได้หวังเลยว่าจะยังได้อาศัยอยู่ในตระกูลถัง
“ได้ยินมาว่านายเคยเป็นนักแข่ง?”ถังจื่อโม่มองไปยังเขาแวบหนึ่ง ตั้งใจที่จะถามคำถามนี้
“ห๊า?ครับ”เสี่ยวหลิวพยักหน้ารับทันที
“นักแข่งอย่างนายสะกดรอยตามใครสักคนน่าจะยังมีความสามารถอยู่หรอกมั้ง?”ถังจื่อโม่ตั้งใจพูดปลุกกระตุ้นเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ คุณชายน้อยวางใจได้ ผมจัดการให้ครับ ”ชัดเจนว่า คนคนนี้มีนิสัยค่อนข้างมุทะลุ ไม่งั้นคงไม่ไปล้ำเส้นใครเขาเข้าจนได้เรื่องหรอก
“ลุงหลี่เพิ่งขับออกไปได้ไม่นาน ผมรู้นิสัยการขับรถของลุงหลี่ รับรองว่าตามทันแน่นอนครับ ” ในขณะที่พูดประโยคนี้ ตัวเขาเองก็มั่นใจอยู่พอสมควร
และแล้ว เมื่อขับออกมาได้ไม่นาน เขาก็ขับจนตามมาเจอรถที่ ลุงหลี่ขับอยู่
ไม่พูดไม่ได้ว่า ทักษะการขับรถของเสี่ยวหลิวก็ถือว่าดีอยู่มาก เขารักษาระยะห่างได้อย่างพอเหมาะพอดี ลุงหลี่ที่ขับอยู่ด้านหน้าก็ไม่รู้ตัวและสงสัยอะไร แม้แต่เวินลั่วฉิงเองก็ยังไม่รู้ตัว
ตรงด้านหน้า รถของลุงหลี่จอดที่คลับเฮาส์แห่งหนึ่งเวินลั่วฉิงลงมาจากรถ
เสี่ยวหลิว จอดห่างจากพวกเขาอยู่พอสมควร บริเวณพื้นที่ที่สะดวกต่อการยักย้าย จอดไปยังพื้นที่ที่คนธรรมดาก็ยากที่จะเข้าจอดได้ แน่นอนว่า เขาจอดเพื่อบดบังการมองเห็นของเวินลั่วฉิง
“คุณชายน้อย ฝีมือผมเป็นยังไงบ้างครับ?”เสี่ยวหลิวมองไปยังถังจื่อโม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ
“อืม ฝีมือดีจริงๆ”ถังจื่อโม่พยักหน้ารับ แต่รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ทักษะการขับนั้นดีเลิศ เพียงแต่รถขับมาด้วยความเร็ว และทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
ยังไงเสีย เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็ไม่ลืมภารกิจสำคัญ เขามองไปยังเวินลั่วฉิงผ่านหน้าต่างรถ เมื่อเห็นว่าเวินลั่วฉิงลงจากรถไปแล้ว เข้าไปยังด้านในของสโมสร เขาก็ลงจากรถตามไป
เด็กน้อยถังจื่อโม่ถูกกันตัวไว้ที่ทางเข้าของคลับเฮาส์
“ผมมากับแม่ของผม แม่ผมเพิ่งจะเข้าไปเมื่อครู่นี้” เด็กน้อยถังจื่อโม่มองตามเข้าไปยังด้านในด้วยสายตาละห้อย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ยื่นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดู :“คุณดูนี่ นี่คือแม่ผม แม่ผมเพิ่งเดินเข้าไปเมื่อกี้ ”
“นี่แม่ของหนูเหรอ ? นี่มันคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนี่ ? คุณหนูใหญ่ตระกูลถังยังไม่แต่งงานเลย ? จะมีลูกโตขนาดนี้ได้ยังไง ? ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองไปที่ถังจื่อโม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“แม่บุญธรรมครับ เธอเป็นแม่บุญธรรมของผม”ถังจื่อโม่นิ่งอึ้งไป แล้วรีบถอนคำพูดทันที เขาไม่คิดว่าแม่ของเขาจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักขนาดนี้ แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในคลับเฮาส์ก็ยังรู้จัก
“ผมจะโทรหาแม่บุญธรรม แล้วให้เธอมารับผมแล้วกัน”ถังจื่อโม่ไม่รอให้เจ้าหน้าที่เอ่ยปากได้พูด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วทำทีเป็นโทรออกไป
“แม่ครับ แม่เข้าไปคนเดียว แล้วทิ้งผมไว้ข้างนอก?ห๊า?ให้ผมเดินเข้าไปเอง?ผมถูกเจ้าหน้าที่กักตัวเอาไว้ เขาไม่ให้ผมเข้าไป?ครับ ได้ครับ งั้นผมบอกเจ้าหน้าที่นะครับ แล้วแม่อยู่ห้องไหนครับ ครับ ผมรู้แล้วครับ”ถังจื่อโม่แกล้งทำทีพูดเป็นเรื่องเป็นราว สุดท้ายแล้วก็วางหูไป
“แม่บอกว่าพวกคุณรู้ว่าแม่อยู่ห้องไหน ให้พวกคุณพาผมเข้าไป ” หลังจากที่ถังจื่อโม่วางสายไป มองไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ใบหน้าที่ไร้เดียงสา ไม่มีแสดงอาการผิดปรกติใดๆ
ถังจื่อโม่รู้ว่าลูกชายของประธานาธิบดีเป็นคนนัดแม่ให้มาหา เพราะฉะนั้นคนที่นี่รู้ดีว่าแม่ของเขานั้นอยู่ห้องไหน
เจ้าหน้าที่คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยอายุห้าขวบจะโกหกเขาได้ เขามองไปยังถังจื่อโม่แวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปยังห้องโถง แล้วพูดคุยกับผู้จัดการหน้าล็อบบี้ห้องโถงไปสองสามคำ
จากนั้นผู้จัดการก็เดินตรงเข้ามา มองไปยังถังจื่อโม่:“คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นแม่บุญธรรมของหนูจริงๆเหรอ ?”
“ครับ ใช่ครับ”ถังจื่อโม่พยักหน้ารับทันทีกิริยาท่าทางไม่มีพิรุธอะไรให้ต้องสงสัยเลย
“ได้ งั้นตามมาแล้วกัน”ผู้จัดการเห็นว่าเป็นเพียงเด็กอายุห้าขวบ และไม่ได้เป็นภัยอันตรายอะไร จากนั้นจึงพาถังจื่อโม่เข้าไปยังบริเวณด้านในทันที
ผู้จัดการพาถังจื่อโม่มายังห้องรับรองส่วนตัวห้องหนึ่ง กำลังจะเอื้อมมือไปเคาะประตูห้อง
ทันใดนั้นเด็กน้อยถังจื่อโม่ก็ผลักประตูห้อง แล้วเดินเข้าไปทันที
เวินลั่วฉิงที่เพิ่งจะนั่งลงเก้าอี้ไปได้เพียงชั่วครู่ ยังไม่ทันได้เริ่มคุยเรื่องของคดี ก็ได้ยินเสียงผลักประตูหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นถังจื่อโม่ เขาก็มีอาการตกใจขึ้นมาทันที
“แม่บุญธรรม”เวินลั่วฉิงที่ยังมีอาการตกตะลึงอยู่ถังจื่อโม่ก็รีบวิ่งเข้าไปหา
แม่บุญธรรม ?
เธอที่เป็นแม่แท้ๆที่ให้กำเนิด!แล้วนี่ไปเป็นแม่บุญธรรมตั้งแต่เมื่อไรกัน?
เด็กคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่ ?
หยวนจุนหลินก็มีอาการตกตะลึงเช่นกัน กว่าชายหนุ่มจะนัดหญิงสาวให้ออกมาได้ และยังไม่ทันที่จะได้เริ่มพูดคุยอะไรกันเลยสักคำ แต่แล้วจู่ๆก็มีก้างขวางคอตัวน้อยนี้โผล่มาได้ยังไงกัน
“หนูมาได้ยังไง?”เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจกับสรรพนามที่ถังจื่อโม่เรียก เพราะยังไงตอนนี้เธอเองก็ยังไม่ได้แต่งงานกับเย่ซือเฉิน สถานะของลูกน้อยทั้งสองก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตน
เมื่อผู้จัดการเห็นว่าพวกเขานั้นรู้จักกันจริง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น หยวนจุนหลินโบกมือ ส่งสัญญาณให้เขาออกไปได้
“เมื่อกี้หนูเห็นแม่บุญธรรม หนูก็เลยตามมา”คำอธิบายของถังจื่อโม่นั้นเรียบง่าย แต่คำอธิบายง่ายๆนี้ ทำให้คนนอกไม่ได้รู้สึกสงสัยและคิดว่ามันผิดปกติอะไร
เวินลั่วฉิงหัวเราะออกมา ดูท่าแล้ว เขาคงจะตามเธอมา เพียงแต่ไม่รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะตามเธอมาทำไมกัน ?
ปรกติเวลาที่เธอออกจากบ้าน ถังจื่อโม่ไม่เคยคิดที่จะตามเธอไปไหนมาไหนเลยสักที่
“แม่ครับ แม่คุยธุระเถอะ ไม่ต้องสนใจผม ผมนั่งกินขนมตรงนี้ก็พอ”ที่ถังจื่อโม่ตามมาในวันนี้เขามีแผนไว้แล้ว ดังนั้น เขาไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกแต่อย่างใด และยิ่งไม่คิดที่จะหลบหลีกมันเลยด้วยซ้ำ
หยวนจุนหลินจ้องมองไปยังเด็กน้อย ดวงตากะพริบปริบๆ เขารู้สึกเหมือนเด็กน้อยคนนี้มีเจตนาจะมาก่อกวนยังไงชอบกล ?
เนื่องจากมีก้างน้อยคอยขวางอยู่ หยวนจุนหลินจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดที่เตรียมอย่างดีลงคอไป
ถังจื่อโม่ที่สังเกตเห็นสีหน้าอาการที่หลากหลายบนใบหน้าของหยวนจุนหลิน ริมฝีปากก็กระตุกขึ้น ดูท่าแล้ววันนี้เขาคงจะมาถูกที่ถูกเวลาให้แล้วจริงๆ! !