ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 737 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 737 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(3)
บทที่ 737 ถังจื่อโม่ลงมือเอง พ่อลูกร่วมมือกันกำจัดศัตรู(3)
ถังจื่อโม่ที่กำลังกินของว่างอยู่นั้น อีกมือก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดถ่ายรูป ส่งไปให้กับเย่ซือเฉิน แน่นอนว่า ในภาพถ่ายนั้นมีรูปของคุณแม่สุดสวย และด้านข้างก็มีหยวนจุนหลินที่นั่งประกบอยู่
แต่ ภาพมุมกล้องที่ถังจื่อโม่เลือกถ่ายนั้นเป็นมุมเพียงแค่บางส่วน ที่ในภาพปรากฏให้เห็นร่างของเวินลั่วฉิงกับหยวนจุนหลินอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีมุมโต๊ะด้านหน้าของพวกเขาโผล่ออกมาอีกเล็กน้อย
นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่น ๆ ภายในห้องได้อีก แม้แต่ภาพของผนังด้านหลัง
ไม่พูดไม่ได้ว่า ภาพที่ถังจื่อโม่ถ่ายออกมานั้นมุมกล้องดีมาก แน่นอนว่า เขาตั้งใจที่จะถ่ายให้ภาพมันออกมาเป็นแบบนี้
เขาอยากจะดูว่าการที่เขาส่งรูปเพียงใบเดียวนี้ไปให้กับเย่ซือเฉิน แล้วเย่ซือเฉินเองต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่จะหาสถานที่ตรงนี่เจอ ?
“แม่บุญธรรมครับ ผมขอยืมมือถือหน่อยครับ”พอถังจื่อโม่ส่งรูปไปแล้ว ก็เงยหน้าที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาจ้องไปยังเวินลั่วฉิง
“หืม?”เวินลั่วฉิงนิ่งไป แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร หยิบมือถือออกมาแล้วยื่นให้ไป เพราะถังจื่อโม่เด็กน้อยเป็นเด็กที่รู้ความมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยก่อเรื่องใดๆ
เธอเชื่อใจเด็กน้อยมาก
หยวนจุนหลินเห็นกิริยาท่าทางของเวินลั่วฉิง ดวงตาก็กะพริบปริบๆ ความสัมพันธ์ของเธอกับเด็กคนนี้มันสนิทสนมกันอย่างเห็นได้ชัด
เด็กน้อยคนนี้ขอมือถือกับเธอ เธอไม่แม้แต่จะถามก็หยิบมันออกมายื่นให้เลยทันที ?
พอถังจื่อโม่รับมือถือจากเวินลั่วฉิงมาได้ ก็ปิดเสียงเรียกเข้ามือถือของเธอทันทีแต่ก็ไม่ส่งมือถือคืนให้กับเวินลั่วฉิง
และแน่นอนว่า มือถือของเขาก็ปิดเสียงเรียกเข้าเหมือนกัน
“คุณอา นัดแม่บุญธรรมผมมามีธุระอะไรเหรอครับ ? หากมีธุระก็รีบคุยเถอะครับ แต่ถ้าหากไม่มีอะไร พวกเราจะได้กลับ” ขณะที่ถังจื่อโม่พูดประโยคนี้กับหยวนจุนหลิน เขาก็กำลังถือโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องเอาไว้ในมือ แล้วก็คว่ำหน้าจอลง ไปกับโต๊ะ
“มีคดีที่อยากจะให้แม่หนูช่วย ” หยวนจุนหลินมองไปยังถังจื่อโม่ ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย อีกคนเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุห้าขวบ ตามหลักแล้ว เรื่องแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายกับเด็กน้อยเลยด้วยซ้ำ
แต่ว่า ไม่รู้ทำไม เขาก็อธิบายให้เด็กน้อยออกไปโดยไม่รู้ตัว
“เหรอครับ ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบคุยธุระให้เสร็จๆเถอะครับ”บนโต๊ะในตอนนี้ ถังจื่อโม่เหมือนเป็นผู้คุมเกมทั้งหมด และก็พูดสั่งการออกไป
อืมใช่ ออกคำสั่งกับหยวนจุนหลิน
ดวงตาหยวนจุนหลินหรี่ลง หลายปีมานี้ แทบไม่มีใครที่จะกล้ามาออกคำสั่งกับเขาเลย แต่เด็กน้อยห้าขวบตรงหน้ากลับ……
“คุณหยวนคะ ไม่ทราบว่าเป็นคดีอะไรคะ?” เวินลั่วฉิงเอ่ยปากถามออกไป ถังหลินบอกเอาไว้ว่าเป็นคดีที่ยุ่งยาก เธอก็อยากจะรู้ว่ามันจะยุ่งยากแค่ไหนกันเชียว ?
“เป็นคดีที่ส่งเข้ามาเมื่อเร็วๆนี้ ยุ่งยากพอสมควร เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณถัง” หยวนจุนหลินมองไปยังเวินลั่วฉิง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นมาทันที
โชคดีที่เขาพกแฟ้มคดีนี้ติดตัวมาด้วย
นายน้อยถังจื่อโม่เหลือบมองเขาไปแวบหนึ่ง มุมปากอดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ ทำเป็นเนียน เนียนซะให้พอ ประเทศเขามีผู้ที่ชำนาญและเชี่ยวชาญมากมายขนาดนั้น ทำไมเขาไม่ไปขอความช่วยเหลือ ? ทำไมต้องจ้องแต่จะมาหาแม่เขาด้วย ?
แล้วคดีอะไรที่สำคัญขนาดที่ เขาต้องมาจัดการเอง ?
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะเรียกร้องความสนใจจากแม่เขา แล้วยังไม่บริสุทธิ์ใจอีกไม่ให้ผ่าน
เวินลั่วฉิงเห็นเขาหยิบแฟ้มเอกสารแล้วยื่นตรงมาให้เธอก็รีบรับเอามาทันที
หลังจากที่เวินลั่วฉิงรับแฟ้มเอกสารมาได้ ก็เปิดอ่านดู
พูดตามตรง คดีนี้ค่อนข้างที่จะยุ่งยาก และซับซ้อนอยู่มาก
แต่เวินลั่วฉิงเชื่อว่า คดีแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายสามารถที่จะคลี่คลายมันได้อยู่แล้ว
อันที่จริงหยวนจุนหลินไม่จำเป็นที่จะต้องให้เธอมาช่วยเลยด้วยซ้ำ!
แต่ช่างมัน เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เธอตั้งใจดูแฟ้มคดีเอกสาร แล้วก็คิดวิเคราะห์ตาม
เวลาที่เวินลั่วฉิงทำงาน เธอค่อนข้างที่จะตั้งใจและจริงจัง มีสมาธิกับมัน ดังนั้น เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าหน้าจอมือถือที่ถังจื่อโม่ถืออยู่สว่างขึ้นมา
ถังจื่อโม่เองที่มองเห็นมันทันที เขาจับจ้องมันอยู่ตลอดเวลา และพบว่า หน้าจอมือถือที่สว่างอยู่นี้เป็นของแม่เขา ไม่ใช่ของเขา
ถังจื่อโม่พลิกมือถือขึ้นมาดู หน้าจอก็ปรากฏเป็นชื่อของเย่ซือเฉิน
ปฏิกิริยาโต้ตอบของเย่ซือเฉินค่อนข้างเร็ว เขาเพิ่งจะส่งรูปไปได้ไม่นาน เย่ซือเฉินก็โทรกลับมาที่มือถือของแม่เขาทันที
ยังดีที่เขาคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เขาคิดว่า หากเย่ซือเฉินโทรติดต่อแม่เขาไม่ติด ยังไงก็ต้องโทรเข้ามือถือเขา เพราะเขาเป็นคนส่งรูปนั้นไปให้กับเย่ซือเฉินเอง
หลังจากนั้น หน้าจอมือถือของเวินลั่วฉิงก็ดับลง ถังจื่อโม่หายใจเข้าลึกๆ เขาหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา เตรียมรอรับสาย
จากนั้น วินาทีต่อมา หน้าจอมือถือของแม่ก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง ก็ยังคงเป็นเบอร์ของเย่ซือเฉินที่โทรเข้ามา
ถังจื่อโม่กะพริบตาถี่ๆไปมา ทำไมคนคนนี้ถึงได้โง่นัก ?
มือถือแม่ไม่มีคนรับสาย ทำไมเย่ซือเฉินถึงไม่โทรมาที่เบอร์ของเขา ?
เขาเป็นคนถ่ายรูปส่งไปให้ ยังไงเสีย เขาก็ต้องรู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวอยู่แล้ว
จากนั้น ถังจื่อโม่ก็เฝ้ารอ มือถือของเวินลั่วฉิงก็สว่างขึ้นมาอีก แล้วก็ดับไป สว่างแล้วดับไป เป็นอย่างนี้อยู่นานหลายครั้ง
แต่ว่า เย่ซือเฉินก็ยังคงไม่โทรมาที่เบอร์ของถังจื่อโม่
ตาของถังจื่อโม่เบิกกว้าง เขาไม่เข้าใจความคิดของเย่ซือเฉิน คนอะไรกัน? เขาส่งรูปไปให้กับเย่ซือเฉิน แต่เย่ซือเฉินกลับมองข้ามเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ถังจื่อโม่มุมปากยกขึ้น จังหวะที่เย่ซือเฉินไม่โทรเข้ามานั้น เขากดเปิดหน้าจอของเวินลั่วฉิงขึ้นมา แล้วบล็อกสายของเย่ซือเฉินไปในทันที
โทรมาอยู่ได้ โทรอยู่นั่นแหละ โง่แล้วยังดื้อรั้นจริงๆ
ถังจื่อโม่คิดว่า เขาบล็อกสายของเย่ซือเฉินในโทรศัพท์ของแม่ไปแล้ว เย่ซือเฉินคงจะโทรมาที่เบอร์เขาสักทีละนะทีนี้
ถังจื่อโม่มองไปยังมือถือของตัวเอง รออยู่นานหลายนาที มือถือของเขาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ขณะนี้เอง ถังจื่อโม่ก็นึกสงสัยว่ามือถือเขาเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า ?
จังหวะนี้เอง เวินลั่วฉิงที่กำลังตั้งอกตั้งใจดูแฟ้มเอกสาร ก็ไม่ได้สังเกตเห็นอาการที่ผิดปรกติของถังจื่อโม่
เป็นหยวนจุนหลินที่สังเกตเห็น คิ้วเขาขมวดขึ้น สายตาจ้องมองไปยังถังจื่อโม่ เด็กคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ?
เขาไม่อยากสงสัยอะไรเด็กน้อยคนนี้แต่เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้กำลังมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่
ถังจื่อโม่รับรู้ถึงการจ้องมองมาของหยวนจุนหลิน เขาเงยหน้าขึ้น มองไปยังหยวนจุนหลินแวบหนึ่ง ดวงตาที่มองมานิ่งเฉยจนทำให้คนมองไม่ได้นึกเอะใจสงสัยอะไร
ดูเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ
หยวนจุนหลินเองก็พลันหัวเราะออกมา เด็กน้อยคนนี้ช่างน่าสนใจดีจริงๆ
“กินของว่างนะ”หยวนจุนหลินยื่นของว่างไปตรงหน้าของถังจื่อโม่
ถังจื่อโม่ตะลึง รู้สึกประหลาดใจนัก หัวคิ้วของเขายกขึ้น การแสดงออกมาแบบนี้ทำเพื่อหวังผลอะไรกัน
เมื่อเห็นสีหน้าที่ระแวดระวังของถังจื่อโม่ ใบหน้าของหยวนจุนหลินก็เผยรอยยิ้มมากขึ้นไปอีก
ที่แท้แล้ว เด็กคนนี้ก็แตกต่างจากเด็กทั่วๆไป และแตกต่างอยู่มากเลยทีเดียว
ความระแวดระวังที่มีนั้นก็เอาเรื่องอยู่พอตัว
จนทำเขานึกสงสัยขึ้นมาแล้วว่าเด็กคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ ?