ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 749 ได้แก้แค้นคนกากๆ มันสะใจมาก (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 749 ได้แก้แค้นคนกากๆ มันสะใจมาก (3)
บทที่ 749 ได้แก้แค้นคนกากๆ มันสะใจมาก (3)
“คุณเห่อ ฟังจากความหมายนี้ของคุณแล้วคือไม่อยากคุยดีๆ กับฉันหรอ?” คุณหญิงจี้โมโหมากๆ แต่แรกแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเห่อถงถงแล้ว ก็มีเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“คุย คุยยังไงคะ วันนี้เรามาคุยกันดีๆ นะ” เวินลั่วฉิงไม่รอให้เห่อถงถงเปิดปาก ก็แสดงความเห็นมาอีกครั้ง ในเมื่อวันนี้ทั้งสองมาด้วยตัวเอง งั้นก็ใช้โอกาสนี้จัดการเรื่องนี้เลย
แค่หวังว่าพอถึงเวลาหน้าของคุณหญิงจี้และหยางชิงชิงจะไม่ถูกตบจนบวมเกินไป!!
คนอย่างพวกเขานั้น บางทีก็ควรจะเอาคืนทรมานบ้าง!!
“คุณหยาง คุณจะเอาเงินทุบคนไม่ใช่หรอคะ? งั้นก็ให้สนุกหน่อยค่ะ เพราะเราชอบให้คนอื่นเอางเงินมาทุบที่สุดแล้ว” เวินลั่วฉิงมองไปทางหยางชิงชิง ยิ้มได้เบิกบานเป็นพิเศษ
“เวินลั่วฉิง เธอไม่เอาหน้าจริงๆ ถึงว่าล่ะคุณชายสามเย่ถึงไม่เอาเธอ” หยางชิงชิงมองเวินลั่วฉิงที่ยิ้มทั้งใบหน้า โมโหจนอยากจะฆ่าคน แน่นอนว่าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความประชด
“คุณหยาง อย่าพูดไปไกลค่ะ พวกเราพูดถึงเรื่องเอาเงินทุบหัวคนอยู่ไม่ใช่หรอคะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้โมโห รอยยิ้มบนใบหน้ากลับเข้ามากขึ้น
“พวกเธออยากได้พันล้าน คิดเพ้อคิดฝันจริงๆ ที่ฉันมีสองล้าน เธอเอาสองล้านนี้แล้วจากอาจี้ไปซะ” หยางชิงชิงหยิบเช็กจากกระเป๋าออกมาหนึ่งใบ แล้วยื่นไปทางข้างหน้าของเห่อถงถง
“อัยยา ให้ตายเถอะ? อย่าบอกนะว่าตระกูลถังพวกเธอล้มละลายแล้ว ไม่มีเงินแล้ว? สองล้านคุณหยางยังมีหน้าเอาออกมาได้อีก” เวินลั่วฉิงมองไปทางเช็กที่อยู่ในมือของหยางชิงชิง ตั้งใจตกใจจนพูดออกเสียง
“เธอพูดอะไร ตระกูลหยางเราจะล้มละลายได้ยังไง หุ้นบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปของเราเพิ่มขึ้นตลอดเวลา สินทรัพย์ตระกูลหยางของเราก็เพิ่มขึ้นเยอะมาก คนบอกนอกอย่างพวกเธอไม่เข้าใจหรอก” ในตอนที่หยางชิงชิงพูดถึงบ้าน เห็นได้อ่างชัดเจนเลยว่าบนใบหน้ามีความได้ใจเพิ่มขึ้น ช่วงนี้หุ้นของบริษัทดีมากจริงๆ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณหญิงจี้ถึงรีบร้อนให้จี้หซีและหยางชิงชิงแต่งงานกัน
“แน่นอน ตระกูลหยางเราจะมีเงินมากอีก ก็ไม่มีทางให้เงินคนหน้าด้านอย่างพวกเธอเปล่าๆ หรอก สองล้านนี้ก็ถือว่าฉันให้ทานกับคนขอทานละกัน” หยางชิงชิงทำหน้าหยิ่งยโสมองไปทางเห่อถงถง “เห่อถงถง สองล้านไม่น้อยแล้ว ทั้งชีวิตนี้เธอก็คงไม่เคยเจอเงินเยอะขนาดนี้สินะ?”
“คุณเห่อ สองล้านไม่น้อยแล้วจริงๆ เธอพยายามทั้งชีวิตก็คงหาเงินไม่ได้เท่านั้น ฉะนั้น ดีที่สุดเธอนำเงินนี้แล้วออกจากอาจี้ไปเถอะ ออกจากเมืองA” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าความหมายของคุณหญิงจี้นั้นเหมือนกับหยางชิงชิง
“เห่อถงถง นำเงินไป ออกจากอาจี้ แบบนี้สำหรับเธอและอาจี้ต่างก็ดีหมด เธอน่าจะเข้าใจ ตอนนี้มีแต่ตระกูลหยางเราที่สามารถช่วยอาจี้ได้ คนจนๆ ที่ไม่มีอะไรอย่างเธอสำหรับอาจี้แล้วไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ได้แต่เป็นภาระของเขา” หยางชิงชิงได้ยินคำพูดของคุณหญิงจี้แล้ว ความรู้สึกที่เหนือกว่านั้นดูชัดเจนขึ้นเยอะเลย
“คุณหยางบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปตอนนี้ตระกูลหยางของคุณมีหุ้นเท่าไหร่คะ” ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงโค้งขึ้นเล็กน้อย มองไปทางหยางชิงชิงเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
“ตระกูลหยางเรามีหุ่นร้อยละสามสิบอยู่ในบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ป ตระกูลหยางของเราคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ป พ่อของฉันคือท่านประธานของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ป” หยางชิงชิงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าได้ใจและหยิ่งมาก
“ที่ตระกูลหยางของพวกคุณก็มีแค่หุ้นร้อยละสามสิบของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ป งั้นถ้าหากมีผู้ถือหุ้นที่ร้อยละห้าสิบขึ้นไป ท่านประธานของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปก็คงจะต้องเปลี่ยนแล้วสินะ?” ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงค่อยๆ โค้งขึ้น บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่แฝงความหมายลึกซึ้งอย่างเห็นได้ชัดเจน
“เป็นไปได้ยังไง? ผู้ถือหุ่นคนอื่นๆ ในบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปไม่มีใครถือเกินร้อยละสามสิบ หุ่นที่อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นอันดับสองก็อยู่ที่ร้อยละสิบห้า ไม่มีใครเยอะมากตระกูลหยางเราแน่นอน” หยางชิงชิงหันไปทางเวินลั่วฉิง ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก “ยัยบ้านนอกนี่ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ”
“ตลอดปีมานี้บริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปมีตระกูลหยางเราถืออำนาจมาโดยตลอด” หยางชิงชิงพูดเสริมอีกประโยคหนึ่งด้วยความยโส “บริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปคือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจิงเฉิง ฉะนั้นตระกูลหยางเราใหญ่ที่สุด เป็นสิ่งที่คนบ้านนอกแย่งพวกเธอไม่สามารถคิดได้”
“อื้ม งั้นตระกูลหยางพวกเธอนี่สุดยอดมากจริงๆ” เวินลั่วฉิงมองไปทางหยางชิงชิงหนึ่งที หยักหน้าด้วยความจริงจัง
“แน่นอนอยู่แล้ว หุ้นของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปในตอนนี้เพิ่มไม่หยุด สินทรัพย์ของตระกูลหยางเราก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด ดังนั้น อำนาจของตระกูลหยางเราจะยิ่งอยู่ยิ่งแกร่งขึ้น หลังจากที่ฉันแต่งงานกับอาจี้แล้ว ก็สามารถช่วยอาจี้ได้ดีกว่า” หยางชิงชิงไม่ได้เห็นความผิดปกติบนใบหน้าของเวินลั่วฉิง นึกว่าเวินลั่วฉิงตกใจ ดังนั้นจึงได้ใจไปอีก
ในไม่ช้าแววตาของคุณหญิงจี้ก็เปล่งประกายขึ้นทันที เธออยากจะพึ่งตระกูลหยางมาช่วยจี้หซี สำหรับเรื่องสถานการณ์ของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปนั้นก็พึ่งรู้ไม่นานมานี้
“เห่อถงถง คนจนอย่างเธอที่ไม่มีอะไรเลยจะเอาอะไรมาสู้กับฉัน ถึงแม้ว่าอาจี้จะถูกเธออ่อยไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องเลือกฉัน ดังนั้นฉันเตือนให้เธอรีบจากอาจี้ไป อย่าถึงตอนนี้สุดท้ายแล้วจะดูแย่กว่าเดิม”
เวินลั่วฉิงมองดูท่าทีที่โอ้อวดยโสของหยางชิงชิงในตอนนี้ อดหัวเราะในใจไม่ได้ ใครกันที่ให้ความมั่นใจนี้กับเธอ?
“คุณเห่อ หวังว่าคุณจะมีความรู้ตัวเอง แล้วจากอาจี้ไป” ท่าทีในตอนนี้ของคุณหญิงจี้ยิ่งเย็นชาไปใหญ่
ถึงแม้ว่าคำพูดเมื่อกี้ของหยางชิงชิงจะมีผลกระทบต่อคุณหญิงจี้ ตระกูลหยางยิ่งแกร่ง จี้หซีแต่งงานกับหยางชิงชิงไปก็จะยิ่งได้รับข้อดีเยอะ
เวินลั่วฉิงยิ้มที่มุมปาก มุมปากของเธอมีรอยยิ้มอ่อนโค้งขึ้นมา ท่าทีของคุณหญิงจี้นี่ชัดเจนจริงๆ
หวังว่าเธออย่าเสียใจทีหลังก็พอ!!
“เห่อถงถง เธอได้ยินหรือยัง? เธอยังไม่รีบจากอาจี้ไปอีก” หยางชิงชิงเห็นท่าทีในตอนนี้ของคุณหญิงจี้แล้ว ยิ่งได้ใจไปใหญ่
และในขณะนี้ ข้างนอกของร้านอาหารมีเสียงวุ่นวายผ่านมา คนกลุ่มหนึ่งที่สวมเสื้อสูทเดินมา
“อี๋ คุณพ่อของฉันมาทำไม?” หยางชิงชิงมองไปทางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุด อึ้งไปเลย ทั้งหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
“น่าจะรีบมาคุยเรื่องงานแต่งกับคุณหญิงจี้ คุณหญิงจี้ ต้องจับโอกาสไว้แล้วนะคะ” เวินลั่วฉิงชัดเจนที่สุดแล้วว่าคนพวกนั้นมาทำไม คำพูดนี้ของเธอตั้งใจพูดให้คุณหญิงจี้ฟัง
“ที่แท้คุณพ่อฉันก็มาเพราะเรื่องของฉันนี่เอง” หยางชิงชิงกลับเชื่อว่าเป็นความจริง บนใบหน้ามีความดีใจเพิ่มขึ้นเยอะมาก
เวินลั่วฉิง “……”
หยางชิงชิงใสซื่อขนาดไหนเนี่ย? ถึงได้คิดว่าคำพูดนี้ของเธอเป็นความจริง!
หากหยางหลินมาเพราะงั้นแต่งของเธอ จะพาพวกคนใหญ่คนโตทั้งหมดของบริษัทเหิงเฉินกรุ๊ปมาด้วยหรอ?
นี่สมองของหยางชิงชิงคงจะน้ำเข้าสินะ?
“เห่อถงถง เธอรีบออก เร็วๆ” คุณหญิงจี้ก็คิดว่าเป็นความจริงแล้ว เห็นหยางหลินพาคนเดินเข้ามายิ่งใกล้ขึ้นเรื่องๆ ก็รีบไล่เห่อถงถงเลย
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอกลัวหยางหลินเห็นเห่อถงถงแล้วจะเข้าใจผิด เธอกลัวว่าเพราะเหตุนี้จะมีผลกระทบต่องานแต่งของทั้งสองตระกูล กลัวว่างานแต่งกับตระกูลหยางจะจบลง
เวินลั่วฉิง “……”
ให้ตายเถอะ!
เมื่อกี้เธอแค่พูดออกจากปากไปงั้นๆ พวกเขาแต่ละคนกลับคิดว่าเป็นความจริงแล้ว?!