ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 760 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (8)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 760 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (8)
ถังจื่อโม่ที่ยืนหลบอยู่ด้านข้างหรี่ตาขึ้น กล้าด่าน้องสาวของเขา กล้าด่าแม่ของเขาเหรอ รนหาที่ตายชัดๆ
“ผู้หญิงคนนั้นหมายความว่ายังไง พวกเราไปคิดบัญชีกับเธอกัน”เห้อถงถงโมโห ลูกลั่นวาจาหยาบคายก็ช่างปะไร แต่ผู้ใหญ่ก็กลับไร้เหตุผล มาด่าจื่อซีสุดที่รักของเธอ เกินไปจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ น้องสาวรับมือได้”ถังจื่อโม่ไม่ร้อนใจเลยสักนิด เขารู้พลังต่อสู้ของน้องสาวดี
“จื่อซีรับมือไหว?”เห้อถงถงหันหน้าไปมองถังจื่อโม่ พลางกะพริบตาถี่ๆอย่างสงสัย
แม่ลูกคู่นั้นร่วมมือกันรังแกจื่อซีสุดที่รักของเธอ แต่จื่อซีรับมือไหว?
ถังจื่อโม่บู้ปากไปยังทิศทางของถังจื่อซี ส่งสัญาญาณให้เห้อถงถงดูเอง
เห้อถงถงรีบหันไปมอง
บัดนี้สายตาทุกคนมองอยู่แต่ถังจื่อซี ถึงแม้เมื่อสักครู่เธอชนะศึกฝีปากมาได้ แต่ก็ชนะหรวนซินซินที่เป็นเด็ก ซึ่งตอนนี้เจ้าเยว่หรูออกหน้ามาดวลกัน แถมเจ้าเยว่หรูยังดุมากเช่นนี้ ทุกคนคิดว่าเด็กน้อยคนนี้คงหวาดกลัวแน่ๆ?
แต่กลับทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงว่าเด็กน้อยถังจื่อซียังคงยิ้มแย้ม ไม่มีความกลัวเผยออกมาทางสีหน้าเลยสักนิด
ถังจื่อซีหันหน้าไปมองเจ้าเยว่หรู ดวงตาคู่ฉลาดก็เบิกกว้าง จากนั้นก็พูดเสียงดังด้วยความตกใจ “อั๊ยหยา หน้าโดดเด่นมากๆเลย?”
“ห่ะ?”เจ้าเยว่หรูชะงัก พลางมองถังจื่อซีอย่างไม่เข้าใจ คำว่าโดดเด่นนั้นเป็นคำชมหรือคำด่าก็ได้ เด็กคนนี้กลัวแล้วใช่ไหม คิดจะชมเธออย่างนั้นเหรอ?
ทุกคนก็มึนงง ไม่รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะสื่อถึงอะไรกันแน่?!
“คุณป้า คือตอนเกิดล้มลงมาใช่ไหม จากนั้นหน้าก็กระแทกที่พื้นก่อนเป็นอันดับแรก?”ดวงตาคู่ฉลาดของถังจื่อซีกะพริบปริบๆอยากได้สีหน้าใสซื่อเท่าไหร่ก็ใสซื่อเท่านั้น
แต่คำพูดนี้ก็ทำให้โมโหได้มากเหมือนกัน
ทุกคน“……”
คุณป้า?หน้าโดนพื้นก่อน?
ปีนี้เจ้าเยว่หรูเพิ่งมีอายุสามสิบสองปี อายุไม่ได้มากนัก แต่เพราะมัวแต่กังวลถึงเรื่องนังจิ้งจอกทุกวัน ทำให้ดูแก่กว่าวัย นี่คือปมในใจส่วนหนึ่งของเจ้าเยว่หรู
หน้าโดนพื้น?พูดอย่างนี้ยิ่งเน้นย้ำเข้าไปใหญ่
ใบหน้าของเจ้าเยว่หรูดูไม่ได้เลย แบนไปหมด แม้แต่จมูกก็ยังแบนมาก ซึ่งจมูกของเธอนั้นไปเสริมมาเรียบร้อยแล้วด้วย
“ฮ่าๆ……”ทุกคนได้สติก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เด็กคนนี้เก่งกาจมาก บรรยาได้ถึงรสถึงขิงเลย
วันนี้พวกเขาได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า ด่าคนไม่ใช้คำหยาบ
พื้นเพนี้ ระดับนี้นำห่างหรวนซินซินถนนหลายสายแล้ว ส่วนเจ้าเยว่หรูก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เธอเลย
“ไอ้ ไอ้เด็กบ้า แกกล้าด่าฉันเหรอ?แกมันลูกสวะ……”เจ้าเยว่หรูโกรธจนหน้าซีดเขียว จ้องมองถังจื่อซีอย่างโหดร้าย จากความอับอายจนกลายเป็นโมโหไปแล้ว
ปกติเด็กน้อยถังจื่อซีจะสู้กันเฉพาะทางฝีปากเท่านั้น จะเลี่ยงการลงไม้ลงมือ เพราะพี่ชายบอกเธอว่าเธอเป็นกุลสตรี จะไปตบตีกับคนอื่นมันไม่งาม
พี่ชายยังสอนว่าพูดคำหยาบไม่ได้ แม้กระทั่งตอนด่าคนก็ใช้คำหยาบไม่ได้
แน่นอนเธอเป็นเด็กเชื่อฟัง มีมารยาท ปกติเธอไม่ด่าคนหรอก แต่เป็นเพราะวันนี้สองคนนี้เกินไปจริงๆ
แม่เคยบอกว่าห้ามก่อเรื่อง แต่ก็ไม่ต้องยอมให้คนอื่นกลั่นแกล้ง
ปกติเด็กน้อยถังจื่อซีเป็นคนนิสัยดี ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทำให้คนชื่นชอบเป็นพิเศษ
หากอยู่ในเหตุการณ์ปกติ เด็กน้อยถังจื่อซีจะไม่โมโหเลย
เหมือนอย่างเมื่อสักครู่นี้ไม่ว่าหรวนซินซินกับเจ้าเยว่หรูจะด่าเธออย่างไร เธอก็ไม่โกรธ
แต่คำว่าเด็กสวะมาเหยียบโดนเขตระเบิดของถังจื่อซี ถังจื่อซีรู้ว่า ลูกสวะหมายถึงคนไม่มีพ่อ
ตอนอยู่ในโรงเรียนอนุบาล ไอ้อ้วนคนหนึ่งมาด่าพวกเขาอย่างนี้ พี่ชายเลยตีไอ้อ้วนจนลุกไม่ขึ้นเลย
ตอนนี้คุณป้าคนนี้ยังมาด่าเธออย่างนี้ เด็กน้อยถังจื่อซีทนไม่ได้
ทันใดนั้นถังจื่อซียื่นเท้าอันสั้นเล็กออกไป ใช้พลังกินนมทั้งหมดแตะที่เข่าของเจ้าเยว่หรู
เธออายุน้อย แรงก็น้อย เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ประเทศM ทุกคนไม่ได้ให้เธอฝึกวิชาต่อสู้ ทุกคนต่างหวงแหนทนุถนอมเธอดั่งเจ้าหญิงน้อย แต่ก็เคยสอนวิธีสู้กับคนอื่น ว่าให้โดนจุดอ่อนของร่างกายอย่างไร
แน่นอน ฝึกพวกนี้ไว้ก็เพื่อกันสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นนั่นเอง
ดังนั้น การแตะออกไปครั้งนี้ของถังจื่อซี ทำให้เจ้าเยว่หรูคุกเข่าลง
ผู้คน“……”
คนนี้เป็นเด็กอายุแค่ห้าขวบ?
แค่แตะครั้งเดียวถึงกับทำให้เจ้าเยว่หรูคุกเข่าลง มันเกิดอะไรขึ้น?
ต้องบังเอิญแน่ๆ?บังเอิญ?
แต่คุณชายสามเย่เห็นตำแหน่งที่ถังจื่อซือแตะเจ้าเยว่หรู ตำแหน่งนั้นถึงจะใช้แรงไม่มาก แต่ก็เจ็บมาก เจ็บมากๆเลย
อีกทั้งเขารู้สึกว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้แตะโดนโดยบังเอิญ แต่เป็นการจงใจ เพราะเขาพบว่า ดวงตาเด็กคนนี้จ้องเข่าของเจ้าเยว่หรูมาตลอด
“คุณป้า เห็นแก่ที่ป้าคุกเข่าขอโทษอย่างจริงใจเช่นนี้ หนูอภัยให้ป้าแล้ว”เด็กน้อยถังจื่อซีมองเจ้าเยว่หรูที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ พลางกะพริบตาไปมาอย่างไร้เดียงสา จากนั้นก็โบกมืออย่างใจกว้าง
เย่ซือเฉิน“……”
เลขาหลิว“……”
การตอบสนองของเด็กน้อยคนนี้ไวเกินไปแล้ว?
คุกเข่าขอโทษ?
ทั้งๆที่เธอเป็นคนถีบคนอื่นเอง
ท่าทางใจกว้างของเธอดูแล้วช่างยินดีปรีดานัก
“แกกล้าแตะฉันเหรอ?แกกล้าแตะฉัน?”ตอนแรกเจ้าเยว่หรูโดนถีบจนโกรธเต็มท้องแล้ว ตอนนี้ยังได้ฟังถังจื่อซีพูดอย่างนี้อีก
เธอยิ่งรู้สึกเคียดแค้นมากๆ
“หนูแตะป้าแล้วจะทำไม?หนูจะแตะซะอย่าง ป้าทำอะไรหนูได้?”เด็กน้อยถังจื่อซีกล้าทำก็กล้ายอมรับเสมอมา ไม่เคยบ่ายเบี่ยงมาก่อน
ใช่ เธอเป็นคนถีบ เธอจะถีบ แล้วจะทำไม?
ใครใช้ให้หล่อนด่าเธอว่าลูกสวะ?
สมน้ำหน้า
แตะหล่อนครั้งเดียวยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
เท้าของเธอที่แตะเมื่อครู่รู้สึกเจ็บเล็กน้อย
ถังจื่อซียกใบหน้าเล็กขึ้นไปมองคุณชายสามเย่ ทำหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม “แด๊ดดี้ หนูเจ็บขา”
เลขาหลิว“……”
บรรพบุรุษตัวน้อยยังรู้จักฟ้องด้วย?
การฟ้องที่แปลกใหม่มาก เธอถีบเจ้าเยว่หรูจนคุกเข่าลง จากนั้นก็เท้าเธอก็เจ็บ?
เก่งมาก นับถือ นับถือ
“มา อาดูสิ”คุณชายสามเย่ย่อตัวนั่งยองๆตรงหน้าถังจื่อซี
ตอนนี้อากาศร้อน ถังจื่อซีเลยใส่รองเท้าแตะ การแตะครั้งนี้จึงรู้สึกเจ็บนิดๆจริงๆ
แต่ไม่มีบาดแผล
คุณชายสามเย่เห็นไม่ได้แผลจึงวางใจ แต่ยังคงช่วยเธอนวดเบาๆ
ความอ่อนโยน ความเอาใจใส่ คนดูใจจะละลายเสียแล้ว
คือคุณชายสามเย่ที่พวกเขารู้จักหรือเปล่า?!
“วันหลังไม่ต้องลงมือเอง บอกอา อาให้เลขาหลิวช่วยหนูสู้”คุณชายสามเย่นวดเท้าอันเล็กกะจิ๋วของถังจื่อซี พลางกำชับอย่างจริงใจ
เลขาหลิว“……”
จากที่เขาเป็นเลขากลายเป็นนักสู้แล้วเหรอ?
แต่เขายังคงเต็มใจบริการเจ้าหญิงน้อย ถึงแม้จะเป็นนักต่อสู้ เขาก็ยินดี
แต่ไม่พูดไม่ได้ว่า วิธีการสอนเด็กของคุณชายสามเย่มีความเป็นคุณชายสามเย่มาก