ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 764 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (12)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 764 ถังจื่อซีประกาศอย่างมาดเข้มว่า คนนี้คือพ่อของฉัน (12)
“หนูเจ็บมากเลยแม่ โอ๊ย มันตีหนู จะฆ่าคนแล้ว”ปกติหรวนซินซินจับชู้กับเจ้าเยว่หรูมามาก บางครั้งเจ้าเยว่หรูถูกตบก็ร้องพูดอย่างนี้แหละ เรื่องพวกนี้หรวนซินซินเรียนรู้หมดแล้ว
แถมยังเรียนได้เหมือนเป๊ะ!!
“เธอตีคน ตีคนตายแล้ว โอ๊ย ฉันเจ็บท้อง เจ็บหัว เจ็บไปหมดทั้งตัว อ๊าก อ๊าก ฉันเจ็บจนขยับไม่ได้แล้ว”หรวนซินซินร้องไม่หยุด พลางนอนแสร้ง‘ตาย’อยู่บนพื้น
ทุกคน“……”
เลขาหลิว“……”
เด็กน้อยถังจื่อซี“……”
เธอผลักเมื่อกี้ ไม่ได้ทำให้หรวนซินซินบาดเจ็บเลยนะ
ท่าทางใกล้ตายของหรวนซินซินในตอนนี้คืออะไรกันแน่?
เธอเจอคนสำออยที่แกล้งได้รับบาดเจ็บแล้วเหรอ?
ยังมีความละอายใจอยู่บ้างไหม?ละอายใจบ้างไหม?
เห้อถงถงก็อึ้งไปหมด เด็กคนนี้สำออยเก่งมาก!!
เวินลั่วฉิงดูเหตุการณ์อุตลุดก็มึนไปเล็กน้อย เธอรีบเดินไปหาพวกเขา
ถึงแม้เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอไม่เสียเปรียบ แต่เจ้าเยว่หรูเป็นคนบ้าคนหนึ่ง หากปล่อยให้เรื่องเอิกเกริกต่อไปคงไม่งาม
เพราะอย่างไรเสียหรวนซินซินก็เป็นเด็กอายุเก้าขวบ เธอนอนอยู่บนพื้นอย่างนี้มันง่ายต่อการทำให้คนเข้าใจผิด
คนรู้เหตุการณ์ก็ไม่เป็นอะไร กลัวก็แต่คนไม่รู้แล้วพูดไปเรื่อย เดาไปเรื่อย
และตอนนี้เวินลั่วฉิงเดินเข้าไป ข้างกายถังจื่อซีมีคนล้อมรอบไม่น้อย เนื่องจากต่างก็อยากดูความคึกคักกันทั้งนั้น
“พวกคุณลองมาตัดสินดูสิว่า พวกเขาสองแม่ลูกรังแกลูกสาวฉัน ทำร้ายลูกฉันจนสาหัส ตอนนี้ขยับไม่ได้แล้ว โอ้พระเจ้า จะให้ฉันมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร”เจ้าเยว่หรูเห็นลูกสาวแกล้งนอน‘ตาย’อยู่บนพื้นก็เกิดไอเดีย นั่งร้องไห้พร้อมกับอ้าปากพูดเสียงดังข้างกายหรวนซินซิน
เด็กน้อยถังจื่อซีไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน จึงรู้สึกตกใจกลัวพลันไปหลบอยู่ข้างกายเห้อถงถง จากนั้นก็จับมือเห้อถงถงไว้
คุณชายสามเย่เห็นการกระทำที่เกิดจากสัญชาตญาณของถังจื่อซี ดวงตาทั้งคู่ก็เปล่งประกาย
มันเป็นการตอบสนองด้วยสัญชาตญาณของเด็กคนหนึ่ง ดังนั้นผู้หญิงคนนี้คงเป็นแม่ของเธอจริงๆ?
คุณชายสามเย่เห็นถังจื่อซีเลือกเห้อถงถงให้ปกป้อง ก็รู้สึกหึง เมื่อกี้เด็กน้อยยังดึงชายเสื้อของเขาอยู่เลย พอถึงช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานก็ลืมเขาเสียสนิท
ดังคาด ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน!!
เขาคิดเองเออเองทั้งหมด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”ผู้คนที่เพิ่งมุงเข้ามาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เรื่องนี้น่าสนใจมาก เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นไหม?เธอโผล่ออกมาเรียกคุณชายสามเย่ว่าพ่อกะทันหัน”เห็นคนชัดว่าคนนี้มาดูความครึกครื้นตั้งแต่ต้นแล้ว
“จริงเหรอ?เด็กหญิงคนนี้เป็นลูกสาวคุณชายสามเย่จริงๆเหรอ?”หลายคนที่เพิ่งมาดูก็ตกตะลึงหมด
“ไม่รู้ว่าจริงหรือมั่ว แต่คุณชายสามเย่ไม่รู้จักแม่ของเด็กผู้หญิงคนนี้ ไม่แน่แม่ของเด็กคนนั้นอยากแต่งงานกับคุณชายสามเย่ ดังนั้นจึงให้ลูกสาวมาพล่ามอย่างนี้”
“เรื่องอย่างนี้จะเรียกไปเรื่อยได้เหรอ?แค่ตรวจดีเอ็นเอผลก็ออกมาแล้ว”
“อาจเป็นเพราะแม่ของเด็กคนนี้ใช้วิธีอย่างนี้ดึงดูดความสนใจจากคุณชายสามเย่ ฉันเห็นเมื่อกี้คุณชายสามเย่อ่อนโยนต่อเด็กคนนี้มาก”
“ปัดโธ่ อย่างนี้ก็ได้เหรอ?”
“คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ถึงคุณชายสามเย่จะชอบเด็กคนนี้ แต่ไม่ใช่ลูกของคุณชายสามเย่ หรือคุณชายสามเย่ยังต้องแต่งงานกับผู้หญิงลูกติด?”
“ใช่ ใช่ พูดไม่ถูก แต่เด็กคนนี้สวยและน่ารักมาก จนฉันก็อยากมีลูกสาวสักคนแล้ว”
“ฉันก็อยากได้ลูกสาวอย่างนี้สักคน แก้มอมชมพูอย่างหอมมากเลย”
“ไม่แน่อาจเป็นลูกสาวคุณชายสามเย่จริงๆก็ได้ ไม่ใช่คนทั่วไปจะมีพันธุกรรมดีอย่างนี้ได้”
“หรือคุณชายสามเย่มีลูกสาวนอกสมรสจริงๆ?ซึ่งคุณชายสามเย่ไม่รู้มาก่อน”
“แต่ได้ยินมาว่าคุณชายสามเย่ไม่สนใจผู้หญิง เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้มั้ง?”
“ไม่รู้สิ ค่อยดูต่อไปแล้วกัน ดูว่าเป็นยังไงกันแน่?”
ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา แน่นอนแว่วเข้ามาในหูของคุณชายสามเย่ด้วย
ได้ยินเสียงวิจารณ์ของชาวบ้าน ดวงตาคุณชายสามเย่มองไปยังถังจื่อซีอีกครั้ง พลางรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้าง
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่คุณชายสามเย่รู้ดี นั่นก็คือนอกจากเวินลั่วฉิงแล้ว เขาไม่เคยแตะผู้หญิงอื่นมาก่อน ดังนั้นหากเป็นลูกสาวของเวินลั่วฉิงก็ต้องเป็นของเขาด้วย แต่ถ้าหากไม่ใช่ลูกสาวของเวินลั่วฉิงก็ไม่ใช่ของเขาด้วยเช่นกัน
คุณชายสามเย่เชื่อมั่นสิ่งนี้มาก
และเวลานี้เวินลั่วฉิงเดินเข้ามา ดวงตาถังจื่อซีพลันสว่างแวววาว คิดอยากวิ่งเข้าไปแล้วเอ่ยเรียกคำว่าหม่ามี้ แต่ถังจื่อซีก็เห็นลูกโป่งสีเหลืองบริเวณใกล้ๆกะทันหัน
พี่ชายเคยบอกว่าเห็นลูกโป่งสีเหลืองแสดงว่าแจ้งเตือน บอกเธอว่าห้ามทำอะไรส่งเดช
เช่นนั้นเวลานี้พี่ชายปล่อยลูกโป่งสีเหลืองออกมาหมายความว่าอย่างไร?พี่ชายกำลังคิดอะไรอยู่?
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ทำตามแผนของพี่ชายเลย พี่ชายคงโกรธแล้วล่ะมั้ง?ตอนนี้พี่ชายปล่อยลูกโป่งสีเหลืองมาเตือนเธอ เธอคงไม่เชื่อฟังไม่ได้
ถังจื่อซีคิดในขณะที่จ้องมองลูกโป่งอย่างมึนงงด้วยความอึ้ง……
คุณชายสามเย่เห็นเวินลั่วฉิงเดินเข้ามา จึงหันไปมองเวินลั่วฉิง แต่เขาก็อดมองเด็กน้อยถังจื่อซีไม่ได้
คุณชายสามเย่เห็นเด็กน้อยถังจื่อซีมองด้านหน้าอย่างมึนงง ไม่ได้มีการตอบสนองกับการมาถึงของเวินลั่วฉิงแต่อย่างใด……
หัวใจคุณชายสามเย่ห่อเหี่ยวอีกครั้ง เห็นท่าก่อนหน้านี้เขาคิดมากไปจริงๆ
เด็กอายุไม่ถึงห้าขวบ แม้จะรู้วิธีปกปิด แต่เหตุการณ์เช่นนี้คงปกปิดได้ไม่แยบยลเช่นนี้หรอก
ปกติ เมื่อเด็กอายุห้าขวบเห็นคนใกล้ชิด การตอบสนองแรกก็คือวิ่งเข้าไปทักทาย
เมื่อกี้เขาไม่เรียกเวินลั่วฉิง ไม่เดินไปหาเวินลั่วฉิง เพราะว่าจะให้เวินลั่วฉิงเดินมาหาเอง จากนั้นก็ดูการตอบสนองของถังจื่อซี
อีกทั้ง ตอนที่เวินลั่วฉิงเดินเข้ามา เขาสังเกตเวินลั่วฉิงอย่างละเอียด ซึ่งไม่พบว่าเวินลั่วฉิงส่งสัญญาณบอกใบ้อะไรให้ถังจื่อซีเลย
บัดนี้หัวใจของคุณชายสามเย่หดหู่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหดหู่ใจมาก ผิดหวังมาก เขาลืมกระทั่งกล่าวทักทายเวินลั่วฉิง
ผู้คนเห็นเวินลั่วฉิงเดินเข้ามาพลันชะงัก มีหลายคนมองไปยังคุณชายสามเย่ด้วยสัญชาตญาณ
เพราะช่วงนี้เรื่องระหว่างเวินลั่วฉิงกับคุณชายสามเย่นั้นโด่งดังไปไกลมาก
ทุกคนเห็นคุณชายสามเย่ยืนแบบไม่ขยับและไม่พูดจา ชั่วขณะนั้นอดทายไม่ได้ว่าเวินลั่วฉิงถูกคุณชายสามเย่สะบัดทิ้งแล้ว
เลขาหลิว“……”
ท่านประธานเป็นอะไรไป?คุณนายมาแล้ว แต่ท่านประธานไม่มีการตอบสนองใดๆเลย?
“นี่ไม่ใช่เวินลั่วฉิงหรอกเหรอ?เธอมาได้ยังไง?มาจับชู้หรือเปล่า?”
“ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ เรื่องนี้คงเข้มข้นมาก มีละครเด็ดดูกันแล้ว”
“จับชู้อะไรกัน คุณชายสามเย่กับเธอหย่ากันตั้งนานแล้ว คุณชายสามเย่ทิ้งเธอตั้งนานแล้ว คุณไม่เห็นเหรอ คุณชายสามเย่ไม่ได้มีการตอบสนองกับการมาถึงของเธอเลย